ก.ก.บี้‘อานุภาพ’พ้นส.ก. ‘ชัชชาติ’โยนสภาตัดสิน!

“อานุภาพ” ไขก๊อกพ้นพรรคก้าวไกลแล้ว ประกาศเตรียมจัดเต็มพวกให้ข้อมูลเท็จ ก.ก.จี้ต้องออกจาก ส.ก.ด้วยเพราะยอมรับแล้วมีพฤติกรรมผิดต่อจริยธรรมร้ายแรง “ชัชชาติ” โยนเผือกร้อนให้สภา กทม. อ้างเป็นเรื่องละเอียดอ่อน

เมื่อวันศุกร์ที่ 15 ก.ค. มีความเคลื่อนไหวกรณีนายอานุภาพ ธารทอง ส.ก.เขตสาทร พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ถูกแจ้งความดำเนินคดีอนาจารและคุกคามทางเพศ วัยรุ่นหญิง 4 ราย โดยเมื่อเวลา 15.52 น. นายอานุภาพได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “เรียนทุกท่าน เพื่อไม่ให้กระทบต่อภาพลักษณ์และชื่อเสียงของพรรคก้าวไกล ผมจึงขอลาออกจากพรรคก้าวไกลและการเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.65 เป็นต้นไป หลังจากนี้การดำเนินการทางกฎหมายใดๆ กับผู้ที่ให้ข้อมูลเท็จ  จะกระทำในนามบุคคลของผมเอง”

ต่อมาในเวลา 17.23 น. เพจพรรคก้าวไกลได้โพสต์ในหัวข้อ “พรรคก้าวไกลมีความเห็นให้ ส.ก.เขตสาทร พิจารณาตนเองลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง” ระบุว่า กรณีนายอานุภาพถูกแจ้งความดำเนินคดีฐานอนาจารเมื่อวันที่ 12 ก.ค. พรรคได้มอบหมายคณะกรรมการวินัยและจรรยาบรรณพรรคให้สอบสวนข้อเท็จจริงโดยด่วนที่สุด และในวันที่ 15 ก.ค. คณะกรรมการวินัยฯ ได้เรียกนายอานุภาพมาสอบข้อเท็จจริง ซึ่งนายอานุภาพยอมรับว่ามีพฤติการณ์ผิดต่อจริยธรรมพรรค และสร้างความเสื่อมเสียให้แก่พรรคอย่างร้ายแรง คณะกรรมการวินัยฯ จึงมีความเห็นให้คณะกรรมการบริหารพรรคลงโทษขั้นสูงสุด คือให้นายอานุภาพพ้นจากความเป็นสมาชิกพรรค แต่นายอานุภาพได้แสดงความจำนงขอลาออกจากสมาชิกพรรคในวันเดียวกัน

“แม้นายอานุภาพจะลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคแล้ว แต่ยังคงดำรงตำแหน่ง ส.ก.อยู่ เนื่องจากกรณีนี้เป็นความผิดร้ายแรงต่อจริยธรรมพรรค จริยธรรมสังคมอย่างมาก กก.บห.พรรคจึงมีความเห็นให้นายอานุภาพพิจารณาตัวเอง ลาออกจากตำแหน่ง ส.ก. เพื่อแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง” เพจพรรคก้าวไกลระบุ และว่า พรรคขออภัยต่อประชาชนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เรายืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญอย่างสูงต่อการป้องกันการคุกคามทางเพศทุกรูปแบบ และจะไม่นิ่งนอนใจต่อการกระทำผิดในกรณีนี้ ไม่ว่าผู้กระทำจะเป็นใคร

ขณะที่ น.ส.แรมรุ้ง วรวัธ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะโฆษก พม.กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีว่า พม.โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) ได้ร่วมกับทีมสหวิชาชีพเข้าช่วยเหลือและคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายแล้ว 1 เคส ซึ่งเป็นเยาวชน โดยเบื้องต้นได้แจ้งสิทธิและมาตรการการคุ้มครองช่วยเหลือ แต่ผู้เสียหายยังไม่ขอรับการคุ้มครอง เนื่องจากอยู่ในสถานที่ปลอดภัยและมีบุคคลอื่นที่ไว้วางใจให้การคุ้มครองและช่วยเหลืออยู่แล้ว

 “ขอย้ำว่า พม.พร้อมให้ความช่วยเหลือและคุ้มครองผู้เสียหายที่ถูกคุกคามทางเพศอย่างเต็มที่ โดยเราจะรักษาความลับของท่านทุกคน และขอให้ทุกท่านออกมาปกป้องสิทธิของตนเอง เพื่อร่วมกันสร้างสังคมที่ปลอดภัยและน่าอยู่สำหรับทุกคน สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง ได้ที่สายด่วน พม. โทร. 1300, กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.), กรม ดย., บ้านพักเด็กและครอบครัวทั่วประเทศ และแอปพลิเค

ชันคุ้มครองเด็ก” น.ส.แรมรุ้งกล่าว

ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวในเรื่องนี้ว่า มีฝ่ายสภา กทม.ดูแล ซึ่ง กทม.คงก้าวล่วงไม่ได้ แต่ได้หารือกับประธานสภา กทม. และได้แจ้งเรื่องให้ทราบแล้ว แต่ในส่วนของ กทม. จะเน้นย้ำกับข้าราชการไม่ให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ยืนยันว่าเราจะไม่อดทนกับการล่วงละเมิดทางเพศไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ และจะต้องไปเน้นย้ำเพิ่มเติมอีกครั้ง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 “เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เราต้องเข้าใจความเปลี่ยนไปของสังคม อะไรที่สังคมรับได้หรือรับไม่ได้ ซึ่งแนวปฏิบัติเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ปัจจุบันไม่สามารถใช้ได้แล้ว โดยจะให้เจ้าหน้าที่ออกแนวทางการปฏิบัติกับเพื่อนร่วมงานใหม่อีกครั้ง เพราะปัจจุบันมีความละเอียดอ่อนมากขึ้น ทั้งนี้ ในส่วนประเด็นของ ส.ก. คงต้องให้สภา กทม.เป็นผู้ดำเนินการ คงไม่ได้ไปก้าวล่วง” นายชัชชาติระบุ

วันเดียวกัน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลตระหนักถึงปัญหาการละเมิดและคุกคามทางเพศ ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาสถานภาพสตรีแห่งชาติ (กยส.) ที่มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้ให้ความเห็นชอบ (ร่าง) แผนปฏิบัติการเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาการข่มขืนกระทำชำเราและการล่วงละเมิดทางเพศแล้ว โดยจากนี้จะนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป

น.ส.รัชดากล่าวว่า แผนปฏิบัติการฯ แบ่งการดำเนินงาน 3 ส่วน ได้แก่ 1.ปรับความรู้และทัศนคติของสังคม 2.ปรับปรุงระบบงานเพื่อสร้างความเป็นธรรม และ 3.ปรับมาตรการทางวินัย กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้เสียหาย ซึ่งในปี 2563 รัฐบาลก็ได้ออก 12 มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศในการทำงาน ตามที่ พม.เสนอไปแล้ว.