"บิ๊กตู่" พอใจผลประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐ สมัยพิเศษ สานความร่วมมือทุกด้าน เผยเชิญประธานาธิบดีสหรัฐ-ผู้นำอาเซียน ร่วมเวทีเอเปกที่ไทยปลายปี 65 ย้ำรัฐบาลมุ่งแก้ปัญหาในประเทศ ขออย่าด้อยค่า เชื่อหากรักสามัคคีทำประเทศเดินไปข้างหน้าได้
เมื่อเวลา 10.45 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) สหรัฐอเมริกา วันที่ 13 พ.ค. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังภารกิจในการเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐอเมริกา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2 ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา ว่าการประชุมครั้งนี้ถือเป็นโอกาสครบรอบ 45 ปีความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับสหรัฐ และสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐมีมาอย่างยาวนาน และความร่วมมือมีมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการแลกเปลี่ยนระดับสูง การทำงานร่วมกันบนพื้นฐานผลประโยชน์ร่วม ทั้งทางการทหาร เศรษฐกิจ ความมั่นคง การค้า การลงทุน รัฐบาลไทยและสหรัฐ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีท่าทีที่สำคัญร่วมกัน ทั้งเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ พลังงาน เทคโนโลยีสะอาด การรับมือการแพร่ระบาดโควิด-19 และโรคอุบัติใหม่ ทั้งมิติสาธารณสุข เพราะต้องการสร้างห่วงโซ่ที่เข้มแข็งในประเทศไทย เพื่อลดผลกระทบกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ภายใต้โมเดลเศรษฐกิจ BCG ของไทย ตลอดจนการพัฒนาที่ยั่งยืน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้ ได้มีโอกาสปฏิสัมพันธ์กับนายโจ ไบเดน และผู้นำระดับสูงของสหรัฐ และภาคธุรกิจเอกชนสหรัฐ ที่จะได้ร่วมกันขับเคลื่อนฟื้นฟูการเจริญเติบโตของภูมิภาค พร้อมเชิญชวนให้มาร่วมลงทุนในไทย เพื่อให้เกิดการกระจายตัวของห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐาน โดยเตรียมที่จะดูแลกฎกติกา สิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจ โอกาสนี้ได้เชิญสหรัฐและผู้นำชาติอาเซียนเข้าร่วมการประชุมเอเปกที่ไทยเป็นเจ้าภาพในเดือน พ.ย.65 นี้ ส่วนใหญ่ตอบรับ แต่ต้องรอการยืนยันอย่างเป็นทางการ
นายกฯ กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้ ไทยยังผลักดันขอให้สหรัฐและผู้นำอาเซียนปรับเปลี่ยนเรื่องของการมุ่งเอาชนะ มาเน้นดูแลเรื่องมนุษยธรรมด้วย ซึ่งครอบคลุมทุกเรื่อง ไม่เฉพาะเรื่องของสงครามเท่านั้น และบทบาทของไทยในภูมิภาคจะเน้นลดความขัดแย้ง ลดการเผชิญหน้า และพร้อมจะเอื้อกับทุกประเทศในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ไทยยังเสนอไปยังประเทศมหาอำนาจทั้งหลายว่าต้องหาแนวทางอย่างไรเพื่อให้โลกเกิดความสงบสุขและดูแลประชากรโลกให้มีความสุขและปลอดภัย โดยส่วนตัวเชื่อว่าปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในขณะนี้จะสามารถยุติได้ในเร็วๆ นี้
ส่วนเรื่องปัญหาพลังงาน ยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อหลายประเทศ จนทำให้จีดีพีปรับตัวลดลง ซึ่งรัฐบาลได้เข้าไปดูแลทุกภาคส่วนอย่างดี แต่หากจะให้การช่วยเหลือส่วนใดส่วนหนึ่งมากเกินไป ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อภาคส่วนอื่นได้ ดังนั้นทุกฝ่ายต้องมองไปข้างหน้า และไทยเองได้ขอความร่วมมือกับสหรัฐในการผลิตและใช้พลังงานดิจิทัล EV เพื่อแก้วิกฤตพลังงาน ปัญหาสินค้าขาดแคลน และความยากจน ซึ่งกลุ่มบุคคลที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือผู้มีรายได้น้อย พร้อมขออย่าด้อยค่ากันและกันในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพราะหากมีความรักความสามัคคี ก็จะทำให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้าได้
ต่อมาเวลา 15.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ เข้าร่วมการประชุมหารือระหว่างผู้นำอาเซียนกับนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุม
นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณประธานาธิบดีสหรัฐ และบอกว่าที่ประชุมควรร่วมกันมองไปข้างหน้า และเดินหน้าไปสู่ความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน โดยเป้าหมายสำคัญที่สุด คือการพัฒนาภูมิภาคที่มีสันติภาพ ความเข้มแข็ง พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง เพื่อก้าวต่อไปสู่ยุค Next Normal ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน พร้อมเสนอให้อาเซียนกับสหรัฐมุ่งสร้างภูมิทัศน์ใหม่ให้ภูมิภาคและโลกใน 3 เรื่อง ดังนี้
1.“ภูมิทัศน์ด้านความมั่นคงที่เอื้อต่อการฟื้นตัวและการเติบโตอย่างยั่งยืน” โดยสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อมีสถาปัตยกรรมในภูมิภาคที่เข้มแข็ง และบรรยากาศของความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน นายกรัฐมนตรียินดีที่ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ฉบับใหม่ของสหรัฐ ให้ความสำคัญกับอาเซียน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการดำเนินยุทธศาสตร์ดังกล่าว ตลอดจนข้อริเริ่มอื่นๆ อาทิ AUKUS และกลุ่มภาคี Quad จะเป็นไปในทิศทางที่สร้างสรรค์ สนับสนุนความเป็นแกนกลางของอาเซียน และมุมมองอาเซียนต่ออินโด-แปซิฟิก
นายกรัฐมนตรีหวังว่า ผู้เล่นสำคัญต่าง ๆ รวมถึงประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐ ซึ่งเป็นมิตรประเทศและหุ้นส่วนที่สำคัญของอาเซียนมาอย่างยาวนาน จะทำงานร่วมกันเพื่อหาทางออกต่อความท้าทายที่เปราะบางและซับซ้อนได้อย่างเหมาะสมและสร้างสรรค์ให้แก่ประชาคมโลก โดยอาเซียนพร้อมจะมีบทบาทในฐานะเวทีหลักของภูมิภาคที่จะเชื่อมโยงผู้เล่นทุกคนเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างภูมิรัฐศาสตร์ที่สงบสุข
2.“ภูมิทัศน์ด้านเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยดิจิทัลและห่วงโซ่อุปทานที่เข้มแข็ง” นับตั้งแต่การระบาดของโรคโควิด-19 อาเซียนมีผู้บริโภคดิจิทัลรายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 60 ล้านคน ซึ่งบ่งชี้ว่าอาเซียนจะเติบโตสู่การเป็นตลาดดิจิทัลที่สำคัญของโลกในอีกไม่ช้า ไทยสนับสนุนการขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างอาเซียน-สหรัฐ ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในภูมิภาคผ่านกลไกของ USDFC โดยมุ่งเน้นให้ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้ ตลอดจนร่วมกันเพิ่มขีดความสามารถด้านดิจิทัลให้แก่แรงงานและผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่ม MSMEs และสตาร์ทอัป เพื่อให้สามารถแข่งขันในเศรษฐกิจดิจิทัลได้
นอกจากนี้ โรคโควิด-19 ได้ตอกย้ำถึงความสำคัญของการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานที่เข้มแข็ง โดยในระยะเร่งด่วน นายกรัฐมนตรีเสนอให้อาเซียนและสหรัฐเร่งหารือช่องทางในการเชื่อมโยงระบบ ASEAN Single Window เข้ากับระบบนำเข้า-ส่งออกของสหรัฐ เพื่อให้การเคลื่อนย้ายสินค้าเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าจำเป็น และในระยะยาว เชื่อมั่นว่าอาเซียนมีศักยภาพในการเป็นส่วนสำคัญของห่วงโซ่อุปทานของสหรัฐได้ โดยเฉพาะสาขายานยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมการแพทย์และเวชภัณฑ์ และเทคโนโลยีชีวภาพ ทั้งนี้ ไทยมีเขต EEC ซึ่งมีการพัฒนาอุตสาหกรรมเหล่านี้ และโลจิสติกส์ที่ทันสมัย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างขีดความสามารถให้กับภูมิภาคด้วย
3.“ภูมิทัศน์เพื่อการดำเนินการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีพลังมากขึ้น” โดยไทยเห็นว่าทุกประเทศต้องร่วมกันขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมความมั่นคงของมนุษย์ ในส่วนของไทยใช้โมเดลเศรษฐกิจ BCG เป็นแนวทาง และผลักดันให้เป็นแนวคิดพื้นฐานในการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทยในปีนี้ ภายใต้หัวข้อหลัก “OPEN.CONNECT.BALANCE.” ซึ่งสอดคล้องกับสหรัฐ ที่ให้ความสำคัญและสามารถสนับสนุนข้อริเริ่ม Build Back Better World ได้เป็นอย่างดี
นายกรัฐมนตรีเชื่อว่า แนวทางที่ได้เสนอมาทั้งหมดนี้ จะช่วยผลักดันให้ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างอาเซียนกับสหรัฐก้าวไปสู่บทใหม่ และเป็นการพิสูจน์ว่าความร่วมมือของอาเซียนและสหรัฐจะยังมีความสำคัญ และมีส่วนในการส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคต่อไป พร้อมยังยินดีที่จะให้การต้อนรับประธานาธิบดีสหรัฐ ในการเข้าร่วมการประชุมผู้นาเขตเศรษฐกิจเอเปกที่กรุงเทพฯ ในช่วงปลายปีนี้
ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ เวลา 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางออกจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ไปยังท่าอากาศนานาชาติอินชอน กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี เพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศไทย โดยจะเดินทางถึงประเทศไทยในช่วงเช้าของวันที่ 15 พ.ค.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'มาริษ' ขอบคุณนานาชาติเลือกไทยนั่งคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ
'รมว.กต.' ขอบคุณ หลังไทยได้รับเลือกนั่ง HRC วาระ 2568-2570 ยืนยันจะเป็นสะพานเชื่อมความแตกต่างของชาติสมาชิก แสดงความมุ่งมั่นส่งเสริมสถานะประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชนไทยให้เป็นที่ยอมรับ
'ดร.ธรณ์' ชี้มหาพายุเฮอริเคน 'มินตัน' สภาพอากาศสุดขั้ว คนอเมริกานับล้านต้องอพยพหนี
ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า
'ภูเก็ต' เจ๋ง! คว้า 2 รางวัลโลก สร้างชื่อเสียงประเทศไทย
ข่าวดี! 'ภูเก็ต' คว้ารางวัล 2 รางวัลใหญ่ สร้างชื่อเสียงประเทศไทย 'เมืองเทศกาลโลก' ปี 2024 พ่วงงาน 'ประเพณีถือศีลกินผัก'
'มาริษ' พบ 'ไบเดน' ย้ำสัมพันธ์ไทย-สหรัฐแน่นแฟ้น
'มาริษ' พบ 'ไบเดน' ย้ำความสัมพันธ์ 2 ประเทศ ยืนยันไทยพร้อมทำงานร่วมกับสหรัฐให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น พร้อมขอบคุณต้อนรับอบอุ่น
กอล์ฟ'เพรสซิเดนท์ คัพ 2024' ทีม'นานาชาติพบอเมริกา' ทรูวิชั่นส์ถ่าย26ก.ย.นี้
การแข่งขันการหวดวงสวิงส่งท้ายเดือนกันยายน กอล์ฟ เพรสซิเดนท์ คัพ 2024 กับประเภททีม ที่เป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีระหว่างทีมนานาชาติ (ยกเว้นยุโรป) เจ้าภาพ พบกับทีมสหรัฐอเมริกา วันที่ 26 – 30 กันยายนนี้ จากมอนทรีออล ประเทศแคนาดา ซึ่งจะเป็นการพิสูจน์กันอีกครั้งว่า ตำแหน่งแชมป์ปีนี้จะเป็นของทีมใด
ทีมบอลอเมริกาตั้ง 'โปเช็ตติโน' คุมทัพ ไม่หวั่นแม้ไร้ประสบการณ์ระดับทีมชาติ
สหพันธ์กีฬาซอคเกอร์แห่งสหรัฐอเมริกา แถลงการณ์แต่งตั้ง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ ขึ้นแท่นเฮดโค้ชคนใหม่อย่างเป็นทากงาร แทนที่รักษาการ ไมกีย์ วาราส โดยเซ็นสัญญาเบื้องต้นถึงปี 2026