กัญชาผ่านสภาฉลุย หนูประเดิมถกบอร์ด

สภาไฟเขียวกัญชาเสรี 373 ต่อ 7 เสียง “อนุทิน” ยันสูบ เสพ สาธารณะไม่ใช่นโยบาย ขณะที่ฝ่ายค้านรุมเปิดช่องโหว่กฎหมายอื้อ สับเละมาตรการหละหลวมหวั่นไปไกลกว่าใช้ทางการแพทย์ เพื่อไทยโวยลั่น ปูทางประเทศสู่นครกัญชา ขณะที่ประชาชาติประกาศคว่ำ ชี้อิสลามเป็นสิ่งต้องห้าม  ปชป.ขย้ำเตะเข้าปากนายทุนใหญ่ ด้าน รอง ผบ.ตร.เคลียร์ พนง.ทั่วประเทศสั่งไม่ฟ้อง แต่ขีดเส้น THC เกิน 0.2% มีครอบครองเจอคุก นักโทษสายเขียวเฮสนั่น  “ยุติธรรม” ปล่อยผู้ต้องขัง 4 พันรายหลุดทันที

เมื่อวันพุธ เวลา 10.50 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม มีวาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชง กัญชา (ฉบับที่..) พ.ศ..... ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย พร้อมคณะ เป็นผู้เสนอ ในวาระที่หนึ่งรับหลักการ โดยมีนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย อภิปรายหลักการและเหตุผลของร่างกฎหมายดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส.ส.ฝ่ายค้านส่วนใหญ่เป็นห่วงร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว แม้เป็นเรื่องดี นำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ รักษาโรค แต่เป็นห่วงเรื่องมาตรการควบคุมการใช้กัญชาจะคุมไม่ได้ รวมถึงค่าธรรมเนียมการขออนุญาตปลูกกัญชามีราคาแพงถึง 50,000 บาท โดยนายวิรัตน์ วรศสิริน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า ดูแนวโน้มแล้วร่างกฎหมายฉบับนี้ไปไกลเกินกว่ากัญชาทางการแพทย์ เพราะมาตรการควบคุมดูแล้วหละหลวม จะมีคนเอามาสูบเต็มไปหมดจนควบคุมไม่ได้ ไปไหนมาไหนจะมีแต่คนตาหวาน ที่ผ่านมามีบทลงโทษคนเมาแล้วขับ แต่ถ้าเมากัญชาแล้วขับจะมีบทลงโทษอย่างไร หรือจะต้องมีเครื่องตรวจสาร THC เพื่อวัดปริมาณกัญชาโดยเฉพาะ

สับเละปูทางนครกัญชา

นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงที่กำลังพิจารณาอยู่นี้ เป็นร่างกฎหมายที่ดีที่ให้ท้องถิ่นได้รับใบอนุญาตจดแจ้ง และให้ชาวบ้านปลูกที่บ้านได้ ให้สิทธิเสรีภาพในพื้นที่รโหฐานที่ประชาชนจะทำได้ คล้ายกับการทำเบียร์ในบ้าน แต่ดูเหมือนเป็นเสรีในหลักการ แต่บางอย่างอาจดูเป็นการผูกขาดโดยกลไกหรือไม่

 “ผมอยากเสนอให้ปลดล็อกท้องถิ่น เพื่อกระจายรายได้และเก็บภาษีให้เข้าท้องถิ่น 100% และอยากให้ท้องถิ่นจัดโซนนิ่งการปลูกและใช้เพื่อนันทนาการ เสนอให้ตัดค่าธรรมเนียม ใบอนุญาต จาก 50,000 บาทให้เหลือ 5,000 บาท ส่วนเรื่องการให้อำนาจเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจที่ปลูกโดยไม่มีหมาย และไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า ถือเป็นการใช้อำนาจเกินหน้าที่ เพราะพื้นที่ปลูกส่วนใหญ่จะเป็นบ้านของประชาชน ขอบคุณที่พรรค ภท. สู้เพื่อปลดล็อกกัญชา แต่จะถูกต้องมากขึ้นหากมีการกำหนดรายละเอียดอย่างรอบคอบ” นายเท่าพิภพระบุ

ขณะที่นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า  ตนมีข้อกังวลว่าเราจะขีดเส้นแบ่งอย่างไร ระหว่างกัญชาเป็นคุณต้องส่งเสริมเต็มที่ แต่ถ้าเป็นโทษก็ต้องป้องกันเต็มที่ กฎหมายฉบับนี้ยังหลวมมาก และกำกวมมาก คล้ายส่งสัญญาณให้เปิดช่องให้คนมีเงินทำธุรกิจได้ ไม่ใช่เพื่อชาวบ้าน ตนเองกลัวว่าจะเป็นนครกัญชา กฎหมายยังไม่ออกก็เห็นชัดเลยว่าเด็กและผู้ใหญ่เปิดหน้าเสพ ดังนั้นฝาก กมธ.ดูกลไกควบคุม ในโลกมีเพียงสองประเทศให้เสพเพื่อสันทนาการได้ เขาคุมเข้ม แต่คุมไม่อยู่ วันนี้เขายังปวดหัว

นายสุทินอภิปรายต่อว่า นอกจากนี้ยังกังวลว่าขณะนี้ชาวบ้านคิดว่าจะรวย นักธุรกิจรายใหญ่ก็ลงทุน แต่ลืมไปหรือไม่ว่าไทยลงนามในข้อผูกพันสนธิสัญญาระหว่างประเทศสหประชาชาติเรื่องยาเสพติด ให้ข้อมูลตรงกันว่าสนธิสัญญายูเอ็นให้ใช้เพื่อทางการแพทย์เท่านั้น ห้ามใช้ทางการค้าหรือทำเชิงธุรกิจ วันนี้เราสร้างกระแสจะรวยเพราะกัญชา

 “ขอให้ดูให้ดี สภากำลังจะออกกฎหมายที่ขัดต่อข้อผูกพันระหว่างประเทศ วันนี้เรามีสองทาง คือขัดยูเอ็นทำไม่ได้ ถ้าฝืน เรากำลังจะทำผิด คิดให้มาก เรื่องนี้เสี่ยง ขัดกับยูเอ็นจะเกิดอะไรขึ้น วันนี้คนมีเงินมีทองวางระบบไว้หมดแล้ว เสมือนเอาชาวบ้านอ้างบังหน้า ประเทศจะซวย คนยกมือผ่านกฎหมายให้ก็ซวยด้วย ฝากสมาชิกตั้งสติ การสร้างกระแสที่ความจริงที่ไม่ครบถ้วนถือว่าเป็นบาป” นายสุทินระบุ

ประชาชาติคว่ำขัดหลักศาสนา

ต่อมาเวลา 13.50 น. นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ อภิปรายว่า ตนและพรรคประชาชาติไม่อาจรับหลักการร่าง พ.ร.บ.กัญชง กัญชา (ฉบับที่..) พ.ศ..... โดยร่างกฎหมายนี้ คณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย ได้มีหนังสือว่ากัญชา กัญชง ถือเป็นสารเสพติดเช่นเดียวกับสุรา หากจะนำมาใช้ทางการแพทย์สามารถใช้ในกรณีจำเป็นเท่านั้น หมายถึงไม่มียาตัวอื่นจะรักษาได้แล้วจึงจะอนุญาต นั่นหมายถึงกัญชาคือฮะรอม ดังนั้นพรรคประชาชาติจึงไม่สามารถรับหลักการได้

 “ประเทศไทยน่าเป็นห่วงมาก รัฐต้องรักษาคนติดยาเสพติด 2 หมื่นบาทต่อคน ต่อเดือน ตนมีสถิติว่าขณะนี้มีคนติดกัญชาแล้ว 1.89 ล้านคน ถือว่าสูงมาก และจะมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้ากฎหมายฉบับนี้ผ่าน เพราะประตูสู่สารเสพติดประเภทกัญชาได้เปิดกว้างแล้ว ใครจะไปดูแลควบคุมว่าปลูกที่บ้านแล้วจะไม่มีการไปแปลงกับยาแก้ไอเป็นอย่างอื่น” นายกมลศักดิ์ กล่าว

ด้านนายกนก วงษ์ตระหง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เจตนารมณ์ของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มุ่งเฉพาะการใช้ทางการแพทย์กับอุตสาหกรรม สุดท้ายแล้วกฎหมายนี้จะได้ประโยชน์เฉพาะอุตสาหกรรมรายใหญ่ทางการแพทย์และนายทุนรายใหญ่เท่านั้น กฎหมายนี้ต้องนำไปสู่การลดความเหลื่อมล้ำในสังคม แก้ปัญหาความยากจนไม่ใช่ขยายความเหลื่อมล้ำมากขึ้น เพราะค่าธรรมเนียมใบอนุญาตปลูกกัญชาที่ราคาแพง ทำให้เกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนเข้าไม่ถึง ควรยกเว้นค่าธรรมเนียมให้เกษตรกรและวิสาหกิจชุมชนอย่างน้อย 5 ปี

ต่อมาเวลา 16.50 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย อภิปรายปิดก่อนที่ประชุมสภาจะลงมติว่า หลายเรื่องที่ได้มีการอภิปรายในวันนี้เป็นประโยชน์ต่อตนในฐานะที่เป็นทั้ง รมต. และเจ้าของร่างกัญชา กัญชาเสรีทางการแพทย์ เพื่อนำไปสื่อสารในกระทรวงสาธารณสุข ปรับปรุงกฎเกณฑ์ รูปแบบ เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด ตนได้ฟังความห่วงใยจากหลายฝ่ายโดยเฉพาะการสูบ การเสพในพื้นที่สาธารณะ หรือการบริโภคกัญชาเกินขนาด

 “ขอยืนยันว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขและรัฐบาล และไม่ได้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของการปลดล็อกกัญชา กัญชง ยืนยันหลักการของกฎหมายนี้ต่อสภาว่าคือการใช้กัญชาทางการแพทย์และสุขภาพเท่านั้น” นายอนุทินระบุ

จากนั้นเวลา 17.20 น. ที่ประชุมสภา มีมติเสียงส่วนใหญ่รับหลักการร่าง พ.ร.บ.กัญชง กัญชา (ฉบับที่..) พ.ศ..... ด้วยคะแนน 373 ต่อ 7 งดออกเสียง 23 เสียง ทั้งนี้ ได้มีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญ จำนวน 25 คน และกำหนดระยะเวลาให้แปรญัตติภายใน 15 วัน

สธ.แจงยิบช่วงสุญญากาศ

ขณะที่ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันที่ 9 มิ.ย. เวลา 10.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพืชกัญชาและกัญชง ครั้งที่ 1/2565 ซึ่งเป็นการประชุมนัดแรกภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ลงนามในคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 120/2565 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพืชกัญชาและกัญชง เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.2565 ที่ผ่านมา

วันเดียวกัน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อม นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต แถลงปลดล็อกกัญชา กัญชง #ใช้กัญชาอย่างเข้าใจ ว่าในวันที่ 9 มิ.ย. ทุกส่วนของต้นกัญชาจะถูกปลดล็อกออกจากยาเสพติดประเภท 5 ยกเว้นสารสกัด THC เกิน 0.2% การปลดล็อกนี้ก็เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ แต่ยังห้ามมิให้ใช้เพื่อการสันทนาการ ห้ามจำหน่าย ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ สตรีให้นมบุตร และผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี และเพื่อเป็นการป้องกัน

นพ.เกียรติภูมิกล่าวว่า วันที่ 8 มิ.ย. เตรียมลงนามออกประกาศให้กลิ่นควัน กัญชา กัญชง เป็นเหตุรำคาญ ตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 มีโทษทั้งจำทั้งปรับ คล้ายปัญหาควันบุหรี่ อย่างไรก็ตามคาดการณ์ว่าหลังจากมีการปลดล็อกนี้จะกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยกระทรวงสาธารณสุขมีการอนุญาตผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีส่วนประกอบกับกัญชากัญชง และสารสกัด CBD ในรูปแบบของเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์อาหาร สมุนไพร และตำรับยาไทย มากถึง 1,181 รายการ

นพ.ไพศาลกล่าวว่า หลังจากเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนปลูกกัญชา กัญชง ผ่านแอปพลิเคชันปลูกกัญ มีประชาชนลงทะเบียนไปแล้วกว่าแสนคน ทั้งนี้ การปลดล็อกเพื่อให้เกิดการใช้ในครัวเรือน  เพื่อใช้ในการปรุงยาสำหรับผู้ป่วยเฉพาะรายกรณีรักษาแบบแพทย์แผนไทย ทั้งนี้ ไม่ต้องกังวลเรื่องของกัญชาในภาวะสุญญากาศ ที่ พ.ร.บ.กัญชากัญชงจะบังคับใช้ เนื่องจากระหว่างนี้ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมกำกับดูแลในอาหารก็มี พ.ร.บ.อาหารควบคุม เพียงแต่ปฏิบัติตาม แต่ขณะนี้ห้ามมิให้มีการนำเข้าผลิตภัณฑ์สุขภาพ อาหาร เครื่องสำอาง ที่มีส่วนผสมของกัญชาเข้าได้ ส่วนเรื่องของการปลูก หรือการนำเมล็ดกัญชาเข้ามา ก็มีพ.ร.บ.กักพืชของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดูแล

นายปานเทพกล่าวว่า ในช่วงสุญญากาศของการปลดล็อกกัญชานี้ ได้เกิดเครื่องมือกลไกต่างๆ ออกมาควบคุมผลกระทบจากกัญชามากกว่า ตอนมีการประกาศนิรโทษกัญชาปี 2562 หากได้รับผลกระทบจากการขับขี่ก็มี พ.ร.บ.จราจร, ในส่วนอาหารก็มี พ.ร.บ.อาหาร และมีการให้องค์ความรู้ประชาชน ใครปลูกก็ต้องขออนุญาตผ่านแอป เชื่อว่าจะช่วยให้สิ่งที่อยู่ใต้ดินมาอยู่บนดิน และในส่วนของการนำส่วนประกอบกัญชามาประกอบอาหาร ขอย้ำให้ใส่ในปริมาณน้อยๆ เพียงแค่ชูรส เพียงแต่ร้านอาหารที่นำกัญชามาเป็นส่วนผสม ต้องมีการแสดงในเมนูอาหารให้ผู้บริโภครับทราบ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการรับประทาน และย้ำว่า การติดกัญชาจากการบริโภคมีน้อยมาก  ไม่เหมือนเหล้าบุหรี่

สายเขียวเฮ 4 พันรายหลุดคุก

ที่กระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม  เป็นประธานการประชุมผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม โดยที่ประชุมได้ขอให้ทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมหลังปลดล็อกกัญชาด้วย  ซึ่งในส่วนของกระทรวงยุติธรรม ก็จะเกี่ยวข้องกับผู้ต้องขังในคดีกัญชา ที่ต้องปล่อยตัวกว่า 4,000 คนทันที

นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า กรมราชทัณฑ์ ได้รายงานตัวเลขจำนวนผู้ต้องขังที่มีความผิดเกี่ยวกับกัญชา จำนวน 4,075 ราย แบ่งเป็นมีความผิดเกี่ยวกับคดีกัญชาคดีเดียว 3,071 ราย, มีความผิดฐานอื่นด้วย 1,004 ราย โดยนักโทษเด็ดขาดและผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีเกี่ยวกับกัญชาคดีเดียว ศาลจะปล่อยตัวและพิพากษายกฟ้อง ส่วนที่มีฐานความผิดอื่นด้วย จะไม่ได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ แต่ศาลจะแก้ไขยกเลิกโทษที่เกี่ยวกับคดีกัญชาให้

  “ขณะนี้หลายเรือนจำมีความพร้อมในเรื่องการปล่อยตัวผู้ต้องขังที่เกี่ยวกับคดีกัญชาในวันพรุ่งนี้แล้ว โดยส่วนใหญ่จะได้รับการปล่อยตัวทันที ซึ่งผู้ต้องขังได้รู้ตัวล่วงหน้าแล้วทุกคน ดังนั้นขอให้กรมราชทัณฑ์ดูแลเรื่องการปล่อยตัวให้เรียบร้อยด้วย ส่วนคดีในส่วนของ ป.ป.ส.ก็ต้องจำหน่ายออกจากสารบบ แบ่งเป็นคดียึดทรัพย์ 99 คดี คดีทรัพย์สิน 110 ล้านบาท”นาย​สมศักดิ์​กล่าว

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ด้านป้องกันปราบปราม (รอง ผบ.ตร.ปป.) และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศอ.ปส.ตร.) เปิดเผยถึงการบังคับใช้กฎหมายว่า นับแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2565 พืชกัญชาไม่ถือเป็นยาเสพติด และยกเลิกความผิดฐานผลิต นำเข้า หรือส่งออก มีไว้ในครอบครอง จำหน่ายมีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ หรือเสพพืชกัญชา รวมถึงการสูบ ก็ไม่ถือว่าเป็นความผิด

 “การมีพืชกัญชาไว้ในครอบครองหรือปลูกกัญชา ไม่ว่าจะมีจำนวนเท่าใดก็ไม่มีความผิด แต่การมีใช้ จำหน่าย สารสกัดจากกัญชาที่มีปริมาณสาร THC เกินกว่า 0.2% ไม่มีใบอนุญาต ไม่มีใบสั่งแพทย์ ไม่ผ่านการรับรองโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือเป็นสารสกัดจากกัญชานั้น มีแหล่งที่มาจากนอกราชอาณาจักร ยังถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย เมื่อตำรวจตรวจพบจะยังไม่ดำเนินคดีในทันที เนื่องจากไม่เป็นความผิดซึ่งหน้า ตำรวจจะต้องยึดสารสกัดนั้นส่งผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบหาค่าสาร THC สืบเสาะแหล่งที่มา ตรวจหลักฐานการขออนุญาต หากพบว่าผิดกฎหมายจึงจะเรียกตัวมาแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีภายหลัง” รอง ผบ.ตร.กล่าว

 พล.ต.อ.รอยกล่าวว่า เมื่อกฎหมายยกเลิกความผิดของพืชกัญชา ผู้ต้องขังและผู้ต้องหาคดีกัญชา รวม 4,200 ราย จะได้รับการปล่อยตัวพ้นผิด โดยในส่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตนได้มีหนังสือสั่งการให้พนักงานสอบสวนทั่วประเทศสั่งไม่ฟ้องคดีเกี่ยวกับพืชกัญชาที่อยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน กรณีขออนุมัติศาลออกหมายจับแล้ว ให้ขอถอนหมายจับ แต่หากมีความผิดอื่นร่วมด้วยยังคงดำเนินการตามกฎหมายในข้อหาความผิดอื่นๆ ต่อไป

 “นอกจากนี้ให้คืนทรัพย์สินของกลางในคดีพืชกัญชา รวมทั้งของส่วนตัวผู้ต้องหาที่ยังมิได้มีการทำลายหรือใช้ประโยชน์ หรือขายทอดตลาดตามคำพิพากษา ส่วนทรัพย์สินเกี่ยวเนื่องกับการกระทำในคดีเกี่ยวกับกัญชาที่ตำรวจตรวจยึดหรืออายัดไว้ แต่ยังไม่มีคำสั่งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน หรือเลขาธิการ ป.ป.ส. ให้ยึดหรืออายัดไว้ชั่วคราว ให้แจ้งเจ้าของทรัพย์สินมารับคืนทั้งหมด” พล.ต.อ.รอยกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ธปท.จับตาแจกเงินเฟส2-3

“คลัง” ฟุ้งเศรษฐกิจไทยเดือน พ.ย.โตต่อเนื่อง อานิสงส์ส่งออก-ท่องเที่ยวหนุนเต็มพิกัด