งูเห่าทำแลนด์สไลด์เละ

“บิ๊กตู่” สบายใจขึ้น พ.ร.บ.งบฯ ผ่านวาระแรกฉลุย “อนุทิน” ทำมึนปมดีลฝ่ายค้านช่วยหนุน “ชัยวุฒิ” มั่นใจผ่านซักฟอกได้แน่ “เพื่อไทย” ฉุนงูเห่า “ภูมิธรรม” โพสต์ประจาน “วิสุทธิ์” ชงตั้งกก.สอบ ยุตะเพิดพ้นพรรค เชื่อไม่มีเลือดไหลแล้ว “นิยม” เมินถูกไล่ออก บอกไปอยู่ ภท.แล้ว 

เมื่อเวลา 01.05 น. ของวันที่ 3 มิ.ย. ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้มีการลงมติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 ในวาระที่ 1 โดยผลการลงมติปรากฏว่า รับหลักการ 278 เสียง ไม่รับหลักการ 194 เสียง และงดออกเสียง 2 เสียง             

จากนั้น มีการตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 72 คน แบ่งเป็นสัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) 18 คน ได้แก่ 1.นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง 2.นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง 3.เฉลิมพล เพ็ญสูตร ผอ.สำนักงบประมาณ 4.นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 5.นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม 6.นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ และประธานวิปรัฐบาล 7.นายวราเทพ รัตนากร อดีต รมช.การคลัง

8.นายบุญลือ ประเสริฐโสภา ส.ส.ราชบุรี พรรคภูมิใจไทย 9.น.ส.ผ่องศรี ธาราภูมิ อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคประชาธิปัตย์ 10.นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา 11.นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคเศรษฐกิจไทย 12.นายพาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ ส.ส.นครปฐม พรรคชาติไทยพัฒนา 13.นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย 14.นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัช 15.พล.ท.กิติ นิมิบุตร 16.นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ 17.นายนพดล พลเสน และ 18.นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยรักธรรม

พรรคเพื่อไทย 15 คน ประกอบด้วย 1.นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง 2.นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต ส.ส.อุบลราชธานี 3.นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และประธานวิปฝ่ายค้าน 4.นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน 5.นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม 6.นายวิชาญ มีนชัยนันท์ อดีต ส.ส.กทม. 7.นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย 8.นายโกศล ปัทมะ ส.ส.นครราชสีมา 9.นายวีระพล จิตสัมฤทธิ์ ส.ส.ศรีสะเกษ 10.นายนพพล เหลืองทองนารา ส.ส.พิษณุโลก 11.นางอนุรักษ์ บุญศล ส.ส.สกลนคร 12.นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี 13.นางสุภาภรณ์ คงวุฒิปัญญา ส.ส.กทม. 14 น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด และ 15.นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย

พรรคพลังประชารัฐ 11 คน ประกอบด้วย 1.น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส.สระบุรี 2.พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี 3.นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส.ชัยภูมิ 4.นายต่อศักดิ์ อัศวเหม ส.ส.บัญชีรายชื่อ 5.นายสัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์ 6 นายจักรัตน์ พั้วช่วย ส.ส.เพชรบูรณ์ 7.นายสมเกียรติ วอนเพียร ส.ส.กาญจนบุรี 8.นายสัณหพจน์​ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช 9.นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส.ยะลา 10.นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.กทม. และ 11.นายสุรสิทธิ์ วงศ์วิทยานันท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ

พรรคภูมิใจไทย 7 คน ได้แก่ 1.น.ส.มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช ส.ส.ลพบุรี 2.นายสมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ ส.ส.สุโขทัย 3.นายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน ส.ส.กาญจนบุรี 4.นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา 5.นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น 6.นางนันทนา สงฆ์ประชา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาภิวัฒน์ และ 7.นายปวีณ แช่จึง อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ 6 คน ได้แก่ 1.นายสาคร เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ 2.นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ส.ส.บัญชีรายชื่อ 3.นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง 4.นายธีรภัทร พริ้งศุลกะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี 5.นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และ 6.นางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ

ขณะที่สัดส่วนของพรรคก้าวไกล 6 คน ได้แก่ 1.น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ 2.นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ 3.นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ 4.นายกัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี ส.ส.บัญชีรายชื่อ 5.นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ 6.นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส่วนพรรคเศรษฐกิจไทยได้โควตา 2 คน คือ 1.นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ 2. น.ส.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส.สมุทรสาคร 

พรรคชาติไทยพัฒนา 1 คน คือ นายอนุรักษ์​ จุรีมาศ ส.ส.ร้อยเอ็ด, พรรคเสรีรวมไทย 1 คน คือ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร, พรรคประชาชาติ 1 คน คือ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ, พรรคเศรษฐกิจใหม่ 1 คน คือ นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, พรรคเพื่อชาติ 1 คน คือ น.ส.ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช  ส.ส.บัญชีรายชื่อ, พรรครวมพลังประชาชาติไทย 1 คนคือ นายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, พรรคพลังท้องถิ่นไท 1 คนคือ นายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พร้อมทั้งกำหนดให้มีการแปรญัตติ 30 วัน มีการประชุมนัดแรก 6มิ.ย. เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุมงบประมาณ

เพื่อไทยขึงขังสอบ 7 งูเห่า

ช่วงท้ายการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ขอบคุณประธานสมาชิกทุกท่าน พิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณฯ ที่ ครม.เสนอ สำหรับข้อสังเกตที่สมาชิกอภิปรายไว้ ฝากให้สมาชิกที่เป็น กมธ.พิจารณาเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนทุกประการ จากนั้นเวลา 01.28 น. นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ได้สั่งปิดการประชุม 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผลโหวตการลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ในส่วนคะแนนให้ความเห็นชอบ 278 เสียง มาจากเสียง ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคพลังท้องถิ่นไท พรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรคชาติพัฒนา ที่ลงคะแนนให้ความเห็นชอบ ไม่มีแตกแถว รวมถึงเสียงของกลุ่มตัวแปรอย่างพรรคเศรษฐกิจไทย จำนวน 16 เสียงของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และ ส.ส.กลุ่ม 16 จำนวน 18 คน ที่ประกอบด้วย ส.ส.พรรคเล็กบางส่วน ได้แก่ พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย พรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคไทรักธรรม พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคเพื่อชาติไทย พรรคพลังชาติไทย ที่ต่างเทคะแนนให้ความเห็นชอบครบทุกคน

ขณะเดียวกัน ยังได้เสียงสนับสนุนจากพรรคเพื่อไทยมาร่วมด้วยอีก 7 คน จาก ส.ส.ศรีสะเกษ 3 คน ที่เตรียมย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย ได้แก่ นพ.จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์, นายธีระ ไตรสรณกุล และนางผ่องศรี แซ่จึง ส่วนอีก 4 คน ได้แก่ นายจักรพรรดิ ไชยสาส์น ส.ส.อุดรธานี, นายนิยม ช่างพินิจ ส.ส.พิษณุโลก, นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายก, นายสุชาติ ภิญโญ ส.ส.นครราชสีมา รวมถึงกลุ่ม ส.ส.งูเห่าหน้าเก่า 4 คน จากพรรคก้าวไกล ที่โหวตสวนมติพรรคมาลงคะแนนเห็นชอบให้ฝ่ายรัฐบาล ได้แก่ นายขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส.ชลบุรี, นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายพีรเดช คำสมุทร ส.ส.เชียงราย และนายเอกภพ เพียรวิเศษ ส.ส.เชียงราย นอกจากนี้ยังมีนายอนุมัติ ซูสารอ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาชาติ ที่เป็นอีกหนึ่งงูเห่าหน้าเดิมที่ลงคะแนนให้ฝ่ายรัฐบาล

ขณะที่คะแนนไม่เห็นชอบ จำนวน 194 เสียง มาจากซีกฝ่ายค้าน ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ พรรคเศรษฐกิจใหม่ 1 เสียงคือ นายนิยม วิวรรธนดิฐกุล พรรคไทยศรีวิไลย์ ของนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ พรรคพลังปวงชนไทย ส่วนคะแนนงดออกเสียง 2 คนคือ นายชวน ประธานสภาฯ และนายเกษมสันต์ มีทิพย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่เป็นอีกหนึ่ง ส.ส.งูเห่าในพรรค

ทั้งนี้ คะแนนของฝ่ายค้านถือว่าหายไป 14 เสียง จากยอด ส.ส.ฝ่ายค้านทั้งหมด 208 คน โดยหายไปจากงูเห่าพรรคเพื่อไทย 7 คน, พรรคก้าวไกล 4 คน, ส.ส.ประชาชาติ 1 คน และมี ส.ส.เพื่อไทยอีก 2 คนที่ขาดการประชุม ได้แก่ นายคมเดช ไชยศิวามงคล ส.ส.กาฬสินธุ์ และ นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ

พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า จากนี้จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของ กมธ. จากนั้นจะเข้าสู่การพิจารณาในวาระที่สอง ซึ่งรัฐบาลขอขอบคุณทุกคนที่ติดตาม ขณะเดียวกันขอให้เข้าใจหลักการและเหตุผล รวมถึงความจำเป็นและสถานการณ์ต่างๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง จนทำให้การจัดทำงบประมาณในครั้งนี้ยากพอสมควร ในการเฉลี่ยงบประมาณ สำหรับดูแลส่วนต่างๆ ให้ได้อย่างทั่วถึง อย่างไรก็ตาม หวังว่าในการพิจารณาชั้น กมธ. หากมีการปรับลดงบประมาณบางรายการออกไป และนำงบประมาณจำนวนดังกล่าวไปใช้ในโครงการอื่นๆ ที่ไม่ได้ถูกบรรจุอยู่ในเล่มงบประมาณ นอกจากนี้ ขอยืนยันว่าเรื่องใดที่มีความจำเป็นเร่งด่วนจะเร่งรัดปรับงบประมาณให้ได้เพิ่มขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกสบายใจต่อผลการลงมติในครั้งนี้หรือไม่ เพราะเสียงสนับสนุนให้รับร่างเสียงมากกว่าจำนวน ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า รู้สึกสบายใจที่วันนี้ผ่านไปได้ด้วยดี แสดงให้เห็นว่า ส.ส.หลายคนเข้าใจ ขณะเดียวกัน ต้องยอมรับว่ามีอีกหลายคนยังไม่เข้าใจ ซึ่งเขาอาจจะพยายามไม่เข้าใจ แต่ตนรับได้ทั้งหมด ทั้งนี้ ขอขอบคุณหัวหน้าพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลทุกพรรค ที่ให้การสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล เพื่อจะได้ร่วมกันนำนาวาคือประเทศไทยของเรา ให้สามารถแล่นผ่านมรสุมไปให้ได้ โดยเราต้องใช้เวลามากพอสมควรในการฟื้นคืนสภาพ และขอยืนยันว่ารัฐบาลจะดูแลประชาชนทุกคนให้ดีที่สุด

ต่อข้อถามว่า ผลการลงมติในวันนี้จะสามารถสะท้อนถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า อย่าเพิ่งมองไปไกล

มีความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย ภายหลังมี ส.ส.ของพรรคยกมือสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านทวิตเตอร์ ถึงการลงมติของร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ พร้อมแนบไฟล์ภาพ ประกอบด้วย นายจักรพรรดิ, นพ.จาตุรงค์, นายธีระ, นายนิยม, นางผ่องศรี, นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร และนายสุชาติ

สำหรับรายชื่อ ส.ส.ที่นายภูมิธรรมโพสต์ เกือบทั้งหมดมีข่าวจะย้ายไปพรรคภูมิใจไทย มีเพียงนายจักรพรรดิ ที่มีรายงานว่าจะไปอยู่พรรคไทยสร้างไทย ที่มีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นประธานพรรค

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะกรรมการจริยธรรมพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี 7 ส.ส.งูเห่าพรรคเพื่อไทย โหวตสวนมติพรรคว่า คงต้องมีมาตรการอะไรบางอย่างออกมาดำเนินการกับทั้ง 7 คน เพราะ ส.ส. 7 คนดังกล่าว เป็นที่รู้กันในพรรคว่า ไม่ค่อยมาร่วมกิจกรรมพรรคในช่วงหลัง ดูแนวโน้มไม่น่าจะอยู่ร่วมกับพรรคในสมัยหน้า บางคนมีพฤติกรรมมาตั้งแต่การโหวตซักฟอกรอบที่แล้ว บางคนไปเปิดตัวกับพรรคการเมืองอื่นชัดเจน

นายวิสุทธิ์ระบุว่า ในวันที่ 7 มิ.ย. จะมีการประชุมพรรคเพื่อหารือกันเรื่องการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ โดยจะหยิบยกกรณีการไม่โหวตตามมติพรรคมาคุยกัน ตนจะเสนอให้ตั้งคณะกรรมการสอบจริยธรรมทั้ง 7 คน เพื่อลงมติขับออกจากพรรค ส่วนตัวมองว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่ลูกผู้ชาย ถ้าอยากจะไปก็ให้ไปเลย วันที่ยังไม่ได้เป็น ส.ส. มาขออยู่ร่วมกับพรรค ใช้โลโก้ ใช้เงินพรรคหาเสียง แต่พอได้เป็นส.ส. ในวันที่พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน ก็หนีไปหาพรรคอื่นที่อุดมสมบูรณ์ อย่าเป็นนักการเมืองที่หวังแต่ลาภยศมากกว่าอุดมการณ์ทางการเมือง ขอให้รีบไปพรรคเพื่อไทยจะได้สะอาดขึ้น

ส.ส.พรรคเพื่อไทยรายนี้ยังเชื่อว่า หลังจากนี้ไม่น่าจะมี ส.ส.ไหลออกจากพรรคอีก คงสิ้นสุดแค่ 7 คนนี้ พรรคเพื่อไทยไม่ได้มีแต่เลือดไหลออก แต่ที่ไหลเข้าก็มีเยอะแยะ เพียงแต่ขอให้เข้ามาในช่วงที่ยุบสภาไปแล้ว ส่วน ส.ส.อีก 2 คนที่ไม่ได้มาร่วมประชุมพรรคคือ นพ.สุรวิทย์ เนื่องจากติดโควิดตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว พรรครับทราบเป็นที่เรียบร้อย ส่วนนายคมเดชแจ้งเบื้องต้นกับพรรคว่า น่าจะเกิดจากการกดปุ่มลงคะแนนผิด ฟังดูแล้วน่าจะเป็นเรื่องจริง ไม่โกหก เพราะพฤติกรรมนายคมเดชทำงานกับพรรคด้วยดีมาตลอด ไม่เคยมีพฤติกรรมโหวตสวนมติพรรคเลย น่าจะเป็นเรื่องจริง

“นิยม”ไม่เหนียมไปอยู่ภท.แล้ว

ขณะที่นายจักรพรรดิชี้แจงถึงกรณีการโหวตรับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯว่า เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.ในการโหวตลงมติ ปกติแล้วการโหวต พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายที่ผ่านมา ฝ่ายค้านจะงดออกเสียง ไม่เคยลงมติไม่เห็นด้วย แต่เที่ยวนี้พรรคเพื่อไทยตั้งเป้าไม่เห็นด้วย ขัดกับวัฒนธรรมการลงมติในอดีต ดูแล้วไม่น่าจะถูกต้อง ถ้าจะให้ตนโหวตไม่เห็นด้วยตามมติพรรค คงทำไม่ได้ จึงตัดสินใจโหวตสวน และเป็นเรื่องน่าแปลกที่พรรคโหวตไม่รับหลักการ แต่กลับไปร่วมเป็นกมธ. ดูแล้วไม่ค่อยดี ไม่เคยปรากฏมาก่อน

ส.ส.อุดรธานีรายนี้ยังกล่าวว่า หลังจากนี้หากพรรคจะเรียกไปชี้แจงต่อคณะกรรมการบริหารพรรค หรือคณะกรรมการจริยธรรมพรรคพร้อมไปชี้แจง และจะตั้งคำถามกลับด้วยว่า เหตุใดถึงให้โหวตไม่รับหลักการขัดกับวัฒนธรรมการโหวตกฎหมายงบประมาณ พรรคต้องตอบคำถามให้ได้ ไม่ใช่แค่ตอบตน แต่เป็นการตอบข้อสงสัยของประชาชนด้วย ไม่ใช่พนักงานบริษัทที่ใครจะมาสั่งอะไรได้ แต่มาจากประชาชนจึงมีเอกสิทธิ์ในการโหวต

 “ส่วนอนาคตทางการเมืองที่ถูกมองจะไปอยู่พรรคไทยสร้างไทยของคุณหญิงสุดารัตน์นั้น ยังไม่สามารถตอบได้ ให้เป็นเรื่องอนาคต ยังพูดและสรุปอะไรตอนนี้ไม่ได้ ขอให้เป็นไปตามเวลา รวมถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีก็ไม่สามารถตอบล่วงหน้าได้เช่นกันว่าจะโหวตในทางใด เพราะยังไม่ถึงเวลา หากพรรคจะมีมติขับออกจากพรรค เพราะไม่ปฏิบัติตามมติพรรค ยินดีรับบทลงโทษ แต่พรรคต้องมีความชัดเจนตอบคำถามข้อสงสัยของตนให้ได้เช่นกัน” นายจักรพรรดิระบุ

ส่วนนายนิยมได้ออกมาชี้แจงเช่นกันว่า ไม่เห็นด้วยกับมติพรรคให้โหวตไม่รับหลักการ เพราะเรื่องงบประมาณเป็นเรื่องเกี่ยวกับประโยชน์ของประชาชน อย่างไรก็สมควรโหวตให้ หรือเต็มที่ก็งดออกเสียง ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยโหวตงดออกเสียงมาตลอด แต่เที่ยวนี้ให้ไม่รับหลักการ จึงจำเป็นต้องโหวตสวนมติพรรค ส่วนอนาคตทางการเมืองนั้น คงไม่ได้อยู่กับพรรคเพื่อไทยอีก จะไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย เป็น ส.ส.อยากทำงานให้ประชาชน แต่การเป็นฝ่ายค้านไม่มีงบประมาณลงพื้นที่ไปช่วยแก้ปัญหาให้ชาวบ้านได้ ถ้าเป็นรัฐบาลอย่างน้อยช่วยประสานของบประมาณไปแก้ไขปัญหาได้ จึงตัดสินใจไปร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย ถ้าพรรคจะมีมติขับออกจาก ส.ส.ก็พร้อมรับมติพรรค

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ดูจากคะแนนเสียงแล้วทำให้เสียงของรัฐบาลมีความมั่นคง ส่วนที่เพิ่มมา 16 เสียง ไม่ได้เป็นเรื่องของฝ่ายค้านหรือรัฐบาล หาก ส.ส.คนใดเห็นว่ามีงบประมาณที่สามารถนำไปพัฒนาพื้นที่จังหวัดของแต่ละคน มีประโยชน์ต่อประชาชนย่อมมีสิทธิที่จะเห็นชอบ

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าเสียงที่เกินมาเป็นการดีลสำเร็จของพรรคภูมิใจไทย นายอนุทินกล่าวพร้อมหัวเราะอย่างอารมณ์ดีว่า “โอ้โห ให้ราคาขนาดนั้นเลยหรือ พรรคภูมิใจไทยพูดเสมอว่าสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ฉบับนี้”

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และผอ.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะผู้ประสานงานพรรคเล็ก กล่าวว่า เป็นไปตามที่เราคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว และเสียงที่ได้มาเกิดจากหลายภาคส่วน ส่วนหนึ่งได้รับจากข้อสั่งการที่ตัวเองได้รับมอบหมายให้ประสานงานมากกว่า อย่างที่บอก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอยู่แล้ว พรรคเล็กต่างๆ เป็นทีมงานที่รู้จักและสนิทกันมาก

เมื่อถามว่า เสียงของฝ่ายค้านที่หายไปมาก ดูแล้วจะทำให้เกมในสภาและการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ นายสุชาติตอบว่า ดูจากภาพเห็นแล้วว่าเป็นอย่างไร ตนบอกเบื้องต้นอยู่แล้วว่าทำอะไรก็ทำเพื่อพี่น้องประชาชน ไม่มีอะไรที่ทำผิดระเบียบหรือไม่มีข่าวคราวที่ไม่ดี รัฐบาลทำงานด้วยดีมาตลอด

เมื่อถามอีกว่า เสียงส่วนหนึ่งของฝ่ายค้าน เป็นเพราะจะมาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐและพรรคภูมิใจไทยในอนาคตใช่หรือไม่ นายสุชาติระบุว่า อาจจะเป็นช่วงที่นับถอยหลังการเลือกตั้ง ส.ส.บางท่านพยายามที่จะหมุนเวียนไปอยู่พรรคใหม่ หรือที่อยู่ฝ่ายค้านอยากมาอยู่รัฐบาลก็ต้องมีบ้าง ตรงนี้เราไม่สามารถไปกำหนดได้เราไม่รู้ใครเป็นใคร แต่ทุกสิ่งทุกอย่างต้องคิดว่าเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.มากกว่า

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงจำนวนเสียงที่โหวตสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ที่เกินมา 15-16 เสียง และมีกระแสข่าวว่าพรรคภูมิใจไทยไปดีลให้รัฐบาลว่า ไม่ทราบ ต้องถามพรรคภูมิใจไทย แต่อย่างที่เราเข้าใจว่างบประมาณ เป็นกฎหมายสำคัญในการนำไปใช้บริหารราชการแผ่นดิน คงไม่ได้เป็นไปตามมติฝ่ายค้านทั้งหมด เพราะคิดถึงประโยชน์ประเทศชาติเป็นหลัก ไม่ใช่การล็อบบี้ทางการเมือง

เมื่อถามว่า จำนวนเสียงที่เพิ่มขึ้นจะทำให้รัฐบาลมีความมั่นใจในเสียงสนับสนุนการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งหน้าหรือไม่ นายชัยวุฒิตอบว่า ตนเคยพูดมาหลายครั้งแล้วจากการที่ประเมินเสียงของสมาชิกในสภา เชื่อว่ารัฐบาลจะผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปได้ ไม่มีปัญหา

เคลียร์ปมกระทบกระทั่งจบ

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า เมื่อตั้ง กมธ.เรียบร้อย จะเข้าสู่การพิจารณาในวาระ 2 ต่อไป และต่อไปยังวาระ 3 อีกเดือนเศษ คงต้องทำงานหนักกันต่อไปเพื่อจะได้เร่งคลอดงบประมาณปี 66 ออกมา

ถามว่า เมื่อเห็นเสียงรัฐบาลครั้งนี้แล้วสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจไปถึงศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างไร นายวราวุธ กล่าวว่า ต้องดูเป็นกรณีๆ ไป เมื่อจบการอภิปรายงบประมาณแล้ว สมาชิกแต่ละคนอาจมีความเห็นแตกต่างกันไประหว่างงบประมาณกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่สามารถนำมาวัดกันได้ ต้องคอยติดตามดูกันไป แต่อย่างน้อยเป็นความอุ่นใจว่ามี ส.ส.จำนวนหนึ่งที่มีความคิดเห็นในทางที่เรียกว่าสนับสนุนและเห็นคล้องกับรัฐบาล ถือเป็นที่น่ายินดี

นายวราวุธระบุว่า แต่อย่างไรก็ตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ฝ่ายค้านคงจะระดมสรรพกำลังที่มีในการที่จะตั้งข้อสังเกตและอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อฝ่ายค้านทำการบ้านหนัก รัฐบาลเองคงต้องทำการบ้านหนักไม่แพ้กัน แต่ขณะเดียวกัน แน่นอนว่าประมาทไม่ได้ เพราะมีการลงคะแนนมีการอภิปรายทุกครั้งเป็นความสุ่มเสี่ยงทุกครั้งที่ประมาทเมื่อไหร่ก็ร่วงเมื่อนั้น

สำหรับเหตุการณ์กระทบกระทั่งกันระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย กับนายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา ในช่วงค่ำวันที่ 2 มิ.ย.นั้น นายวราวุธยืนยันว่าไม่มีการถึงเนื้อถึงตัวกัน ตนอยู่บนบัลลังก์ยังไม่เห็นเลย ไม่มีอะไรหรอก คุยกันเรียบร้อยแล้ว คนกันเองทั้งนั้น แยกย้ายกันไป ไม่มีอะไร เป็นเรื่องปกติ

"ผมเองได้คุยกับทั้งพี่ณัฐวุฒิและพี่ชาดา ตอนอยู่ในห้องประชุมก็คงมีอาการหงุดหงิดกันทั้งคู่ เมื่อมีการขึ้นเสียงบ้างอะไรกันบ้าง แต่จบแล้วก็เลิกรากันไป ไม่มีอะไร และพูดคุยกับหัวหน้าอนุทินแล้ว ทุกอย่างปกติ ไม่ได้มีอะไร เหมือนปกติทุกอย่าง ไม่ได้มีอะไรเลย มันก็แค่เหตุการณ์หนึ่งเท่านั้น ไม่ได้จะนำไปสู่ความมีปัญหาเรื่องการเมือง ไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง" นายวราวุธย้ำ

ทั้งนี้ ระหว่างการเดินทางกลับออกจากที่รัฐสภา นายอนุทินยังได้โผเข้ากอดนายวราวุธ เพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่มีรอยร้าวระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง

ขณะที่นายอนุทินกล่าวว่า ได้ถามนายชาดาแล้วว่าไม่ได้มีเรื่องกระทบกระทั่งกัน ได้เชิญนายชาดามานั่งรับประทานข้าวต้มร่วมกัน โดยมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ร่วมด้วย นายชาดายืนยันว่าไม่ได้มีการผลักอกกันแต่อย่างใด แต่นายณัฐวุฒิไม่ทราบว่านายชาดาได้รับการโอนคิวมาจากสมาชิกคนหนึ่ง แต่เอกสารในมือของนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ มีชื่อของนายชาดาอยู่แล้ว ปัญหาดังกล่าวคือไม่มีอะไร.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฟ้องต้นตอหมอคางดำ

สภาทนายความฯ เตรียมฟ้องแพ่งบิ๊กเอกชน-หน่วยงานรัฐ ต้นตอ "เอเลี่ยนสปีชีส์"

'อนาคตไกล' ฉะ 'ทักษิณ' แก้ปัญหาตนเอง-เฉลิม ให้ได้ก่อนคุยโวแก้ปัญหาบ้านเมือง

“อนาคตไกล” ฉะ “ทักษิณ ชินวัตร” จะแก้ปัญหาบ้านเมือง แก้ปัญหาตนเองและกรณีของ“เฉลิม อยู่บำรุง” ให้ได้ก่อน แค่ราคาคุยโว โชว์เหนือ ลมปาก เพียงวาทกรรมทางการเมือง

‘เนวิน’รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดมิวสิคัลเทิดพระเกียรติ

“เนวิน” รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดเทิดพระเกียรติ 72 พรรษา แสดง แสง สี เสียง มิวสิคัล “ลมหายใจของแผ่นดิน” โดยบุรีรัมย์ออร์เคสตรา แสดงความจงรักภักดี 28-30 ก.ค.2567 สนามช้างอารีนา บุรีรัมย์