กมธ.กม.ลูกดับฝันพรรคเล็ก เคาะใช้สูตร 100 หารคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เปิดช่องนับคะแนนเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรได้ แก้ปัญหาส่งบัตรล่าช้ากลายเป็นบัตรเสีย ไฟเขียว "ถ่ายภาพ-คลิป-ไลฟ์สด" ระหว่างนับคะแนน เปิดชื่อ 11เสียงข้างน้อยค้านสูตร 100 หาร "หมอระวี” ยอมรับพรรคเล็กสู้ไม่ไหว แต่ไม่ยื่นตีความอีก น้อมรับคำวินิจฉัยบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ไม่ละเมิดสิทธิ "วิษณุ” ฟันธง กม.ลูกประกาศใช้ไม่ทันเดือน ก.ค.
ที่รัฐสภา วันที่ 12 พฤษภาคม นายสมชัย ศรีสุทธิยากร โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ…. รัฐสภา แถลงผลการประชุม กมธ. ว่า สัปดาห์หน้าจะเป็นการประชุมนัดสุดท้าย โดยวันพุธที่ 18 พ.ค. จะมีการเชิญคนแปรญัตติเข้ามา และในวันพฤหัสบดีที่ 19 พ.ค. จะเป็นการสรุปสุดท้ายก่อนส่งให้นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เพื่อบรรจุเข้าระเบียบวาระ 2-3 ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นช่วงต้นเดือนมิถุนายน
ทั้งนี้ กมธ.ได้หารือเกี่ยวกับการนับคะแนนการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ได้ข้อสรุปว่า ให้เปิดช่องกระทรวงการต่างประเทศร่วมกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สามารถนับคะแนนนอกราชอาณาจักรได้ในประเทศที่มีความพร้อม และส่งเพียงแค่ผลนับคะแนนกลับมาที่ไทย ส่วนหลักฐานอื่นๆ สามารถส่งตามหลังมาได้ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาบัตรเลือกตั้งที่นำกลับมานับคะแนนที่ไทยไม่ทัน เหมือนอย่างการเลือกตั้งปี 2562 บัตรเลือกตั้งจากประเทศนิวซีแลนด์มาไม่ทันทำให้กลายเป็นบัตรเสีย
นายสมชัยกล่าวว่า ขณะที่ปัญหาการนับคะแนนที่มีวิธีปฏิบัติแตกต่างกันของกรรมการแต่ละหน่วย เช่น บางครั้งไม่อนุญาตให้ประชาชนที่มาสังเกตการณ์การนับคะแนนถ่ายภาพ ถ่ายคลิป หรือไลฟ์สด กมธ.จึงเห็นว่าเพื่อความโปร่งใส จึงให้ประชาชนสามารถถ่ายภาพ ถ่ายคลิป หรือไลฟ์สดขณะการนับคะแนน แต่ต้องไม่ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการประจำหน่วย โดยได้เขียนเพิ่มเติมไว้ในกฎหมายให้เกิดความชัดเจน อยู่ในสายตาประชาชน ลดการโต้เถียงกัน
นอกจากนี้ยังแก้ไขในกรณีเมื่อแต่ละหน่วยได้ผลคะแนนแล้วกำหนดให้ กกต.ประจำเขตนำผลคะแนนของรายหน่วยประกาศขึ้นเว็บไซต์ กกต.จังหวัดภายใน 72 ชั่วโมงหลังปิดหีบ เพื่อให้ตรวจสอบได้ว่าได้คะแนนเท่าไหร่ เพราะที่ผ่านมาเกิดปัญหาการหาคะแนนรายหน่วยยากมาก มีการโยนกันไปมาระหว่าง กกต.ส่วนกลางกับ กกต.จังหวัด จึงถือว่าเป็นการออกแบบใหม่
นายสมชัยกล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังมีการลงมติในประเด็นที่สำคัญ กรณีวิธีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยเสียงส่วนใหญ่ของ กมธ.เห็นด้วยกับสูตร 100 หาร เห็นด้วย 32 เสียง ไม่เห็นด้วย 11 เสียง และงดออกเสียง 2 เสียง
เมื่อถามว่า เมื่อสิ้นสุดกระบวนการวาระ 3 ของรัฐสภาแล้ว จะไปยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้พิจารณาว่ากฎหมายลูกขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายสมชัยกล่าวว่า คงไม่ร้อง เพราะหากร้องก็จะทำให้กระบวนการล่าช้าออกไปอีกประมาณ 1 เดือนถึง 1 เดือนครึ่ง
ถามถึงท่าทีของ ส.ว.ว่าจะร้องศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายสมชัยกล่าวว่า ท่าทีของ ส.ว.ไม่ชัดเจน แต่น่าจะกังวลในเรื่องเทคนิคทางกฎหมาย เช่น มาตรา 93 และมาตรา 94 ที่เกี่ยวกับ ส.ส.พึงมียังคงอยู่
นายสมชัยยังชี้แจงกรณีลงมติไม่เห็นด้วยกับสูตร 100 หารว่า ตนมาในนามของพรรคเสรีรวมไทย ซึ่งที่ผ่านมา ส.ส.ของพรรคคือ พล.ต.ท.วิศณุ ม่วงแพรสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้ยื่นแปรญัตติให้สูตรคำนวณใช้แบบ 500 หาร ดังนั้นเมื่อตนมาในนามของพรรคนี้ ก็ต้องยืนตามคำแปรญัตติ
เปิด 11 เสียงค้านสูตร 100 หาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับมติไม่เห็นด้วย 11 เสียง ประกอบด้วย จากพรรคการเมือง 2 เสียงคือ นายสมชัย ในสัดส่วนพรรคเสรีรวมไทย และ นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ ส่วนที่เหลืออีก 9 เสียง เป็น ส.ว.ทั้งหมด ได้แก่ พล.ร.อ.พัลลภ ตมิศานนท์,นางกาญจนารัตน์ ลีวิโรจน์, พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ, นางสุวรรณี สิริเวชชะพันธ์, นางวรารัตน์ อติแพทย์, น.ส.ปิยฉัฏฐ์ วันเฉลิม, พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์, นายกิตติ วะสีนนท์ และ พล.อ.ต.เฉลิมชัย เครืองาม ส่วนงดออกเสียง 2 เสียง ได้แก่ นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธาน กมธ. และนายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ส.ว.
นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษก กมธ.วิสามัญฯ กล่าวถึงกรณีที่ กมธ.มีมติให้ใช้สูตร 100 หารคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ว่า พรรคเล็กยังมีโอกาสได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จากสูตรนี้ 3-4 พรรค เพราะคะแนนต่อ 1 คนค่อนข้างสูง สำหรับแนวทางของพรรคเล็ก หากจะสู้ต่อคือต้องขยายฐานสมาชิกเพิ่ม และต้องทำงานหนักขึ้น แต่หากสู้ไม่ไหว ก็อาจไปรวมกับพรรคใหญ่ที่มีแนวทางเดียวกัน ยังถือว่ามีทางออกสำหรับพรรคเล็กอีกมาก
“การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นจะไม่เหมือนครั้งที่ผ่านมา เป้าหมายของเราต้องการให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง เพื่อทำนโยบายตอบสนองพี่น้องประชาชนได้ ไม่ใช่เป็นเบี้ยหัวแตก พอเป็นรัฐบาลก็ทำงานไม่ได้หานโยบายไม่เจอ ซึ่งพรรคเล็กจะอยู่ได้ต้องปรับตัว ต้องเหนื่อย และทำคะแนนพื้นฐานให้มากขึ้น ส่วนที่พูดกันว่าพรรคเพื่อไทยจะได้เปรียบ คงไม่เป็นเช่นนั้นถ้าไม่ทำงาน แต่ที่ได้เปรียบอาจเป็นตรงที่พรรคใหญ่ทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคพลังประชารัฐ มีสมาชิกพรรคจำนวนมากอยู่แล้ว แต่พรรคเล็กจะเหนื่อยหน่อย” นายสมคิดกล่าว
ก่อนหน้านั้น นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะกมธ.วิสามัญฯ กล่าวถึงการคำนวณสัดส่วน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ว่าภายหลังเจตจำนงในการแก้ไขรัฐธรรมธรรมนูญเปลี่ยนไป คือให้มี ส.ส.เขต 400 คน และใช้สูตรหารด้วย 100 สำหรับพรรคก้าวไกลได้มีการหารือและสรุปร่วมกันในประเด็นดังกล่าวแล้วว่ากรรมาธิการจากพรรคก้าวไกลทั้ง 3 เสียง พร้อมที่จะลงมติให้ใช้สูตรคำนวณที่หารด้วย 100
นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะ กมธ. กล่าวว่า พรรคพร้อมสู้ทุกกติกาการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ และในอนาคตหากบ้านเมืองมีความเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น และกติกาของรัฐธรรมนูญถูกแก้ไขเป็นบางส่วนหรือทั้งฉบับ ก็ให้เป็นอีกเรื่องหนึ่งในการตัดสินใจในอนาคต
พรรคเล็กทำใจไม่ยื่นตีความอีก
ด้าน นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวว่า จะหารด้วย 100 หรือ 500 ตนในฐานะตัวแทนกลุ่มพรรคเล็กก็จะพยายามสุดความสามารถ ทั้งนี้ไม่ว่าผลจะออกมาหารด้วย 100 หรือ 500 ฝ่ายที่แพ้ก็คงจะสงวนคำแปรญัตติ ตามขั้นตอนกฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับ รัฐสภาจะต้องส่งไปยังองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้อง คือ ศาลรัฐธรรมนูญและ กกต. พิจารณาว่ามีประเด็นใดบ้างที่มีปัญหาทางกฎหมาย ซึ่งหากทั้ง 2 องค์กรไม่มีความเห็นเป็นอย่างอื่นก็ถือว่าจบ ดังนั้นในขั้นตอนการยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ตนเข้าใจว่าฝ่ายที่แพ้ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายหาร 100 หรือ 500 คงจะได้มีการนำเสนอข้อมูลส่งไปประกอบการพิจารณา และคาดว่าจะไม่มีการยื่นให้ศาลตีความเอง
นพ.ระวีกล่าวถึงทิศทางการเมืองของกลุ่มพรรคเล็กว่า ทางกลุ่มพรรคเล็กทั้งในและนอกสภาคงรอความชัดเจนในการพิจารณาวาระ 3 ว่าสุดท้ายจะออกมาเป็นอย่างไร จะใช้วิธีคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อโดยหารด้วย 100 หรือ 500 ซึ่งหากผลออกมาว่าหารด้วย 500 ก็เชื่อว่ากลุ่มพรรคเล็กจะเดินหน้าลงสนามเลือกตั้งต่อไป แต่หากออกมาให้หารด้วย 100 ก็เชื่อว่าบางพรรคคงจะยุบไป และบางพรรคก็คงควบรวม เพราะไม่สามารถสู้ไหว เนื่องจาก 1 ส.ส.บัญชีรายชื่อจะต้องได้คะแนนเฉลี่ยถึง 370,000 เสียง ในขณะที่ ส.ส.เขตได้คะแนนเพียงกว่า 20,000 ก็ชนะแล้ว ส่วนพรรคพลังธรรมใหม่นั้นยืนยันว่าจะเดินหน้าสู้ต่อ
นพ.ระวีกล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพ ว่า สงครามนี้จบแล้ว ตนและทีมกฎหมายได้ใช้ความพยายามสุดความสามารถแล้ว แต่เมื่อศาลมีคำวินิจฉัยอย่างไรก็เคารพต่อศาล และจะไม่มีการดำเนินการใดต่ออีก และขอแสดงความเสียใจกับประชาชนที่ยังต้องการให้มีบัตรเลือกตั้งใบเดียว ขณะเดียวกันก็ขอแสดงความยินดีกับพรรคการเมืองและบุคคลที่ต้องการให้เป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ สำหรับกลุ่มพรรคเล็กเอง เมื่อรัฐธรรมนูญเป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบแล้ว ตอนนี้ก็ต้องสู้ในกรอบรัฐธรรมนูญที่เป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง นพ.ระวี มาศฉมาดล ขอให้ศาลพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ว่าเมื่อศาลไม่รับก็เดินไปตามที่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้แล้ว ตอนนี้เท่ากับใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้เคยบอกกฎหมายลูกจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ค. ไทม์ไลน์ตอนนี้ไม่สามารถเป็นเช่นนั้นได้แล้วใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่าจะประกาศได้ทัน เพราะตอนนี้ไม่รู้กฎหมายเข้ารัฐสภาเมื่อใด และจะโหวตวันไหนก็ไม่ทราบ อีกทั้งพิจารณาเสร็จแล้วยังต้องส่งให้ กกต.พิจารณาใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ถ้าไม่มีการแก้อะไรก็นำขึ้นทูลเกล้าฯ ตามกรอบเวลา 90 วัน ดังนั้นจึงไม่ต้องคาดการณ์ อย่างไรก็ไม่ใช่เดือน ก.ค. อย่างไรก็ตามหากใครมีข้อสงสัยกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา ยังสามารถยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ตลอด อาจจะตั้งคำถามในเรื่องมาตราใดมาตราหนึ่งไม่ได้ตั้งเหมือนที่ นพ.ระวีตั้งคำถาม
เมื่อถามว่า หากกฎหมายยังไม่ผ่านรัฐสภา ถ้ายุบสภาจะลำบากใช่หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ถ้ากะทันหัน เร็วลำบาก เมื่อถามว่าแต่ถ้ากฎหมายผ่านรัฐสภาไปแล้วมีการยุบสภา กฎหมายยังสามารถเดินต่อไปได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ใช่
"พิเชษฐ"สารภาพคุยกับ"ทักษิณ"
นายวิษณุยังให้สัมภาษณ์วาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม จะเริ่มตั้งแต่วันที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินเมื่อปี 2557 ได้หรือไม่ ว่าไม่ได้เกี่ยวกันเลย คนละประเด็นกัน ตอนนั้นเมื่อเข้ามาอย่างไรก็ต้องยื่น ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. ของรัฐธรรมนูญปี 2557 แต่การนับวาระ 8 ปีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ซึ่งเพิ่งมาบัญญัติในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แต่ในรัฐธรรมนูญปี 2557 ไม่ได้บัญญัติเรื่องวาระ 8 ปี จึงไม่เห็นว่าเป็นประเด็นเดียวกัน แต่จะโยงหรือไม่โยงอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่า ถ้านับสถานะนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 จะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินใหม่อีกครั้งหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน อยู่ที่ว่าใครจะไปยื่น เพราะมีเหตุอันควรสงสัยอยู่ พอถึงเวลาก็จะมีคนสงสัยอยู่ดี
เมื่อถามว่า เรื่องการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของนายกฯ ควรจะชัดเจนก่อนที่ครบในเดือน ส.ค.หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า อยู่ที่ใครสงสัยก็ดำเนินการไป ถ้าไม่สงสัยจะทำทำไม เพราะตอนยื่นศาลรัฐธรรมนูญจะต้องบอกว่ามีความสงสัยมีข้อขัดแย้งอะไรก็ว่าไป
ขณะที่นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)หัวหน้ากลุ่ม 16 กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการกฎหมายและข้อบังคับพรรคพปชร. มีมติลงโทษไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมพรรค 6 เดือน กรณีไปเคลื่อนไหวร่วมกับฝ่ายค้านในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า การกล่าวหาตนทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับพรรค พปชร. เพราะไปรับประทานอาหารร่วมกับฝ่ายค้านนั้น เพราะนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย โทร.มาชวน จึงไปกินข้าวด้วยในฐานะคนรู้จักกัน ไม่ได้เป็นฝ่ายโทร.ไปชวนนายยุทธพงศ์ เมื่อมากินข้าวกันก็เลยพูดคุยเรื่องโครงการท่อส่งน้ำอีอีซีที่มีความเห็นตรงกันเรื่องความไม่โปร่งใส ไม่ได้มีการวางแผนหารือล้มรัฐบาล “ส่วนการโทรศัพท์พูดคุยกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นั้น เนื่องจากระหว่างรับประทานอาหารกับฝ่ายค้าน นายยุทธพงศ์โทรศัพท์หานายทักษิณ เมื่อนายทักษิณทราบว่าผมรับประทานอาหารอยู่ในวง ก็พูดคุยด้วย เป็นการสนทนาพูดคุยถามไถ่ทุกข์สุขปกติ ตามมารยาท เพราะเคยเป็นรัฐมนตรีในสมัยที่นายทักษิณเป็นนายกฯ เรื่องนี้มีพยานที่อยู่ในโต๊ะอาหารเป็นพยานได้ ทั้งนายประเสริฐ จันทรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ สอบถามได้เลยว่าไม่มีการคุยวางแผนเรื่องล้มรัฐบาล การจะล้มรัฐบาลต้องทำในที่ลับ ไม่ทำในที่แจ้งเปิดเผยให้ใครเห็น ยืนยันแม้จะถูกพรรคพปชร.ห้ามทำกิจกรรมยุ่งเกี่ยวกับพรรค 6 เดือน ก็ยังทำหน้าที่ ส.ส.ต่อได้ ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16 จะเดินหน้าตรวจสอบความโปร่งใสโครงการท่อส่งน้ำอีอีซีต่อไป ไม่ถอยแน่” นายพิเชษฐกล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฟุ้งปีใหม่โอกาสดีทุกคน มั่นใจ‘แม้ว-หนู’ไร้ปัญหา
นายกฯ อิ๊งค์อวยพรปีใหม่ ให้ทุกคนมีจิตใจเบิกบานยันปี 68
ทักษิณจ่อพบอันวาร์ในไทย
"ทักษิณ" ยันเตรียมพบ "อันวาร์" กำลังรอคอนเฟิร์ม
แฉ10โกงทำประเทศจน เอกชนสมคบกับจนท.รัฐ
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันแฉ 10 กรณีทุจริตแห่งปี 2567 ที่ทำคนไทย “เจ็บ” และ “จน" หลายเรื่องราวยังไม่จบ
สมัครอบจ.คึกคักพท.เกทับปชน.
เปิดรับสมัครนายกและสมาชิก อบจ.วันแรกทั่วไทยสุดคึกคัก
รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง สื่อทำเนียบฯตั้งฉายา‘แพทองโพย’อิ๊งค์มองมุมดีส่งเสริมกัน
สื่อทำเนียบฯ ตั้งฉายาปี 67 “รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง” นายกฯ "แพทองโพย" วาทะแห่งปี
บิ๊กต่ายสั่งเข้ม ดูแล‘เทศกาล’ ผิดซ้ำเจอหนัก
“ผบ.ตร.” กำชับมาตรการเข้มดูแลชีวิตและทรัพย์สินประชาชนช่วงเทศกาลคริสต์มาส-ปีใหม่ ระดมกวาดล้างอาชญากรรม