‘บิ๊กตู่’อ้อนขอกำลังใจนักเรียน

"บิ๊กตู่" ขอกำลังใจนักเรียน บอกพยายามทำงานเต็มที่ให้สำเร็จ วอนทุกคนช่วยลดปัญหาความขัดแย้งให้มากที่สุด เตรียมร่วมเสวนา “ถามมา-ตอบไป” เพื่อประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม 19 พ.ค.นี้ "ประวิตร" ลั่นอยู่ พปชร.จนกว่าจะตาย โวผลงานเพียบ ระบุส่ง ส.ส.ลงเลือกตั้งต้องหวังชนะ "วราวุธ" มั่นใจ รบ.อยู่ครบเทอม "ยุทธพงศ์" ยัน 23 พ.ค.กินข้าวพรรคเล็กเหมือนเดิม เผย "ธรรมนัส" ยังไม่เลิกนัด ขู่ "บิ๊กป้อม" หาก "ผู้กอง" เบี้ยว เจอร้องยุบพรรคแน่ โวมีข้อมูลพร้อมซักฟอกนายกฯ

เมื่อวันที่ 18 พ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดการติดตามผลการบังคับใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ถนนดินแดง มีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้อนรับ ซึ่้งเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์เดินทางถึงและเข้าไปปฏิบัติภารกิจ ปรากฏว่า กลุ่มนักเรียนเลวจำนวน 3 คน นำโดย น.ส.อันนา อันนานนท์ เดินทางมารอพบเพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกกฎกระทรวงเกี่ยวกับทรงผมของนักเรียน โดยขอให้เป็นสิทธิเสรีภาพของนักเรียนถึงแม้จะมีการอะลุ่มอล่วยแล้ว แต่ยังมีบางโรงเรียนบังคับให้นักเรียนตัดผมทรงนักเรียนเช่นเดิม รวมถึงเรียกร้องให้มีการปฏิรูปการศึกษาปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนและบุคลากรครู 

"เรามาเพื่อขอพบนายกฯ เพราะเดินทางไปพบ รมว.ศึกษาธิการแล้วหลายครั้งแต่ไม่เป็นผล เราไม่ได้ต้องการเจอกับเจ้าหน้าที่ของสำนักนายกฯ หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ เราต้องการให้นายกฯ ได้เห็นข้อเรียกร้องร้อง หากนายกฯ ดำเนินการไม่ได้ ก็ให้พิจารณาตนเอง และลาออกไปซะ อย่าอยู่ในตำแหน่งนี้อีกเลย" ตัวแทนนักเรียนเลวระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่พยายามพูดหว่านล้อม และขอให้เดินทางกลับไปก่อน แต่ก็ไม่เป็นผล และมีความพยายามจะเข้าไปในอาคาร ซึ่งเจ้าหน้าที่หญิงพยายามเจรจาและผลักดันให้ออกไปทำให้เกิดการยื้อยุดเป็นระยะๆ โดย น.ส.อันนาได้แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในการเรียกร้องเสรีทรงผม ด้วยการตัดปลายผม พร้อมชูป้ายข้อความเรียกร้อง

อย่างไรก็ดี ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานในงาน พร้อมชมนิทรรศการเสร็จสิ้นได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนและเดินทางกลับทำเนียบรัฐบาลทันที โดยขบวนรถใช้ทางออกประตูด้านหลังของ ป.ป.ส. เพื่อเลี่ยงการเผชิญหน้ากับกลุ่มนักเรียนเลวที่ปักหลักอยู่ทางด้านหน้า

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์เข้าปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล โดย น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ นำคณะนักเรียนไทยที่ได้รับรางวัลจากการเข้าประกวดและคว้ารางวัลในงานโครงงานวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ระดับนานาชาติ ประจำปี 2022 (Regeneron International Science and Engineering Fair 2022) เข้าพบ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้หลายอย่างเราแก้ไขได้แล้ว หลายอย่างพยายามแก้และกำลังแก้ไข ขณะที่หลายอย่างเริ่มต้นและต้องปรับปรุง โดยประเทศไทยต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ด้วยฝีมือพวกเราทุกคน ขอให้ทุกอย่างที่เริ่มต้นมาทำต่อคิดต่อ ทำให้สำเร็จ แล้วคิดถึงอนาคตของตัวเอง อนาคตของครอบครัวและอนาคตของประเทศชาติอันเป็นที่รักยิ่งของพวกเรา เราคือชาติไทย เราคือคนไทย เรามีชื่อเสียงหลายอย่างในระดับโลก
จากนั้นนายกฯ เดินทักทายเด็กๆ ที่มาร่วมงาน พร้อมกล่าวว่า "ขอให้ช่วยนายกฯ นายกฯ พยายามทำเต็มที่ พยายามทำให้สำเร็จ เป็นกำลังใจให้กันและกัน" และยังกล่าวด้วยว่า "ที่นี่มีแต่หัวกะทิ ไม่ใช่หางกะทิ นายกฯ อยากได้นักวิทยาศาสตร์เก่งๆ"
นอกจากนี้ ภายหลังเสร็จงาน นายกฯยังมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบรัฐบาลพาคณะนักเรียนและผู้ปกครองเดินชมตึกไทยคู่ฟ้าและตึกภักดีบดินทร์เป็นกรณีพิเศษอีกด้วย โดยนายกฯ ยังกระเซ้าเด็กๆ ว่าเผื่อวันหน้าใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี

'ป้อม'อยู่พปชร.จนตาย
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันที่ 19 พ.ค. เวลา 09.00 น. พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นประธานการประชุมเสวนา “ถามมา-ตอบไป เพื่อประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม” ที่รอยัล พารากอน ฮอล์ สยามพารากอน โดยจะกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “อดีต ปัจจุบัน อนาคต ของประเทศไทยที่ดีขึ้นกว่าเดิม” รวมทั้งนายกฯ จะแสดงวิสัยทัศน์ ข้อเสนอแนะ และทิศทางการปรับตัวรับมือเพื่อวางรากฐานรองรับการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ในอนาคตให้สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะต่อไป

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. ทำหนังสือคัดค้านมติคณะกรรมการข้อกฎหมายและข้อบังคับที่ห้ามทำกิจกรรมพรรคหลังไปกินข้าวกับฝ่ายค้านว่า เป็นเรื่องของกรรมการ ไม่ใช่เรื่องของตน ต้องให้กรรมการพิจารณา

พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงการลงพื้นที่พรรค พปชร.ว่า ลงอยู่ตลอด เป็นหน้าที่ของ ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ที่ต้องไปพบปะและให้ความรู้กับประชาชน สนใจเรื่องปากท้องของประชาชน เพื่อให้ทุกคนมีอาชีพและสามารถอยู่ได้ โดยตนลงพื้นที่ทุกจังหวัดอยู่แล้ว

"นโยบายที่เราทำมีเยอะมากที่ต้องทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ช่วยเหลือคนมีรายได้น้อยทุกคน ซึ่งเป็นเรื่องที่โดดเด่นของพรรค พปชร. ที่รัฐบาลทำให้ทุกคนอยู่ได้" พล.อ.ประวิตรกล่าว

ถามว่า มองอย่างไรที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ประกาศชวนคนเสื้อแดงกลับบ้าน พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่มอง ไม่รู้ เพราะพรรคของใครของมัน และฝ่ายความมั่นคงก็ไม่ต้องจับตาความเคลื่อนไหวอะไรของคนเสื้อแดง เพราะทุกคนทำงานให้ประชาชน

ซักว่า พรรค พปชร.มีความมั่นใจว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้กลับมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า การที่เราส่งผู้สมัคร ส.ส. ก็ต้องหวังเป็นธรรมดาเหมือนกับทุกพรรค เพื่อที่จะไปดูแลประชาชน 

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตรจะอยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้กับพรรค พปชร. ไปจนถึงเมื่อใด พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "อยู่จนกว่าผมจะตาย" 

ส่วนนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านจะใช้การพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณเป็นเวทีซ้อมก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า เป็นเช่นนี้ทุกปีไม่ใช่หรือ เพียงแต่บางครั้งการอภิปรายไม่ไว้วางใจเกิดขึ้นก่อน แต่ปีนี้พิจารณางบประมาณก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าประธานสภาผู้แทนราษฎรจะสามารถควบคุมการประชุมให้อยู่ใต้กรอบการพิจารณางบประมาณ ไม่ก้าวล่วงไปถึงวาระอื่น 

"ทุกคนต่อว่าต่อขานรัฐบาลทุกครั้งของการจัดทำงบประมาณ เราพายเรือมาถึงจุดนี้แล้ว แน่นอนว่าจะต้องมีการบอกช้ำดำเขียว แต่ทายานิดหน่อย พักสักหน่อย เดี๋ยวก็หาย แล้วเดินต่อไปได้ ซึ่งยังเชื่อมั่นว่านายกฯ จะอยู่ครบเทอม เท่าที่ดูไม่มีเหตุอะไรที่จะทำให้อยู่ไม่ครบเทอม

ธรรมนัสไม่เลิกนัด พท.

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายสมคิด เชื้อคง  ส.ส.อุบลราชธานี พรรค พท. กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองไทยว่า ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันไม่มีการเปลี่ยนแปลง กองทัพยังไม่ยอมออกจากการเมือง ดังนั้นการเมืองไทยจึงเป็นการต่อสู้กันระหว่างรัฐราชการกับประชาชน ซึ่งเป็นการสู้กันมานานกว่า 80 ปีแล้ว ปัจจุบันก็ย้อนกลับไปสู่วังวนเดิม

 “8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ไร้ประโยชน์ เพราะไม่มีนโยบายที่จะมาวางรากฐาน ให้ประเทศและประชาชน รัฐบาลบริหารประเทศแบบรายวัน บริหารมั่วไปหมด ที่ผ่านมาการรักษาอำนาจไม่ได้มาจากความเชื่อมั่นของประชาชน แต่มาจากการแจกผลประโยชน์ ที่ชาวบ้านรู้กันว่าแจกกล้วย ดังนั้นรัฐบาลจะไปก็เพราะกล้วยนี่แหละ เมื่อใดไม่มีแจกก็อยู่ยาก” ส.ส.พรรค พท.รายนี้ระบุ

ด้านนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรค พท. แถลงข่าวยืนยันการนัดรับประทานอาหารค่ำระหว่างพรรค พท.กับพรรคเล็ก ในวันที่ 23 พ.ค.จะนัดรับประทานอาหารค่ำที่ร้าน The Corner ซอยสุขุมวิท 26 เป็นร้านอาหารที่พรรคเพื่อไทยและพรรคเล็ก เคยรับประทานอาหารค่ำร่วมกันมาแล้วเมื่อวันที่ 28 เม.ย.เหมือนเดิมในเวลา 18.00 น. มีแกนนำพรรคนำโดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค, นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี, น.ส.ชนก จันทาทอง ส.ส.หนองคาย และ น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรค และตน ส่วนพรรคเล็ก มีนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ,  นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่, นายดล เหตระกูล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติพัฒนา

"ยังไม่มีการติดต่อทุกช่องทางจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และเลขาธิการพรรคเศรษฐกิจใหม่ ที่จะยกเลิกนัดรับประทานอาหารค่ำในครั้งนี้ มีเพียงแค่ พล.อ.ประวิตรออกมาพูดว่า ร.อ.ธรรมนัสจะไม่มาเท่านั้น ซึ่งถ้า พล.อ.ประวิตรพูดแบบนี้ แล้ว ร.อ.ธรรมนัสไม่มาจริงจะไปยื่นยุบพรรค พปชร. ถือว่า พล.อ.ประวิตรไปก้าวก่ายแทรกแซงครอบงำพรรคเศรษฐกิจไทยของ ร.อ.ธรรมนัส ทางตรงก็ไม่ได้ทางอ้อมก็ไม่ได้ ดังนั้นถ้า ร.อ.ธรรมนัสไม่มา จะเอาเรื่อง พล.อ.ประวิตร" นายยุทธพงศ์กล่าว

ส.ส.มหาสารคามรายนี้ระบุว่า บรรยากาศจะต้องชื่นมื่นรัฐบาลฝ่ายค้านพูดคุยเรื่องบ้านเมือง โดยเฉพาะท่อส่งน้ำสายหลักภาคตะวันออก ถ้าหลักฐานมันชัดเจนได้แตกหักกันแน่ หลักฐานเป็นเล่มๆ มีอยู่ในมือฝ่ายค้านแล้ว เชิญสื่อมวลชนไปด้วย ให้ดูว่าใครบ้างมาล้มพล.อ.ประยุทธ์ไม่ต้องปิด ไม่ได้กลัว ข้อมูลอย่างนี้ พล.อ.ประยุทธ์อย่ายุบสภานี้ก็แล้วกัน

วันเดียวกัน นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16 กล่าวว่า ขณะนี้กำลังให้ทนายความรวบรวมหลักฐานเพื่อฟ้องดำเนินคดีทางกฎหมายข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ต่อคณะกรรมการกฎหมายและข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ 4 คน ได้แก่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค, นายสุรสิทธิ์ นิติวุฒิวรรักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ, นายประสาน หวังรัตนปรานี และนายทศพล เพ็งส้ม กรณีมีมติลงโทษตัดสิทธิ์ไม่ให้ตนร่วมกิจกรรมพรรค 6 เดือน

"สิ่งที่นายไพบูลย์แถลงกล่าวหาผม อาทิ ไม่มีสำนึกร่วมรับผิดชอบต่อเสถียรภาพพรรค ไม่มีจิตสำนึกในอุดมคติพรรค การตั้งผมเป็นปฏิปักษ์กับพรรค พปชร. การคบค้ากับผู้ประพฤติผิดกฎหมายที่หลบหนีคดี ข้อกล่าวหาเหล่านี้ไม่เป็นความจริง ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงไปหมดแล้ว มติดังกล่าวยังไม่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารพรรค แต่กลับนำมาแถลงข่าว ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง จะให้เวลา 7 วัน หากคณะกรรมการฯ ไม่ถอนข้อกล่าวหาตน จะยื่นฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท ทั้งทางอาญาและทางแพ่ง" นายพิเชษฐกล่าว

ด้านนายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล และรองประธานคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้พิการ ผู้สูงอายุ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ กล่าวถึงกรณีได้ปรึกษาหารือผ่านประธานสภาฯ ไปยังนายกฯ และ รมว.กลาโหม ให้สั่งการกองทัพบกสร้างความชัดเจนเรื่องการฝึกนักศึกษาวิชาทหาร (นศท.)​ ภาคสนามว่า ได้ส่งเรื่องตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา ผ่านมา 3 เดือนไม่มีความคืบหน้าใดๆ มีแต่สร้างความสับสนและกังวลให้กับ นศท.และผู้ปกครอง เพราะโควิดยังคงแพร่ระบาด

"เราจะใช้กลไกสภาทวงคำตอบนายกฯ เอาให้ชัดว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะจากการฝึกเพื่อความมั่นคงของประเทศ กลายเป็นทำลายความน่าเชื่อถือของกองทัพ และส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของมนุษย์" รองหัวหน้าพรรคก้าวไกลระบุ.