‘โกทร’ล่องหนปิดปราจีนบุรีล่า

ปูพรมค้น 5 จุดสำคัญเมืองปราจีนบุรีล่าตัว “สุนทร วิลาวัลย์” หวังนำตัวมาฟ้องศาลก่อนคดีหมดอายุความ 13 มิ.ย. มือปราบรุกป่าชี้ถ้าโกทรหนีต้องหายตัวจนถึงปี 2583 เพราะอายุความ 20 ปี ก้าวไกลได้ทีบี้บิ๊กตู่ปรับ ครม.

เมื่อวันอาทิตย์ ยังคงมีความต่อเนื่องจากกรณีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายสุนทร วิลาวัลย์ บิดานางกนกวรรณ หรือโกทร ในฐานะนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปราจีนบุรี และเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกรณีสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐออกโฉนดที่ดินบุกรุกป่าเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่พื้นที่ จ.ปราจีนบุรี กว่า 150 ไร่

โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ได้สั่งให้ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.), ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) และตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) กระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 5 จุด ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี เพื่อติดตามจับกุมตัวนายสุนทร ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ที่ จ.33/2565 ลงวันที่ 9 มิ.ย.2565

สำหรับพื้นที่ 5 จุดประกอบด้วย 1.บ้านนางกนกวรรณ ในพื้นที่ ถ.วัดโรมันอุทิศ ต.หน้าเมือง อ.เมืองฯ 2.สำนักงานของนายสุนทร ในพื้นที่ ถ.วัดโรมันอุทิศ ต.หน้าเมือง อ.เมืองฯ 3.โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ ถ.วัดโรมันอุทิศ ต.หน้าเมือง อ.เมืองฯ 4.บ้านพักในพื้นที่ ต.บางเดชะ อ.เมืองฯ และ 5.บ้านพัก ถ.โรงเรียนวัดศรีมงคล ต.หน้าเมือง 

มีรายงานแจ้งว่า จากการสอบถามบุคคลใกล้ชิดนายสุนทร ส่วนใหญ่อ้างว่าไม่ได้พบเห็นหรือติดต่อมานานกว่า 1 สัปดาห์ก่อนออกหมายจับ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ พร้อมกระจายกำลังลงพื้นที่ไล่สืบหาเบาะแสเพื่อแกะรอยติดตามตัวให้ได้ก่อนที่คดีจะหมดอายุความลงในวันที่ 13 มิ.ย.

ขณะที่ พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการศูนย์การประสานการปฏิบัติ (ศปป.) ที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ในฐานะชุดจับกุมดำเนินคดีนายสุนทรและนางกนกวรรณ ระบุว่า คดีนายสุนทรและนางกนกวรรณต้องแยกเป็น 2 คดี คดีแรกคือคดีการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ เกิดขึ้นในปี 2545 ป.ป.ช.รับไปดำเนินการ ซึ่งคดีนี้จะหมดอายุความในวันที่ 13 มิ.ย.2565 เฉพาะในส่วนของนายสุนทร แต่ของนางกนกวรรณจะหมดอายุความในเดือน ก.ค.2565 แต่นายสุนทรยังมีคดีบุกรุกป่าอีก 1 คดี ที่เจ้าหน้าที่เข้าไปจับกุมในปี 2560 และ 2563 ถ้านายสุนทรจะหนีก็ต้องหนีอีกเกือบ 20 ปี เช่นเดียวกับนางกนกวรรณ ก็โดนคดีบุกรุกป่าเหมือนกัน

"คดีบุกรุกป่านี้เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีกับนายสุนทรและนางกนกวรรณในข้อหาบุกรุกอุทยานฯ เขาใหญ่ ซึ่งทั้ง 2 คนเอาโฉนดมาแสดง แต่ก็เป็นโฉนดที่ออกโดยมิชอบ แถมยังบุกรุกเพิ่มด้วย จึงโดนข้อหาบุกรุกป่าด้วย แม้คดีนายสุนทรจะหมดอายุความในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ ก็ยังมีคดีบุกรุกป่าอีก 1 คดีรออยู่ ซึ่งจะครบอายุความในปี 2583 ถ้านายสุนทรจะหนีต้องหนีให้รอด" พ.อ.พงษ์เพชรกล่าว

ด้านนายกรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงกรณี ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดนางกนกวรรณ และนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ว่าแม้ทั้งสองกรณียังไม่มีคำตัดสินของศาลที่เป็นคำสั่งถึงที่สุด แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะของผู้นำก็ควรตระหนักและคิดได้ เพราะในช่วงการปฏิวัติและยึดอำนาจได้พูดเสมอว่า เราเข้ามาเพื่อเปลี่ยนแปลงและปราบการทุจริตคอร์รัปชัน จึงคงไม่จำเป็นที่ต้องให้ใครหรือบุคคลใดต้องมาคอยย้ำเตือน

 “ขอฝากให้ พล.อ.ประยุทธ์รีบปรับคณะรัฐมนตรี เพื่อลดข้อครหาเกี่ยวกับความโปร่งใสในการทำงานของรัฐมนตรี และอยากเรียกร้องไปยังพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์ ในเมื่อทั้งสองพรรคเป็นสถาบันทางการเมือง โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ ที่พูดเสมอว่าการเป็นสถาบันการเมืองจำเป็นต้องมีความรับผิดชอบมากกว่าประชาชนธรรมดา ต้องมีจริยธรรมที่มากกว่า”นายกรุณพลกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง