พปชร.ประเดิมโรดโชว์ จ.ชลบุรี "สันติ" ยันไม่ใช้ยุทธศาสตร์แตกแบงก์พัน มั่นใจเสียงตอบรับพรรค-บิ๊กป้อม-บิ๊กตู่ยังเหนียวแน่น โว "ชลบุรี-เพชรบูรณ์" จะแลนด์สไลด์โชว์ "บิ๊กป้อม" ไฮด์ปาร์กคนชลบุรี-พปชร.ใจถึงพึ่งได้เหมือนกัน ร่ายยาวผลงานรัฐบาล "รมว.เฮ้ง" อ้อนขอกวาดยกจังหวัด 10 ที่นั่งให้พปชร.จัดตั้งรัฐบาลครั้งหน้า "ยุทธพงศ์" อัด พปชร.ควรเอาเวลาไปเตรียมตัวรับศึกซักฟอกดีกว่ามาจัดกิจกรรมหาเสียงในช่วงหน้าฝน "ธนกร-ชนะศักดิ์" รุมอัดเพื่อไทยเรื่องหาร 500 ชี้ปมดิ้นพล่านเพราะไม่สามารถทำตามนายใหญ่สั่งได้ ทำแผนแลนด์สไลด์พากลับบ้านเหลว
เมื่อวันอาทิตย์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดโรดโชว์ “พลังประชารัฐ พลังเพื่อชาติไทย” ที่จังหวัดชลบุรีเป็นเวทีแรก โดยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดโรดโชว์ “พลังประชารัฐ พลังเพื่อชาติไทย” ที่จังหวัดชลบุรีเป็นเวทีแรก ว่าขณะนี้ใกล้เลือกตั้ง ไม่ปลายปีนี้ก็ต้นปีหน้า จึงต้องออกมาพบปะประชาชนที่ให้การสนับสนุนพรรคมาโดยตลอด เพราะที่ผ่านมาเราอาจประชาสัมพันธ์ผลงานน้อยไปหน่อย และการจัดที่ จ.ชลบุรีเป็นจังหวัดแรก เราจะมาพบปะคุยกับประชาชน และแสดงพลังความสามัคคีของพรรค ขณะเดียวกันจะแสดงให้เห็นว่าประชาชนยังสนับสนุนพรรค พปชร.อย่างมากมายมหาศาล ซึ่งครั้งนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้า พรรค พปชร. ได้เดินทางมาพบปะพี่น้องประชาชนภาคตะวันออกด้วย
“ขณะนี้กำลังดูว่าจะจัดโรดโชว์ครั้งต่อไปที่จังหวัดใด อาจเป็นภาคเหนือ หรือภาคใต้ตอนบน หรือภาคตะวันตก โดยจะจัดหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ส่วน พล.อ.ประวิตร หากไม่ติดภารกิจสำคัญจริงๆ ก็จะเดินทางไปด้วยตัวเองทุกเวที” นายสันติกล่าว
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทย (พท.) มองว่าการจัดโรดโชว์ของพรรค พปชร.เพราะกลัว พท.แลนด์สไลด์ นายสันติสวนทันทีว่า “แล้วสื่อคิดว่าผมกลัวไหมล่ะ” และเมื่อถามย้ำว่าจะสู้กับกระแสแลนด์สไลด์ของพรรค พท.อย่างไร นายสันติกล่าวว่า คิดแต่ว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนรักเราที่สุด ไม่ใช้เทคนิคอะไรต่างๆ เรามั่นใจในประชาชน ตลอด 3 ปี พล.อ.ประวิตรและ พล.อ.ประยุทธ์ดูแลประชาชน แต่จะมาคุยข่มกันไปข่มกันมา แลนด์สไลด์อะไรต่างๆ เดี๋ยวดู จ.ชลบุรีจะเป็นจังหวัดแลนด์สไลด์ รวมถึงเพชรบูรณ์ก็จะเป็นแลนด์สไลด์ให้เราดู
ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการพรรค พปชร. กล่าวถึงการจัดกิจกรรม “เสวนาอนาคตประเทศไทย ชลบุรีภายใต้พลังประชารัฐ” ว่าเป็นดำริของ พล.อ.ประวิตรและนายสันติ ซึ่งเราไม่ได้คิกออฟทางการเมืองหลังจากพรรคอื่น แต่เราพร้อมมานานแล้ว เพียงแค่พรรคอื่นเคลื่อนไหวก่อน และถือเป็นเรื่องปกติ เพราะเวลานี้เริ่มนับถอยหลังทางการเมือง ที่เหลืออีกไม่กี่เดือนก็จะเลือกตั้ง โดยในเดือน มี.ค.2566 ก็จะครบวาระของ ส.ส.แล้ว พรรคการเมืองจึงต้องลงไปพบปะประชาชนและแฟนคลับ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่มีแกนนำและ ส.ส.ขนทัพกันมาจำนวนมาก เป็นการเขย่าขวัญพรรคอื่นหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ตอนนี้ ส.ส.ที่มามียังมีไม่ถึงครึ่ง ส่วนใหญ่คือ ส.ส.ภาคตะวันออก นี่แค่ภาคตะวันออก แต่เราจะเวียนกันไปให้ครบทั้ง 10 ภาค จะสลับกันไปขึ้นอยู่กับจังหวัดไหนมีความพร้อม ตอนนี้ไม่ได้มาบลัฟกันเรื่องจำนวนคน แต่ที่ชลบุรีตามที่บอกไว้สามารถจุได้กว่า 10,000 คน แต่ยังคิดว่าไม่พอ และคาดว่าจะล้นศาลากลาง
เมื่อถามว่า วันนี้จะเปิดตัว ส.ส.ชลบุรีทั้งหมดรวมทั้งภาคตะวันออกทั้งหมด นายสุชาติกล่าวว่า พรรคได้จัดตัวภาคตะวันออกเกือบครบหมดแล้ว โดยชลบุรีมี ส.ส.เดิมอยู่ 5 คน และคนใหม่อีก 4-5 คน โดยจะส่งครบทั้ง 10 เขตที่พร้อมมาช่วยทำงานร่วมอุดมการณ์กับพรรค เหลือเพียงแค่ จ.ระยอง ที่เรายังดูคนที่เหมาะสม และขอย้ำว่าที่มาคิกออฟกิจกรรมโรดโชว์ที่ จ.ชลบุรีเป็นที่แรก เพราะมี ส.ส.เยอะที่สุด ซึ่งเป็นไปตามยุทธศาสตร์ที่ต้องไปในพื้นที่ที่มี ส.ส.ของพรรคจำนวนมาก และคาดหวังว่าจะได้จำนวน ส.ส. 80% ของภาคตะวันออก
เมื่อเวลา 17.35 น. พล.อ.ประวิตรได้เดินทางมาที่สำนักงานพรรค พปชร. จ.ชลบุรี ด้วยรถเบนซ์ส่วนตัวกันกระสุนทะเบียน 1 นก 6218 กรุงเทพมหานคร โดยมี ส.ส.และผู้นำท้องถิ่นมาต้อนรับจำนวนมาก เมื่อ พล.อ.ประวิตรมาถึงได้ถ่ายรูปกับ ส.ส.ว่าที่ผู้สมัครและผู้นำท้องถิ่น ขณะที่บรรยากาศที่ศาลากลาง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ที่จะมีการจัดกิจกรรมโรดโชว์ในชื่อ ‘พลังประชารัฐ พลังงานเพื่อชาติไทย’ ได้มีการตั้งเต็นท์ 3 เต็นท์ ซึ่งรวมแล้วสามารถจุคนได้กว่าหมื่นคน และมีเวทีขนาดใหญ่
พปชร.โวชลบุรีแลนด์สไลด์
โดยมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จ.ชลบุรีบนเวทีคือ นายสุรพงษ์ นำชัยรุจิพงษ์ ว่าที่ผู้สมัครเขต 3, นายสมเจตน์ เกตุวัตถา ว่าที่ผู้สมัครเขต 6, นายรุ่งเพชร แจ่มเจริญ ว่าที่ผู้สมัครเขต 7, นายมานพ ประกอบธรรม ว่าที่ผู้สมัครเขต 8 ซึ่งเดิมพปชร.ได้ ส.ส.ชลบุรี ทั้งหมด 4 เขต จากทั้งหมด 8 เขต ได้แก่ นายสุชาติ เขต 1, ร.อ.จองชัย วงษ์ทรายทอง เขต 2, นายรณเทพ อนุวัฒน์ เขต 3, นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ เขต 4 โดยในการเลือกตั้งครั้งหน้าเขตจาก 8 เขต เพิ่มกลายเป็นทั้งหมด 10 เขต
สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า พปชร.วางตัวบุคคลทั้ง 10 เขต ไว้ดังนี้ นายสุชาติ เขต 1, ร.อ.จองชัย เขต 2, นายสุรพงษ์ เขต 3, นายรณเทพ เขต 4, นายสรวุฒิ เขต 5, นายสมเจตน์ เขต 6, นายรุ่งเพชร เขต 7, นายมานพ เขต 8, นายอิทธิพล คุณปลื้ม เขต 9 โดยเขต 10 กำลังรอการตัดสินใจของนายสะถิระ เผือกประพันธุ์ ซึ่งหากนายสะถิระไม่มาจะส่งนายสมชาติ คุณปลื้ม ซึ่งเป็นน้องชายของนายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะ ลงแทน
ต่อมาเวลา 19.30 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการพปชร. ขึ้นเวทีปราศรัยพร้อมเปิดเผยว่า ตนเป็นรัฐมนตรีได้รับการสนับสนุนจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. และสิ่งที่คนชลบุรีมีคือใจถึงพึ่งได้ เราจะยืนเคียงข้างพรรคพลังประชารัฐเพื่อจัดตั้งรัฐบาลครั้งต่อไป จ.ชลบุรีเป็นจังหวัดยุทธศาสตร์ในการทำการเลือกตั้งในครั้งหน้าเร็วๆ นี้ จะมีผู้สมัครเพิ่มขึ้นเป็น 10 ที่นั่ง ถือว่าใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก เราคาดหวังว่าจะทำให้ได้ 10 ที่นั่ง ขอให้ทุกคนช่วยกัน
จากนั้น พล.อ.ประวิตรขึ้นเวทีปราศรัย ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของมวลชน และมอบดอกไม้ให้กำลังใจ โดย พล.อ.ประวิตรเปิดเผยว่า ยินดีที่ได้มา จ.ชลบุรี และเคยมาตั้งแต่เป็นหนุ่มๆ คนชลบุรีต้องยอมรับว่าเป็นคนใจถึงพึ่งได้เหมือนกับ พปชร. ซึ่งตนมีความรักในน้ำใจชาวชลบุรีเป็นอย่างยิ่ง เราอยู่ด้วยกันเป็นเวลานาน เรารู้ว่าภาคตะวันออกมีความรู้สึกอย่างไร มีใจนักเลง รักพวกพ้อง ที่สำคัญคือต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันได้ ก็ถือเป็นคติของ พปชร.ที่ว่าพวกเรามีความเป็นอยู่เหมือนชาวชลบุรี คือใจถึงพึ่งได้
พล.อ.ประวิตรกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ตนและ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม รวมถึง ส.ส.ในพรรค ดำเนินนโยบายเพื่อความสุขของคนในชาติ โดยเฉพาะชาวจังหวัดชลบุรี อาทิ โครงการบริหารจัดการน้ำภาคตะวันออก ทำให้ประชาชนมีความอุดมสมบูรณ์ มีเรื่องน้ำอุปโภคบริโภค จัดการน้ำเพื่อการเกษตร จัดการระบบนิเวศ ทำให้ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาไม่มีเหตุน้ำท่วม ตั้งแต่ตนเข้ามาดูแลตรงนี้ นอกจากนี้นโยบายสำคัญสูงสุดของ พปชร.ที่ทำให้กับชาวจังหวัดชลบุรีและภาคตะวันออก คือ เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เพื่อสร้างรายได้ให้กับประชาชน ที่ดินมีมูลค่าสูงขึ้น และสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้คือการยกระดับสนามบินอู่ตะเภาให้เป็นพื้นที่อุตสาหกรรม เจริญเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้งหมดเป็นการขอบคุณและตอบแทนชาวจังหวัดชลบุรีทุกคนที่ให้ความร่วมมือกับพรรคพลังประชารัฐอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
“จากใจนายกรัฐมนตรี และ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ขอบคุณพี่น้องที่เลือกพวกเรามารับใช้ขับเคลื่อนพัฒนาพื้นที่ จะมีใครไม่เลือกพลังประชารัฐมีหรือไม่” พล.อ.ประวิตรกล่าว
พล.อ.ประวิตรได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “ใครเลือกพลังประชารัฐ ขอให้ยกมือขึ้น และขอบคุณทุกคนที่มาต้อนรับผมและคณะ” ทำให้มวลชนโห่ร้องด้วยความยินดี พร้อมตะโกนพร้อมกันว่า “เลือกพรรคพลังประชารัฐ”
ภายหลังการปราศรัย พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ว่า ชื่นดีใจที่มีคนมาเยอะแยะขนาดนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่าแบบนี้ จ.ชลบุรีจะได้ยกทั้งจังหวัดหรือไม่ พล.อ.ประวิตรพยักหน้าพร้อมกล่าว่า "จ้า ยกจังหวัด"
แนะไปเตรียมตัวรับศึกอภิปราย
ส่วนนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรค พท. กล่าวการจัดกิจกรรมของพรรค พปชร.ว่า คงกลัวพรรคเพื่อไทยจะแลนด์สไลด์ จึงได้ออกหาเสียงในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม พล.อ.ประวิตร และนายสุชาติถูกฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ ดังนั้นควรเอาเวลาเตรียมตัวตอบเนื้อหาสาระในสภาดีกว่า ช่วงนี้ไม่ใช่ฤดูการหาเสียงเพราะเป็นฤดูฝน ใครจะมาฟังฝนตกทุกวัน คุณจะไปปราศรัยอะไร รู้เวล่ำเวลาหรือไม่ คอยดูแล้วกันว่าจะมีคนมาเท่าไหร่
ขณะเดียวกัน ยังคงมีความต่อเนื่องในเรื่องสูตรคำนวณบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) ที่รัฐสภามีมติให้ใช้ 500 เป็นตัวหาร โดยนายสันติกล่าวถึงเรื่องนี้ว่าจะทำให้ พปชร.ที่เคยตั้งเป้า 150 คน ต้องเปลี่ยนเป้าที่สูงขึ้นหรือไม่ว่า พล.อ.ประวิตรเคยบอกว่าถ้าเป็นสูตรหาร 500 เราจะได้ ส.ส.มากขึ้น แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประชาชน
เมื่อถามว่า พรรค พปชร.จำเป็นต้องใช้ยุทธศาสตร์แตกแบงก์พันหรือไม่ นายสันติกล่าวว่า เรามีความเชื่อมั่นในประชาชน โดย พล.อ.ประวิตรและ พล.อ.ประยุทธ์ทำเพื่อประชาชน เรามั่นใจ ไม่ว่าจะสูตรหาร 100 หรือหาร 500 เราจะได้รับการสนับสนุนเต็มที่จากประชาชน
เมื่อย้ำว่า พปชร.ไม่จำเป็นต้องมีอีกพรรคการเมืองหนึ่งเพื่อเก็บ ส.ส.บัญชีรายชื่อใช่หรือไม่ นายสันติกล่าวว่า จริงๆ พปชร.ทำงานเพื่อประชาชน ไม่ได้เล่นการเมือง จะมาโฆษณาชวนเชื่อเพื่อให้มาเลือกเราก็คงไม่ใช่ ส่วนที่พรรค พท.ตั้งข้อสังเกตว่าการเลือกสูตรหาร 500 เพราะต้องการเอาใจพรรคเล็กในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ส.ส.มีความเท่าเทียมกัน ใครจะชอบสูตรหาร 100 หรือหาร 500 ไม่เกี่ยวกับ พท.ที่พูดไปเรื่อยเปื่อย
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงกรณีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา ในฐานะเลขาธิการพรรค พท. ระบุว่าการใช้สูตร 500 หารอาจขัดรัฐธรรมนูญ ว่ารัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดเจนว่าให้มีบัตร 2 ใบ และให้คำนวณ ส.ส.ในแต่ละแบบแยกจากกันว่า ฝ่ายค้านเองก็รู้อยู่แก่ใจว่า หากกลับไปใช้สูตรเดิมตัวเองย่อมได้ประโยชน์ จึงพยายามโยนความผิดให้นายกฯ ทั้งๆ ที่นายกฯ ไม่สามารถสั่งการใดๆ ได้เลย เป็นการพิจารณาของสมาชิกสภาเอง และหากฝ่ายค้านคิดว่ากระแสนิยมของตัวเองดีจริงก็ไม่เห็นต้องกลัวอะไร ควรพร้อมรับกับทุกกติกาที่ออกมาจะดีกว่า ไม่ใช่ว่าพอตัวเองไม่ได้เปรียบก็รีบโวยวาย แต่พอตัวเองได้เปรียบกลับทำนิ่งเฉย
“ฝ่ายค้านออกมาขู่แล้วว่าจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย รัฐบาลพร้อมน้อมรับและเคารพคำตัดสินของศาล และขอให้ฝ่ายค้านเคารพคำตัดสินของศาลด้วยเช่นกัน ไม่ใช่ว่าผลออกมาไม่เป็นไปอย่างที่ตัวเองต้องการแล้วออกอาการงอแงเหมือนหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา” นายธนกรกล่าว
ด้านนายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ตอบโต้นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย วิจารณ์นายกฯ 8 ปีประเทศไทยพังแทบทุกมิติ อยู่ในสภาพประเทศหนี้ล้น และกล่าวหานายกฯ ใช้สูตรคำนวณหาร 500 เพื่อสืบทอดอำนาจ ว่าหากนายอนุสรณ์หรือคนในพรรค พท.ไม่เห็นผลงานที่ พล.อ.ประยุทธ์ทำมาทั้งการแก้ไขปัญหาทุกๆ ด้าน รวมถึงแก้ปัญหาโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทิ้งไว้ และยังมองไม่เห็นว่านายกฯ ได้พัฒนาประเทศอะไรไว้บ้าง ก็ไม่เป็นไรเพราะคนในประเทศส่วนใหญ่เห็นว่านายกฯ ได้ทำอะไรมากมายไว้เยอะแยะ
ซัดอนุสรณ์แค่คนขี้อิจฉา
นายชนะศักดิ์กล่าวว่า นายอนุสรณ์บอกว่าไม่ได้ทำอะไร และทำประเทศพังนั้น เป็นแค่มุมมองของคนขี้อิจฉาริษยา คนที่ติดตามรัฐบาลจะมองเห็นผลงานของนายกฯ และรัฐบาลนี้ ส่วนคนที่บริหารประเทศพังน่าจะเป็นนายกฯ ในสมัยนายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์มากกว่า เรื่องสูตรหาร 500 นายอนุสรณ์ไม่ต้องมาอ้างหรือกล่าวหานายกฯ ประยุทธ์ว่าอยู่เบื้องหลัง หวังสืบทอดอำนาจ อย่าเอาความเท็จมาใส่ร้ายป้ายสี เพราะนายกฯ ยืนยันตลอดว่าเป็นเรื่องของสมาชิกรัฐสภา แท้จริงแล้วพรรคเพื่อไทยขี้แพ้ชวนตีมากกว่า และผิดหวังที่ทำให้นายใหญ่ผิดหวัง ทำไม่สำเร็จตามที่นายใหญ่บัญชาสั่งการมามากกว่า เพราะไม่อาจนำไปสู่การเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ แล้วช่วยนายใหญ่กลับประเทศได้
ทั้งนี้ นายอนุสรณ์ได้กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์อยู่มา 8 ปี ผ่านงบประมาณไป 12 ครั้ง ใช้เงินไป 28.5 ล้านล้านบาท แต่เศรษฐกิจทรุด ทุจริตฟู กู้เก่ง แต่บริหารไม่เป็น ทำประเทศล้มเหลวแทบทุกด้าน พังทุกมิติ และวาระสุดท้ายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เหมือนคนกำลังจะจมน้ำ อะไรผ่านมาก็คว้าไว้หมด ขนาดยอมเสียทรงจนถูกตั้งคำถามว่าไปแทรกแซงเปลี่ยนสูตรคำนวณ ส.ส.จากหาร 100 เป็นหาร 500 เพื่อประโยชน์ในการสืบทอดอำนาจของตัวเองหรือไม่
“พล.อ.ประยุทธ์อย่าดูถูกประชาชนว่าถ้าใช้สูตรหาร 500 จะทำให้ตัวเองได้กลับมาสืบทอดอำนาจต่อ รอดูการตัดสินใจของประชาชนในการเลือกตั้งได้เลย” นายอนุสรณ์กล่าว
ส่วนนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) กล่าวถึงสูตรหาร 500 ว่า มีหลายมุมมอง ทั้งทางกฎหมาย ทางการเมือง พรรคเราเตรียมพร้อมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะหาร 100 หรือ 500 ยุทธศาสตร์เรามีชัดเจน เราวางทั้งสองแบบไว้ตั้งแต่ต้น เรามียุทธศาสตร์ทั้งพื้นที่เขต และพยายามให้ได้คะแนนที่จะส่งผลต่อปาร์ตี้ลิสต์ ดังนั้นตัวหารจะเป็นอย่างไร ก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่ยุทธศาสตร์เป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับเราเราส่งในทุกพื้นที่ เราหวังผลในเรื่องของเขต ขณะเดียวกันในเรื่องของกระแสที่จะส่งผลต่อระบบปาร์ตี้ลิสต์ เรามีบุคลากร มีนโยบายที่สามารถตอบโจทย์ให้ประชาชนได้
นายสุระ เตชะทัต เลขาธิการพรรคพลังชล กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพ ยอมรับผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเรื่องการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเดินหน้าเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต สำหรับพรรคมีความพร้อม ที่ผ่านมาได้จัดกิจกรรมทางการเมือง ที่ต้องดำเนินการให้ครบถ้วน ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ทุกประการ ไม่ว่ากติกาการเลือกตั้ง จะออกมาในรูปแบบไหน พรรคพลังชลพร้อมยอมรับ สู้ทุกกติกาในสนามการเลือกตั้ง และจะส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งอย่างแน่นอน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จี้สอบ6ข้อป่วยทิพย หวั่น‘สมศักดิ์’แทรกแซง/‘แม้ว’ถก‘อันวาร์’เรื่องอาเซียน!
"บิ๊กป้อม" เลี่ยงเผชิญหน้า "ทักษิณ" ยกเลิกร่วมงานอวยพรครบรอบ 75 ปี
จี้รัฐบาลประท้วงกัมพูชา
"สนธิรัตน์" นำทีมพลังประชารัฐลงพื้นที่ตราด "ดร.ม.ล.กรกสิวัฒน์" ชี้อันตรายมาก แนวสันเขื่อนดินที่กัมพูชาสร้างต่อเติมออกไป หากไม่มีการประท้วงหรือไม่มีข้อคัดค้านใดๆ ก
พปชร. ลงตราด ชวนชาวบ้านในพื้นที่ร่วมคัดค้าน MOU 44
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานร่วมศูนย์นโยบาย และวิชาการ และ ดร.ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี กรรมการบริหาร พรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางมาเยี่ยมพี่น้องประชาชนในจังหวัดตราด โดยได้รับการประสานงานจากประชาชนในพื้นที่
'ลุงป้อม' ส่ง 4 สส. ตัวแทนพปชร. ร่วมดินเนอร์พรรคฝ่ายค้าน 18 ธ.ค.นี้
นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ในฐานะรองโฆษกพรรค พปชร. แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารประจำสัปดาห์ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค
'บิ๊กป้อม' เมินร่วมวง 'ดินเนอร์ฝ่ายค้าน' แค่ส่งตัวแทน พปชร.
นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้นัดแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านรับประทานอาหารเย็น ในวันพุธที่ 18 ธ.ค.นี้
'ชัยวุฒิ' ยก 'บิ๊กป้อม' สุภาพบุรุษ ขับก๊วนธรรมนัส เหมือนหย่าเมีย
'ชัยวุฒิ' ยกย่อง 'บิ๊กป้อม' สุภาพบุรุษ เปรียบขับ 20 สส.ก๊วนธรรมนัส พ้นพรรค เหมือนผัวเมียไม่รักแล้วหย่ากัน จบด้วยดี ยืนยัน พปชร. ไม่แตกแยก พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้านเพื่อ ปชช.