‘อนุทิน’เปิดงานกัญชาจันทบุรี ตั้งเป้าปั้นเป็นพืชเศรษฐกิจโลก

"อนุทิน" เปิดงานกัญชา "จันทบุรี" มั่นใจฝีมือเกษตรกรไทย ปั้นกัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจ ป้อนตลาดโลก

เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2565 ที่ อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ (อาคาร 36) ม.ราชภัฏรำไพพรรณี  อ.เมืองจันทบุรี จ.จันทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมงานประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์เขตสุขภาพที่ 6 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-8 พ.ค. โดยมีผู้บริหารและบุคลากรสาธารณสุข ตัวแทนภาครัฐและภาคเอกชน ไปจนถึงประชาชนเข้าร่วมงานจำนวนมาก

นายอนุทินกล่าวเปิดงานว่า นโยบายกัญชาทางการแพทย์ เป็นนโยบายที่กําหนดขึ้นเพื่อสร้างรายได้ให้ประชาชนและประเทศ กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ที่สําคัญของไทย เพราะเป็นหนึ่งในพืชไม่กี่ชนิดที่ใช้ประโยชน์นํามาเป็นยาและอาหารได้ทุกส่วน ทั้งราก ต้น ใบ และดอก ที่คนไทย ใช้กันมานาน ซึ่งการดําเนินงานกัญชาทางการแพทย์ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาชี้ให้เห็นว่ากัญชาจะเป็นพืชเศรษฐกิจ และจะสามารถพลิกโฉมให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ เห็นได้จากผลงานในปี 2564 แม้ว่าจะมีสถานการณ์โควิด ผลิตภัณฑ์กัญชา กัญชง เป็นที่ต้องการของตลาดในประเทศอย่างมาก

“ผลิตภัณฑ์จากกัญชา กัญชง สร้างรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเป็นมูลค่าสูงกว่า 7 พันล้านบาท ซึ่งนายยืนยง โอภากุล หรือ แอ๊ด คาราบาว แต่งเพลงหนูกัญชา ได้เนื้อหาครบถ้วน บอกทั้งนําไปใช้ด้านสมุนไพรและด้านเศรษฐกิจ เหมือนกับนโยบายที่พวกเราขับเคลื่อนกัญชาทางการแพทย์และขับเคลื่อนเศรษฐกิจ” นายอนุทินกล่าว

นายอนุทินกล่าวอีกว่า ได้แก้กฎหมายทําให้พืชกัญชาหลุดจากการเป็นยาเสพติดให้โทษ เมื่อวันที่ 8 ก.พ.2565 ได้ลงนามปลดล็อกพืชกัญชาจากการเป็นยาเสพติด เพื่อเปิดให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์จากกัญชาอย่างเหมาะสม ไม่จํากัดแค่ 6 ต้น ซึ่งจะมีผลบังคับใช้หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา 120 วัน คือวันที่ 9 มิ.ย.นี้ ขอเรียนเน้นย้ำว่า กัญชา กัญชง มีประโยชน์มาก สามารถนํามาใช้ในการรักษาอาการเจ็บป่วยได้ เรากําลังเดินหน้าให้คนไทยสามารถปลูกกัญชาเพื่อใช้รักษาโรคได้เช่นเดียวกับพืชสมุนไพรตัวอื่น แต่จะต้องมีกระบวนการควบคุมที่เหมาะสม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานรัฐสภา เพื่อให้มีกฎหมายมาควบคุมเฉพาะ หลังจาก 120 วันที่กัญชาจะพ้นจากการเป็นยาเสพติด

“ประชาชนที่ต้องการปลูกเพื่อใช้ในครัวเรือน ไม่ต้องขออนุญาตแบบแต่ก่อน เปลี่ยนเป็นมาจดแจ้งให้รัฐทราบเพื่อให้ เป็นไปตามข้อกําหนดของสนธิสัญญาระหว่างประเทศ เมื่อเราได้ทําตามความประสงค์ของประชาชนคือ เอาต้นกัญชาออกจากยาเสพติดแล้ว ขอให้ท่านได้ใช้ประโยชน์ในทางที่ถูกต้อง และช่วยกันสอดส่องดูแลไม่ให้เพื่อนร่วมสังคมนําไปใช้ในทางที่ผิด” นายอนุทินกล่าว

นายอนุทินกล่าวอีกว่า ขอขอบคุณสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ที่ทํางานร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ในการปรับเปลี่ยนข้อกฎหมายเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการปลูกและต่อยอด ไปสู่ผลิตภัณฑ์และบริการสุขภาพได้ง่ายขึ้น มีการจัดทําแนวทางการขึ้นทะเบียน ผลิตภัณฑ์กัญชา กัญชง อํานวยความสะดวกให้เกษตรกรและผู้ประกอบการดําเนินการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ ซึ่งปัจจุบันมีวิสาหกิจชุมชนปลูกกัญชากว่า 400 แห่ง ปลูกกัญชงกว่า 1,800 แห่งที่ได้รับอนุญาต และมีผลิตภัณฑ์จากกัญชา กัญชงออกสู่ตลาดอย่างกว้างขวาง

“ขอขอบคุณทุกกรมวิชาการที่เกี่ยวข้อง เขตสุขภาพทุกแห่ง และสถาบัน กัญชาทางการแพทย์ ในการประสานและนํานโยบายกัญชาทางการแพทย์ไปสู่การปฏิบัติ การปลดล็อกกัญชา และนํากัญชามาใช้ประโยชน์ เป็นการร่วมแรงร่วมใจของหน่วยงาน ทั้งในและนอกกระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม ที่มาช่วยเติมเต็มในส่วนที่กระทรวงสาธารณสุขไม่สามารถทําได้” นายอนุทินกล่าว

นายอนุทินย้ำว่า เราต้องเข้าใจในการใช้กัญชาให้ถูกต้อง สามารถทำให้ทั้งสุขภาพก็ดี ทั้งกระเป๋าตังค์ก็ตุง ทั้งโอกาสในการทำมาหากิน เสริมสร้างรายได้ก็เพิ่มมากขึ้น และอีกอย่างหนึ่งก็คือประเทศไทยก็ยังเป็นประเทศเกษตรกรรม พี่น้องที่เป็นชาวเกษตรกรทำไมถึงไม่อยากมีพืชอีกหนึ่งชนิดซึ่งเป็นที่ต้องการของทั่วโลกเป็นพืชชนิดใหม่ผู้คนให้ความสนใจสูง มีสรรพคุณทางการแพทย์ มาเป็นพืชทางเลือกอีกทางหนึ่งในการปลูกเพื่อเสริมสร้างรายได้ นี่คือจุดที่เรามองเอาส่วนที่เป็นประโยชน์ของกัญชามามอบให้กับพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่น ด้วยความเต็มใจ ซึ่งกว่าจะมาถึงวันนี้ไม่ง่ายเลย ต้องผ่านอุปสรรคนานัปการ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฟ้องต้นตอหมอคางดำ

สภาทนายความฯ เตรียมฟ้องแพ่งบิ๊กเอกชน-หน่วยงานรัฐ ต้นตอ "เอเลี่ยนสปีชีส์"

‘เนวิน’รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดมิวสิคัลเทิดพระเกียรติ

“เนวิน” รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดเทิดพระเกียรติ 72 พรรษา แสดง แสง สี เสียง มิวสิคัล “ลมหายใจของแผ่นดิน” โดยบุรีรัมย์ออร์เคสตรา แสดงความจงรักภักดี 28-30 ก.ค.2567 สนามช้างอารีนา บุรีรัมย์