อย่าสร้างความขัดแย้ง ‘หน่อย’ติงชวนเสื้อแดงกลับหวั่นปท.เดินไม่ได้ซ้ำรอยอีก

อดีตประธานคนเสื้อแดงย้ำเลิกหลงเชื่อวาทกรรมประชาธิปไตยจอมปลอม ลั่นไม่ยอมเป็นควายให้สนตะพายหมาในคอก ชวนคนเสื้อแดงลาออกจากสมาชิกไปสมัครพรรคป้องสถาบัน "จตุพร" ยันคนเสื้อแดงเป็นแล้วเป็นจนตาย จะกลับ พท.เป็นสิทธิทุกคนจะตัดสินใจ “หญิงหน่อย” ซัดอย่าเล่นการเมืองแบบเก่าสร้างความขัดแย้ง  ประเทศเดินหน้าไม่ได้สุดท้ายเกิดรัฐประหารอีก ลั่นขอเป็นแคนดิเดตชิงนายกฯ เปิดตัว “สุพันธุ์ มงคลสุธี” อดีตประธาน ส.อ.ท.นั่งหัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรค

เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม นางนิตยา นาโล หรือนักสู้ปอสี่  อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคอีสาน ให้สัมภาษณ์ย้ำว่า  วันนี้ตนเองและสมาชิกได้ออกมาต่อต้านพรรคเพื่อไทย (พท.)  อย่างหนัก หลังพรรค พท.จะดึงคนเสื้อแดงมาร่วมเป็นครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งอยากให้คิดทบทวนความหลังด้วยว่า ที่พวกเราคนเสื้อแดงและอดีตคนเสื้อแดงเคยออกมาต่อสู้เพื่อพรรค  พท. จนทำให้หลายคนติดคุก หลายคนเสียชีวิต สุดท้ายมีนักการเมืองคนไหนมาช่วยเหลือพวกเราบ้าง มิหนำซ้ำในปี  2554 พรรค พท.คัดสรรผู้สมัครเป็น ส.ส.แต่ละจังหวัดก็เป็นกลุ่มคนที่ไม่เคยเห็นหัวประชาชนคนเสื้อแดงที่เคยออกมาต่อสู้ด้วยกัน คนสู้กลับถูกปล่อยทิ้ง คนมีเงินกลับได้เป็นผู้สมัคร ส.ส. สุดท้ายแกนนำบางคนกลับได้รับตำแหน่งเป็นถึงรัฐมนตรี ก็ไม่เคยสนใจจะมาช่วยเหลือคนเสื้อแดงที่ได้รับความเดือดร้อน บางคนต้องติดคุกหรือหนีตายออกนอกประเทศ

“วันนี้คุณกลับจะมาถามหาคนเสื้อแดงเพื่อจะมาเป็นครอบครัวเพื่อไทย คุณเคยคิดบ้างไหมว่าพวกเขาเหล่านั้นต้องพบเจออะไรมาบ้าง คุณยังจะมาล้อเล่นกับความรู้สึก พอเสียทีเถอะค่ะกับวาทกรรมสวยหรู แต่แท้จริงแล้วเป็นประชาธิปไตยจอมปลอม ที่ทำเพื่อตัวเองและครอบครัว อย่าเอาประชาชนหรือคนเสื้อแดงที่รักประชาธิปไตยในอดีตมาเป็นเครื่องมืออีกต่อไปเลย ถ้าคุณรักประเทศไทยจริงๆ ต้องหันมาร่วมมือกันสลายสีเสื้อให้เป็นสีเดียวกัน นั่นคือสีแห่งความจงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์” นางนิตยากล่าว

อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคอีสานกล่าวอีกว่า ตอนนี้ได้ส่งสัญญาณไปยังสมาชิกคนเสื้อแดง และอดีตสมาชิกหมู่บ้านเสื้อแดงให้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค แล้วมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะพวกเราถูกวิทยากรและแกนนำหลอกมานานแล้วให้ชังชาติ ชังแผ่นดิน จาบจ้วงหวังล้มล้างพระมหากษัตริย์

ขณะที่นายสมชัย แสงทอง อดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงภาคเหนือ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกับประธานจังหวัดตากและอุตรดิตถ์ว่า ต่อไปพวกเราจะไม่ยอมถูกหลอกอีกต่อไปแล้ว  จะขอทำงานเพื่อลบล้างความผิดที่เคยถูกหลอกให้ดำเนินการมา แม้ว่าไม่ได้กระทำเอง แต่พวกเราก็เป็นเจ้าบ้านที่มีวิทยากรมาปราศรัยหวังล้มล้างสถาบัน วันนี้จึงขอเดินหน้าเปิดหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันให้ครบทั้งภาคเหนือ และได้ประสานงานไปตามคนเสื้อแดง และอดีตสมาชิกหมู่บ้านเสื้อแดงให้ลาออกจากสมาชิกพรรคการเมืองนั้น พวกเราจะไม่ยอมเป็นทาสหรือขี้ข้าให้บุคคลใดบุคคลหนึ่ง ที่ทำทุกวิถีทางที่จะเอาผลประโยชน์เพื่อตนเองและครอบครัว โดยไม่เห็นหัวคนเสื้อแดงที่เคยสู้ถวายชีวิตเพื่อพวกเขา แต่สุดท้ายพวกเราก็ถูกทิ้ง ถูกดำเนินคดีมาอย่างต่อเนื่องและไม่มีใครยื่นมือช่วยเหลือ

"พอกันทีกับคำหลอกลวงที่พวกเราเคยหลงเชื่อ เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือควาย เราไม่อยากเป็นควายหรือเป็นหมาอยู่ในคอกของใครอีกต่อไปแล้ว เราสู้แทบตายเพื่อคุณ แต่สุดท้ายเรากลับถูกมองว่าเป็นเพียงหมาตัวหนึ่งที่ไม่เคยมีคุณค่าในสายตาของพวกคุณ" นายสมชัยกล่าว

ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ  (นปช.) ให้สัมภาษณ์ประเด็นการเมืองภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย (พท.) ประกาศชวนคนเสื้อแดงกลับบ้านว่า คนเสื้อแดงเป็นแล้วเป็นจนตายไม่มีการลาออก ยกเว้นทรยศต่ออุดมการณ์ ทั้งนี้ตลอด 12-15 ปีที่ผ่านมา คนเสื้อแดงเป็นมนุษย์ที่ได้รับความอยุติธรรมมากที่สุด ถูกเข่นฆ่ามากที่สุดและถูกมองเป็นคนผิด อย่างไรก็ตามตนพูดมาตลอดว่า การต่อสู้ของคนเสื้อแดงซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุไม่ได้ต่อสู้เพื่อชัยชนะ แต่ต่อสู้เพื่อลูกหลาน ดังนั้นจึงเป็นสิทธิของอุ๊งอิ๊งที่จะชวนคนเสื้อแดงกลับบ้าน และเป็นสิทธิของทุกคนที่จะตัดสินใจ

เมื่อถามถึงความเห็นต่อกรณีพรรคเพื่อไทยชู น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ กังวลหรือไม่ว่าจะนำไปสู่การรัฐประหารในอนาคต นายจตุพรกล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้ผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไปที่ได้รับคะแนนเสียงจากประชาชนสูงที่สุดสามารถเป็นนายกฯ ได้ และไม่เฉพาะนางสาวแพทองธารเท่านั้น แต่ใครๆ ก็สามารถเป็นได้ ไม่ว่าจะเป็นนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย  คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย  นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แต่กว่าจะถึงวันนั้นยังอีกไกล วันนี้การเลือกตั้งยังไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่  ลับลวงพรางทั้งสิ้น ของจริงยังไม่เปิดเผย

เมื่อถามถึงกรณีมีการเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ สำรอง นายจตุพรกล่าวว่า ยุทธการแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น มองว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  และ พล.อ.ประวิตรครองรักกันมายาวนาน การสร้างความแตกแยกให้สองคนนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย มันไม่เกิดประโยชน์  เพราะต่อให้ร้อยประยุทธ์หรือร้อยประวิตรก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ การเอา พล.อ.ประยุทธ์ลงและเอา พล.อ.ประวิตรขึ้นนั้น เป็นการสร้างความหวังลมๆ แล้งๆ เชื่อว่าสุดท้ายแล้ว พล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตรจะไม่มีวันทะเลาะกัน มีแต่บางคนที่ไปหลงเชื่อ วิธีแก้ปัญหาทางเดียวที่สามารถเป็นไปได้คือทั้ง 3 ป.ต้องไปพร้อมกันทั้งหมด

ขณะที่นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรค พท. กล่าวถึงการทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ว่าทำให้กระแสพรรคเพื่อไทยในพื้นที่อีสานดีขึ้น สังเกตจากมีผู้มาสมัครเป็นสมาชิกครอบครัวเพื่อไทยในพื้นที่ของตนเองเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อคุยกับเพื่อน ส.ส.ทุกพื้นที่ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน หลังจากนี้ น.ส.แพทองธารยังมีเวลาทำงานกับพี่น้องประชาชนอีกนานกว่าจะเลือกตั้ง จะเป็นแม่เหล็กที่ดึงดูดความเชื่อมั่นของพี่น้อง          "ประชาชนกลับคืนมาพรรค ทำให้มั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไปประชาชนจะเลือกพรรคแบบถล่มทลาย ไม่ใช่แค่ภาคอีสานแต่ทั่วประเทศจะเป็นเช่นเดียวกัน มั่นใจพรรคเพื่อไทยจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้แน่นอน"

หญิงหน่อยอัดอย่าเพิ่มขัดแย้ง

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเดินเกมปลุกคนเสื้อแดงให้กลับพรรคว่า ส่วนตัวมองว่าความเห็นต่างทางการเมืองไม่ได้เป็นเรื่องที่ผิด ทุกคนเห็นต่างกันได้  แต่ต้องยอมรับการท้วงติง ไม่ใช่สร้างวาทกรรมให้เกิดความเกลียดชัง เกิดความขัดแย้ง ทำให้ประเทศเดินหน้าไม่ได้ เพราะท้ายที่สุดจะต้องถูกรัฐประหารอีก และกลับเข้าสู่วังวนเดิม ซึ่งติดหล่มแบบนี้มา 15 ปีแล้ว ดังนั้นเราจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นอีก จึงสร้างพรรคไทยสร้างไทยขึ้นมาให้ประชาชนเป็นเจ้าของ และเป็นทางเลือกใหม่ให้กับประชาชน เพราะไม่ได้มองเรื่องผลประโยชน์ของตัวเอง แต่ทำครั้งนี้เพื่อความหวังของคนทั้งประเทศ และจะเป็นภารกิจสุดท้ายของตัวเอง

 “ยืนยันว่าพร้อมสู้ในสนามเลือกตั้ง เพราะมีความจริงใจ  และถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนประเทศ เปลี่ยนพรรคการเมือง สร้างความเปลี่ยนแปลง เพื่อเดินหน้าไปให้ได้ ประชาชนจะต้องเลือกว่าจะติดหล่มเหมือนเดิม หรือเดินหน้าประเทศใหม่  แต่อย่าให้ทหารมายึดอำนาจอีก เพราะสิ่งที่ทำจะจบ” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว

ถามถึงประเด็นพรรค ทสท.จะใช้กลยุทธ์ใดในการสู้ศึกเลือกตั้ง เพราะมีฐานเสียงเดียวกับพรรคเพื่อไทยนั้น คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า พรรค ทสท.เป็นตัวของตัวเอง ถ้าใครเห็นตรงกับอุดมการณ์หรือแนวความคิดของพรรคก็ให้เลือก  แต่จะไม่ขอประเมินเก้าอี้ว่าจะได้ ส.ส.เท่าใด เพราะเป็นวิธีคิดการเมืองแบบเก่าที่ใช้วาทกรรม แต่ต้องพิสูจน์ตัวเอง และมั่นใจถ้าได้เป็นรัฐบาลจะสามารถเปลี่ยนแปลงประเทศให้ดีขึ้นได้  และพร้อมเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อเป็นทางเลือกใหม่

เมื่อถามย้ำว่า ขณะนี้มีการเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ  หลายคน ซึ่งรวมถึง น.ส.แพทองธาร คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า เป็นเรื่องน่ายินดีที่มีคนเสนอตัวเข้ามาทำงานการเมือง ถือว่าดีทั้งนั้น และให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะเดินแนวทางไหนอย่างไร

ส่วนนายสมคิดยังกล่าวถึงข้อเสนอของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่ระบุ 4 เสาหลักการเงินต้องแข็ง อย่าอ่อนให้ฝ่ายการเมืองในเรื่องจัดทำงบประมาณว่า นายสมคิดอยู่ในรัฐบาลเกือบ 4 ปี ทำไมไม่ดำเนินการเรื่องนี้มาแต่ต้น ตอนนั้นมีอำนาจมีหน้าที่ที่จะต้องบริหารบ้านเมือง แล้วมาพูดจาตอนไม่มีอำนาจจะได้ประโยชน์อะไร สะท้อนให้เห็นว่าเวลาอยู่กับรัฐบาล คสช. ท่านไม่กล้าตัดสินใจ ตอนนี้พูดเพียงเพื่อสร้างภาพและหาคะแนนเสียงจากประชาชน นายสมคิดจึงไม่สมควรคิดรับตำแหน่งแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคการเมืองไหน เพราะตอนเป็นรองนายกฯ  ก็พิสูจน์แล้วว่าไม่กล้าทำอะไร เอาเวลาที่มีอยู่ไปเลี้ยงลูกหลานดีกว่า

นายธันวา ไกรฤกษ์ รองโฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวตอบโต้เรื่องนี้ว่า นายสมคิด เชื้อคง ลองใช้กูเกิลเสิร์ชดูว่า ในยุคที่รัฐบาลไทยรักไทยประสบความสำเร็จในการบริหารเศรษฐกิจจนเป็นที่ยอมรับ ใครเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังขณะนั้น หากนายสมคิดอยากสร้างชื่อเสียงให้ตนเองได้เป็นที่รู้จัก ควรตั้งใจทำงานในพื้นที่ให้ดี ไม่ใช่เที่ยวเอาเวลามานั่งดิสเครดิตใส่ร้ายผู้อื่นเพียงเพื่อหวังให้เจ้านายหันมามอง

ด้านนายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์  (ปชป.) ประกาศว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะคว้า ส.ส.ภาคใต้ทั้ง 14 จังหวัด โดยตั้งเป้า 40 เสียงว่า เป็นไปไม่ได้ ภาคใต้ในครั้งต่อไปจะมี 56 เขต พรรค พปชร. 14 เขต พรรค  ปชป. 23-24 เขต และมีพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรคประชาชาติ การที่พรรค ปชป.ประกาศว่าจะกวาดพื้นที่ภาคใต้นั้น คิดว่าให้ไปเอาตัวรอดที่การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.กับ ส.ก.ก่อน ส่วนภาคใต้ประชาชนรู้อยู่แล้วว่าที่ผ่านมามีแต่สร้างภาพอย่างเดียว ไม่เคยทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้ประชาชนชาวภาคใต้เลย

เมื่อถามว่า พปชร.จะใช้กระแสหรือนโยบายอะไรต่อสู้ในสนามการเลือกตั้งภาคใต้ในครั้งหน้า นายสายัณห์กล่าวว่า  ตั้งแต่มีรัฐบาลไม่มีนายกฯ คนไหนที่ให้ความเจริญในภาคใต้เท่ากับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เช่นสะพานข้ามทางแยกต่างระดับต่างๆ ก็สร้างเกือบเสร็จหมดแล้ว โดยเฉพาะที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เชื่อมไป จ.ตรัง ซึ่งสวยงามมาก  และโครงการใหญ่ๆ ที่ค้างอยู่ ถ้าไปดูร่างพระราชบัญญัติ  (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566  โดยเฉพาะใน จ.นครศรีธรรมราชได้งบประมาณเกือบ  6,000 ล้านบาท

เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ของพรรค พท.ที่ประกาศจะชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ได้ ส.ส. 250 เสียง เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายสายัณห์กล่าวว่า เจอ ส.ส.พรรค  พท.มาหลายคนแล้ว คิดว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะต้องยอมรับว่าพรรค พท.ในวันนี้มีสาขาแตกออกไปมาก โดยเฉพาะพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์  ประธานพรรคไทยสร้างไทย ในกรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัดก็ได้ 10-20 เสียงอยู่แล้ว ซึ่งก็จะลดของพรรค พท.ไป

ทสท.เปิดตัวอดีตบิ๊ก ส.อ.ท.

ขณะเดียวกัน คุณหญิงสุดารัตน์ยังเปิดตัวต้อนรับนายสุพันธุ์ มงคลสุธี อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ที่เพิ่งหมดวาระ และได้ดำรงตำแหน่งประธานสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปก และประธานกิตติมศักดิ์สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เข้าพรรค ทสท. โดยจะเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรค

คุณหญิงสุดารัตน์ชื่นชมนายสุพันธุ์ว่า เกิดจากการเป็น SMEs ตัวเล็ก ขยายกิจการและเติบโตจนสามารถนำพาธุรกิจเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นบริษัทมหาชนได้มากถึง 4  บริษัท และทั้ง 4 บริษัทไม่มีสัมปทานรัฐมาช่วยให้เติบโต ที่สำคัญมียอดขายหลายหมื่นล้าน และเจริญเติบโตขึ้นมาด้วยความสามารถของตนเอง เป็นบุคคลที่มีวิสัยทัศน์สูง เป็นคนที่มองอนาคตได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในแง่ของเทคโนโลยีและธุรกิจ รวมถึงเป็นบุคคลที่มีอุดมการณ์ คิดได้และทำเป็น  ซึ่งเป็น DNA ที่ตรงกับตนเอง นอกจากจะเป็นที่ยอมรับของคนในประเทศแล้ว ยังเป็นที่ยอมรับของนานาชาติด้วย

ทั้งนี้ ในการเปิดตัวนายสุพันธุ์เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ  พรรค ทสท.ยังมีนักธุรกิจ เช่น นายสมโภชน์ อาหุนัย บริษัท  Energy Absolute จำกัด, นายสมนึก กยาวัฒนกิจ  บริษัท ตงฮั้ว โฮลดิ้ง จำกัด, นายทวีกิจ จตุรเจริญคุณ ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคเหนือ, นายไพรัตน์ เอื้อชูยศ  รองประทาน สอท, นายเดชบุญ มาประเสริฐ ประธานสภาองค์การนายจ้างธุรกิจไทย รวมถึงคณะผู้บริหารของพรรคไทยสร้างไทย เช่น นายโภคิน พลกุล, นายสมยศ ลีลาปัญญาเลิศ, น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม., นายพงศกร อรรณนพพร, นายอุดมเดช รัตนเสถียร, นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น และนายประวัฒน์ อุตโมท ร่วมต้อนรับด้วย

ด้าน พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)  ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กล่าวถึงกรณี ส.ว.จะมีการหารือถึงเรื่องสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อก่อนโหวตในสภาหรือไม่ว่า ต้องหารือกันเพราะ  ส.ว. 14 คนถือว่าเป็นตัวแทนของวุฒิสภา แล้ว ส.ว.ที่เป็นตัวแทนไปโหวตใน กมธ.วิสามัญฯ ต้องชี้แจงให้เข้าใจเหตุผลว่าทำไมโหวตเอาสูตร 500 สูตร 100 ด้วยเหตุผลอะไร  แต่จะชี้แจงด้วยวิธีการใดค่อยว่ากันอีกทีหนึ่ง

เมื่อถามว่า เสียงในสภาของ ส.ว.จะแตกหรือไม่ เพราะการโหวตในชั้น กมธ.วิสามัญฯ ก็มีความเห็นที่ไม่ตรงกัน  พล.อ.อกนิษฐ์กล่าวว่า ยังไม่ได้เปิดสภาจึงยังไม่ได้คุยกัน  ต้องให้เปิดสภาก่อนถึงจะรู้ว่าเป็นอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าการพิจารณาสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เสียงโหวตในสภาจะเหมือนกับเสียงโหวตในชั้น กมธ.หรือไม่ พล.อ.อกนิษฐ์กล่าวว่าไม่มองอย่างนั้น เพราะมีกฎหมายหลายฉบับที่ กมธ.เสนอมาและถูกแก้ในการประชุมสภา ถูกตีตกไปก็มี ส่วนจะมีโอกาสพลิกไม่ใช่สูตรหาร 100 หรือไม่นั้นก็ยังสรุปไม่ได้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง