ไทยติดเชื้อ 2.5 พันราย ดับ 34 คน ศบค.ปรับตัวเลขใหม่ เลิกนับผู้ป่วยไม่มีอาการ ลดวันแถลงเหลือเดือนละ 2 ครั้ง "อนุทิน" รับเปิดสถานบันเทิงโควิดพุ่ง คาดแตะหมื่น ชี้ฉีดวัคซีนช่วยได้ ระทึก! สธ.ฟันธงสัปดาห์เจอ "ฝีดาษลิง" ในไทยแน่จากเทศกาลไพรด์ จับตานักเดินทาง 6 ชาติ
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน เวลา 12.30 น. พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค ในฐานะผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,560 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,252 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 2,552 ราย, มาจากเรือนจำ 6 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 2 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 5,605 ราย อยู่ระหว่างรักษา 36,190 ราย อาการหนัก 846 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 417 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 34 ราย เป็นชาย 23 ราย หญิง 11 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 28 ราย มีโรคเรื้อรัง 6 ราย มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 4,457,580 ราย มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 4,391,307 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 30,081 ราย อย่างไรก็ตาม แม้สถานการณ์จะดีขึ้น แต่กลุ่มเป้าหมายหลักที่มีความเสี่ยงและกลุ่มเด็กเล็กควรได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น
ผู้ช่วยโฆษก ศบค.กล่าวว่า ศบค.ขอแจ้งว่าจากปกติที่จะรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อทั้งที่มีอาการและไม่มีอาการ แต่หลังจากนี้จะมีการปรับรายงานเฉพาะผู้ที่มีอาการและเข้ารับการรักษาจากสถานพยาบาลเท่านั้น นอกจากนี้ จะลดการแถลงข่าวของ ศบค. เหลือเดือนละ 2 ครั้ง เป็นทุกวันพฤหัสบดี สัปดาห์เว้นสัปดาห์ และหากสัปดาห์ไหนมีการประชุม ศบค. จะแถลงในวันดังกล่าว ทั้งนี้ เมื่อมีการผ่อนคลายกิจกรรมกิจการต่างๆ อาจจะพบตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น จึงขอให้ดูแลตัวเองแบบครอบจักรวาล ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขจะเตรียมความพร้อมตามหลัก 3 พอ คือ เตียงเพียงพอ ยาและวัคซีนเพียงพอ และบุคลากรทางการแพทย์เพียงพอ ส่วนสถานประกอบ โรงเรียน สถานที่ทำงาน กิจการห้างร้านให้อยู่ภายใต้มาตรการโควิดฟรีเซตติง และไม่จำเป็นต้องตรวจเอทีเคทุกสัปดาห์ จะตรวจเฉพาะเมื่อมีอาการหรือสงสัยว่าติดเชื้อ
พญ.สุมนีกล่าวว่า สำหรับยอดนักเดินทางเข้าไทย 1 มิ.ย. หลังจากปรับระบบเทสต์แอนด์โก และลงทะเบียนผ่าน Thailand pass มีผู้เข้ามาในไทยทางอากาศ 19,767 คน ฉีดวัคซีนครบ 19,713 คน ส่วนใหญ่พบผู้ติดเชื้อน้อยมาก นอกจากนี้ กรมอนามัยรายงานในที่ประชุม EOC มีสถานบันเทิงทั่วประเทศที่ได้รับการประเมิน Thai stop covid 2 plus วันที่ 23-30 พ.ค.65 จาก 3,761 แห่ง มีจำนวน 3,522 แห่ง หรือ 94% ที่ลงทะเบียน โดยทั้งหมดผ่านการประเมิน Thai stop covid 2 plus แล้ว 100% ส่วนพื้นที่สีเขียวและสีฟ้า จำนวนสถานบันเทิงทั้งหมด 3,412 แห่ง ลงทะเบียน 3,196 แห่ง คิดเป็น 94% ทั้งหมดผ่านการประเมิน 100% อย่างไรก็ตาม ศบค.ได้ให้ ศปก.มท. ร่วมกับกรมอนามัย ติดตามสุ่มตรวจเป็นระยะ หากไม่เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย ต้องได้รับการตักเตือน แต่หากยังมีความเสี่ยงต้องปิดชั่วคราวให้ปรับปรุง
ที่รัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจสถานบันเทิงว่า ยอมรับว่าเป็นห่วง เนื่องจากแต่ละสถานที่มีความเสี่ยงเยอะ เพราะใช้เสียงเต็มที่ อาจมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น แต่ทุกร้านมีมาตรการป้องกันเต็มที่ โดยกรุงเทพฯ มีสถานบันเทิงกว่า 300 แห่ง ที่มาขออนุญาตเปิดให้บริการ ได้แจ้งเรื่องการดำเนินการป้องกันแล้ว สิ่งสำคัญคือขอให้ฉีดวัคซีนให้เยอะๆ 3-4 เข็มยิ่งดี ก่อนที่จะไปเที่ยว เพราะต่อให้ติดเชื้อก็ไม่เป็นไร จะไม่มีอาการหนักหรือเสียชีวิต ถ้าไม่ได้ฉีดวัคซีน เข้าไปเที่ยวไม่ได้ หากเจ้าหน้าที่จับได้ถือว่าผิดกฎหมาย ดังนั้นแต่ละร้านต้องคัดกรองและต้องประเมินให้ดี
เมื่อถามว่าจะใช้เวลากี่วันประเมินตัวเลข นายอนุทินกล่าวว่า วงรอบการติดเชื้อประมาณ 3-5 วัน ถ้ามีการติดเชื้อเพิ่มมาเป็นหมื่นคน แสดงว่าเป็นไปตามที่ประเมินว่าจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม แต่ต้องดูคนที่ป่วยหนัก ถ้าจำนวนไม่เพิ่ม และคนที่เสียชีวิตอยู่ในข่าย 608 เท่ากับว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เดินหน้าต่อไปได้ เวลาฉีดวัคซีนไปได้ถึง 140 ล้านโดส อย่าไปกลัว ไม่มีอันตรายแน่นอน หากจะใช้ชีวิตให้เป็นปกติมากที่สุดต้องฉีดวัคซีน คนที่ฉีดเข็ม 3 เกินเวลา 3 เดือนให้ไปฉีดเข็ม 4 คนที่ฉีดเข็ม 4 แล้วให้ไปฉีดเข็ม 5 และต่อไปอาจต้องฉีดกระตุ้นทุกปีจนกว่าจะนิ่ง
ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการประกาศแนวทางการให้วัคซีนเข็มที่ 5 อย่างเป็นทางการ เนื่องจากข้อมูลการฉีดในไทยยังน้อยอยู่ แต่หากผู้ประสงค์จะรับให้ติดต่อได้ที่หน่วยบริการฉีดวัคซีน โรงพยาบาล และสถานพยาบาล ซึ่งพิจารณาระยะเวลาให้วัคซีนและชนิดวัคซีนตามดุลยพินิจของแพทย์ เช่น ผู้ที่อาจไปตรวจระดับภูมิคุ้มกันมาแล้ว พบว่าภูมิคุ้มกันต่ำ หรือผู้ที่จะเดินทางไปต่างประเทศ ส่วนวัคซีนเป็นชนิดใดนั้นจะเป็นไปตามดุลยพินิจของแพทย์ เนื่องจากการเริ่มต้นวัคซีนแต่ละคนต่างกัน รวมถึงจุดประสงค์ที่จะฉีดด้วย เช่น ผู้ที่จะไปประเทศญี่ปุ่นที่กำหนดวัคซีนไฟเซอร์ สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อขอรับได้ หรือผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง แพทย์จะพิจารณาวัคซีนเข็มกระตุ้นให้
ทางด้าน นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผอ.กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ได้สรุปภาพรวมการเฝ้าระวังและคัดกรองโรคฝีดาษวานร หรือฝีดาษลิง ว่า หลายประเทศเริ่มพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิง ในเดือน พ.ค. จากเทศกาลไพรด์ (pride festival) ที่ประเทศสเปน ขณะที่สัปดาห์นี้ประเทศไทยเตรียมจัดงานไพรด์พาเหรด ซึ่งต้องเฝ้าระวังเที่ยวบินตรงจากประเทศที่พบการติดเชื้อในประเทศ จาก 5 ประเทศ คือ แอฟริกา อังกฤษ โปรตุเกส สเปน และแคนาดา รวมทั้งจับตาเยอรมนีเพิ่มเติม ทั้งนี้ ปัจจุบันผู้เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 1 หมื่นคน
“คาดว่าสัปดาห์หน้าจะพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงในไทย เนื่องจากสัปดาห์นี้จะมีการเดินขบวนพาเหรดงานไพรด์ในไทย ที่กรุงเทพฯ ซึ่งจะมีผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเข้าร่วมงาน อาจพบผู้ป่วยเข้ามาอย่างแน่นอน” นพ.จักรรัฐระบุ
เมื่อถามถึงมาตรการที่ต้องเตรียมในการจัดงานไพรด์พาเหรด นพ.จักรรัฐกล่าวว่า ขณะนี้ผู้ที่จัดงานยังไม่ได้ประสานข้อมูลมา แต่ สธ.วางแผนระบบเฝ้าระวังสถานพยาบาลในกรุงเทพฯ พร้อมประสานเครือข่ายผู้ดูแลงานโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพื่อเฝ้าระวังผู้ป่วยที่เข้าไปรักษาในคลินิกเฉพาะทางด้วย แต่ย้ำว่าโรคฝีดาษลิงไม่ได้เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ แต่เป็นโรคติดต่อจากการสัมผัสใกล้ชิดโดยตรง ดังนั้นมาตรการ Universal Prevention ด้วยการเว้นระยะห่างกันจะดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้เข้าร่วมงานไพรด์พาเหรดต้องเฝ้าระวังตนเองต่อไปอีกกี่วัน นพ.จักรรัฐกล่าวว่า หากมั่นใจว่าไม่ได้ใกล้ชิดผู้ที่อาการป่วย ออกผื่นก็ไม่น่ากังวล แต่หากใกล้ชิดกันโดยไม่ได้สังเกต ก็เป็นความเสี่ยง ฉะนั้นหากพบผู้ที่มีอาการผื่นขอให้พามาตรวจที่ รพ. เพื่อยืนยันว่าไม่ใช่โรคฝีดาษลิง ทั้งนี้ ระยะฟักตัวของโรคคือ 5-21 วัน ดังนั้นหากจะเฝ้าระวังตัวเองก็ต้องอย่างน้อย 3 สัปดาห์ หลังจากความเสี่ยงนั้นๆ อาการเบื้องต้น 10 วันแรกจะเป็นไข้ หลังจากนั้นจะเป็นผื่นขึ้น ก็ขอให้รับการตรวจที่ รพ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘จุรินทร์’ เผย8ปัจจัย การเมืองปี68เดือด!
"จุรินทร์" เปิด 8 ปัจจัยการเมืองปี 2568 จับตามีคดีความที่มีผู้ร้องไปยื่นร้องนายกฯ และผู้เกี่ยวข้องไว้ที่ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีเรื่องที่ค้างอยู่อย่างน้อย
‘จ่าเอ็ม’ ผวาขออารักขา
กัมพูชาส่งตัว "จ่าเอ็ม" ให้ไทยแล้ว นำตัวเข้ากรุงสอบเครียดที่ สน.ชนะสงคราม แจ้งข้อหาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เจ้าตัวร้องขอเจ้าหน้าที่คุ้มครองเป็นพิเศษ
เป็นแม่ที่ดีหรือยัง! ‘อิ๊งค์’ เปิดอกวันเด็กสมัยก่อนไม่มีไอแพดโวยถูกบูลลี่
"นายกฯ อิ๊งค์" เปิดงานวันเด็กคึกคัก! เด็กขอถ่ายรูปแน่น พี่อิ๊งค์ล้อมวงเปิดอกตอบคำถามเด็กๆ มีพ่อเป็นต้นแบบ เผยวัยเด็กไม่มีไอแพด โทรศัพท์ ไลน์ พี่มีลูกสองคน
‘บิ๊กอ้วน’ เอาใจทอ. เคาะซื้อ ‘กริพเพน’
ปิดจ๊อบภายในปีนี้! "บิ๊กอ้วน" ไฟเขียว ทอ.เลือก "กริพเพน" มั่นใจคนใช้เป็นคนเลือก รออนุมัติแบบหลังทีมเจรจาออฟเซตกับสวีเดนจบ แจงทูตสหรัฐแล้ว ไทยยันไม่มีนโยบายกู้เงินซื้ออาวุธตามข้อเสนอขายเอฟ
กฤษฎีกายี้กม.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
จับตา ครม.ถกร่าง กม.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ 13 ม.ค.นี้
กสม.ตบปากทักษิณ ซัดปราศรัยเหยียดเชื้อชาติ/‘พท.’ชง‘ลูกอิ๊งค์’คุยพ่อลดดีกรี
"ประธาน กกต." ลั่นพร้อมดูแลเลือกตั้งนายก อบจ. 1 ก.พ.แล้ว