ปปช.ส่งเชือดนิพนธ์ ก้าวไกลทวงสปิริต‘ปชป.’/พ่อ‘รมช.ศธ.’หายเงียบ

อัยการนำ “กนกวรรณ” ยื่นฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 คดีรุกป่าเขาใหญ่ ศาลนัดสอบคำให้การ 5 ส.ค. พร้อมอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “รมช.โอ๊ะ” ลั่นไม่ท้อ ขอเดินหน้าทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรีต่อ “พ่อ รมช.ศธ.” หายเงียบหลังถูกหมายจับ “ป.ป.ช.” มีมติส่งฟ้อง “นิพนธ์” ปมไม่เซ็นจ่ายเงินค่ารถซ่อมบำรุงทางฯ โยนศาลชี้หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ “ส.ส.ก้าวไกล”ทวงถามจริยธรรม ปชป.

ความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) และนายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี พร้อมพวกรวม 10 คน ออกโฉนดที่ดิน เลขที่ 41158, 41159 และ 41160 ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และเขตป่าไม้ถาวร โดยมิชอบนั้น

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. เวลา 09.30 น.นางกนกวรรณได้เดินทางไปรายงานตัวกับพนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 2 ถ.ตากสินมหาราช  อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง จากนั้น พนักงานอัยการนำนางกนกวรรณยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 เป็นจำเลย ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 65/2565 ตามความผิดเป็น เจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการรักษาทรัพย์ใดใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริตอันเป็นการเสียหายเเก่รัฐ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 และประมวลกฎหมายที่ดิน คดีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนางกนกวรรณ, นายสุนทร และเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง รวม 10 คน กรณีถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐออกโฉนดที่ดินบุกรุกป่าเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่พื้นที่ จ.ปราจีนบุรี

ศาลมีคำสั่งประทับฟ้อง โดยให้นัดคุ้มครองสิทธิฯ และสอบคำให้การจำเลยวันที่ 5 ส.ค.65 เวลา 09.30 น. โดยจำเลยยื่นหลักทรัพย์เป็นที่ดิน วงเงินประกันตัว 300,000 บาท ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างพิจารณาไม่ได้กำหนดเงื่อนไขในการประกันตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ น.ส.น้อย ตุ้มพันธ์ ผู้ต้องหาอีกรายป่วยอยู่ระหว่างรักษาตัว ส่วนนายสุนทร บิดาของนางกนกวรรณ เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถติดต่อได้ และยังไม่ได้ไปรายงานตัวต่ออัยการแต่อย่างใด 

นางกนกวรรณให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไทยว่า ได้เดินทางไปรายงานตัวต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ที่จังหวัดระยองเรียบร้อยแล้ว และศาลนัดสอบคำให้การอีกครั้งเดือนสิงหาคม โดยการเดินทางไปรายงานตัวครั้งนี้ เพื่อเป็นการยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่ได้มีการออกหมายจับ เพราะตนเองไม่ได้หลบหนี และพร้อมให้ความร่วมมือตามกระบวนการยุติธรรม 

 “ส่วนตัวไม่ขอเปิดเผยลงลึกในรายละเอียดของการสู้คดี แต่ยืนยันไม่ท้อและยังคงเดินหน้าทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรีต่อตามปกติอย่างดีที่สุด พร้อมทั้งขอบคุณในความห่วงใยของทุกฝ่าย” รมช.ศธ.กล่าว

น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า กรณีนี้ตนยังไม่ได้รับทราบข้อมูล และนางกนกวรรณยังไม่ได้มีการพูดคุยเป็นการส่วนตัวในประเด็นดังกล่าว ซึ่งบทสรุปเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร คงต้องให้อยู่ในการพิจารณาของ ป.ป.ช.ที่จะตัดสิน

“ส่วนตัวทราบว่านางกนกวรรณทำงานที่รับผิดชอบด้านการศึกษาตามอัธยาศัยได้เป็นอย่างดี ถือเป็นการปูพื้นฐานการสร้างโอกาสการเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียนทุกช่วงวัย ส่วนจะมีอุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้นกับตำแหน่ง รมช.ศึกษาธิการหรือไม่นั้น คงไม่สามารถตอบได้” รมว.ศธ.กล่าว

วันเดียวกัน นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ป.ป.ช.ได้มีมติส่งฟ้องคดีที่นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (รมช.มหาดไทย) ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ไม่เซ็นจ่ายเงินค่ารถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ ชนิด 10 ล้อ จำนวน 2 คัน เป็นเงิน 50,850,000 บาท ให้แก่บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด ครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเอง หลังอัยการสูงสุดมีมติไม่สั่งฟ้อง

 “ขณะนี้คณะทำงานของ ป.ป.ช.ได้ยกร่างคำฟ้องเสร็จสิ้นแล้ว และเตรียมจะยื่นต่อศาลภายในเดือนนี้ ส่วนนายนิพนธ์จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หลังศาลรับคำฟ้องหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล เพราะไม่มั่นใจในข้อกฎหมายเรื่องการหยุดปฏิบัติหน้าที่ จะต้องเป็นการหยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา หรือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย” เลขาธิการ ป.ป.ช.กล่าว

ด้านนายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) แถลงกรณีศาลปกครองสูงสุดพิพากษายืนให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา ชำระเงินกว่า 52 ล้านบาท ให้บริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 50 ล้านบาท สืบเนื่องจากกรณีนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) สมัยดำรงตำแหน่งเป็น นายก อบจ.สงขลา ไม่จ่ายค่ารถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ว่า จากคำสั่งศาลปกครองสูงสุด เห็นชัดว่าเป็นการบริหารงานราชการที่ผิดพลาดทำให้ อบจ.สงขลา เสียเงินภาษีและดอกเบี้ยโดยใช่เหตุ ขาดประโยชน์จากการใช้รถซ่อมบำรุงทาง ทั้งที่บริษัทเอกชนได้ปฏิบัติถูกต้องตามสัญญา และเจ้าของบริษัทมาร้องทุกข์กับตน ซึ่งได้บอกถึงสาเหตุหลักๆ ที่บริษัทไม่สามารถสนองความต้องการนอกเหนือสัญญากับใครบางคนได้ เพราะต้องการสนองความต้องการตามกฎหมายและบันทึกสัญญาเท่านั้น

“พรรคก้าวไกลได้ยื่นเรื่องนี้ผ่านนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ให้ส่งเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ภายหลังผมอภิปรายไม่ไว้วางใจนายนิพนธ์ จึงขอให้พรรคประชาธิปัตย์โปรดคำนึงถึงคำพูด  เพราะพรรคประชาธิปัตย์เคยประกาศไว้ว่านักการเมืองต้องมีความรับผิดชอบ มีคุณธรรม จริยธรรมมากกว่าบุคคลทั่วไป และมาตรฐานทางจริยธรรมต้องอยู่เหนือมาตรฐานทางกฎหมาย ซึ่งการกระทำของนายนิพนธ์ ถือว่ามีความผิดชัดเจน ความเป็นรัฐมนตรีถือว่าสิ้นสุดลงแล้ว” นายประเสริฐพงษ์กล่าว

ส.ส.พรรคก้าวไกลรายนี้ระบุว่า ขอร้องว่าอย่าถ่วงรั้งการตรวจพิจารณา แม้ว่าจะมีข่าววิ่งเต้นก็ตาม กรณีนี้ทางอัยการสูงสุด (อสส.) ต้องรีบฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และต้องไม่ลืมว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีคำสั่งปลดนายนิพนธ์พ้นตำแหน่งนายก อบจ.สงขลามาแล้ว  เรื่องมาไกลถึงขนาดนี้ ชัดเจนว่าเป็นการกระทำความผิด อสส.ก็อย่าได้เกรงใจ ขอให้ทำหน้าที่ตรงไปตรงมา ไม่มีเหตุจูงใจอื่นใดเพื่อการใช้ดุลพินิจของอัยการสูงสุดให้เสียไป

 “ความเป็นรัฐมนตรีของนายนิพนธ์ ต้องสิ้นสุดลงแล้ว ผมขอเรียกร้องให้พรรค ปชป.ต้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อไม่ให้ความนิยมและความน่าเชื่อถือของพรรคตกต่ำไปมากกว่านี้ สังคมต้องช่วยกันควบคุมพฤติกรรมบุคลากรทางการเมือง นักการเมืองจะเกาะอำนาจเพื่อความอยู่รอดของตนเองโดยไม่คำนึงถึงการปฏิบัติตามกรอบจริยธรรมไม่ได้ พรรคก้าวไกลเรียกร้องให้ยกระดับคุณธรรม จริยธรรมของนักการเมืองด้วย” ส.ส.พรรคก้าวไกลรายนี้ระบุ.