คลังถกสภาพัฒน์ จ่อใช้งบกลางคลอดมาตรการลดค่าครองชีพครึ่งปีหลัง "จุรินทร์" สั่งพาณิชย์จังหวัดไล่เช็กราคาสินค้าปลีก-ส่ง ห้ามร้านค้าฉวยกำไรเกินควร คมนาคมตรึงค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินถึงสิ้นปี
ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิด FTI EXPO 2022 : SHAPING FUTURE INDUSTRIES FOR STRONGER THAILAND โดยกล่าวตอนหนึ่งถึงวิกฤตพลังงานว่า วันนี้ปัญหาราคาพลังงานค่าขนส่งแพงขึ้น เพราะน้ำมันราคาแพงขึ้น ซึ่งเราซื้อเขามาและต้องผ่านกลไกต่างๆ อยู่แล้ว ทั้งหมดมีข้อบังคับและระเบียบเยอะแยะไปหมดและมีมาตรฐาน นอกจากพลังงานสูงขึ้น ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ก็มีปัญหาเงินเฟ้ออีก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการดำเนินนโยบายการเงินการคลังของต่างประเทศด้วย ยืนยันเราดูทุกอย่างด้วยความรัดกุมที่สุด ทำอะไรก็ตามจะไม่ทำให้เงินการคลังของประเทศอ่อนแอลง และให้ต่างประเทศเชื่อมั่นศักยภาพการเงินการคลังของไทยที่วันนี้ยังแข็งแกร่งอยู่ระดับ B+ แม้มีการกู้อะไรต่างๆ ซึ่งไม่ได้อยากกู้ ถ้าไม่จำเป็นตนก็ไม่อยากกู้
"เรื่องน้ำมันติดปัญหาทั้งโลก โธ่ทำไมจะไม่อยากลด อยากลดจะตายอยู่แล้ว" นายกฯ ระบุ
ทางด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ อยู่ระหว่างการหารือการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ในส่วนของงบกลาง เพื่อนำมาใช้ในมาตรการเยียวยาแบ่งเบาภาระค่าครองชีพประชาชนในช่วงครึ่งปีหลัง ส่วนจะเป็นมาตรการใดนั้น ต้องรอการหารือให้ได้ข้อยุติก่อน อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าครองชีพประชาชนอย่างแน่นอน
“มาตรการที่จะนำมาใช้แบ่งเบาช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนนั้น จะมีทั้งมาตรการเก่าและมาตรการใหม่ ซึ่งมาตรการเก่าก็ได้ขยายระยะเวลามาตรการออกไปแล้ว เช่น การตรึงราคาก๊าซเอ็นจีวีสำหรับรถยนต์ และก๊าซหุงต้ม เป็นต้น" นายอาคมระบุ
ส่วนการต่ออายุมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลนั้น ยังมีเวลาพิจารณา เนื่องจากจะสิ้นสุดอายุมาตรการวันที่ 20 ก.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม การเข้าไปช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมัน จะเน้นเฉพาะกลุ่มมากขึ้น เพราะงบประมาณมีจำกัด ขณะที่งบกลางก็มีเหลือไม่มาก ทั้งนี้ยังมั่นใจว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (จีดีพี) ในปี 65 จะยังเติบโตได้ในอัตรา 3.5% ซึ่งอยู่ในช่วงที่ได้คาดการณ์ไว้ตั้งแต่ต้นปี 3-4% ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดประเทศ ทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ส่งออกของไทยยังเติบโตต่อเนื่อง
วันเดียวกัน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ติดตามนโยบายการคุ้มครองผู้บริโภคและประชาชนเกี่ยวกับราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด โดยสั่งการให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามราคาสินค้าทั้งราคาหน้าโรงงาน ราคาขายส่ง ขายปลีก และให้พาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดติดตามราคาและภาวะสินค้าอุปโภคบริโภคทุกชนิดอย่างใกล้ชิดทุกวัน รวมถึงประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจและขอความร่วมมือให้ร้านค้าปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 อย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาเข้าข่ายค้ากำไรเกินควร รวมถึงไม่ให้มีการกักตุนสินค้า
หากไม่ปฏิบัติตาม ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการดูแลราคาสินค้าและบริการระดับจังหวัด กับสำนักงานพาณิชย์จังหวัด เข้าตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด และให้รายงานผลการปฏิบัติการให้ทราบทุกวันต่อไป
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า จากข้อสั่งการของ รมว.พาณิชย์นั้น เพื่อให้การดำเนินการในการติดตามราคาสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างใกล้ชิด การกำกับดูแลการปิดป้ายแสดงสินค้าให้ชัดเจน และห้ามจำหน่ายสินค้าราคาแพงเกินสมควรตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเกิดประสิทธิภาพ จึงสั่งการให้พาณิชย์จังหวัดดำเนินการ ดังนี้
1.จัดชุดเจ้าหน้าที่ตรวจติดตามสถานการณ์ราคา ภาวะการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างใกล้ชิดเป็นประจำทุกวัน พร้อมสร้างความเข้าใจในการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการฯ ให้มีการปิดป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจน ตรวจสอบการจำหน่ายและป้องปรามการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าแพงเกินสมควร โดยเฉพาะกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวในพื้นที่ และปรากฏตามสื่อ หรือมีเรื่องร้องเรียน ให้ถือเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องให้ความสำคัญ
2.รายงานผลการดำเนินการติดตาม ตรวจสอบ หรือผลการดำเนินคดี (ถ้ามี) กรณีมีข้อร้องเรียนการกระทำความผิดหรือพบการกระทำความผิด ขอให้ดำเนินการตรวจสอบโดยเร็ว ตามแนวปฏิบัติและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และรายงานผลให้กระทรวงทราบทันที และ 3.ขอให้รายงานผลการติดตามสถานการณ์สินค้าอุปโภคบริโภคเป็นประจำทุกวัน
ทั้งนี้ นายจุรินทร์อยู่ระหว่างเวิร์กฟรอมโฮม หลังตรวจพบเชื้อโควิด-19 ภายหลังเดินทางกลับมาจากปฏิบัติภารกิจที่ประเทศอังกฤษ
ที่กระทรวงคมนาคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมหารือร่วมกับบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน เพื่อหาแนวทางมาตรการการปรับลดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล หรือ รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินว่า ภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.65 มีมติเห็นชอบปรับอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ตามดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่กำหนดในสัญญาสัมปทานให้มีการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารใหม่ทุกๆ ระยะเวลา 24 เดือน (2 ปี) จากปัจจุบันอัตราค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 17 ถึง 42 บาท เป็น 17 ถึง 43 บาท โดยเพิ่มขึ้น 1 บาท สำหรับการเดินทางสถานีที่ 6, 9, 11 และ 12 ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.65 เป็นต้นไปนั้น
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการลดผลกระทบของประชาชน กระทรวงจึงได้ข้อสรุปว่า จะตรึงราคาค่าโดยสารดังกล่าวออกไปถึงสิ้นปี 2565 โดยอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางซื่อ, หัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ จะคงในราคาเดิม เริ่มต้นที่ 17 บาท สูงสุด 42 บาท พร้อมส่วนลดพิเศษสำหรับเด็กและผู้สูงอายุ 50% และสำหรับนักเรียน นักศึกษา 10% ของอัตราค่าโดยสารบุคคลทั่วไป ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค.65
ซึ่งล่าสุด BEM ได้ทำหนังสือยืนยันแล้วว่าจะตรึงราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าไปก่อนถึงสิ้นปี และการตรึงราคาดังกล่าวทางเอกชนไม่ได้มีข้อแลกเปลี่ยน หรือมีเงื่อนไขแลกเปลี่ยนกับกระทรวงคมนาคม และเมื่อถึงสิ้นปี ที่หมดระยะเวลาการตรึงค่าโดยสาร จะมีการขยายเวลาหรือไม่นั้น ทางกระทรวงคมนาคมยังไม่สามารถให้ความเห็นก่อนได้ ต้องรอให้มีการหารือร่วมกันอีกครั้ง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ ปลุกทุกภาคส่วน ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรีทุกรูปแบบ
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านวีดิทัศน์ว่า เนื่องในเดือนพฤศจิกายนของทุกปีเป็นเดือนแห่งการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ประจำปี 2567
ความจริง 'ชั้น 14' ชี้ชะตา 'รัฐบาลอิ๊งค์'
นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ประธานสถาบันสุจริตไทย และอดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า อายุรัฐบาลขึ้นกับความจริงบนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ (รพ.ตร.)
ตั้งกก.สอบผกก.บางซื่อ ทนายปาเกียวเล็งทิ้งตั้ม
“ดีเอสไอ” เตรียมสรุปสำนวนคดี 18 บอสดิไอคอนเสนออัยการคดีพิเศษภายใน 20 ธ.ค.นี้
นิกรหักเพื่อไทย เตือนส่อผิดกม. ให้กมธ.ตีความ
“นิกร” หักข้อเสนอ “ชูศักดิ์” เลยช่วงเวลาแปลงร่างประชามติเป็นกฎหมายการเงินแล้ว
จ่อส่งคดีหมอบุญให้DSI
ตร.สอบปากคำอดีตภรรยา-ลูกสาว “หมอบุญ” เพิ่มเติม
‘สนธิ’ลั่นการเมืองใกล้สุกงอม!
“อุ๊งอิ๊ง” เมินปม กกต.สอบครอบงำต่อ เด็ก พท.ยันเป็นการดำเนินการตามปกติ