หมายจับพ่อรมช.ศธ. ‘กนกวรรณ’ไม่ได้หลบหนี ปปช.งัดหลักฐานมัดรุกป่า

“บิ๊กตู่” ยังไม่ได้รับรายงาน ป.ป.ช.ชี้มูล "รมช.ศธ." รุกป่า "อนุทิน"   บอกเป็นไปตาม กม. "เลขาฯ ป.ป.ช." โชว์หลักฐานภาพถ่ายทางอากาศมัด "กนกวรรณ-สุนทร" หนุน จนท.ออกโฉนดที่ดินรุกป่าเขาใหญ่ "รองโฆษก อสส." เผย "รมช.โอ๊ะ" พร้อมพวกอีก 6 คน เบี้ยวนัดพบอัยการส่งฟ้องคดี ศาลออกหมายจับ "สุนทร" พร้อมพวกรวม 4 ราย ส่วน "กนกวรรณ" ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี "ฝ่ายค้าน" เปิดยุทธการ "เด็ดหัว สอยนั่งร้าน" หว่านแหซักฟอก 10 รมต. เน้นหัวหน้าพรรค-เลขาฯ "ชลน่าน" มั่นใจหลักฐานล้มรัฐบาลได้ ยอมรับเสียงฝ่ายค้านแปรปรวน "ปธ.วิปรัฐบาล" ฟุ้งมีเสียงเซอร์ไพรส์หนุน รบ.มากกว่าโหวต พ.ร.บ.งบประมาณฯ  

เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ  (รมช.ศธ.) พร้อมพวกบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ในเขต จ.ปราจีนบุรี ได้รับรายงานแล้วหรือไม่เพียงสั้นๆ ว่า "ยังจ้ะ ยังๆ ยังเลย"

ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) แสดงสีหน้าตกใจเมื่อถูกถามกรณีนางกนกวรรณ รองเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดรุกป่าเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยระบุว่า เหรอ ไม่ทราบเรื่องเลย เพราะมัวแต่ทำงานเรื่อง พ.ร.บ.กัญชงกัญชา แต่ถึงอย่างไรทุกอย่างก็ขอให้เป็นไปตามกฎหมาย ส่วนในฐานะคนรู้จักกันก็ให้กำลังใจซึ่งกัน เอาข้อมูลหลักฐานต่างๆ ไปแก้ต่างให้ได้

ถามว่า ป.ป.ช.ได้มีการเอาผิดเรื่องผิดจริยธรรมร้ายแรง ซึ่งส่งผลให้ถูกพิจารณาถอดถอนออกจากตำแหน่ง นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม แต่ทุกอย่างต้องจบที่หลักฐานในเรื่องของการกล่าวหาต่างๆ ในฐานะคนรู้จักกันก็ต้องให้กำลังใจกัน และในฐานะลูกพรรคภูมิใจไทยด้วย แต่การไปต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม พิสูจน์ข้อกล่าวหาต่างๆ ก็เป็นเรื่องที่เจ้าตัวจะต้องไปดำเนินการเอง

ซักว่าหากศาลรับพิจารณาเรื่องจริยธรรมแล้วจะเข้าข่ายคล้ายกับคดีของน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง หัวหน้าพรรค ภท.กล่าวว่า ไม่ต้องห่วง เป็นไปตามกฎหมาย ใครทำดีเราก็สนับสนุน ใครทำไม่ดีถึงแม้เป็นพวกกัน เราก็อาจจะมีความรู้สึกบ้างในความเป็นพวก แต่ก็ต้องยอมรับ ให้ทุกอย่างเป็นไปตามกบิลเมือง ตามกฎหมาย เรื่องนี้ตนยังไม่ทราบในรายละเอียด และเราคงไม่ได้ไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของใคร ที่ผ่านมานางกนกวรรณก็ไม่ได้มาปรึกษาอะไรเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว

ขณะที่นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. แถลง กรณี ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดนางกนกวรรณพร้อมพวกถูกกล่าวหาว่าสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐออกโฉนดที่ดินบุกรุกป่าเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่พื้นที่ จ.ปราจีนบุรี ว่าคดีนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลนางกนกวรรณกรณีการออกโฉนดที่ดินเลขที่ 41158, 41159 และ 41160 ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และเขตป่าไม้ถาวรโดยมิชอบ

ทั้งนี้ ผู้ถูกกล่าวหาประกอบด้วย 1.นายจีรศักดิ์ ผลสุข เมื่อครั้งปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์เดินสำรวจออกโฉนดที่ดินจังหวัดสระบุรี-นครนายก-ปราจีนบุรี-สระแก้ว 2.นางสุรางค์ คัณฑารมย์ เมื่อครั้งปฏิบัติหน้าที่ผู้กำกับการเดินสำรวจ 3. นายสมศักดิ์ หีบเงิน เมื่อครั้งปฏิบัติหน้าที่ผู้กำกับการรังวัด 4.นางพรรณเพ็ญ ภาคาญาติ หรือจำรูญหิน เมื่อครั้งปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่สอบสวนสิทธิ 5.นายประทาน บานชื่น เมื่อครั้งปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่เดินสำรวจรังวัด 6.นายทวี หมื่นศรี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 14 ตำบลเนินหอม 7.นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ (ศรีจันทร์งาม) ผู้นำเดินสำรวจ (ปัจจุบันเป็น รมช.กระทรวงศึกษาธิการ) 8.นายสุนทร วิลาวัลย์ ผู้นำเดินสำรวจเมื่อครั้งเป็น ส.ส.ปราจีนบุรี (ปัจจุบันนายก อบจ.ปราจีนบุรี) 9.นางสาวน้อย ตุ้มพันธ์ ผู้นำเดินสำรวจ และ 10.นายคณิต เพชรประดับ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งช่างรังวัด 6 กรมป่าไม้

'กนกวรรณ'ได้ที่ดินมิชอบ 

จากการไต่สวนปรากฏข้อเท็จจริงว่า โฉนดที่ดินทั้ง 3 แปลง เป็นโฉนดที่ดินที่ออกโดยวิธีการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน ตามาตรา 58 และ 58 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน โดยโฉนดที่ดินเลขที่ 41158 ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี เป็นการออกให้แก่นางกนกวรรณ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7 โฉนดที่ดินเลขที่ 41159 ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี เป็นการออกให้แก่นายสุนทร ผู้ถูกกล่าวหาที่ 8 เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.2545 เนื้อที่ประมาณ 27-2-54.5 ไร่ และโฉนดที่ดินเลขที่ 41160 ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี เป็นการออกให้แก่นางสาวน้อย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 9 เมื่อวันที่ 12 ก.ค.2545 เนื้อที่ประมาณ 27-1- 71.4 ไร่ มีพฤติการณ์ในการออกโฉนดโดยมีการอ้างว่าซื้อต่อมาจากผู้เคยทำประโยชน์ในที่ดินมาก่อน ปรากฏข้อเท็จจริงว่าไม่มีการซื้อขายจริง ประกอบกับผลการอ่านแปลภาพถ่ายทางอากาศ ในช่วงปี พ.ศ.2546 ซึ่งเป็นปีที่ใกล้เคียงกับปีที่ทำการเดินสำรวจ สภาพพื้นที่มีสภาพเป็นป่ามาโดยตลอดไม่มีร่องรอยการทำประโยชน์เช่นกัน

คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาแล้ว มีมติ 1.การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-  และที่ 10 เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 83 และการกระทำของผู้ถูกกล่าวหาที่ 6-9 เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 2.การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-5 และที่ 10 เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง 3.แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ให้กรมที่ดินทราบ เพื่อให้กรมที่ดินพิจารณาดำเนินการเพิกถอนโฉนดที่ดินเลขที่ 41158 โฉนดที่ดินเลขที่ 41159 และโฉนดที่ดินเลขที่ 41160 ตำบลเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรีจังหวัดปราจีนบุรี ตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน 

4.การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาที่ 7 (นางกนกวรรณ) เป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง จึงเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมซึ่งมีลักษณะร้ายแรงตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้ดำรงตําแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ.2561 หมวด 1 มาตรฐานทางจริยธรรมอันเป็นอุดมการณ์ข้อ 8 หมวด 2 มาตรฐานทางจริยธรรมอันเป็นค่านิยมหลัก ข้อ 11 ไม่กระทําการอันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวม ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม และข้อ 17 ไม่กระทําการใด ที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดํารงตําแหน่ง ประกอบข้อ 27

ปัจจุบันอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งดำเนินคดีอาญาฟ้องผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-5 และที่ 10 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 83 และมีคำสั่งดำเนินคดีอาญาฟ้องผู้ถูกกล่าวหาที่ 6-9 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2565 และให้แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 10 ราย ไปรายงานตัวต่อพนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 2 ในวันที่ 9 มิถุนายน 2565 เวลา 09.30 น. เพื่อยื่นฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ต่อไป

นายนิวัติไชยชี้แจงถึงกรณีนางกนกวรรณกับคดีกรณี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่าลักษณะที่มีการครอบครองที่ดินและยังไม่สละการครอบครองคล้ายกัน แต่กรณีนี้เป็นการครอบครองที่ไม่ชอบและไม่ถูกต้องมาตั้งแต่แรก และมีการร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่กรณี น.ส.ปารีณา เป็นการบุกรุก ซึ่งไม่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐร่วมด้วย ฐานความผิดจึงคนละแบบกัน กรณีนี้มีการร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐในการชี้แนวเขตให้ จึงถือเป็นการสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิด

ขอหมายจับ 'รมช.ศธ.'

ที่สำนักงานอัยการสูงสุด นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า วันนี้มีผู้ต้องหามาพบพนักงานอัยการเเละนำตัวยื่นฟ้องจำเลยไปทั้งหมด 4 ราย คือ นายจีรศักดิ์, นางพรรณเพ็ญ, นายประทาน และนายทวีเท่านั้น ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือ 6 คนไม่มาตามนัด รวมทั้งนางกนกวรรณ ทางสำนักงานอัยการปราบปรามการทุจริตภาค 2 จึงมีหนังสือถึง ป.ป.ช.ให้ติดตามตัวมาเพื่อฟ้องต่อศาล ถ้าไม่สามารถติดตามมาได้ก็ขอให้ศาลออกหมายจับ

มีรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. สำนักงาน ป.ป.ช.ได้ประสานงานกับทางศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อขอออกหมายจับผู้ถูกกล่าวหาที่ยังไม่ได้ไปรายงานตัวแล้ว

ผู้สื่อข่าวกระทรวงศึกษาธิการได้ติดต่อนางกนกวรรณเพื่อสอบถามถึงเรื่องกล่าว ปรากฏว่าได้รับแจ้งจากทางคณะทำงานของนางกนกวรรณว่า รมช.ศธ.ได้เดินทางไปปฏิบัติภารกิจนอกกระทรวง ยังไม่แน่ใจจะกลับเข้ามาหรือไม่ จากนั้นไม่นาน นางกนกวรรณได้ให้คณะทำงานส่งข้อความมาให้ผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆ ว่า “ขณะนี้เรื่องดังกล่าวอยู่ในความดูแลของฝ่ายกฎหมาย ขอกราบขอบพระคุณทุกความห่วงใยค่ะ”

 ต่อมาช่วงค่ำ ศาลได้อนุมัติออกหมายจับแล้ว จำนวน 4 คน ได้แก่ นายสุนทร, นางสุรางค์ คัณฑารมย์, นายสมศักดิ์ หีบเงิน และนายคณิต เพชรประดับ ส่วนอีก 2 คนที่ไม่ได้ถูกออกหมายจับคือนางกนกวรรณ และ น.ส.น้อย ตุ้มพันธ์ เนื่องจากเชื่อว่าไม่มีพฤติการณ์หลบหนี

ที่รัฐสภา พรรคร่วมฝ่ายค้าน 6 พรรค ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ และพรรคพลังปวงชนไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร, นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล, นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน และ ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย, นายซูการ์โน มะทา ส.ส.ยะลา พรรคประชาชาติ ร่วมกันแถลงข่าวความพร้อมในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151

นพ.ชลน่านแถลงว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติร่วมกันว่าจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 เวลา 10.00 น. วันที่ 15 มิ.ย. กำหนดการอภิปรายครั้งนี้ใช้ชื่อยุทธการ “เด็ดหัว สอยนั่งร้าน” เด็ดหัว คือจะเป็นการอภิปรายเด็ดหัวนายกรัฐมนตรี และนั่งร้าน คือรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ในประเด็นข้อกล่าวหาเกี่ยวกับความผิดพลาดล้มเหลวการบริหารราชการแผ่นดิน จงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญและมาตรฐานจริยธรรม ส่อทุจริตเอื้อประโยชน์ ไม่ปฏิบัติตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาหรือเรื่องที่ฝ่ายค้านเคยอภิปรายได้เคยทักท้วงการละเมิดสิทธิมนุษยชน และการทำลายระบอบประชาธิปไตยระบบรัฐสภา ในกรอบ 6 เรื่องนี้ มั่นใจในข้อมูลจาก 6 พรรคร่วมฝ่ายค้านบวกกับพรรคไทยศรีวิไลย์ที่จะมาร่วมอภิปรายด้วย 

 “พิจารณาจากข้อกล่าวหาในประเด็นทุจริตทำผิดกฎหมาย เรามั่นใจล้มรัฐบาลได้ เพราะเป็นข้อกล่าวหาที่ชี้ชัดลงไป มีใบเสร็จทางการเมืองที่จะชี้ให้เห็นจึงมีความมั่นใจ โดยเฉพาะรัฐมนตรีที่ทำผิดต่อกฎหมาย ส่วนนายกฯ จะเป็นผลพวงจากหน้าที่ที่ท่านกำกับดูแล ยืนยันว่าเสียงของฝ่ายค้านเหนียวแน่น แม้ว่าอาจแปรปรวนไปบ้างจากการลงมติที่ผ่านมา แต่เราไม่เคยนับคนกลุ่มนั้นว่าอยู่ในกลุ่มฝ่ายค้านอยู่แล้ว” นพ.ชลน่านกล่าว 

ถามว่าวุฒิสภาจะยื่นเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ จะเป็นการฟอกขาวรัฐบาลหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ต้องดูเนื้อหาของรัฐธรรมนูญที่ระบุว่า ส.ว.เข้าชื่อยื่นได้ แต่เป็นการให้ ครม.มาแถลงข้อเท็จจริง หรือชี้แจงปัญหาสำคัญในการบริหารราชการแผ่นดิน ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ถือเป็นการทำหน้าที่ตรวจสอบควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน แต่ถ้านอกเหนือจากนี้ก็อาจเข้าข่ายฟอกขาวได้

เคาะชื่อซักฟอก 10 รมต.

 ถามว่าจะเป็นการอภิปราย ครม.ทั้งหมดกี่คน นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน กล่าวว่า 1 หัวมี 1 คน ส่วนนั่งร้านมาจาก 3 พรรค คือ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคพลังประชารัฐ รวมนั่งร้าน 9 คน บวกกับหัวด้วยก็เป็น 10 คน ซึ่ง 3 ป.โดนครบทุกคน เพราะเป็นเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ ขณะที่กรอบระยะเวลาการอภิปราย คาดว่าจะใช้เวลามากกว่า 4 วัน

มีรายงานว่า รัฐมนตรีที่จะถูกยื่นอภิปรายทั้ง 10 คน ประกอบด้วย พรรคพลังประชารัฐ 6 คน ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม,  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ,  พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย,  นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง และมาจากพรรคร่วมรัฐบาลอีก 2 พรรคที่คุมกระทรวงสำคัญ พรรคประชาธิปัตย์ 2 คน คือ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์, พรรคภูมิใจไทย 2 คน ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม

“ในส่วนข้อกล่าวหารัฐมนตรีที่จะใช้อภิปรายนั้นยังไม่มีความชัดเจน เนื่องจากเบื้องต้นพรรคร่วมฝ่ายค้านแต่ละพรรคได้เสนอชื่อรัฐมนตรีที่ควรถูกอภิปรายเท่านั้น แต่ละพรรคยังอุบไต๋ไม่บอกข้อกล่าวหาของแต่ละคน สาเหตุที่อภิปรายรัฐมนตรีมากถึง 10 คน เพราะครั้งนี้ถือเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งสุดท้าย และที่ใช้ชื่อยุทธการว่าเด็ดหัว สอยนั่งร้าน เพราะมุ่งอภิปรายไปที่หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคของพรรคที่เป็นแกนนำในซีกรัฐบาลเป็นหลัก” แหล่งข่าวจากฝ่ายค้านระบุ

ด้านนายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านประกาศเด็ดหัว สอยนั่งร้าน ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ฝนยังไม่ตกอย่ารีบกางร่ม ฝ่ายค้านชอบดาวน์เกรดคนอื่น โดยไม่ดูพรรคตัวเองว่าสมัยเป็นรัฐบาล รัฐมนตรีทุจริตเท่าไร ติดคุกเท่าไหร่

 “เมื่อดูจากการโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ก็รู้แล้ว รัฐบาลไม่ต้องตีปี๊บ ประสานเสียง โชว์ฟอร์มอะไร เพราะพรรคร่วมรัฐบาลยังมั่นคงแข็งแรง จับมือกันเหนียวแน่นอยู่ ดังนั้นจึงไม่น่ากังวลเสียงของรัฐบาล ซึ่งเสียงของรัฐบาลที่มีอยู่ก็เหมือนเดิม และอาจจะเซอร์ไพรส์มากกว่า ต้องรอดู” ประธานวิปรัฐบาลกล่าว

ในส่วนพรรคการเมืองขนาดเล็กทั้งในสภาและนอกสภา นำโดย นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ พร้อมด้วยพรรคการเมืองขนาดเล็ก เช่น พรรคครูไทยเพื่อประชาชน, พรรคเพื่อชาติไทย, พรรคประชาธิปไตยใหม่, พรรคพลเมืองไทย, พรรคพลังชาติไทย, พรรคประชาภิวัฒน์, พรรคไทยศรีวิไลย์, พรรคไทรักธรรม, พรรคราชสีห์ไทยดี, พรรคกรีน, พรรคแผ่นดินธรรม, พรรคพลังสังคม และพรรคภาคีเครือข่ายไทย ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังการเสวนาแนวทางการเมืองในอนาคต

โดยข้อเสนอพรรคเล็กไปในทิศทางเดียวกันที่เห็นด้วยกับการใช้ระบบ 500 หาร เพื่อคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพราะการหารด้วย 100 จะไม่สามารถตอบโจทย์ ไม่สะท้อนปัญหาของประชาชนผ่านตัวแทนของประชาชนที่แท้จริง หลังจากนี้เตรียมจะยื่นหนังสือให้กับ พล.อ.ประยุทธ์, นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา รวมไปถึงแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล อาทิ พล.อ.ประวิตร, นายจุรินทร์ และนายอนุทิน ก่อนจะนัดประชุม 42 พรรคอีกครั้งวันที่ 16 มิ.ย.นี้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฟ้องต้นตอหมอคางดำ

สภาทนายความฯ เตรียมฟ้องแพ่งบิ๊กเอกชน-หน่วยงานรัฐ ต้นตอ "เอเลี่ยนสปีชีส์"

‘เนวิน’รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดมิวสิคัลเทิดพระเกียรติ

“เนวิน” รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดเทิดพระเกียรติ 72 พรรษา แสดง แสง สี เสียง มิวสิคัล “ลมหายใจของแผ่นดิน” โดยบุรีรัมย์ออร์เคสตรา แสดงความจงรักภักดี 28-30 ก.ค.2567 สนามช้างอารีนา บุรีรัมย์