คนละครึ่งเฟส5ไม่ทั่วถึง ‘คลัง’แย้มให้เฉพาะกลุ่ม

“บิ๊กตู่” ผวาดรามา งดไปเซอร์ไพรส์งานเสวนาถามมา-ตอบไปฯ สุพัฒนพงษ์เผย “คนละครึ่งเฟส 5” ไม่ได้ทุกคน เลือกเฉพาะกลุ่ม “อาคม” แย้มอาจถึงเวลาเฟดเอาต์ เพราะเศรษฐกิจเริ่มกระเตื้อง!

เมื่อวันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม เวทีเสวนา "Better Thailand Open Dialogue ถามมา-ตอบไป เพื่อประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม" ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน วันที่สอง พบว่าประชาชนสนใจเข้าร่วมงานและชมไลฟ์สดกว่าวันแรก แต่ในช่วงบ่ายก็ยังเงียบเหงา มีที่นั่งเหลือเกือบครึ่งห้อง

ขณะเดียวกันก็มีการวิพากษ์วิจารณ์การใช้งบประมาณ 30 ล้านบาทในการจัดงานดังกล่าว ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงกับสะบัดหน้าหนีก่อนเดินออกจากวงให้สัมภาษณ์พร้อมกับเดินส่ายศีรษะเมื่อเจอคำถามดังกล่าว

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ ชี้แจงว่า เวทีเสวนานี้ ไม่ได้ใช้งบประมาณจากภาครัฐในการจัด โดยมีการสนับสนุนงบประมาณจากบริษัทในเครือของกลุ่ม ปตท.และภาคเอกชนที่สนใจสนับสนุนเพิ่มเติมในการนำเสนอผลงานของรัฐบาล และสื่อสารถึงโอกาสในการพัฒนาประเทศชาติ

มีรายงานว่า เดิม พล.อ.ประยุทธ์จะเดินทางไปพบปะกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่บริเวณโถงด้านหน้ารอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ในงานดังกล่าว แต่ได้ยกเลิกการเดินทางไปเซอร์ไพรส์ เนื่องจากคณะทำงานเกรงว่าจะถูกดรามา หลังนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯ และ รมว.การต่างประเทศ ติดเชื้อโควิด-19 และ พล.อ.ประยุทธ์อาจเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง

ขณะที่นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ให้สัมภาษณ์ภายหลังเสวนาหัวข้อ "มองเศรษฐกิจโลก สะท้อนเศรษฐกิจไทย" ถึงโครงการคนละครึ่งเฟส 5 ว่า จะรูปแบบไหนก็แล้วแต่ จะเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ไม่ใช่ทั่วไป แต่ก่อนเป็นคนละครึ่งแบบวงกว้าง ตอนนี้กำลังพิจารณาดูอยู่ว่า ถ้าเศรษฐกิจไปได้ การสร้างรายได้จากการเปิดประเทศ การส่งออกไปได้ อาจต้องดูว่ากลุ่มไหน ซึ่งกำลังประเมินอยู่ อาจจะดูเกณฑ์รายได้ เกณฑ์จังหวัด เป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบแล้วยังไม่ดีขึ้น

ส่วนนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง กล่าวว่า โครงการคนละครึ่งเฟส 5 อาจให้บางกลุ่ม เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ต้องไปดูว่ากระทบในเรื่องอะไร ถ้ากระทบในด้านพลังงาน ก็มีมาตรการด้านพลังงาน ซึ่งอาจไม่ได้ใช้เงินกู้ก้อนที่ยังเหลืออยู่

เมื่อถามว่า คนละครึ่งยังไม่จำเป็นต้องออกมาตอนนี้ใช่หรือไม่ นายอาคมกล่าวว่า อย่าใช้คำว่าไม่จำเป็น หมายความว่าต้องค่อยๆ เฟดเอาต์ เพราะถ้าเศรษฐกิจดี คนมีรายได้มากขึ้น ความจำเป็นที่จะเข้าไปสนับสนุนคนละครึ่งอาจน้อยลงไป อาจต้องถอยออกมา

 “ยังตอบไม่ได้ เพราะเศรษฐกิจพอมันดีขึ้นคนก็ไปทำงาน คนที่ใช้คนละครึ่งก็เริ่มมีรายได้จากการทำงานแล้ว แต่โครงการคนละครึ่งเป็นโครงการที่เอาไปช่วยคนที่ตกงาน หรือทำงานอยู่แล้วถูกลดเงินเดือน” นายอาคมกล่าวตอบข้อถามรัฐยังจะช่วยออกครึ่งหนึ่งเหมือนเดิมหรือไม่

วันเดียวกัน นายธนกรยังกล่าวถึงกรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) จะใช้ยุทธการ 3 จ. ‘เจาะ จับ เจอ’ ชำแหละร่างพระราชบัญญัติงบประมาณปี 2566 ว่าเป็นเรื่องปกติของฝ่ายค้านยุคนี้ที่ค้านไปได้ทุกเรื่อง แต่ไม่เคยเสนอแนะแนวทางที่ดีได้สักเรื่องเช่นกัน ซึ่งการจัดทำงบประมาณนั้นเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายและข้อจำกัดในสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งทุกอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ มั่นใจว่ารัฐบาลสามารถชี้แจงได้อย่างแน่นอน การจัดสรรงบประมาณนั้นอาจไม่ตรงใจฝ่ายค้าน แต่เป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้ และตอบโจทย์ตามที่ประชาชนต้องการอย่างแน่นอน

นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร และรองเลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) กล่าวในเรื่องนี้ว่า จุดยืน

เรื่องงบประมาณเป็นเรื่องสำคัญ และเราต้องดูให้ดีที่สุด เราคงไม่มาเล่นการเมืองกัน เราให้ผ่านอยู่แล้ว ส่วนในชั้นคณะกรรมาธิการ (กมธ.) เราจะดูพวกสิ่งที่เกินความจำเป็น ค่อยไปตัดกันอีกที อย่างที่ทำกันอยู่ทุกครั้ง เช่น ประชาชนไม่เอาเรือดำน้ำ เราก็ต้องว่าเป็นกรณีไป

นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรค ศท. กล่าวว่า จะให้ผ่าน เพราะงบประมาณเป็นเรื่องของบ้านเมืองที่จะต้องไปถึงประชาชน แม้เนื้อหาบางอย่างอาจจะไม่ได้เห็นด้วยทั้งหมด แต่ต้องมีการแปรญัตติ และงบประมาณแผ่นดินต้องเดินไปข้างหน้าให้ได้.