โรคประจำถิ่น15มิ.ย. โควิดลดปรับแผนเร็วขึ้น ศบค.จ่อไฟเขียวผับ-บาร์

เตรียมตัวเฮ! สธ.เผยข่าวดีคนไทย โควิดดีขึ้นต่อเนื่อง เดินหน้าเข้าสู่โรคประจำถิ่นเร็วกว่าครึ่งเดือน พร้อมปรับมาตรการให้สอดคล้อง เตรียมดูแลภาวะลองโควิดทุกจังหวัด ขณะที่คนทำงานบันเทิงมีลุ้น ศบค.ชุดใหญ่ไฟเขียวผับบาร์ บางพื้นที่สัปดาห์นี้

 เมื่อวันพุธ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5,633 ราย ติดเชื้อในประเทศ 5,629 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 5,624 ราย, มาจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 5 ราย, มาจากเรือนจำ 3 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 1 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 8,042 ราย อยู่ระหว่างรักษา 60,883 ราย อาการหนัก 1,160 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 568 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 45 ราย เป็นชาย 24 ราย หญิง 21 ราย อายุ 60 ปีขึ้นไป 35 ราย มีโรคเรื้อรัง 9 ราย ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 1 ราย ขณะนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 4,388,610 ราย มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 4,298,132 ราย มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 29,595 ราย

สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด ได้แก่ กทม. 2,488 ราย, สุรินทร์ 204 ราย, บุรีรัมย์ 187 ราย, ขอนแก่น 180 ราย, อุบลราชธานี 161 ราย, ชลบุรี 113 ราย, ร้อยเอ็ด 109 ราย, สมุทรปราการ 99ราย, ยโสธร 88 ราย และระยอง 78 ราย

ขณะที่ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิด-19 มีทิศทางดีขึ้นต่อเนื่อง น่าจะเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ตามกำหนดกว่าครึ่งเดือน จึงให้ทุกหน่วยงานเตรียมวางแผนการดำเนินงานรองรับ โดยเฉพาะเรื่องระบบบริการสาธารณสุข ซึ่งขณะนี้สายพันธุ์โอมิครอนมีความรุนแรงลดลงอย่างมาก ความรุนแรงน้อยกว่าโรคไข้หวัดใหญ่ ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่มีอาการ หรือมีอาการคล้ายไข้หวัด ประกอบกับการฉีดวัคซีนโควิด-19 มีความครอบคลุมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

 “นอกจากนี้ยังเตรียมพร้อมการดูแลภาวะลองโควิด โดยกรมการแพทย์ได้จัดทำแนวทางการคัดกรองและการประเมินอาการเบื้องต้น รวมถึงวางระบบดูแลรักษาติดตามอาการ สิ่งสำคัญคือมีการบูรณาการการรักษาภาวะลองโควิดไปยังทุกแผนกที่เกี่ยวข้อง มีช่องทางการให้คำปรึกษาส่งต่อระหว่างสถานพยาบาล และเก็บข้อมูลผู้ป่วยภาวะลองโควิดรายสัปดาห์หรือรายเดือน ซึ่งจะมีการประชุมร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและผู้อำนวยการโรงพยาบาลทั่วประเทศเพื่อสื่อสารทำความเข้าใจ ให้สามารถเดินหน้าเรื่องนี้ไปในทิศทางเดียวกัน” นพ.เกียรติภูมิระบุ

วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุถึงความคืบหน้าการเสนอ ศบค.ชุดใหญ่ผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด และการผ่อนผันเปิดผับ บาร์ คาราโอเกะ เมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า จะดำเนินการสเต็ปบายสเต็ป ต้องหารือกับทางกรมควบคุมโรคอีกครั้ง แต่ทุกอย่างจะเป็นแนวทางผ่อนคลายให้ประชาชนดำเนินชีวิตได้ ส่วนเรื่องผับบาร์ก็จะมีมาตรการต่างๆ เป็นลำดับ 

 อย่างไรก็ตาม ล่าสุดแหล่งข่าวระดับสูงในกระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยว่า สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยมีแนวโน้มดีขึ้น โดยเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา ทางกระทรวงสาธารณสุขมีการหารือกันเกี่ยวกับการดูแลสถานการณ์ เบื้องต้นอยู่ระหว่างการพิจารณาการปรับพื้นที่สีใหม่ โดยเป็นไปในทางบวก 

  “จะมีการปรับพื้นที่สีเขียว ที่จะอนุญาตให้เปิดผับ บาร์ คาราโอเกะได้ แต่จะเป็นพื้นที่ไหนบ้าง และมีกี่พื้นที่นั้น ยังอยู่ในการพิจารณากัน ซึ่งจะเสนอเข้าที่ประชุม ศบค.ในวันที่ 20 พ.ค.นี้” แหล่งข่าวระบุ

 ด้านสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทยระบุว่า ภาคธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจกลางคืนต้องการให้มีการเปิดผับบาร์ นำร่องใน 28 จังหวัดท่องเที่ยว เริ่ม 1 มิ.ย.นี้ เพื่อขับเคลื่อนภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ครอบคลุมตั้งแต่พ่อครัว นักดนตรี ตลกโชว์ รวมถึงรถรับจ้าง ให้สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ ซึ่งหากเปิดได้ จะสามารถสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 3 แสนล้านบาท 

สำหรับประเทศไทย ขณะนี้แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 สี ได้แก่ สีเหลือง 65 จังหวัด ประกอบด้วย กาฬสินธุ์ กําแพงเพชร ขอนแก่น จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชัยนาท ชัยภูมิ ชุมพร เชียงราย ตรัง ตราด ตาก นครนายก นครปฐม นครพนม นครราชสีมา นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ นราธิวาส น่าน บึงกาฬ บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา พะเยา พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ มหาสารคาม มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ยโสธร ยะลา ร้อยเอ็ด ระนอง ราชบุรี ลพบุรี ลําปาง ลําพูน เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สตูล สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระแก้ว สระบุรี สิงห์บุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลําภู อ่างทอง อํานาจเจริญ อุดรธานี อุตรดิตถ์ อุทัยธานี และ อุบลราชธานี กับพื้นที่สีฟ้า 12 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร กระบี่ กาญจนบุรี ชลบุรี เชียงใหม่ นนทบุรี ปทุมธานี พังงา เพชรบุรี ภูเก็ต ระยอง และสงขลา 

ขณะที่นายคทาวุธ ทองไทย (อ.ไข่ มาลีฮวนน่า) ประธานสมาพันธ์เครือข่ายคนบันเทิงอาชีพแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในวันพฤหัสฯ ที่ 19 พ.ค.นี้ ตนและคณะจะเข้าพบ พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศปก.ศบค.) เพื่อขอหารือในการช่วยเหลือผู้ประกอบการสถานบันเทิง และการเปิดบริการสถานบันเทิงผับบาร์.