ขาย‘หวยดิจิทัล’ยอดพุ่ง ฟุ้งระบบดี80บาทมีจริง

"กองสลาก" สุดปลื้มเปิดขาย "หวยดิจิทัล" วันแรกยอดพุ่ง!   ประชาชนให้ความสนใจล้นหลาม ยอดขายทะลุ 1.4 ล้านใบจาก 5 ล้านใบ ฟุ้งขายราคาใบละ 80 บาทได้จริง ระบบให้บริการได้เป็นอย่างดีไม่มีล่ม หากถูกรางวัลรู้ผลไม่เกิน 6 โมง รับเงินภายใน 12 ชั่วโมง โอนเข้าบัญชีที่ผูกแอปพลิเคชันเป๋าตังหรือรับที่กองสลาก

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการขายสลากดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ในราคาใบละ 80 บาท ซึ่งเปิดจำหน่ายเป็นวันแรก ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ปรากฏว่ามีคนสนใจเข้าซื้อสลากดิจิทัลกันอย่างคึกคัก ในสื่อโซเชียลมีเดียมีการโพสต์ว่า สามารถซื้อสลากในราคา 80 บาทได้จริง และสามารถซื้อได้หลายใบ เช่น สลาก 5 ใบ ในราคา 400 บาท ถ้าเทียบกับการซื้อสลากรวมชุด 5 ใบในตลาด ที่เฉลี่ยอยู่ที่ 500-600 บาท

นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล  เปิดเผยว่า สำนักงานสลากฯ พอใจในการดำเนินการขายสลากดิจิทัลวันแรก ที่ปรากฏว่ามีคนสนใจซื้อกันอย่างล้นหลาม และระบบแอปพลิเคชันเป๋าตังก็ให้บริการได้เป็นอย่างดี ไม่มีล่ม ซึ่งจากข้อมูลพบว่า ตั้งแต่เวลา 06.00-15.00 น. มีผู้เข้ามาซื้อสลากดิจิทัลแล้วกว่า 1.4 ล้านใบ จากจำนวน 5 ล้านใบ หรือเกินกว่า 10% ไปแล้ว ขณะที่มีคนซื้อรวม 3.51 แสนคน แสดงให้เห็นว่ามีผู้ซื้อเกินว่า 1 ใบเป็นจำนวนมาก เพราะได้สลากในราคา 80 บาทจริง

 “ผลตอบรับของวันแรกที่เปิดขายดีมาก ระบบไม่ล่ม สำนักงานสลากฯ ก็จะค่อยๆ ทยอยดำเนินการไปควบคู่กันระหว่างสลากดิจิทัลและสลากแบบใบให้เกิดความสมดุล โดยในงวดนี้จะมีสลากดิจิทัลขายก่อนแค่ 5 ล้านใบ ส่วนแนวทางการเพิ่มสลากแบบดิจิทัลเป็น 40 ล้านใบใน 2 เดือนนั้น คงต้องพิจารณาความเหมาะสม เพราะสำนักงานสลากฯ เองก็ต้องการให้สลากแบบใบสามารถขายควบคู่กันไปได้ ไม่ได้รับผลกระทบ ต้องดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป วันนี้ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี” นายลวรณกล่าว

ทั้งนี้ สลากดิจิทัลเป็น 1 ทางเลือกที่ให้ผู้ซื้อสามารถมาซื้อสลากได้ในราคา 80 บาทแน่นอน และระบบมีความพร้อมให้ผู้ที่ต้องการซื้อสลากสามารถซื้อได้สะดวก รวดเร็ว ในกรณีที่ถูกรางวัล ก็เลือกขึ้นเงินรางวัลผ่านแอปพลิเคชันได้ทันที นอกเหนือจากโครงการร้านค้าสลาก 80 บาท ที่จะเพิ่มจุดจำหน่าย 1,000 จุดทั่วประเทศไทยได้ภายในเดือน ก.ค.นี้ กว่า 2.5 ล้านใบ ก็จะทำให้มีสลากราคา 80 บาท ขายในตลาดเบื้องต้นแน่นอน รวมทั้งหมด 7.5 ล้านใบ

รายงานข่าวจากสำนักงานสลากฯ ระบุว่า ขณะนี้สำนักงานสลากฯ ทำให้เห็นแล้วว่าสามารถขายสลากในราคา 80 บาทได้จริง ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลต่อร้านค้าที่เดินขายสลากแบบใบ รวมทั้งแพลตฟอร์มขายสลากออนไลน์ของเอกชน ที่ขณะนี้เชื่อว่าจะต้องรอดูท่าทีของสำนักงานสลากฯ รวมทั้งรอให้สลากดิจิทัลทั้ง 5 ล้านใบจำหน่ายได้เกือบหมดก่อน จึงจะสามารถนำสลากมาขายได้ ในกรณีที่ต้องการขายสลากเกินราคา 80 บาท แต่สุดท้ายแล้วสำนักงานสลากฯ จะค่อยๆ ปรับจำนวนสลากดิจิทัลเพิ่มขึ้นให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้ซื้อ ซึ่งจะส่งผลให้แพลตฟอร์มเอกชนไม่สามารถขายเกินราคาต่อไปได้

พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า การซื้อสลากดิจิทัลในกรณีที่ถูกรางวัล ระบบจะมีการแจ้งเตือนไปที่แอปพลิเคชันเป๋าตัง ภายในเวลา 18.00 น. ของวันที่ออกรางวัล โดยระบุว่า ‘ยินดีด้วย! คุณถูกรางวัลงวดวันที่/เดือน/ปี’ จากนั้นให้เลือกใบสลากดิจิทัลที่ถูกรางวัล โดยสามารถเลือกรับรางวัลได้ 2 ช่องทางคือ 1.เลือกรับโดยการโอนเงิน ซึ่งจะโอนเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย ที่ผูกไว้กับแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งในอนาคตจะปรับเปลี่ยนให้สามารถผูกบัญชีธนาคารอื่นๆ ได้ เพื่อความสะดวกของผู้ซื้อ วิธีนี้จะเสียค่าธรรมเนียม 1% และค่าภาษีอากรแสตมป์ 0.5%

2.เลือกมารับเงินรางวัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สนามบินน้ำ โดยต้องกำหนดวัน เวลา ที่ต้องการเข้ามารับเงินรางวัล ทางสำนักงานสลากฯ จะจัดเตรียมสลากแบบใบตัวจริง เพื่อส่งคืนให้กับผู้ซื้อ วิธีนี้จะเสียเฉพาะค่าภาษีอากรแสตมป์ 0.5% โดยยืนยันว่าการกำหนดค่าธรรมเนียมและค่าอากรแสตมป์ ดำเนินการเหมือนกับสลากแบบใบในกรณีที่มาขอขึ้นรางวัล ทั้งกับสำนักงานสลาก หรือธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ และธนาคารกรุงไทย

 “กรณีที่ถูกรางวัลสลากดิจิทัลจะต้องแจ้งในระบบว่าจะเลือกรับเงินรางวัลผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่งภายใน 15 วัน หากไม่แจ้ง จะต้องมาขึ้นเงินรางวัลที่สำนักงานสลากฯ ซึ่งตามกฎหมายกำหนดให้มาขึ้นเงินภายใน 2 ปี ขณะที่สลากดิจิทัลที่ซื้อไว้ จะแสดงอยู่ในประวัติข้อมูลการซื้อ 1 ปี ทั้งนี้ หากเลือกรับเงินรางวัลผ่านการโอนเงินเข้าบัญชีที่ผูกไว้ จะได้รับเงิน โอนหลังจากที่แจ้งภายในระยะเวลา 12 ชั่วโมง ซึ่งยืนยันว่าจากที่ทดสอบระบบการโอนเงินรางวัลไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ขอให้ผู้ซื้อสลากทุกคนไม่ต้องกังวล”

พ.ท.หนุนกล่าวอีกว่า การขายสลากดิจิทัลในวันแรก ปรากฏว่าเลขที่เป็นที่นิยมคือหมายเลขเดียวกันทั้ง 6 หลัก ขายหมดไปตั้งแต่ช่วงเช้า ขณะที่เลขดังอื่นๆ ยังไม่หมด เช่น กรณีเลขท้าย 2 ตัว มีขายสูงสุดถึง 50,000 ใบ ในงวดวันที่ 16 มิ.ย.นี้ ซึ่งมั่นใจว่าเพียงพอต่อความต้องการสำหรับผู้ที่เสี่ยงโชค

ทั้งนี้ สำนักงานสลากฯ ยืนยันว่าการดำเนินนโยบายสลากดิจิทัล ไม่ได้เป็นการรังแกรายย่อยให้ขายไม่ได้ เพราะสลากทุกใบเป็นของรายย่อย สำนักงานสลากฯ ไม่ได้เป็นเจ้ามือขายเอง เพียงแต่เป็นการสนับสนุน จัดหาช่องทางการจำหน่าย ในราคา 80 บาท ที่ได้ประโยชน์ทั้งผู้ซื้อ และ ส่งเสริมรายย่อยที่เป็นผู้ขายให้สามารถวางขายในแพลตฟอร์มเป๋าตัง ซึ่งมีคนเข้ามาหาซื้อได้เป็นจำนวนมาก ไม่ต้องไปเดินขายเอง ขณะเดียวกันยืนยันว่าไม่ได้เป็นการมอมเมา เพราะทุกวันนี้คนซื้อสลากแบบใบ ก็ไม่ได้อั้นจำนวนการซื้ออยู่แล้ว ทุกอย่างยังเป็นการซื้อขายแบบปกติ

อย่างไรก็ตาม จะต้องติดตามต่อไปว่าสลากดิจิทัลมีความต้องการซื้อมากน้อยเพียงใด ก่อนพิจารณาว่าจะเพิ่มจำนวนหรือไม่ ซึ่งเชื่อว่าการขายวันแรกคนอาจจะยังสนใจ เพราะเป็นเรื่องใหม่ ที่สำคัญคือราคา 80 บาท ซื้อง่าย สะดวก คล่อง ตอบโจทย์.