กล้าเปลี่ยน!โพลหนุนกัญชา

ซูเปอร์โพลเผยคนส่วนใหญ่หนุนกัญชาเสรี ชี้กล้าเปลี่ยนแปลง ทำสูงวัย-ผู้ป่วยได้ประโยชน์ เตือนระวังการเมืองเตะตัดขาทำคนตัวเล็กตัวน้อยเสียโอกาส พรรคไทยสร้างไทยปูดตลาดซื้อขายขยายตัวถึง 450% พร้อมห่วงเยาวชน ขณะที่แพทย์ชนบทถามหมากเกมนี้เพื่อใคร

ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจเรื่อง กัญชาเพื่อใคร กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณและการวิจัยเชิงคุณภาพ  จำนวน 2,250 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน-2 กรกฎาคม พ.ศ.2565 ที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 86.7 รับรู้ว่านโยบายกัญชามีประโยชน์ทางการแพทย์ให้สามารถศึกษาค้นคว้า ใช้กัญชาทางการแพทย์ได้อย่างถูกกฎหมาย ลดการพึ่งพานำเข้ายาจากต่างประเทศ ในขณะที่ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 65.4 รับรู้ว่า กัญชามีประโยชน์ สามารถเป็นพืชเศรษฐกิจได้ ส่งออกกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์แผนไทย

ที่น่าสนใจคือ เมื่อถามถึงกลุ่มคนที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายกัญชาทำเพื่อใคร พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 56.7 ระบุ ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ และชาวบ้านทั่วไป ที่กัญชารักษาโรคได้ เช่น อาการปวดเรื้อรัง นอนไม่หลับ ซึมเศร้า เบื่ออาหาร และโรคกล้ามเนื้อ เป็นต้น, ร้อยละ 54.1 ระบุ บุคลากรทางการแพทย์ที่ศึกษาค้นคว้าองค์ความรู้ใช้ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์ทำได้อย่างถูกกฎหมายและเปิดเผย และร้อยละ 53.5 ระบุประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะเกษตรกร ได้ประโยชน์จากการปลดล็อกกฎหมายกัญชา ทำให้สามารถปลูกและใช้เป็นยาประจำบ้าน รักษาโรค และผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจชาติ

นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 65.8 สนับสนุนนโยบายกัญชา เพราะเป็นนโยบายที่กล้าเปลี่ยนแปลง มาถูกทาง แก้ปัญหากัญชาใต้ดิน ลดอำนาจรัฐเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ ช่วยเหลือชาวบ้านผู้ป่วยยากไร้มียาประจำบ้านรักษาโรคต่าง ๆ ให้ชาวบ้านเกษตรกรได้ปลูกได้ใช้ในครัวเรือนเพื่อสุขภาพอย่างถูกกฎหมาย ไม่ใช่ให้นายทุนกอบโกย ช่วยทำให้การศึกษาค้นคว้าใช้ประโยชน์กัญชาทางการแพทย์พื้นบ้านเป็นไปได้ไม่ผิดกฎหมาย สร้างความมั่นคงทางยา สร้างรายได้เข้าประเทศ เป็นต้น

“ที่น่าห่วงคือการเตะตัดขากันทางการเมืองของนักการเมืองและกลุ่มนายทุนใหญ่ มุ่งทำลายนโยบายกัญชาที่ดีของประชาชนคนตัวเล็กตัวน้อยของสังคมไม่ให้ได้ประโยชน์จากการปลดล็อกกัญชาตามศาสตร์ภูมิปัญญาไทย” ผอ.ซูเปอร์โพลกล่าว

น.ส.ธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ ผู้อำนวยการศูนย์นโยบาย พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า ปัจจุบันรัฐกลับปล่อยให้มีการซื้อขายกัญชาได้อย่างเสรี แต่ไม่มีเครื่องมือทางกฎหมายในการควบคุมการใช้กัญชาในทางที่ผิด จึงมีความกังวลถึงการใช้กัญชานอกเหนือไปจากการใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ โดยเฉพาะการใช้กัญชาในเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งในปี 2564 พบวัยรุ่นใช้กัญชามากถึง 1.89 ล้านคน ซึ่งควรมีมาตรการเชิงรุกในการป้องกันไม่ให้เยาวชนเข้าถึงกัญชาได้ อีกเรื่องที่ยังน่ากังวลคือ เยาวชนยังคงสามารถเข้าถึงกัญชาจากแหล่งอื่นๆ นอกสถานศึกษาได้ โดยเฉพาะการซื้อขายทางออนไลน์ ที่สถานศึกษาเข้าไปควบคุมได้ยาก ซึ่งในปี 2564 ตลาดซื้อขายกัญชาขยายตัวถึง 450% เทียบกับปีก่อนหน้า

ด้านเพจชมรมแพทย์ชนบท โพสต์ข้อความเรื่อง “#อ้างกัญชาทางการแพทย์ หมากเกมหลายชั้นเพื่อใคร???” ระบุว่า  หมากเกมนี้ชัดเจนแล้วว่า อ้างกัญชาทางการแพทย์ เพื่อให้ขาวบ้านได้ปลูกกันบ้านละ 6 ต้น ชาวบ้านดีใจได้ปลูก 6 ต้น แต่แท้จริงก็เป็นการปลดล็อกเพื่อให้คนใหญ่คนมีทุนปลูกกันเป็นฟาร์มต่างหาก กะจะรวยแต่ไม่สนใจผลกระทบต่อสังคม นี่คือกลเกมแห่งกัญชาเสรี ดังนั้น จึงขอเชิญชวนผู้คนในสังคมไทย เรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนนโยบายกัญชาเสรี ให้กัญชากลับเป็นยาเสพติด และให้ใช้สำหรับกัญชาทางการแพทย์เท่านั้น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง