“อาคม” รับเงินเฟ้อพุ่งทะลุ 5% หลังราคาน้ำมันกระฉูดกดดันเศรษฐกิจ รัฐเร่งอัดมาตรการลดภาษีดีเซลลดค่าน้ำ-ไฟช่วยประคอง แจงต้องพิจารณาเสถียรภาพการเงินการคลังอย่างรอบคอบก่อนออกมาตรการ หวั่นเป็นภาระการคลัง "กกร." จ่อชง 9 มาตรการพยุง ศก.หวังรัฐรักษาขีดความสามารถการแข่งขัน ลั่นตรึงดีเซลที่ 35 บาท พร้อมฟื้นโครงการคนละครึ่งเฟส 5 ทันที
เมื่อวันพุธ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนาออนไลน์ หัวข้อ “รวมพลังก้าวข้ามวิกฤต เดินหน้าเศรษฐกิจไทย” ว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีปัญหาเฉพาะหน้าสำคัญที่ต้องเผชิญ 2 เรื่องสำคัญคือ ปัญหาราคาพลังงานและอาหารสดที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนีราคาผู้บริโภคปรับตัวพุ่งขึ้นไปเกิน 5% จากปกติอยู่ที่ไม่เกิน 1% โดยเฉพาะราคาพลังงานในรอบนี้ที่ถือว่าค่อนข้างเข้มข้นมากกว่าราคาพลังงานที่เคยเพิ่มสูงขึ้นในอดีตหลายเท่าตัว ด้วยเหตุผลจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้ราคาพลังงานถีบตัวสูงขึ้นในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องระดับราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากราคาพลังงานด้วย ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้เร่งออกมาตรการช่วยเหลือทั้งแบบพุ่งเป้าและแบบทั่วไป อาทิ มาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ลิตรละ 3 บาท เป็นเวลา 3 เดือน และมาตรการลดภาระค่าครองชีพสำหรับผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง เช่น กลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ และมาตรการลดค่าน้ำ-ค่าไฟ
สำหรับการพยุงราคาน้ำมันดีเซลนั้น ที่ผ่านมากระทรวงพลังงานได้ชี้แจงไว้ชัดเจนแล้วว่า จากสถานการณ์ความขัดแย้งของรัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อ ส่งผลให้ราคาพลังงานพุ่งสูงกว่าคาดการณ์ค่อนข้างมาก จึงจำเป็นที่จะต้องยกระดับเพดานการตรึงราคาน้ำมันดีเซลจาก 30 บาทต่อลิตรขึ้นไปตามสถานการณ์ ทั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งในการเข้าไปช่วยพยุงราคาน้ำมันไว้ให้ต่ำกว่าเพดานที่รัฐบาลเคยกำหนด หรืออยู่ในระดับเพดานที่เหมาะสม ถือเป็นมาตรการช่วยเหลือสำหรับผู้ใช้น้ำมันเป็นการทั่วไป
รมว.การคลังกล่าวอีกว่า สำหรับทิศทางเศรษฐกิจไทยหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย และรัฐบาลได้มีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดอย่าต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเปิดประเทศตั้งแต่เดือน พ.ย.2564 และการยกเลิกมาตรการ Test & Go ในเดือน พ.ค.2565 ส่งผลดีกับภาคการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยแล้วกว่า 7 แสนคน ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ โดยคาดการณ์ว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยถึง 2 ล้านคน ขณะที่สถานการณ์เศรษฐกิจในแถบชายแดนก็น่าจะฟื้นตัวได้ดีขึ้น หลังจากมีการเปิดด่านการค้าชายแดน ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ พื้นที่ชายแดนกลับมาคึกคักมากขึ้น ประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น
นายอาคมกล่าวอีกว่า ในส่วนของภาคส่งออก ยังถือเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยในปี 2564 ตัวเลขการส่งออกของไทยเติบโตได้ 20% ขณะที่ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ตัวเลขส่งออกอยู่ในระดับที่น่าพอใจที่ 15% ดังนั้นจึงถือว่าภาคการส่งออกยังสามารถเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ดีในปี 2565 นอกจากนี้ การใช้จ่ายภาครัฐผ่านงบประมาณแผ่นดิน และการลงทุนของรัฐวิสาหกิจในโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ยังคงเดินหน้าตามปกติ โดยรัฐบาลได้เร่งรัดให้หน่วยงานต่างๆ เบิกจ่ายงบประมาณตามที่ได้รับจัดสรรตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายปี 2565
“มาตรการด้านภาษีที่รัฐบาลได้เร่งผลักดันออกมานั้น อาจทำให้รัฐบาลสูญเสียรายได้ไป แต่ท้ายที่สุดรายได้ของภาษีจะกลับมาในอนาคต เมื่อธุรกิจกลับมาดำเนินการได้ รัฐบาลก็จะมีรายได้กลับมาเป็นรายได้แผ่นดินในรูปของภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยการดำเนินมาตรการเพื่อดูแลและกระตุ้นเศรษฐกิจในมิติต่างๆ ยังจำเป็นต้องดูแลสถานะและเสถียรภาพทางการเงินการคลังของประเทศด้วยมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลจะดำเนินการต้องเป็นไปอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่เป็นการสร้างภาระให้ภาคการคลังในอนาคต” นายอาคมกล่าว
ด้านนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย ส.อ.ท., หอการค้าไทย และสมาคมธนาคารไทย ประจำเดือน พ.ค.ว่า กกร.ได้สรุป 9 มาตรการที่ต้องการเสนอรัฐบาลเร่งดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อดูแลเศรษฐกิจ และประคองเศรษฐกิจ รักษาขีดความสามารถในแข่งขันของเอสเอ็มอี และดูแลประชาชน เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน เช่น เศรษฐกิจโลก ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน การแพร่ระบาดโควิด-19 ราคาพลังงานที่ปรับสูงขึ้น ส่งผลต่อต้นทุนปรับเพิ่มขึ้น เงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูงสุดในรอบ 10 ปี
ทั้งนี้ 9 มาตรการเริ่มจาก 1.ขอให้ตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกินระดับ 35 บาท เป็นเวลา 3 เดือน 2.ขยายเวลาลดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ที่จะครบกำหนดในวันที่ 20 พ.ค.นี้อีก 3 เดือน เนื่องจากหากไม่ขยายเวลาการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันจะทำให้ราคาพุ่งขึ้น และเป็นภาระของผู้ประกอบการและประชาชน 3.ลดต้นทุนวัตถุดิบนำเข้า เช่น ลดภาษีนำเข้าสินค้าวัตถุดิบที่จำเป็น เช่น ราคาปุ๋ยที่แพงมาก และเพิ่มโควตาการนำเข้าให้มากขึ้นในสินค้าที่จำเป็นด้วย
4.มาตรการเสริมสร้างสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการ เพราะว่าผู้ประกอบการโดยเฉพาะเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบอย่างหนัก และยังไม่ฟื้นตัว ทำให้สภาพคล่องหายไป จึงอยากให้ภาครัฐเร่งคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม และออกมาตรการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำที่ทำได้ทันที 5.ขอให้เร่งดำเนินการโครงการคนละครึ่งเฟส 5 สามารถดำเนินการได้ทันที วงเงิน 1,200-1,500 บาท ภายในระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งจะเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มกำลังซื้อกระตุ้นเศรษฐกิจได้ โดยต้องการให้กระทรวงการคลังเร่งทำความเข้าใจกับร้านค้าในเรื่องการตรวจสอบภาษีด้วย เพราะที่ผ่านมาพบว่ามีจำนวนร้านค้าออกจากโครงการจำนวนมาก
6.ขอให้ขยายจำนวนสิทธิโครงการเราเที่ยวด้วยกัน 7.ผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะสถานบันเทิง หากเปิดได้ จะทำให้ประชาชนมีงานทำ มีรายได้ และมีเงินสะพัด 8.ลดภาระให้ผู้ประกอบการ เช่น ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งปัจจุบันจะเรียกเก็บ 100% จากปีที่ผ่านมาคิดเพียง 10% เท่านั้น และสุดท้าย 9.การเปิดประเทศโดยสมบูรณ์ การส่งเสริมและอำนวยความสะดวก จัดกิจกรรม และดูแลค่าเงินบาทให้เหมาะสม
ส่วนการพิจารณาปรับค่าแรงขั้นต่ำขอให้ภาครัฐคำนึงถึงเศรษฐกิจความสามารถของธุรกิจ ประสิทธิภาพของแรงงานแต่ละจังหวัด รวมถึงเงินเฟ้อด้วย การปรับค่าแรงที่สูงเกินไปหรือเกินขีดความสามารถของผู้ประกอบการอาจซ้ำเติมผู้ประกอบการได้
“ครั้งนี้ กกร.ได้ประชุมประเด็นเศรษฐกิจนานมาก โดยเรายังมองกรอบประมาณการขยายตัวฐกิจ (จีดีพี) ปีนี้อยู่ที่ 2.5-4% เงินเฟ้อ 3.5-5.5% ส่งออก 3-5%” นายเกรียงไกรกล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชูศักดิ์ยอมนิกร พรบ.ประชามติ ไม่ใช่กม.การเงิน
“ชูศักดิ์” ลั่นเพื่อไทยเอาแน่ ค้าความปิดปากเอาคืน “ธีรยุทธ” แต่ไม่รู้เมื่อไหร่
ไฟเขียวไร่ละ1พัน10ไร่ ตรึงค่าไฟฟ้าราคาน้ำมัน
ชาวนาเฮ! นบข.ไฟเขียวช่วยไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ จ่อชงเข้า ครม.สัญจรเชียงใหม่ 29 พ.ย.นี้
อวยทักษิณชนะนายกอบจ.
"ภูมิธรรม" โว พท.ชนะนายก อบจ.อุดรฯ เป็นเรื่องธรรมดา เหตุ ปชช.ยังรัก “ทักษิณ” ชอบผลงานที่ทำมา
กรมที่ดินท้ารฟท.พิสูจน์เขากระโดง
กรมที่ดินยืนยัน ไม่เพิกถอนโฉนดเขากระโดง ยึดตาม กก.สอบสวน มาตรา 61
ตร.เชียงรายรวบ‘สามารถ’ ‘เมีย-ลูก’หมอบุญนอนคุก
"ผบ.ตร." นั่งไม่ติดตั้ง "พล.ต.อ.ธนา" คุมสอบสวนคดี "หมอบุญ"
ม็อบเสื้อเหลืองคืนชีพ ‘สนธิ’นัดบุกทำเนียบฯ2ธค. ‘อ้วน’หวั่นซํ้ารอยปิดเมือง
"ภูมิธรรม" ไม่กังวล "สนธิ" ปลุกม็อบลงถนน เป็นสิทธิตาม รธน.