สั่งพศ.เข้มพรหมจรรย์พระ

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

“บิ๊กตู่” ห่วงกระแสวิจารณ์พฤติกรรมพระสงฆ์ กำชับสำนักพุทธฯ  จังหวัดเข้มงวด ย้ำต้องไม่ละเลยเรื่องพรหมจรรย์ ผบก.ปปป.สอบเจ้าอาวาสวัดบุปผาฯ ชี้อดีตพระกาโตะไม่ใช่เจ้าพนักงาน จ่อโยนให้กองปราบฯ จัดหนัก เตรียมเรียก “สมี-สีกาตอง” แยกสอบ

เมื่อวันอาทิตย์ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความเป็นห่วงต่อกระแสข่าวที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ส่งผลต่อความศรัทธาของพี่น้องประชาชน สั่งการสำนักพระพุทธศาสนาฯ กำชับสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) เข้มงวดพระสงฆ์ให้ปฏิบัติตามหลักพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด

นายธนกรกล่าวอีกว่า หน้าที่หลักของพระสงฆ์คือ การธำรงรักษาและเผยแผ่พระธรรมคำสอนของพระบรมศาสดาให้ยั่งยืนสืบไป ด้วยสังฆคุณอันยิ่งใหญ่นี้ พุทธศาสนิกชนจึงควรรู้จักการปฏิบัติตนต่อพระภิกษุสงฆ์ที่เหมาะสม หน้าที่หลักของพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา ได้แก่ การศึกษาหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา แล้วปฏิบัติตาม พร้อมทั้งนำหลักคำสอนมาเผยแผ่แก่ประชาชน การจะปฏิบัติกิจใดๆ ก็ตามต้องไม่ละเลยการประพฤติในส่วนที่เรียกว่าพรหมจรรย์ ซึ่งเป็นความประพฤติเพื่อความประเสริฐ เพื่อบรรลุถึงความสิ้นกิเลส โดยประพฤติให้เป็นไปตามพุทธบัญญัติและต้องเอื้อเฟื้อ ไม่ละเมิดพุทธอาณัติอันเป็นข้อห้ามมิให้ประพฤติ หรือเรียกว่าประพฤติให้เป็นไปตามพระธรรมวินัย

"นายกฯ ขอให้ พศจ.เร่งประสานงานกับเจ้าคณะปกครองสงฆ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และหาแนวทางร่วมกันในการทำความเข้าใจต่อสังคมให้ถูกต้อง รวมถึงสอดส่องดูแลให้พระภิกษุสงฆ์ปฏิบัติตามคำสั่งมหาเถรสมาคม เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ประชาชน สร้างศรัทธา สร้างความเลื่อมใส ร่วมกันทำนุบำรุงศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าต่อไป" นายธนกรกล่าว

วันเดียวกัน ยังคงมีความต่อเนื่องในกรณีนายพงศกร จันทร์แก้ว หรืออดีตพระกาโตะ ที่สึกออกจากพระหลังมีเรื่องอื้อฉาวกับสีกาตอง โดยเฉพาะประเด็นการใช้เงินวัด 6 แสนบาทปิดข่าวดังกล่าว ซึ่ง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) ได้เข้าสอบปากคำพระราชวรญาณ เจ้าอาวาสวัดบุปผารามวรวิหาร ในประเด็นเกี่ยวกับการรักษาการเจ้าอาวาสวัดเพ็ญญาติของอดีตพระกาโตะที่ จ.นครศรีธรรมราช ว่ามีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ เป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่

โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติระบุว่า ได้ข้อมูลว่าอดีตพระกาโตะไม่น่าจะเป็นเจ้าพนักงาน เนื่องจากเป็นการแต่งตั้งแบบไม่เป็นทางการ หลังจากนี้จะนำข้อมูลดังกล่าวหาหรือกับ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อหาแนวทาง และพิจารณาว่าจะให้โอนคดีไปกองบังคับการปราบปรามเป็นผู้รับผิดชอบหรือไม่ เนื่องจากอดีตพระกาโตะไม่ได้เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ

“จากการสืบสวนสอบสวนในเบื้องต้นพบว่าอาจมีเงินของวัดที่ถูกเบิกจ่ายออกไปโดยไม่ถูกต้อง นอกเหนือจากยอดเงิน 6 แสนบาทที่ถูกเบิกออกไปจากบัญชีวัดตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยยอดเงินได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสืบสวนย้อนกลับไป ตั้งแต่อดีตพระกาโตะเริ่มเข้ามาทำหน้าที่รักษาการเจ้าอาวาส” พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าว และว่า ได้มีการสอบปากคำไวยาวัจกรของวัดเพ็ญญาติไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็ได้ข้อมูลมาในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ส่วนที่จะมีการกระทำความผิดในลักษณะเป็นขบวนการหรือไม่ ตอนนี้หลักฐานยังไปไม่ถึงขนาดนั้น

มีรายงานว่า ในสัปดาห์นี้จะเชิญอดีตพระกาโตะและสีกาตองเข้ามาสอบปากคำเกี่ยวกับพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะครองสมณเพศ และที่ไปที่มาของเงินจำนวน 6 แสนบาท และประเด็นอื่นๆ ที่ตำรวจสืบสวนได้เพิ่มเติม โดยจะแยกนัดหมายคนละวัน เพื่อป้องกันความวุ่นวาย

ที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช นายพัชฐ์สกุน เงินพรหม อายุ 40 ปี ลูกชายนายประยูร เงินพรหม ประธานหอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับมอบอำนาจให้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฯ ในคดีเช็คเด้ง ผู้ถูกกล่าวหาคือพระครูวินัยธรสุวิจักขณ์ ปญญังวโร หรือพระดอน ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดวังตะวันออก คนกลางรับเงินจากอดีตพระกาโตะเพื่อปิดข่าวฉาว

โดยนายพัชฐ์สกุนกล่าวว่า พระดอนรู้จักกับพ่อ และได้มายืมเงิน 2 แสนบาทเมื่อปี 2561 โดยใช้เช็คค้ำประกัน โดยระบุว่าจะใช้คืนภายใน 10 วัน แต่ปรากฏว่าเมื่อครบ 10 วันได้ไปเบิกจ่ายจากธนาคารแต่ปรากฏเช็คเด้ง หลังจากนั้นได้ติดตามเรื่อยมาจนถึงขณะนี้ พระดอนก็บ่ายเบี่ยงปฏิเสธเรื่อยมาจน กระทั่งมีเรื่องแดงขึ้น จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีอีกคดีหนึ่ง โดยพ่อก็จะมาให้ปากคำอีกครั้ง

มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้มีผู้เสียหายในลักษณะเดียวกันมาแจ้งความอย่างต่อเนื่อง บางรายระบุว่ามีการล่อลวงให้ร่วมสร้างวัตถุมงคลแล้วเรียกเงินล่วงหน้าแต่ไม่ได้สร้าง เมื่อขอเงินคืนก็ไม่ยอมคืน รวมทั้งการว่าจ้างให้ทำงานโดยให้ผู้ถูกว่าจ้างซื้อวัสดุสิ่งของซื้อสินค้าไปก่อนแล้วเจตนาไม่ยอมไปชำระเงิน รวมทั้งความผิดตาม พ.ร.บ.เช็คอีกนับสิบราย นอกจากนี้ยังมีรายงานว่ากลุ่มศิลปินพื้นที่บ้านเตรียมทยอยเข้าแจ้งความอย่างต่อเนื่อง ขณะที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองฯ ได้รวบรวมหลักฐานเพื่อเสนอผู้บังคับบัญชาในรูปคณะพนักงานสอบสวนตามคำสั่งของรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พิจารณานำไปสู่การออกหมายจับข้อกล่าวหา ออกเช็คชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายอันพึงจะใช้เงินได้และธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้น

ส่วนกรณีเพจเฟซบุ๊กชุมชนข่าวขอนแก่นได้เผยแพร่คลิปวิดีโอพระสงฆ์รูปหนึ่งนั่งอยู่บนแคร่ไม้ลักษณะเป็นศาลาพักร้อน พูดลิ้นพันกันบอกกับเจ้าหน้าที่ที่มาตรวจสอบในคลิปว่าไม่ได้ดื่ม แค่นั่งเฝ้าโยม พร้อมข้อความระบุว่า “วงการพระสงฆ์ไม่แผ่วเลย ล่าสุดตั้งวงร้องเกะ ปฏิเสธไม่ได้ดื่มแค่นั่งเฝ้าโยม แถมเอ่ยถึงนักการเมืองนายอำเภอไม่มีใครกล้ายุ่งกับอาตมานะ #ขอนแก่น” ซึ่งพบว่าพระสงฆ์ที่ปรากฏในคลิปคือรักษาการเจ้าอาวาสวัดศรีพนาวาส โดยบอกกับชาวบ้านว่าที่ดื่มนั้นเพื่อฆ่าเชื้อโควิด-19 โดยนำมะนาวผสมกับเหล้าขาวแล้วดื่ม

ล่าสุด นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เผยว่า หลังมีคลิปดังกล่าวเผยแพร่ในสื่อต่างๆ สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ขอนแก่น ได้ตรวจสอบทราบว่าเหตุเกิดที่วัดศรีพนาวาส ต.บ้านแท่น อ.ชนบท จ.ขอนแก่น และพระที่เป็นข่าวชื่อพระพิทักษ์ สุภกิจฺโจ เป็นรักษาการเจ้าอาวาส ซึ่งในกรณีดังกล่าวคณะสงฆ์อำเภอชนบทได้มีมติว่า เมื่อให้โอกาสพระพิทักษ์มาชี้แจงแล้วไม่สามารถติดต่อได้ และได้หนีไปโดยไม่แจ้ง จึงมีมติให้พระพิทักษ์ออกจากพื้นที่และไม่ให้กลับเข้ามาอยู่ภายในวัดและอำเภอชนบทอีกต่อไป กระทั่งล่าสุดเมื่อเวลา 20.00 น. ของคืนที่ผ่านมา ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่นได้รับแจ้งจากทางเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่นว่า พระพิทักษ์ได้ลาสิกขาแล้ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฟ้องต้นตอหมอคางดำ

สภาทนายความฯ เตรียมฟ้องแพ่งบิ๊กเอกชน-หน่วยงานรัฐ ต้นตอ "เอเลี่ยนสปีชีส์"

‘เนวิน’รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดมิวสิคัลเทิดพระเกียรติ

“เนวิน” รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดเทิดพระเกียรติ 72 พรรษา แสดง แสง สี เสียง มิวสิคัล “ลมหายใจของแผ่นดิน” โดยบุรีรัมย์ออร์เคสตรา แสดงความจงรักภักดี 28-30 ก.ค.2567 สนามช้างอารีนา บุรีรัมย์