2 รองนายกฯ 2 ผู้นำพรรคร่วมรัฐบาลไม่รอด! สังเวยโควิดหลังจากปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ “อนุทิน” 2 ขีดหลังกลับจากฝรั่งเศส ส่วน “จุรินทร์” เจอหลังกลับจากอังกฤษ สธ.ยันไม่กระทบแผนโรคประจำถิ่น
เมื่อวันอังคารที่ 28 มิ.ย. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดในไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,761 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 1,757 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,757 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 4 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 2,185 ราย อยู่ระหว่างรักษา 22,458 ราย อาการหนัก 638 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 290 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 13 ราย เป็นชาย 5 ราย หญิง 8 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 12 ราย มีโรคเรื้อรัง 1 ราย มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 4,517,651 ราย มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 4,464,573 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 30,620 ราย
ในเวลา 13.30 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กพร้อมแสดงผลตรวจ ATK ระบุว่า "ขอบพระคุณสำหรับความห่วงใยของเพื่อนๆ ทุกท่านครับ" โดยภาพ ATK ที่นำมาแสดงของนายอนุทินเป็นภาพผลตรวจ 2 ขีด โดยขีดที่ 2 เขียนว่า “iloveyou”
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีนายอนุทินติดเชื้อโควิด-19 หลังเดินทางไปประชุมที่กรุงปารีสว่า ภายหลังนายอนุทินเดินทางกลับมาถึงไทย ได้มีการตรวจด้วยชุด ATK ซึ่งพบว่าติดเชื้อ จากนั้นจึงได้ไปตรวจยืนยันด้วยระบบ RT-PCR ก็ยืนยันผลเป็นบวก โดยนายอนุทินแจ้งความประสงค์ที่จะรักษาตัวที่บ้าน ขณะที่ทีมแพทย์เห็นว่านายอนุทินมีอาการไม่มาก จึงให้ดูแลรักษาอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 5-7 วัน แต่มีการติดตามอาการอย่างใกล้ชิด และได้ให้นายอนุทินรับประทานยาโมลนูพิราเวียร์
ผู้สื่อข่าวถามว่า เกณฑ์การให้ยาโมลนูพิราเวียร์ผู้ป่วยต้องเป็นอย่างไร นพ.เกียรติภูมิกล่าวว่า ให้ยาและดูแลตามอาการ บางคนมีอาการน้อย ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยารักษา หากมีอาการมากขึ้นตามเงื่อนไขก็จะจ่ายยาตามแนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัย ดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาลกรณีโรคโควิด-19 (Clinical Practice Guidelines: CPGs) ซึ่งแพทย์จะประเมินอาการผู้ป่วยเพื่อสั่งจ่ายยา เช่น ฟ้าทะลายโจร ฟาวิพิราเวียร์ โมลนูพิราเวียร์ หรือแพกซ์โลวิด
เมื่อถามถึงความเข้าใจของประชาชนที่มองว่า รมว.สาธารณสุขได้รับวัคซีนโควิด-19 ถึง 6 เข็ม แต่ยังติดเชื้ออยู่ ทำให้หลายคนไม่อยากฉีด นพ.เกียรติภูมิกล่าวว่า วัคซีนโควิด-19 มีประโยชน์ ผลการศึกษาวัคซีนเข็มกระตุ้นป้องกันติดเชื้อได้ถึง 80-90% ซึ่งหมายถึง 10% ที่เหลือก็ยังติดเชื้อได้อยู่ แต่ป้องกันความรุนแรงและเสียชีวิตได้ถึง 99%
นพ.เกียรติภูมิกล่าวต่อว่า สธ.ได้เร่งรัดให้กลุ่มเสี่ยงเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุ แต่พบว่ายังมีความเชื่อที่ผิดว่าแม้ฉีดวัคซีนหลายเข็ม แต่ยังติดเชื้อทำให้ไม่ไปรับวัคซีน แต่ต้องย้ำว่าวัคซีนเข็มกระตุ้นจะช่วยลดความรุนแรงของโรค ทั้งนี้ ปกติเรากระตุ้นวัคซีนปีละครั้ง แต่ด้วยโรคไม่ยอม ดังนั้นกลุ่มเสี่ยงต้องกระตุ้นทุก 3 เดือน เพื่อลดความรุนแรงของโรค แต่ก็เน้นย้ำเรื่องมาตรการป้องกันตัวเอง 2U คือ universal prevention และ universal vaccination ซึ่งเป็นหลักกับการอยู่ร่วมโควิดในระยะ Post pandemic หรือเป็นระยะหลังการระบาดใหญ่
เมื่อถามถึงวัคซีนเด็กอายุน้อยกว่า 5 ขวบ นพ.เกียรติภูมิกล่าวว่า สำหรับต่างประเทศเริ่มใช้แล้ว ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะเชิญผู้ได้รับอนุญาตนำเข้าวัคซีนมาพูดคุยกัน คาดว่าเป็นวัคซีนที่เรามีอยู่แล้ว เราก็สามารถใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบได้
ถามอีกว่า ได้ตรวจรหัสพันธุกรรมหรือไม่ว่านายอนุทินติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใด นพ.เกียรติภูมิกล่าวว่า ยังไม่ได้ตรวจสายพันธุ์ เพราะต้องใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ แต่จากนี้จะเก็บตัวอย่างส่งตรวจอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าขณะนี้นายอนุทินยังสุขภาพแข็งแรงดี จากการที่ได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายอนุทิน ก็เห็นว่านายอนุทินแข็งแรงดี มีเสียงอู้อี้เล็กน้อย สมองท่านยังดีมาก ยังสามารถทำงานและสั่งข้อราชการต่างๆ ได้ตามปกติ
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ขณะนี้มีรายงานผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทวีปยุโรป ตรวจพบการติดเชื้อเพิ่มขึ้น นพ.เกียรติภูมิกล่าวว่า ขณะนี้โรคโควิด-19 กำลังเดินเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่น ซึ่งยังมีการติดเชื้อได้ แต่ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง สามารถดูแลรักษาแบบผู้ป่วยนอกได้ หรือดูแลตัวเองที่บ้าน หากใครมีอาการมาก ก็จะเข้ารับการดูแลในโรงพยาบาลในระบบผู้ป่วยใน แต่ข้อมูลตอนนี้ผู้ติดเชื้ออาการรุนแรงน้อยมาก
เมื่อถามว่า ไทม์ไลน์การประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นของไทยยังเหมือนเดิมหรือไม่ ปลัด สธ.กล่าวว่า ยังอยู่ในแผน โดยกำลังรอดูสถานการณ์อีกสักระยะ เนื่องจากพบการติดเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 จึงขอดูสายพันธุ์ตรงนี้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ แล้วต้องปรึกษาหารือกันอีกครั้ง ซึ่งถ้าเห็นว่าไม่ได้มีผลกระทบกับไทยมากนัก และทุกอย่างยังเป็นไปตามปกติ เราก็จะเดินหน้าตามแผนที่ประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรค ภท. กล่าวว่า ไม่ได้เจอกับนายอนุทิน ไม่ได้เจอกันมา 2 สัปดาห์แล้ว ซึ่งตนเองยังปกติ ผลตรวจไม่เป็นบวก
ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ว่า เมื่อเช้ายังไม่ทราบเรื่อง แต่เมื่อหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสร็จ ได้โทร.คุยกันแล้ว นายจุรินทร์จึงได้ฝากบอกว่าหลังจากเดินทางกลับมาจากปฏิบัติภารกิจที่ประเทศสหราชอาณาจักร พบว่ามีอาการเล็กน้อยและได้ทำการตรวจ จึงได้พบว่าเป็นโควิด-19 แต่ไม่มีอาการรุนแรง โดยแพทย์ให้ รักษาตัวเองตามขั้นตอนของสาธารณสุข เฝ้าดูอาการจนกว่าจะหาย
นายสาธิตกล่าวต่อว่า ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ในระยะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง ยืนยันว่าไม่ได้เป็นผลมาจากการผ่อนคลายมาตรการให้ถอดหน้ากากอนามัยตามความสมัครใจ แต่เป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้ว เนื่องจากมีการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิง ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนไม่ต้องเป็นกังวล แต่ก็ต้องรักษามาตรการ เว้นระยะห่าง ใส่หน้ากากอนามัยในที่แออัด และยังระมัดระวังตนเองเหมือนเดิม
“สายพันธุ์ BA.4, BA.5 กรมการแพทย์ได้มีการรายงานว่าผู้ป่วยมีอาการรุนแรงมากขึ้นเล็กน้อย จึงให้เก็บข้อมูลว่าสำหรับผู้ที่ติดเชื้อและมีอาการรุนแรงให้ส่งตัวอย่างเลือดไปที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อรวบรวมว่าเป็นสายพันธุ์ BA.4, BA.5 แต่ในขณะนี้ยังไม่มีอาการรุนแรง และอัตราส่วนในการครอบครองสายพันธุ์อื่นๆ พบว่ามีการครองไปแล้ว 50% ซึ่งเป็นการพัฒนาของสายพันธุ์ใหม่”นายสาธิตกล่าว
เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะมีการบังคับการใส่หน้ากากอนามัยอย่างเข้มงวดอีกครั้ง นายสาธิตกล่าวว่า ตอนนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่สมัครใจในพื้นที่โล่ง และการเว้นระยะห่าง แต่ในสถานที่แออัดหรือมีความเสี่ยงให้ยังคงใส่ และในกลุ่มประชาชนผู้มีความเสี่ยง 608 โดยหากเราได้มีการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ แทบจะไม่มีความรุนแรง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แฉระบบเด็กฝาก ทำลายองค์กรตร. ดับฝัน‘ดาวฤกษ์’
เช็ก 41 รายชื่อแต่งตั้งนายพลสีกากี ระดับรอง ผบ.ตร.-ผบช.
ยธ.เมินแจงกมธ. ปมนักโทษเทวดา รพ.ตำรวจชั้น14
ชั้น 14 น่าพิศวง "โรม" กวักมือเรียก “ทักษิณ” ไปสภา เข้าแจง กมธ.มั่นคงฯ
แจกเฟส2เอื้อเลือกอบจ. เตือนร้องถอดถอนครม.
นายกฯ โชว์วิชั่น Forbes ยันไทยสงบ สันติ หวังแม้รัฐบาลเปลี่ยน
ฟ้อง9บิ๊กมท.ทุจริตที่เขากระโดง
เรื่องถึงศาล "ณฐพร" ฟ้องกราวรูด "บิ๊ก ขรก.มหาดไทย"
ลุ้นศาลรับคดีล้มล้าง ตุลาการถก6ประเด็น‘ทักษิณ-พท.’/ดันแก้ประชามติไม่รอ180วัน
"ทักษิณ-พท." ระทึก! 9 ตุลาการศาล รธน.ยืนยันนัดประชุมวาระพิเศษ 22 พ.ย.นี้
บูมเศรษฐกิจ 2 ชาติ ! “อนุทิน” เร่งสร้างสะพานมิตรภาพจันทบุรี-ไพลิน จับมือกัมพูชา กระตุ้นค้าขายชายแดน-ท่องเที่ยว
วันที่ 21 พย. บริเวณสะพานข้ามคลองตะเคียน ด่านผักกาด จุดก่อสร้างสะพานมิตรภาพจันทบุรี-ไพลิน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะผู้บริหาร อาทิ นายอรรษิษฐ์ สัมพัน์รัตน์