GT200ลาม!กมธ.จ่อคุ้ย สวทช.แจงราคาถูกแล้ว

ทั่นโรมได้ทีใช้จีที 200 ขย่มบิ๊กตู่ กมธ.ติดตามงบฯ ไม่รอช้า จ่อเรียก สวทช.ใน 2 สัปดาห์แจง ข้องใจค่าตรวจแพง PTEC ร่อนเอกสารเผยราคาถูกกว่าต่างประเทศ เพราะต้องใช้หลักวิทยาศาสตร์วัดค่า

เมื่อวันอาทิตย์ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล   (ก.ก.) แถลงกรณีนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรค ก.ก. ได้อภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ถึงการใช้งบประมาณของกองทัพที่จ้างสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ตรวจสอบเครื่องตรวจจับสารเสพติด อาวุธ และวัตถุระเบิด (GT200) จำนวน 757 เครื่อง วงเงิน 7.57 ล้านบาท หรือเฉลี่ยเครื่องละ 10,000 บาท ว่าเป็นการใช้เม็ดเงินที่พิสูจน์ให้เห็นว่าไร้ประโยชน์ เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ไม่สามารถใช้ได้จริง เป็นไม้ล้างป่าช้า ดังนั้นไม่จำเป็นต้องใช้เม็ดเงินเพื่อพิสูจน์ว่าอุปกรณ์นี้ใช้ได้หรือไม่ เพราะคนทั่วไปใช้ไขควงอันเดียวก็สามารถพิสูจน์ได้แล้ว ทำไมเราต้องใช้เงินมากขนาดนี้เพื่อพิสูจน์ว่าอุปกรณ์ลวงโลกนี้ลวงโลก

“เรื่องนี้ยิ่งตอกย้ำว่าตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นนายกฯ  8 ปี ไม่ได้ใช้เงินภาษีประชาชนอย่างมีประโยชน์มากขึ้นแม้แต่น้อย เป็นสิ่งที่น่าผิดหวังจริงๆ ซึ่งพรรคจะไม่ปล่อยให้ใช้ภาษีประชาชนกับเรื่องที่ไร้สาระที่ไม่คุ้มค่าแบบนี้” นายรังสิมันต์ระบุ

นายรังสิมันต์กล่าวอีกว่า กระบวนการตรวจสอบ GT200 ตั้งแต่ปีก่อนหน้านี้มีปัญหามาโดยตลอด หลายครั้งที่ตรวจสอบงบกองทัพ กรรมาธิการ (กมธ.) ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกได้ และส่วนมากผู้แทนของกองทัพเมื่อมาชี้แจงก็อ้างเรื่องของความมั่นคงว่าเป็นรายละเอียดที่เปิดเผยไม่ได้ ซึ่งคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องมาทำความเข้าใจใหม่ ปรับวิธีการของบประมาณ และต้องทำให้ผู้แทนราษฎรเข้าถึงข้อมูลให้มากที่สุด

นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธาน กมธ.จัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า กมธ.กำลังรวบรวมข้อมูลเรื่องดังกล่าวอยู่ ซึ่งดูแล้วมีประเด็นน่าสงสัย เพราะหน้าที่หลัก สวทช.ควรเป็นเรื่องเกี่ยวกับงานวิจัย มากกว่าการตรวจสอบประสิทธิภาพเครื่องมือ เรื่องนี้ควรเป็นหน้าที่ของหน่วยงานอื่นที่มีอำนาจและความเชี่ยวชาญโดยตรงมากกว่าหรือไม่ โดยเฉพาะราคาตรวจสอบเครื่องละ 10,000 บาท จะมีความเหมาะสมหรือไม่ ถ้าเทียบกับการให้หน่วยงานอื่นในประเทศไทย เช่น มหาวิทยาลัยต่างๆ มาตรวจสอบแทน

"คาดว่าอีก 2 สัปดาห์ กมธ.จะเรียก สวทช.มาให้ข้อมูลถึงการมีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบ ความเชี่ยวชาญ และข้อสงสัยเรื่องราคาตรวจสอบเครื่องละ 10,000 บาท ตลอดจนเรียกตัวแทนสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มาให้ข้อมูลผลการตรวจสอบบัญชีของแต่ละหน่วยงานเกี่ยวกับเรื่องจีที 200 ถ้ามีประเด็นสงสัยเพิ่มเติม จะตรวจสอบอย่างใกล้ชิดต่อไป" นายไชยากล่าว

ด้านศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (PTEC) สวทช. ชี้แจงผ่านเอกสารว่า ได้รับการประสานจากกรมสรรพาวุธทหารบกเพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของ GT200 ทั้ง 757 เครื่อง ว่าใช้งานได้หรือไม่ด้วยเครื่องมือวิทยาศาสตร์ รวมถึงการผ่าพิสูจน์เครื่อง เพื่อเป็นข้อมูลสำคัญประกอบการดำเนินคดีปกครอง โดยต้องดำเนินการตามหลักการที่เป็นมาตรฐานสากลเพื่อให้ข้อมูลข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเชื่อถือได้ในชั้นการพิจารณาของศาล ทั้งการตรวจวัดไฟฟ้าสถิต การแพร่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า การวัดประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง รวมถึงการผ่าพิสูจน์เครื่อง

“ค่าบริการทดสอบทั้งหมด ศูนย์ PTEC คำนวณจากการใช้วัสดุและอุปกรณ์ทดสอบ ห้องปฏิบัติการทดสอบ ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงการใช้สารเสพติดและวัตถุระเบิดในการทดสอบ เพื่อให้ได้คุณภาพของผลการทดสอบตามเอกสารว่าจ้างที่ระบุทุกรายการ ซึ่งค่าบริการดังกล่าวราคาถูกกว่าการทดสอบโดยห้องปฏิบัติการต่างประเทศ”

เอกสารชี้แจงระบุว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา สวทช. ปฏิบัติหน้าที่ในทุกภารกิจบนหลักวิชาการและจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพบนพื้นฐานในการรักษาผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ และขอยืนยันเจตนารมณ์ในฐานะองค์กรวิจัยและพัฒนาที่จะใช้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาสังคมและประเทศต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง