คนละครึ่งเฟส5ส่อเค้าหัวทิ่ม

“บิ๊กตู่” ศึกษาคนละครึ่งเฟส 5 ไม่การันตีได้เหมือนเดิม รับงบร่อยหรอ  วอนลดความขัดแย้งลง รักษาบรรยากาศหลังโควิดคลี่คลาย “หอการค้าฯ” หนุนเต็มที่ ช่วยกระตุ้นจีดีพี ศบศ.เคาะเพิ่ม 1 ล้านสิทธิ์เราเที่ยวด้วยกัน ตั้ง “คสดช.” ดึงดูดชาวต่างชาติ

เมื่อวันที่​ 6​ พ.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7,705 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 7,680 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 7,669 ราย, มาจากการค้นหาเชิงรุก 11 ราย, มาจากเรือนจำ 15 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 10​ ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 11, 252 ราย อยู่ระหว่างรักษา 97,672 ราย อาการหนัก 1,622 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 778 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 62 ราย เป็นชาย 33 ราย หญิง 29 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 49​ ราย มีโรคเรื้อรัง 10 ราย ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 3 ราย

มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 4,308,319 ราย มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 4,181,671 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 28,976 ราย ขณะที่สถานการณ์โลก มียอดผู้ติดเชื้อสะสม​ 515,898,572 ราย เสียชีวิตสะสม​ 6,272,172 ราย

สำหรับ​ 10​ จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด​ ได้แก่​ กทม.​ 2,174 ราย,​ บุรีรัมย์​ 294 ราย, ​สมุทรปราการ​ 268 ราย, ศรีสะเกษ​ 246 ราย,​ ขอนแก่น​ 224 ราย,​ ชลบุรี​ 203 ราย,  นครราชสีมา 199 ราย, ร้อยเอ็ด​ 185 ราย,  สุรินทร์ 176 ราย และอุบลราชธานี​ 155 ราย

ช่วงเช้า ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ครั้งที่ 2/2565 พร้อมกับระบุตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยถือว่าประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เห็นได้ว่าสถานการณ์มีแนวโน้มคลี่คลายลงอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นผลมาจากการทำงานในการบริหารจัดการควบคุมการระบาดของฝ่ายสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ภาครัฐ เอกชน รวมทั้งประชาชนที่ร่วมมือกันปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคอย่างดี ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ยกย่องให้ประเทศไทยเป็นประเทศต้นแบบที่มีการบริหารจัดการและการรับมือของการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ยังคงต้องระมัดระวังและติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโอมิครอน และสายพันธุ์ใหม่ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอย่างใกล้ชิดต่อไป ต้องเตรียมแผนรับมือ ปรับมาตรการให้เหมาะสมและทันท่วงที จากข้อมูลฝ่ายสาธารณสุขรายงานว่า การเปิดรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ หรือเดินทางเข้ามาในโครงการนำร่องด้านการท่องเที่ยวและบริการ แม้จะตรวจพบผู้ติดเชื้ออยู่บ้าง แต่เป็นจำนวนน้อย และสามารถควบคุมได้ จึงอาจไม่ใช่ปัจจัยที่มีผลทำให้การติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

จากนั้นนายกฯ แถลงภายหลังการประชุมว่า จำเป็นต้องมีการติดตามสถานการณ์ ที่เรามีความสบายใจขึ้นในเรื่องของการท่องเที่ยวที่มีเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงเวลานี้ และคาดการณ์ว่าปลายปีนี้ ในไตรมาสที่ 4 ที่จะเป็นช่วงการท่องเที่ยวต่อเนื่องไตรมาส 1 ปี 2566 ถ้าเราสามารถรักษาสถานภาพตรงนี้ไว้ได้จะเป็นการดี จึงขอความร่วมมือภาคเอกชน และประชาชนทุกคน ช่วยกันระมัดระวังทำให้บ้านเมืองสงบสุขและมีความปลอดภัยในด้านโควิด-19

"จะเห็นว่ายอดนักท่องเที่ยวแต่ละวันที่เข้ามาจะมากพอสมควร และมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างมีนัยสำคัญ คนอยากจะมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ฉะนั้นสิ่งสำคัญคือความเรียบร้อย ความสงบ ในทุกๆ ด้าน ความขัดแย้งต่างๆ ต้องลดลง ไม่อย่างนั้นคนที่เดือดร้อนที่สุดคือประชาชน ผู้ประกอบการทั้งหลาย ก็ไม่สามารถจะฟื้นตัวได้" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายกฯ ระบุว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีการหารือในเรื่องการท่องเที่ยว การจัดงาน Specialised Expo 2028 ที่จังหวัดภูเก็ต ในปี พ.ศ.2571 ที่ต้องมีการวางแผนล่วงหน้า มีการเตรียมการเพื่อรับฉันทานุมัติในการจัดงานในประเทศไทย นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังพูดหลายเรื่อง โดยได้ให้แนวทางไปแล้ว ซึ่งคณะกรรมการจะไปศึกษาเพิ่มเติมเพื่อจะนำไปสู่การปฏิบัติให้ได้โดยเร็วที่สุดหลายเรื่อง แล้วต้องทำงานใหม่ๆ ขึ้นมา

พล.อ.ประยุทธ์ยังเปิดเผยด้วยว่า รัฐบาลใช้เงินทุกประเภทอย่างระมัดระวัง สิ่งสำคัญที่สุดขอย้ำว่าทุกโครงการที่รัฐบาลทำไปมีเจตนามุ่งหวังที่จะให้ถึงมือพี่น้องประชาชนจริงๆ ด้วยความซื่อสัตย์ต่อกัน มาตรการที่รัฐบาลออกไปขอให้ศึกษาในรายละเอียด เราพยายามที่จะอุดรอยรั่ว อุดช่องว่างต่างๆ ให้ได้มากที่สุด ฉะนั้นอย่าไปเชื่อคำบิดเบือนอะไรต่างๆ วันนี้มีข่าวไม่สนับสนุนให้ร้านค้าสมัครโครงการคนละครึ่ง เพราะจะถูกเก็บภาษีย้อนหลัง ซึ่งไม่ใช่ข้อเท็จจริง เรื่องภาษี ถ้ารายได้ไม่ถึงเราจะเก็บได้อย่างไร จะเก็บภาษีย้อนหลังได้หรือเปล่า ก็เก็บไม่ได้อยู่ดี

เมื่อถามว่า โครงการคนละครึ่งเฟส 5 รัฐบาลเดินต่อหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า เท่าที่ศึกษาดูจะหาทางเดินที่จะทำให้ทั่วถึง ส่วนได้ทั้งหมดเหมือนเดิมหรือไม่ต้องไปดูความเดือดร้อน เพราะทุกครั้งที่เราให้ไปเราให้กว้างให้เต็มทุกกลุ่มทุกพวก ซึ่งเราใช้เงินประมาณ 4-5 หมื่นล้านบาททุกครั้ง ทุกคนทราบดี เงินงบประมาณก็ร่อยหรอ จะต้องไปดูว่าทำได้มากแค่ไหนอย่างไร กำลังจะพิจารณาอยู่

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลประชุม ศบศ.ว่า รัฐบาลเร่งพิจารณามาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้สามารถขยายตัว ทั้งการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูง และผู้เชี่ยวชาญชาวต่างชาติเข้ามาพำนักระยะยาว การอำนวยความสะดวกให้กับกิจการกองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างชาติในประเทศไทย ที่ถือว่าเป็นซอฟต์เพาเวอร์ นายกฯ ย้ำให้แต่ละจังหวัดสำรวจสถานที่ท่องเที่ยว จัดทำข้อมูลนักท่องเที่ยวในพื้นที่ว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้นหรือลดลง เพื่อประเมินการให้ความช่วยเหลือทั้งผู้ประกอบการ ปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยว ความปลอดภัย รวมทั้งการรักษาคุณภาพการบริการ ป้องกันการฉวยโอกาสเอาเปรียบนักท่องเที่ยวและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดโควิด-19

นายธนกรกล่าวว่า นายกฯ ยังแสดงความเป็นห่วงโรงแรมขนาดกลางและขนาดเล็ก โดยแนะให้รักษาธุรกิจให้รอดก่อน อย่าฉวยโอกาสขึ้นราคา พร้อมสั่งการให้เฝ้าระวังการทุจริตจากโครงการภาครัฐอย่างเข้มงวด ทั้งโครงการคนละครึ่ง ทัวร์เที่ยวไทย หากพบการทุจริตให้ดำเนินการตามกฎหมาย

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ที่ประชุมได้รับทราบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าสู่ประเทศไทย โดยมีคณะกรรมการสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย (คสดช.) ขึ้นมาเพื่อผลักดันมาตรการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย โดย คสดช.จะเป็นการจัดตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย พ.ศ..... โดยที่ประชุมเห็นชอบมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการเพื่อให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าสู่ประเทศไทย มีความพร้อมและสามารถมีผลบังคับใช้โดยเร็ว

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากการที่ภาคเอกชนเคยเสนอเรื่องการขยายโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 ที่ประชุม ศบศ.ได้เห็นชอบและอนุมัติเพิ่มอีก 1 ล้านสิทธิ์ รวมถึงโครงการทัวร์เที่ยวไทย โดยจะขยายเวลาถึงเดือน ก.ย.นี้ นอกจากนี้ หอการค้าไทยยังได้นำเสนอต่อนายกฯ และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ขอให้รัฐบาลพิจารณาขยายโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ซึ่งหอการค้าไทยทราบถึงความจำเป็นของงบประมาณภาครัฐที่มีอยู่อย่างจำกัด แต่เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจประเทศยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ แม้จะมีการเปิดเกือบเต็มรูปแบบไปเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่เม็ดเงินจากการท่องเที่ยวยังไม่กลับมาทันที กำลังซื้อของประชาชนและสภาพคล่องของภาคธุรกิจยังคงมีปัญหาอยู่ ตลอดจนยังถูกซ้ำเติมจากปัญหาราคาพลังงานที่เพิ่มสูง และราคาสินค้าที่ปรับขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

 “หอการค้าไทยจึงได้เสนอให้รัฐบาลพิจารณาขยายมาตรการดังกล่าว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยเสนอให้พิจารณาวงเงิน 1,000-1,500 บาทต่อคน (30 ล้านคน) ก็จะช่วยให้มีการหมุนเวียนของเม็ดเงินมากขึ้น ซึ่งรัฐบาลจะใช้งบประมาณราว 30,000-45,000 ล้านบาท แต่จะทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยและมีเงินเข้าระบบเศรษฐกิจ 60,000-90,000 ล้านบาท เมื่อคำนวณแล้วจะทำให้ GDP มีตัวเลขดีขึ้นได้ถึง 0.63-0.65% ซึ่งนายกฯ และที่ประชุมรับข้อเสนอดังกล่าว”ประธานหอการค้าไทยระบุ

ประธานหอการค้าไทยยังกล่าวว่า ปัจจุบันกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดงบประมาณเพื่อให้เกิดความเหมาะสม ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่มาตรการดังกล่าวอาจได้รับการตอบรับในเร็ววันนี้ และที่ประชุมมีข้อสังเกตในประเด็นที่ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง มีความกังวลเรื่องการถูกเก็บภาษีย้อนหลัง โดยหอการค้าไทยเห็นว่ามีความจำเป็นต้องทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปให้รับทราบ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์จะพยายามเข้าไปดูเรื่องราคาสินค้าให้เป็นภาระน้อยที่สุดกับผู้บริโภค ถึงต้นทุนจะสูงขึ้นเพราะราคาน้ำมันและพลังงานที่สูงขึ้นมาก หากมีความจำเป็นที่จะต้องปรับราคาขึ้นจะทำเท่าที่จำเป็นที่จะต้องปรับราคาขึ้น และจะอนุญาตเท่าที่จำเป็น ตามต้นทุนที่สูงขึ้นจริงเท่านั้น ขณะเดียวกัน จะขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการให้แค่พออยู่ได้ในช่วงสถานการณ์ที่วิกฤตอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นกันทั้งโลก

ช่วงบ่าย นายธนกรเปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ครั้งที่ 3/2565 ที่มีนายกฯ เป็นประธานว่า นายกฯ กล่าวถึงสถานการณ์พลังงานขณะนี้ที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ ว่ายังมีความไม่แน่นอนอยู่สูง จึงขอให้ทุกคนร่วมมือกันประหยัดพลังงานควบคู่กับการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานให้มากขึ้น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฟ้องต้นตอหมอคางดำ

สภาทนายความฯ เตรียมฟ้องแพ่งบิ๊กเอกชน-หน่วยงานรัฐ ต้นตอ "เอเลี่ยนสปีชีส์"

‘เนวิน’รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดมิวสิคัลเทิดพระเกียรติ

“เนวิน” รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดเทิดพระเกียรติ 72 พรรษา แสดง แสง สี เสียง มิวสิคัล “ลมหายใจของแผ่นดิน” โดยบุรีรัมย์ออร์เคสตรา แสดงความจงรักภักดี 28-30 ก.ค.2567 สนามช้างอารีนา บุรีรัมย์