บิ๊กตู่โวล้มได้ก็ล้มไป เตือนระวังไม่ดีกว่าเดิม! ฝ่ายค้านขีดเส้นอายุรบ.

“ประยุทธ์” วอนลดความขัดแย้งทางการเมือง ลั่นล้มนายกฯ ได้ก็ล้มไป สุดท้ายก็ไม่ต้องทำงาน แค่นั้นเอง  เตือนสังคมอยากกลับที่เก่าเวลาเดิมหรือ  “ประวิตร” ยันช่วยพยุงน้องตู่จนหมดวาระ  ไม่คิดนั่งผู้นำแทนแน่ “นิโรธ” เดือดซัด “พิเชษฐ” สายลับ 3 หน้า เจ้าตัวไม่ยี่หระบอกหากถูกขับก็ย้ายไปฝ่ายค้าน “ชลน่าน" อ่านแถลงการณ์ขีดเส้นอายุรัฐบาลไม่เกิน ส.ค.

เมื่อวันที่ 6 พ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมเดินทางเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐอเมริกา สมัยพิเศษ (ASEAN- US Special Summit) ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 12-13 พ.ค.ที่สหรัฐ มีความห่วงใยสถานการณ์ในประเทศไทยอะไรหรือไม่ ว่า สิ่งที่เป็นห่วงอย่างเดียวก็คือความขัดแย้ง ซึ่งเวลานี้ไม่ใช่เวลาสร้างความขัดแย้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์การเมือง เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งมันไม่ได้หมายถึงในตอนนี้ วันนี้เราต้องเตรียมการในเรื่องของการชี้แจงเรื่องงบประมาณตามวาระที่เตรียมไว้ ถ้าหากไม่ผ่านในการพิจารณาก็จะเดือดร้อนในส่วนของงบประมาณปี 2566 ที่จะต้องมีการเริ่มใช้ตั้งแต่เดือน ต.ค.เป็นต้นไป ขอร้องให้เข้าใจกันบ้าง และก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบ เพราะเรากำลังบูมในเรื่องของการท่องเที่ยว รวมทั้งการลงทุนต่างๆ ซึ่งนักลงทุนเขาก็ต้องบอกว่าในประเทศไทยมีความขัดแย้งอะไรมากมายหรือไม่ ถ้าไม่มีอะไรขัดแย้งกันมากมายและอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ก็จะมีการเพิ่มการลงทุนในประเทศของเรามากยิ่งขึ้น

“อะไรที่ขัดแย้งกันมากๆ โดยที่ไม่มีความจำเป็นก็ไม่รู้จะขัดแย้งกันไปทำไมเหมือนกัน ส่วนเรื่องการเดินทางไปต่างประเทศ ขอยืนยันอีกครั้งว่าไม่มีประเด็นอะไรอย่างที่สื่อบางแขนงไปพาดหัวข่าว ผมรู้ดีว่าบทบาทของประเทศของเราอยู่ตรงไหน ขอร้องอย่าไปฟังมากนักเลย เพราะคนบางคนแสดงความคิดเห็นออกมาบางทีก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ก็พูดออกมา อาจจะเป็นด้วยความห่วงใย แต่คนที่ควรจะห่วงใยมากที่สุดคือตัวนายกฯ ไม่ใช่หรือ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงการนัดพรรคร่วมรัฐบาลทานข้าวก่อนเปิดประชุมสภาหรือไม่ว่า อย่าให้ความสำคัญกับเรื่องการต้องรับประทานข้าวถึงคุยรู้เรื่อง เพราะได้คุยหลายวิธีการหลายทางอยู่แล้ว ทุกกลุ่มทุกฝ่ายมีแกนนำ มีหัวหน้ากันอยู่แล้วก็คุยกัน แต่บางทีหลายอย่างไม่เข้าใจกัน แต่ตอนนี้ก็รู้สึกเข้าใจกันมากขึ้นแล้ว เข้าใจในตัวตนเอง เข้าใจในตัวนายกฯ เข้าใจนโยบายนายกฯ ว่าทำงานอย่างไร เขาก็ยินดีจะร่วมมือกับเรา ไม่ว่าจะพรรคไหนก็ตาม พรรคร่วมรัฐบาล พรรคเล็กก็โอเคหมด เข้าใจนายกฯ 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้กำชับเรื่องการเล่นเกมในสภาหรือไม่ โดยเฉพาะกระแสข่าวที่จะมีการล้มนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “เอาเถอะ เขาจะล้ม ถ้าล้มได้ก็ล้มไปเถอะ ถ้าล้มก็ล้ม ผมก็ไม่ต้องทำงาน ก็แค่นั้นเอง ถ้าล้มแล้วมันมีอะไรดีขึ้นมา ถ้าล้มได้ก็ล้มไป แต่กลัวว่ามันจะไม่ดีกว่าเดิม”

เมื่อถามว่า ในเรื่องนี้ได้สอบถามพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ถามมาตลอด ก็ไม่เห็นมีใครจะล้ม เขาก็ยืนยันจะอยู่ร่วมกับรัฐบาลต่อไป เพราะกำลังอยู่ในขั้นตอนที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงประเทศของเราในทางที่ดีขึ้น เขาก็ยินดีที่จะร่วมมือทั้งนั้นแหละ อย่าเห็นแก่ประโยชน์เล็กน้อย ประเทศชาติสำคัญที่สุด สำคัญกว่าอย่างอื่น ช่วงนี้ขอร้องก็แล้วกัน

ถามว่าทำให้เสียสมาธิคนทำงานหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า แล้วคุณเสียหรือไม่เวลาคุณจะเขียนอะไรจะพูดอะไรแล้วมีคนมาทักนู่นทักนี่จนคุณเขียนข่าวไม่ได้ คุณจะเสียสมาธิไหม เอาให้มีสมาธิแก้ปัญหาดีกว่าให้ต้องมาหงุดหงิดกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ฉะนั้นจะเห็นได้ว่าพยายามไม่ยุ่งไม่ตอบ ไม่พูดถึง มันเป็นปัญหาคนบางคนบางพวก ก็ต้องดูว่าส่วนใหญ่เขาว่าอย่างไร เพราะวันนี้เราไม่สามารถห้ามคนคิดอะไรได้ แต่เราต้องสามารถตอบคำถามได้ทุกอัน

อยากกลับสู่ที่เก่าเวลาเดิมหรือ

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้เคลียร์กับพรรคเล็กแล้วทำให้นายกฯ สบายใจขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ใครสบายใจ ตนเองสบายใจทุกวันอยู่แล้ว แล้วก็คุยกับเขาด้วย เจอใครก็คุยกับเขาหมด เพื่อให้เขาเข้าใจว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร และเราควรจะเดินหน้าประเทศกันอย่างไร มันไม่ใช่ว่าวันนี้ทุกคนจะมุ่งมั่นแต่การหาเสียงทางการเมืองกันอย่างเดียว และประเทศชาติมันไปได้หรือไม่ หลายอย่างที่พูดกันออกมาทำได้จริงหรือเปล่า ไม่อยากจะไปด้อยค่าใคร ประชาชนก็ต้องเรียนรู้ว่าจะอยู่ทางการเมืองอย่างไร แล้วเปรียบเทียบดูว่าจากที่ผ่านมาจนถึงวันนี้แก้ปัญหาอะไรไปได้แล้วบ้าง หรือจะกลับสู่ที่เก่าเวลาเดิมก็เอาสิ ตามใจก็เรื่องของท่าน

เมื่อถามว่า เวลานี้ดูเหมือนพรรคการเมืองใหญ่ๆ จะนิ่ง แต่พรรคเล็กวิ่งกันวุ่นวาย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ให้เขาวิ่งไป เดี๋ยวเขาก็เหนื่อยเองละมั้ง ไม่มีอะไรหรอก เขาคุยกันแล้ว กับ พล.อ.ประวิตรท่านก็คุยแล้ว เจอหน้ากับทุกคนก็คุยให้เข้าใจว่ากำลังทำอะไรอยู่ แค่นั้นเอง เอาความต้องการและความเดือดร้อนของประชาชนเป็นที่ตั้ง จะทำอะไรก็ตามต้องมองตรงโน้นมากกว่า เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง เรื่องเลือกตั้งยังไม่ใช่เวลานี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการให้สัมภาษณ์ประเด็นทางการเมือง เป็นที่น่าสังเกตว่านายกฯ มีน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย แต่ก็ตอบทุกคำถาม

ขณะที่ พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงขบวนการล้ม พล.อ.ประยุทธ์ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า “ไม่มี ไม่มีใครล้มหรอก ไม่ต้องคุย ไม่มีใครล้มหรอก นายกฯ ก็เป็นนายกฯ อยู่แบบนี้แหละ อยู่จนกระทั่งเขาจบนั่นแหละ”

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตรน้อยใจหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาว่าจะเป็นนายกฯ แทนบ้าง หรือรักษาการบ้าง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “จะน้อยใจเรื่องอะไร ไม่มีอะไรเลย พวกคุณก็ไปพูดกันเองทั้งนั้น ไปว่ากันเองทั้งนั้น ไม่มีอะไรหรอก”

ถามย้ำว่า ส่วนตัวไม่คิดป็นนายกฯ และจะอยู่ช่วยนายกฯ ต่อไปใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “เออ”

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงนายกฯ รักษาการว่า หากสภายังเลือกนายกฯ ใหม่ไม่ได้ นายกฯ รักษาการ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) รักษาการ ก็ยังคงอยู่ตราบเท่าที่จะมีนายกฯ ใหม่ และถึงแม้ว่าจะมีนายกฯ ใหม่แล้ว นายกฯ รักษาการก็ยังต้องอยู่จนกระทั่งนายกฯ ใหม่ฟอร์ม ครม.ใหม่ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาหลายวัน และอยู่จนกว่า ครม.ใหม่จะเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน ซึ่งอำนาจของนายกฯ รักษาการนั้นสามารถทำได้ทุกอย่าง สามารถปรับ ครม.ได้ และเคยมีมาแล้ว ส่วนกรณีนายกฯ กำลังจะเดินทางไปสหรัฐนี้ ก็ให้ พล.อ.ประวิตรเป็นผู้รักษาการ แต่ถ้า พล.อ.ประวิตรก็จะเป็นตนเองรักษาการ

ขณะที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการจ่ายเงินให้ ส.ส.คนละประมาณ 5-30 ล้านบาท เพื่อโหวตล้ม พล.อ.ประยุทธ์ว่า ไม่ทราบข้อเท็จจริงของเรื่องนี้ แต่ถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องในทางการเมือง เพราะการลงมติของ ส.ส.ต้องทำอย่างถูกต้องตามวิถีในระบอบประชาธิปไตย โดยต้องขึ้นอยู่กับเหตุผลและการทำหน้าที่ของแต่ละฝ่ายตามรัฐธรรมนูญและตามระบบรัฐสภา ไม่ใช่ใช้เงินไปบิดเบือน

สำหรับปัญหานายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. ที่ไปเคลื่อนไหวร่วมกับพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งล่าสุดพรรคมีหนังสือเรียกนายพิเชษฐไปชี้แจงนั้น พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เป็นเรื่องของพรรคที่จะดำเนินการ พรรคมีคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคอยู่แล้ว ส่วนที่นายพิเชษฐอยากให้พรรคขับออกหรือไม่นั้น ต้องไปสอบดูก่อน เขาทำผิดหรือทำถูก เดี๋ยวค่อยมาว่ากัน

สำหรับหนังสือเรียกชี้แจงนั้น นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานคณะกรรมการกฎหมายและข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ เป็นผู้ทำถึงนายพิเชษฐ มาชี้แจงข้อเท็จจริงและให้ถ้อยคำเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการฯ ในวันที่ 11 พ.ค.นี้ เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุม ชั้น 4 ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ แต่หากไม่มา คณะกรรมการฯ จะพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

ซัดสายลับ 3 หน้า

นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรค พปชร. ในฐานะประธานคณะกรรมการพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ยอมรับว่า เรื่องนี้มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรคอย่างมาก ที่มีคนของพรรคไปร่วมมือกับฝ่ายค้านมาดิสเครดิตรัฐบาลเช่นนี้ และที่น่าเป็นห่วงในการเคลื่อนไหวเรื่องท่อส่งน้ำในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) นั้น ถามว่าทำไปเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทหรือของใครกันแน่ ที่สำคัญกรณีนี้นายกฯ สั่งให้มีการตรวจสอบ เพราะรับฟังคำท้วงติงของทุกฝ่ายแล้ว

“การที่นายพิเชษฐบอกว่าเข้าไปในพรรคแล้วเหมือนคนแปลกหน้า ก็อยากบอกท่านว่าเพราะท่านทำตัวแปลกแยก มีเรื่องอะไรในพรรคควรคุยกันภายใน ไม่ใช่ให้ข่าวกล่าวหารัฐมนตรี ซึ่งเป็นเลขาธิการพรรค ถามว่าทำเช่นนี้ถูกต้องหรือไม่ ก็เพราะพฤติกรรมของท่านเอง คนในพรรคจึงมองท่านเป็นวัตถุโปร่งแสง ยิ่งท่านเป็น ส.ส.อาวุโสหลายสมัย แต่กลับมีพฤติกรรมเช่นนี้ ทำตัวเหมือนสายลับ 3 หน้า วันหนึ่งอยู่ฝ่ายหนึ่ง อีกวันอยู่อีกฝ่าย  กลับกลอกไปมา”

ส่วนนายพิเชษฐกล่าวว่า ยังไม่ได้รับหนังสือดังกล่าว แต่ทราบมาว่ามีคนพยายามจะขับออกจากพรรค แต่ต้องมีกระบวนการสอบสวนไต่สวนก่อน เป็นความพยายามปิดปากต่อการพิทักษ์ผลประโยชน์ของประเทศ ซึ่งไม่เป็นไร หากมีหนังสือมาก็พร้อมชี้แจง ส่วนถ้าสุดท้ายแล้วพรรคมีมติขับออก จะไปสังกัดกลุ่มร.อ.ธรรมนัสหรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตรก็คุมกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัสอยู่ หากจะย้ายพรรค ย้ายไปอยู่กับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยไม่ดีกว่าหรือ จะได้เป็นฝ่ายค้านเต็มตัว

วันเดียวกัน ยังมีความเคลื่อนไหวของการย้ายสังกัดและการเปิดตัว ส.ส. โดยเฉพาะกรณีพรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา และ ส.ส.บุรีรัมย์ 9 คน โดยมีชื่อนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชนที่เคยย้ายขั้วพร้อมกับพรรคภูมิใจไทย และล่าสุดไปลงสมัคร ส.ส.นครราชสีมา ในนามพรรค พปชร. แต่สอบตก  โดยหลังเปิดตัวนายบุญจง ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสังคมออนไลน์ของแนวร่วมที่สนับสนุนพรรค พท. เช่นเดียวกับกลุ่มไลน์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็ได้ ส.ส.หลายคนตั้งคำถามถึงการวางตัวนายบุญจง ในฐานะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา โดยส่วนใหญ่เป็นการต่อว่าถึงการดึงงูเห่าคืนถิ่น เอาคนทรยศคนเสื้อแดงกลับมา

ล่าสุด นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอขอบคุณในความห่วงใยของสมาชิกพรรคและพี่น้องประชาชนทุกคนที่ได้แสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย แต่ขั้นตอนในการสรรหาผู้สมัครอีกหลายขั้น ซึ่งนายบุญจงยังต้องผ่านการพิจารณาของกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.และกรรมการบริหารพรรคอีกครั้งหนึ่ง แต่ล่าสุดนายบุญจงได้แสดงเจตนาว่า เมื่อสมาชิกยังมีข้อคิดเห็นที่หลากหลาย และเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย จึงขอถอนตัวไปก่อน

ที่ห้องประชุมวันวาน บายพาโค่ เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พรรคร่วมฝ่ายค้านจัดประชุมหัวข้อ "ผนึกกำลัง ขีดเส้นใต้ความล้มเหลว ขีดเส้นตายรัฐบาล" มีแกนนำและตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้านเข้าร่วม โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร อ่านแถลงการณ์พรรคร่วมฝ่ายค้านว่า วันนี้เรารวมพลังเพื่อยุติรัฐบาลที่สิ้นสภาพ โดยการขีดเส้นตายการทำงานของรัฐบาลนี้ ทำหน้าที่ได้ไม่เกินเดือน ส.ค.ที่จะถึง ถึงเวลาแล้วที่ต้องคืนอำนาจ  คืนชีวิต คืนความกินดีอยู่ดี คืนประชาธิปไตยให้กับประชาชนทุกคน

เมื่อถามว่า การยื่นตีความวาระ 8 ปี นายกฯ จะยื่นวันใด นพ.ชลน่านกล่าวว่า จากการหารือทั้งในส่วนของพรรคฝ่ายค้าน เห็นตรงกันว่าจะยื่นช่วงกลางเดือนก.ค.เป็นเวลาที่เหมาะสม เพราะถ้าช้าเกินไป ศาลรัฐธรรมนูญอาจวินิจฉัยหลังวันที่ 23 ส.ค. จะเกิดความเสียหาย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฟ้องต้นตอหมอคางดำ

สภาทนายความฯ เตรียมฟ้องแพ่งบิ๊กเอกชน-หน่วยงานรัฐ ต้นตอ "เอเลี่ยนสปีชีส์"

‘เนวิน’รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดมิวสิคัลเทิดพระเกียรติ

“เนวิน” รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดเทิดพระเกียรติ 72 พรรษา แสดง แสง สี เสียง มิวสิคัล “ลมหายใจของแผ่นดิน” โดยบุรีรัมย์ออร์เคสตรา แสดงความจงรักภักดี 28-30 ก.ค.2567 สนามช้างอารีนา บุรีรัมย์