กพช.ไฟเขียว ปตท.จัดหา LNG สัญญาระยะยาว 1 ล้านตัน/ปี เพิ่มความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ นายกฯ กำชับ กกพ.กำกับดูแลให้โปร่งใส "พาณิชย์” เผย 7 วันหลังติดตามห้าง-ร้านค้าปลีกค้าส่ง-ตลาดสด 2 พันแห่งทั่วประเทศ ยันสินค้ามีเพียงพอ ไม่พบฉวยขึ้นราคา
ที่ห้อง PMOC ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม เวลา 09.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ครั้งที่ 5/2565 ร่วมกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาข้อเสนอการจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) สัญญาระยะยาวของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงสถานการณ์ด้านพลังงานขณะนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐทั้งหมดจะต้องช่วยกันแก้ไขปัญหา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยคำนึงถึงหลักการ ข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริงต่างๆ ทั้งหมด โดยขอให้ทุกคนได้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากช่องทางสื่อต่างๆ เพื่อนำไปสู่การทำความเข้าใจ มีเหตุผลในการชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจถึงสถานการณ์ในปัจจุบัน พร้อมย้ำว่าสิ่งสำคัญในวันนี้คือการขับเคลื่อนไปสู่การประหยัดพลังงาน ที่จะเกิดผลตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง และส่งผลกับประชาชน ซึ่งประชาชนต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมช่วยกันประหยัดพลังงานด้วย
นอกจากนี้ นายกฯ ยังกล่าวถึงข้อเสนอการจัดหาก๊าซ LNG ของ ปตท. เป็นการลดความเสี่ยงในการจัดหา LNG ในอนาคต และเป็นส่วนสำคัญที่จะเพิ่มความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ อย่างไรก็ตาม ขอฝากให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. ได้ติดตามผลกระทบต่อราคาอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานในประเทศในอนาคต เพราะการนำเข้าก๊าซจะเกิดขึ้นในปี 2569 ในขณะที่ความผันผวนด้านราคาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันอาจจะสิ้นสุดลงแล้ว หรืออาจจะมีต่อไปก็ได้ ดังนั้นจะเสี่ยงไม่ได้ โดยต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ การแข่งขันของผู้ประกอบการ รวมทั้งขอให้ กกพ.กำกับดูแลการจัดหา LNG ให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นไปตามมาตรฐานสากล ให้เกิดการแข่งขันอย่างเสรี
ด้านนายสุพัฒนพงษ์เปิดเผยว่า สถานการณ์พลังงานในปัจจุบันมีความผันผวนค่อนข้างมาก มีปัจจัยเสี่ยงทั้งจากการพัฒนาโครงการผลิต LNG แหล่งใหม่และการผลิตก๊าซธรรมชาติจากแหล่งอ่าวไทยมีปริมาณจำกัด ความเสี่ยงจากสถานการณ์ทางการเมืองระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ยังมีความยืดเยื้อ รวมถึงความไม่สงบทางการเมืองในประเทศเมียนมา ซึ่งทั้งหมดนี้อาจส่งผลให้ประเทศมีการผลิตและจัดหาก๊าซธรรมชาติในปริมาณที่ลดลง โดยที่ประชุมได้มีการพิจารณาข้อเสนอการจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) สัญญาระยะยาวของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ และลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดจร ประกอบกับประเทศไทยยังต้องมีการจัดหา LNG เพิ่มเติมเพื่อรองรับความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติ
โดยที่ประชุม กพช.ได้มีมติเห็นชอบให้ ปตท.จัดหา LNG สัญญาระยะยาว ปริมาณ 1 ล้านตันต่อปี เพิ่มเติมจากสัญญาระยะยาวที่มีการลงนามแล้ว 5.2 ล้านตันต่อปี โดยนำต้นทุนการจัดหารวมเข้าไปคำนวณเฉลี่ยในราคา Pool โดยจะเริ่มส่งมอบ LNG ตั้งแต่เดือน ม.ค.2569 เป็นระยะเวลา 15-20 ปี และ กพช.ได้มอบหมายให้ กกพ.เป็นผู้กำกับดูแลให้ราคา LNG ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ กพช.กำหนด เพื่อส่งเสริมให้เกิดการแข่งขัน เป็นธรรม โปร่งใส ไม่เลือกปฏิบัติและเป็นทางเลือกแก่ผู้ใช้ก๊าซธรรมชาติ
นายสมภพ พัฒนอริยางกูล โฆษกกระทรวงพลังงาน ชี้แจงกรณีที่มีกระแสข่าวเกี่ยวกับค่าการตลาดน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงนี้ โดยมีการเปรียบเทียบราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นกับค่าการตลาดน้ำมันเบนซิน ในช่วงต้นเดือน มิ.ย. 2565 กับปัจจุบัน ที่ราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นปรับลดลง แต่ค่าการตลาดปรับสูงขึ้นนั้นว่า จากแนวทางการพิจารณาค่าการตลาดอ้างอิงของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงานนั้น ในการพิจารณาค่าการตลาดควรดูในภาพรวมของทุกชนิดน้ำมัน เพราะสถานีบริการไม่ได้จำหน่ายน้ำมันเพียงชนิดเดียว และไม่ควรเปรียบเทียบค่าการตลาดเป็นรายวัน เนื่องจากราคาเนื้อน้ำมันมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงทุกวันตามราคาตลาดโลก
“หากจะพิจารณาค่าการตลาดน้ำมัน ควรจะดูในภาพรวมของผลิตภัณฑ์ที่มีการจำหน่าย ทั้งน้ำมันเบนซินและดีเซล ซึ่งทางภาครัฐได้มีการศึกษากรอบค่าการตลาดซึ่งควรอยู่ที่ 2 บาท และ +/- ได้ 0.40 บาทต่อลิตร ซึ่งหากพิจารณาค่าการตลาดตั้งแต่วันที่ 1-6 ก.ค.2565 ค่าการตลาดน้ำมันเฉลี่ยทุกประเภท ทั้งน้ำมันเบนซินและดีเซลจะอยู่ที่ 2.17 บาทต่อลิตร ซึ่งก็อยู่ในกรอบที่ภาครัฐกำหนด" นายสมภพกล่าว และว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ภาครัฐได้ติดตามสถานการณ์และใช้หลายมาตรการเพื่อลดผลกระทบจากราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นให้กับประชาชน
วันเดียวกัน นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าทั่วประเทศ ตามนโยบายที่ได้รับจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั้ง 76 จังหวัด ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพ ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา จำนวนกว่า 2,000 แห่ง ทั้งการตรวจสอบในห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีกค้าส่งและตลาดสด พบว่าด้านปริมาณสินค้า มีสินค้าที่จำเป็นในการครองชีพเพียงพอ และไม่พบผู้ประกอบการฉวยโอกาสขึ้นราคาจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพแต่อย่างใด
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้กำชับให้พาณิชย์จังหวัดบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการกำกับดูแลให้มีการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 โดยเน้นย้ำให้ร้านค้าต้องปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้าให้ชัดเจน ห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา หรือจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควรโดยเด็ดขาด หากพบการกระทำผิด ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด และให้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด ที่ต้องเข้าไปกำกับดูแลเครื่องชั่ง การบรรจุหีบห่อ โดยให้เน้นการตรวจสอบการบรรจุก๊าซหุงต้ม และหัวจ่ายปั๊มน้ำมัน เพื่อดูแลผู้บริโภค.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กกต.หายห่วง! ชูเลือกตั้งอบจ. รู้สึก ‘ปลอดภัย’
"แสวง" ปลุกเจ้าหน้าที่ กกต.! ยันไม่ได้รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยหลังจากที่ได้ลงตรวจเยี่ยมการสมัครรับเลือกตั้งที่ปราจีนบุรี ไม่คิดว่าผู้สมัครนายก อบจ.คนไหนจะสร้างความรุนแรง
ประเดิม 10 วันอตร. ตาย 52
ประเดิม 10 วันอันตราย เกิดอุบัติเหตุ 322 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 318 คน ผู้เสียชีวิตแล้ว 52 ราย สาเหตุส่วนใหญ่ขับรถเร็ว
เปิดของขวัญปีใหม่ แพทองโพยแจกยับ
รัฐบาลคืนความสุขให้ประชาชน หลังเครียดกับเศรษฐกิจและการเมือง ขุดของเก่ารวมของใหม่ เหมารวมเป็นของขวัญปีใหม่แต่ละกระทรวง ลดแลกแจกแถมไม่อั้น
สวมบท'อินฟลูอาเซียน' จุดเสี่ยงใช้ประเทศเดิมพัน?
ยืนยันชัดเจนจาก นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย หลังโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Anwar Ibrahim พร้อมรูปภาพคู่กับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ไม่กลัวรัฐประหาร ‘ภูมิธรรม’ ลั่น! จัดการได้รัฐบาลอยู่ครบเทอมแน่
“ภูมิธรรม” โวยเอ็มโอยู 44 ถูกปลุกปั่นไปไกล แทบจะออกนอกอวกาศอยู่แล้ว ไม่กังวลใจกับคำถามที่ว่าในปี 2568 สถานการณ์การเมืองจะวุ่นวายและโดนรัฐประหาร
บิ๊กต่อแจงบ้านลอนดอน รมว.ดีอีดีดรับพ่อนายกฯ
ป.ป.ช.เปิดขุมทรัพย์ “บิ๊กต่อ” หลังพ้นเก้าอี้ ผบ.ตร. ทรัพย์สิน 209 ล้าน