รอบ 20 ปีรมต. ติดคุกเยอะ

“ชวน” ปาฐกถาพิเศษ “ประเทศรุ่งเรือง เมื่อบ้านเมืองสุจริต” สอนเด็กๆ หากโกงตั้งแต่เด็ก โตขึ้นจะไม่โกงก็คงยาก ยกตัวอย่างอดีตนายกฯ ที่เสียชีวิตไปแล้ว ครอบครัวต้องชดใช้เงินจากการกระทำที่คนอื่นทำเอาไว้ ไม่เคยมียุคไหนที่รัฐมนตรีติดคุกมากมายเท่ากับช่วง 20 ปีที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2565 นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานเปิดกิจกรรมยุวชนประชาธิปไตย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 และกล่าวปาฐกถาพิเศษ “ประเทศรุ่งเรือง เมื่อบ้านเมืองสุจริต” ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ให้กับตัวแทนเยาวชนทั่วประเทศจำนวน 160 คนที่เข้าร่วมกิจกรรม โดยมีใจความตอนหนึ่งว่า      ต้องตระหนักว่า ทุกกลุ่มอาชีพล้วนมีทั้งคนดีและคนไม่ดี แม้กระทั่งในสภา แต่ตนก็อธิบายว่าอย่าไปเหมารวม ทุกอย่างขึ้นอยู่กับที่มาของแต่ละบุคคล

"ทั้งหมดอยู่ที่ความสำนึกหล่อหลอมตัวตนมาตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ว่าเป็นลักษณะใด เมื่อเราฝึกไปในทางใด โตเป็นผู้ใหญ่ก็มีแนวโน้มไปทางนั้น หากโกงตั้งแต่เด็ก โตขึ้นจะไม่โกงก็คงยาก แบบที่เราได้เห็นตัวอย่างจากผู้สูงอายุบางคนว่าทำไมจึงมีพฤติกรรมเช่นนั้น ก็ปรากฏว่าเขาฝึกเอาเปรียบสังคม ฝึกมองแต่ประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่ตั้ง ถ้าเราปลูกฝังคนให้ยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้อง ใครจะไปรู้ว่าวันหนึ่งคนเหล่านั้นอาจจะไปเป็นผู้นำไม่ว่าจะระดับท้องถิ่นหรือระดับประเทศ"

ประธานรัฐสภากล่าวว่า สภาได้ทำโครงการบ้านเมืองสุจริต ที่หวังว่าเราจะสร้างยุวชนคนรุ่นใหม่และรุ่นปัจจุบันทุกสาขาอาชีพ ให้ตระหนักร่วมกันถึงเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ที่เป็นส่วนสำคัญให้ประเทศมีความเข้มแข็ง ทุกวันนี้ยังมีนักการเมืองยังโดนข้อหา แสดงว่าความไม่สุจริตยังมีมาตลอด แม้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้จะถูกขนานนามว่าฉบับปราบโกง  แต่เราต้องยอมรับว่ามีแนวโน้มว่าโกงจะปราบรัฐธรรมนูญมากกว่า

ดังนั้นเราต้องสร้างความสุจริต ทั้งหมดจะเกิดได้ขึ้นอยู่กับพื้นฐานของคนด้วย หากทุกคนมาจากระบบขูดรีด บ้านเมืองเละหมด ในหมู่นักการเมืองเองก็มีทั้งคนดีคนร้าย อยู่ที่ประชาชน อยากให้บ้านเมืองดีก็ต้องเลือกคนดี ไม่ใช่เลือกคนโกงซื้อเสียง ตนเป็นผู้แทนฯ มา 16 สมัย ได้คะแนนเกินร้อยละ 90 เมื่อเรามาจากระบบเลือกตั้งที่สุจริต ความคิดที่จะหาผลประโยชน์ก็ไม่มี

"ผมเป็นรัฐมนตรีกลาโหมที่มาจากพลเรือน 3 ปี วันที่ผมพ้นตำแหน่งมีเงินที่ใช้ไม่หมด 7.5 ล้านบาท ทางปลัดก็นำเงินมาให้บอกว่าเป็นเงินของผม ผมจึงบอกว่าผมเป็นผู้แทนฯ มาจากชาวบ้านเขาเลือกโดยไม่ได้ซื้อเสียง สิ่งที่ตอบแทนได้คือความซื่อสัตย์ทั้งต่อหน้าและลับหลัง แม้รัฐมนตรีคนอื่นจะเบิกไปหมด แต่ในส่วนของผมนั้นขอคืน เพราะใช้ไปแล้วเหลือเท่านี้ก็ขอคืน ทำให้ยุ่ง เพราะไม่มีระเบียบรองรับเรื่องการคืนเงินไว้ ผมจึงแบ่งให้สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ กองทัพละ 1.5 ล้านบาท"

นายชวนกล่าวว่า ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นเรื่องที่สำคัญที่ต้องปฏิบัติในทุกระดับของการทำงาน เชื่อมั่นว่าสิ่งนี้สามารถปลูกฝังได้ด้วยการให้นักเรียนเชื่อมั่นในสิ่งนี้ตั้งแต่ต้น เมื่อเติบโตมามีฐานะตำแหน่ง เวลาจะทำอะไรผิดจะได้ทบทวน

"ผมจำได้สมัยก่อนคนในพรรคผมมีผู้ใหญ่การเมืองจ่ายเช็คมาให้ ผมก็สั่งให้นำไปคืน อย่าไปเป็นเหยื่อเป็นเครื่องมือเขา ทุกอย่างความดีความชั่วทุกคนรู้ แต่สิ่งที่เป็นอุปสรรคคือการปฏิบัติ ต้องยึดความสุจริตเป็นที่ตั้ง เพราะไม่เช่นนั้นหากไม่โดนกฎหมายก็จะโดนกฎแห่งกรรม"

ประธานรัฐสภายังกล่าวว่า บ้านเมืองเรามีคนถูกคดีติดคุกมากมาย ไม่เคยมียุคไหนที่รัฐมนตรีติดคุกมากมายเท่ากับช่วง 20 ปีที่ผ่านมาเพราะทุจริต บางคนไม่ได้มีพื้นฐานทุจริต เป็นหมอแต่ไปออกระเบียบกฎหมายเพื่อประโยชน์ของนาย สุดท้ายก็ติดคุก บางคนเป็นนักเรียนทุนรัฐบาล แต่ถูกไล่ออกเพราะไปโยกย้ายข้าราชการที่ไม่ตรงไปตรงมา เนื่องจากเกรงใจนักการเมือง เอาเด็กนักการเมืองขึ้นมา หลักธรรมาภิบาลมี 6 ข้อ แต่สังคมเราต้องมีหลักความไม่เกรงใจด้วย

"ความสุจริตจะส่งเสริมท่าน แต่การทุจริตจะใหญ่โตอย่างไรสุดท้ายก็ทำลายท่าน เช่นล่าสุดศาลได้ตัดสินให้อดีตนายกฯ ท่านหนึ่งที่เสียชีวิตไปแล้วครอบครัวต้องชดใช้เงินจากการกระทำที่คนอื่นทำเอาไว้” นายชวนกล่าว.