โหมโรงศึกซักฟอก!สุชาติแฉญัตติเถื่อนยัดชื่อ

“สุชาติ” โวย “ญัตติซักฟอกเถื่อน” ยัดชื่อ รมต.เพิ่ม ทั้งที่ ส.ส.เซ็นยื่นแค่ 10 คน “ชลน่าน” อ้างได้ข้อมูลเด็ดนาทีสุดท้าย “ประธานวิปฝ่ายค้าน” สารภาพเรื่องจริง แต่ทำได้ “อนุทิน” เชื่อ รัฐบาลผ่านฉลุยแน่ ขอแค่พรรคร่วมอยู่ในแถว ไม่แกล้งกัน อุบงูเห่าโผล่อีก

 เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ออกมาเปิดเผยว่า ได้ยื่นหนังสือต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน เพราะเชื่อว่าเป็นญัตติเถื่อน เนื่องจากเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ซึ่งเป็นวันยื่นญัตติ เวลาประมาณช่วงเที่ยง นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ระบุว่าจะยื่นอภิปรายรัฐมนตรี จำนวน 10 คน แต่เวลาผ่านไปเพียง 1 ชั่วโมง ช่วงบ่ายที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติกลับกลายเป็นว่ามีจำนวนผู้อภิปรายเพิ่มขึ้นเป็น 11 คน ถามว่า ส.ส.ฝ่ายค้านที่ลงชื่อในญัตติตามมาเซ็นญัตติทันหรือไม่ และรับรู้หรือไม่ว่าได้เพิ่มจำนวนผู้ถูกอภิปรายจาก 10 คนเป็น 11 คน

นายสุชาติกล่าวว่า เชื่อว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เป็นลูกผู้ชาย ท่านรู้ว่าท่านทำผิดรัฐธรรมนูญหรือผิดกฎหมายหรือไม่ในการสับร่างญัตติ โดยที่ ส.ส.กว่า 180 คนไม่ได้เซ็นญัตติใหม่ ตนไม่ได้ติดใจว่าจะยื่นกี่คน และจะยื่นตนหรือไม่ แต่สภาต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ถ้าท่านรู้แก่ใจให้เอาร่างกลับไปเซ็นใหม่ให้ถูกต้อง

รมว.แรงงานระบุว่า ร่างเดิมมี 10 คน เพื่อนตนในฝ่ายค้านหลายคนก็รับไม่ได้ เขาเป็นสมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติ เขารู้สึกว่าผู้อิทธิพลคนเดียวสามารถแก้ญัตติเพิ่มเติมให้สภาเสื่อมเสียไม่ได้ จึงมาบอกตน  ตอนเซ็นเพื่อนตนก็เซ็น 10 คน แต่ช่วงบ่ายมีการเปลี่ยนเอกสารแผ่นหลังในส่วนของรายชื่อ ถ้าท่านเป็นลูกผู้ชายไม่ให้สภาเสื่อมเสีย ให้เอากลับไปเซ็นใหม่ให้ถูกต้อง

“ผมต้องการแค่ความถูกต้อง และขอถาม นพ.ชลน่าน ว่าท่านกล้าจุดธูปสาบานหรือไม่ ตอนเซ็นชื่อมีชื่อรัฐมนตรีถูกอภิปราย 10 หรือ 11 คน ผมไม่มีอะไรกับ นพ.ชลน่าน และชื่นชมด้วยซ้ำว่าเป็นคนมีความรู้ความสามารถ แต่โดนอะไรครอบงำก็ไม่รู้ โกหกคนอื่นได้แต่โกหกตัวเองไม่ได้ จึงขอให้ทบทวนบทบาทของตัวเอง” นายสุชาติกล่าว

นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า นายชวนได้รับเรื่องดังกล่าวไว้แล้ว และส่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบดูว่าจะทำอย่างไรต่อไป ดังนั้นจึงต้องรอเจ้าหน้าที่ก่อน

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงกรณีนายสุชาติอ้างชื่อว่าตนเองรู้เรื่องนี้ดีว่า ตนไม่รู้เรื่องนี้ ต้องไปถาม นพ.ชลน่าน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ เพราะตนเซ็นในบัญชีที่ส่งมาให้เท่านั้น ส่วนรายชื่อรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายมีกี่คนตนไม่ทราบ ต้องถามนายวิรัตน์ วรศสิริน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ที่ไปประชุมร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน

ขณะที่ นพ.ชลน่าน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายสุชาติท้าให้จุดธูปสาบานว่า จะไปรับคำท้าทำไม เราเปิดไพ่ก่อนที่เสนอญัตติว่าหากมีประเด็นอะไรพร้อมจะเพิ่มให้ ซึ่งแถลงไปแล้วตั้งแต่แรก จริงๆ ชื่อของนายสุชาติเข้ามาตั้งแต่แรกแล้ว คำถามคือประเด็นที่จะอภิปรายอยู่ในระดับใด ข้อมูลการอภิปรายต้องเข้าสู่การพิจารณาก่อน ถัดมาอีกวันเขาก็ให้ข้อมูลใหม่ว่าข้อมูลแน่น ประเด็นที่ตั้งคือการส่อทุจริตอย่างชัดเจน เมื่อเขายืนยันเช่นนั้น ต้องให้เกียรติกับผู้ยื่น เราทำงานร่วมกันในฐานะฝ่ายค้าน ส่วนที่ช้านั้น เพราะต้องปรึกษาหารือกันกับทุกฝ่ายว่าเมื่อมีข้อมูลเช่นนี้ พรรคฝ่ายค้านแต่ละพรรคมีความเห็นอย่างไร เป็นกระบวนการที่วางไว้อยู่แล้ว

เมื่อถามถึงกรณีนายสุชาติอ้างว่าที่ให้ส.ส.เซ็นญัตติก่อนทั้งที่ไม่มีรายชื่อรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย หัวหน้าพรรคเพื่อไทยชี้แจงว่า เมื่อเราเขียนญัตติเสร็จวันที่ 14 มิ.ย. รายชื่อของนายสุชาติยังไม่ได้เข้าไป บางพรรคก็เซ็นชื่อวันที่ 14 มิ.ย. และในวันที่ 15 มิ.ย. มีการเก็บตกลายเซ็น ส.ส.ที่ต้องเข้าชื่ออีกครั้ง ในช่วงเวลา 11.00 น. ยังมีการแก้ไขญัตติอยู่ ก่อนที่จะยื่นญัตติต่อประธานสภาฯ ในเวลา 13.00 น.

"ผมไม่ได้เล่นเกมการเมือง สร้างสถานการณ์ หรือวาทกรรมแต่อย่างใด เราอยู่ในกระบวนการที่ได้ประกาศไว้ตั้งแต่แรก รายชื่อรัฐมนตรีทุกคนหากมีประเด็นเพิ่มเติมก่อนจะยื่นญัตติ ก็อาจจะเพิ่มได้ เราต้องทำในนามพรรคร่วมฝ่ายค้าน ไม่สามารถทำได้เพียงพรรคเดียว แม้ว่าพรรคเพื่อไทยจะเป็นพรรคใหญ่ก็ตาม" นพ.ชลน่านกล่าว

ด้านนายสุทินระบุว่า ไม่ใช่ญัตติเถื่อน เขาเซ็นชื่อกันทุกคน และรับรู้รับทราบตามนี้ พร้อมยืนยันว่าในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ หากยังไม่บรรจุวาระสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มรายชื่อรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายได้ หากยังไม่บรรจุทำได้ตลอด เราคิดว่าไม่ใช่ญัตติเถื่อนตามที่นายสุชาติกล่าวหา เพราะยังไม่ได้บรรจุ

ซักว่า สรุปแล้วว่านายสุชาติอยู่ในจำนวน 10 ชื่อเดิมที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายฯ หรือไม่ นายสุทินยอมรับว่า “ก็เพิ่มมานั่นแหละ แต่ว่าอยู่ในห้วงเวลาที่เพิ่มได้”

นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรอบเวลาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า เบื้องต้นฝ่ายค้านเสนอมาวันที่ 18-21 ก.ค. แต่ยังไม่ตกลงกันแน่นอน เพราะต้องส่งให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ดูว่าพร้อมหรือไม่ ตอนนี้ประธานสภาฯ น่าจะส่งปฏิทินไปที่ ครม.ให้เลือกดูกำหนดการว่าจังหวะไหนจะพร้อมกันทุกฝ่าย เพราะในเดือน ก.ค.มีวันหยุดเยอะ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ถ้าดูข้อกล่าวหาในการยื่นญัตติในส่วนของตัวเอง ตนต้องไปเตรียมตัวนำข้อมูลเข้าใจง่ายสั้นๆ มีหลักฐานประกอบ มาชี้แจงตามข้อกล่าวหานั้นๆ รวมถึงหากมีการกล่าวหานอกเหนือญัตติ จะมีทีมทำงานไปหาหลักฐานต่างๆ เพื่อมาแก้ต่าง

เมื่อถามว่า จะมีเสียงจากพรรคฝ่ายค้าน โดยเฉพาะจากพรรคเพื่อไทยมาโหวตสนับสนุนรัฐบาลมากกว่า 7 คน เหมือนการโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 66 หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า จะไปทราบได้อย่างไร เราต้องอยู่ในกติกา ถ้าอธิบายได้มีเหตุผล ไม่ทำความลำบากใจให้กับ ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาล เอาแต่ตรงนี้พอ อย่าเพิ่งนึกถึงฝ่ายค้าน ขอให้ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลอยู่ในแถว มีสปิริต อย่าใช้เกมการเมืองกลั่นแกล้งกัน มากดดันกัน ก็ผ่านอยู่แล้ว แต่ถ้าชี้แจงไม่ได้โดยเฉพาะข้อกล่าวหาเรื่องทุจริตก็ตัวใครตัวมัน

เมื่อถามว่า สิ่งที่น่ากังวลที่สุดในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้คืออะไร นายอนุทินระบุว่า ไม่ต้องมีอะไรน่ากังวล เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด อย่างข้อกล่าวหาตนที่ไปใช้เงินทองในการดึง ส.ส.พรรคอื่นมาเข้าพรรคภูมิใจไทย ถามว่าไปเอาเงินทองที่ไหน แล้วทำไมต้องทำ จะชี้แจงให้เห็นทุกวันนี้ ส.ส.ที่อยู่ต่างพรรค ยกเว้น ส.ส.ที่ถูกขับออกจากพรรคเดิมก็ไปสังกัดพรรคอื่นๆ ตามสิทธิรัฐธรรมนูญ ขณะเดียวกันไม่มีใครกล้าลาออกจากตำแหน่งและมาสมัครสมาชิกพรรคภูมิใจไทย

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า คิดว่าการปฏิบัติหน้าที่ที่ผ่านมายึดตามข้อระเบียบกฎหมายและมติ ครม.มาโดยตลอด ตนพร้อมชี้แจงทุกเรื่อง และไม่ได้คาดการณ์ว่าจะถูกอภิปรายประเด็นอะไรทั้งสิ้น เพราะดูข้อกล่าวหาก็ยังนึกไม่ออกว่าตนได้ปฏิบัติอะไร อย่างไร

นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวถึงสาเหตุที่มีชื่อในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านเป็นคนสุดท้ายว่า ต้องไปถามฝ่ายค้าน อย่างไรก็ดี เมื่อฝ่ายค้านอยากตรวจสอบ เราพร้อมให้ตรวจสอบ และไม่คิดว่าเป็นเกมการเมืองที่อยู่เหนือความเดือดร้อนของประชาชน เราเคารพซึ่งกันและกัน เขาสงสัยแล้วอยากตรวจสอบอะไร เราเป็นรัฐบาลพร้อมให้เขาตรวจสอบ โดยจะใช้เวทีนี้ตอบข้อสงสัยที่เขาอยากจะตรวจสอบ และไม่ได้เก็งข้อสอบ เพราะทำงานมาทั้งหมดแล้ว ถามอะไรมาทุกอย่างน่าจะตอบได้ เพราะทำงานมากับมือ

ถามว่า กังวลเรื่องเสียงในสภาหรือไม่ นายจุติได้เอานิ้วชี้ขึ้นฟ้า พร้อมกับกล่าวว่า "ทุกอย่างพระเจ้ากำหนดไว้แล้ว"

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน กล่าวถึงกรณีที่ไม่มีชื่อถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ไม่รู้เหมือนกัน ฝ่ายค้านคงให้เวลาไปทำงาน หรือสื่ออยากให้ตนโดน

วันเดียวกัน นายอนุทินได้ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคเพื่อไทยจัดกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทยไปศรีสะเกษไล่หนูตีงูเห่า ในวันที่ 18 มิ.ย.ว่า พื้นที่ในแต่ละจังหวัดไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง ทุกจังหวัดมีผู้แทนของประชาชน คนที่จะเสนอตัวเองเป็นผู้แทนต้องมีวิธีและกลยุทธ์เป็นของตัวเองที่จะทำให้ประชาชนเลือกเขาเข้ามา 

เมื่อถามว่า การที่พรรคเพื่อไทยดึงนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เข้ามาเป็นผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทย จะดึงความขัดแย้งเข้ามาด้วยหรือไม่ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยระบุว่า ประชาชนทุกวันนี้คงเบื่อเรื่องความขัดแย้งความรุนแรงเต็มทนแล้ว อย่างที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้เกิดความขัดแย้งมีก่อนในอดีต เขาต้องดูความรู้สึกของประชาชน ทุกอย่างต้องปรับเปลี่ยนไป เช่นตนกับนายณัฐวุฒิ ส่วนตัวเรียกพี่เรียกน้องมาโดยตลอด เจอกันทักทายกันเป็นอย่างดี แต่การทำหน้าที่ในฐานะพรรค เขาก็ทำหน้าที่ของเขา มันต้องแยกกันให้ออก

เมื่อวันศุกร์ ที่บ้านแสนสุข เลขที่ 3 ซอย 8 ถ.บางแสนล่าง ต.แสนสุข อ.เมืองฯ จ.ชลบุรี นายสนธยา คุณปลื้ม อดีตนายกเมืองพัทยา พร้อมด้วยนายวิทยา คุณปลื้ม นายก อบจ.ชลบุรี, นาย อิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม และ นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศบาลเมืองแสนสุข ร่วมกันจัดงานครบรอบวันเสียชีวิต 3 ปี เพื่อระลึกถึงนายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะ บิดา โดยมีประชาชนต่างๆ กลุ่มพลังบ้านใหญ่ กลุ่มข้าราชการ มาร่วมงานหลายพันคน

นายสนธยากล่าวถึงงานการเมืองว่า พรรคพลังชลยังคงทำงานอยู่ ส่วนเรื่องการเมืองที่จะย้ายหรืออยู่พรรคไหน ต้องรอดูสถานการณ์ไปก่อน กลุ่มพรรคพลังชลยังไม่ตัดสินใจ.