“บิ๊กตู่” สั่งหาข้อเท็จจริงแก๊งค้ามนุษย์ที่สุราษฎร์ธานี “จุติ” เต้นบอกทำตลอดแบบเงียบๆ สั่งย้ายผู้เกี่ยวข้องออกนอกพื้นที่แล้ว ลั่นไม่มีมวยล้มต้มคนดูแน่ เอ็นจีโอชี้อาจมีการตัดตอน “โจ๊ก” ไม่หนักใจ ร้องศาลถอนประกันผู้ต้องหาแล้ว
เมื่อวันศุกร์ที่ 6 พ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีเจ้าหน้าที่จับกุมเครือข่ายค้ามนุษย์ที่นำเด็กมาแสวงหาประโยชน์ทางเพศ ซึ่งพบผู้ต้องหาเป็นทั้งครู หมอ ทหาร ลูกอดีตนักการเมืองใช้บริการ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) รวมถึงรองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ซึ่งต้องทำหน้าที่แต่กลับละเว้นแถมยังโทร.สั่งเกลี้ยกล่อมเด็กเหยื่อช่วยผู้ต้องหา ว่าตำรวจรับเรื่องไว้แล้ว กำลังสอบสวนอยู่ ซึ่งทราบข่าวก็ได้ย้ำเตือนและสั่งการไปทันทีให้ตรวจสอบข้อมูลหาข้อเท็จจริงให้ได้ แล้วดำเนินการผู้กระทำผิด เพราะเรื่องนี้มีผลกับเรื่องการค้ามนุษย์ ซึ่งตำรวจชี้แจงมาขั้นต้นแล้ว
ขณะที่นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมฯ กล่าวว่า เรื่องเกิดขึ้นปลายปี 2564 มีการสอบสวนจนมาถึงเดือน เม.ย.และ พ.ค. ซึ่งมีผู้เสียหาย 9 ราย ที่ผ่านมา พม.ได้ดำเนินการอยู่แล้วอย่างเงียบๆ เพราะต้องคุ้มครองสิทธิ์ผู้เสียหาย ประชาชนอาจไม่ได้เห็นอะไรที่ พม.ได้ดำเนินการไป แต่อยากให้ประชาชนนั้นได้มั่นใจว่ากระบวนการที่เราทำอยู่นั้นได้คุ้มครองป้องกันและจัดการกับการกระทำละเมิดทางเพศอย่างเด็ดขาดเสมอมา ด้วยคณะกรรมการที่มีอยู่แล้วในระบบและเพื่อให้ประชาชนมั่นใจมากขึ้น ได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานสืบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งมีปลัด พม.เป็นประธาน และเชิญภาคประชาชนมาร่วมด้วย
“ปลัด พม.ได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดออกมาปฏิบัติหน้าที่นอกพื้นที่แล้ว คำสั่งมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขอให้มั่นใจว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2564 มีการสอบสวนเรื่อยมา ขอยอมรับตรงๆ ว่าส่วนกลางไม่ค่อยรับทราบเรื่อง เพราะไม่มีการรายงานมาจากพื้นที่ จนมีเรื่องเกิดขึ้นถึงรายงานเข้ามา แต่ขอให้มั่นใจว่า พม.นั้นไม่ได้นิ่งนอนใจ”นายจุติกล่าว
ผู้สื่อข่าวสอบถามกรณีรองอธิบดีที่เป็นข่าวเกี่ยวข้องนั้น นายจุติกล่าวว่า ไม่มีละเว้นใคร ต้องมีการสอบสวนข้อเท็จจริงหมดทุกคน และมีคำสั่งให้มาปฏิบัติหน้าที่ ทุกคนก็ต้องมาปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้โอกาสคนที่เขาไปสอบสวนข้อเท็จจริง ได้ทำงานได้อย่างเต็มที่และรวดเร็ว การที่ พม.เชิญภาคเอกชนเข้ามาร่วมเป็นคณะทำงานเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและความมั่นใจว่าสมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมาย ซึ่งมีนักกฎหมายสตรีทั้งนั้น ผู้เสียหายทุกคนสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับความคุ้มครองและได้รับความเป็นธรรมอย่างแน่นอน และเรื่องนี้จะไม่มีมวยล้มแน่ๆ ขอยืนยัน
น.ส.สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง ผู้อำนวยการมูลนิธิส่งเสริมความเสมอภาคทางสังคม ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรเอกชน (เอ็นจีโอ) ที่ร่วมในคณะทำงาน กล่าวว่า ถือว่าดีที่ตั้งคนนอกไปร่วมในคณะทำงาน แต่ต้องพูดคุยถึงขอบเขตอำนาจหน้าที่คณะทำงานก่อน ซึ่งจากคำให้สัมภาษณ์ของ รมว.พม.และคำในเอกสารคำสั่งก็ยังกว้างๆ และไม่ตรงกัน เพราะส่วนตัวอยากเสนอให้ พม.ตระหนักถึงความสำคัญการมีประมวลจริยธรรมทางเพศ ในการคัดเลือกข้าราชการขึ้นสู่ตำแหน่งบริหาร อย่างการคัดเลือกผู้ที่จะมาตำแหน่งผู้อำนวยการกองขึ้นไป ต้องคัดอาทิไม่ทำผิดคดีเกี่ยวกับเพศ ต้องไม่ช่วยเหลือผู้กระทำผิดคดีทางเพศให้พ้นผิด เป็นต้น
“ได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงท่านหนึ่งที่เคยทำงานร่วมกัน และครั้งนี้เข้าไปร่วมสอบสวนในคดีดังกล่าว เขายอมรับว่าแม้มีพยานหลักฐานชัดมัดแน่น มีตำรวจส่วนกลางเข้าไปร่วมสอบสวนด้วย แต่ก็มีความเป็นห่วงไม่น้อยว่าจะมีการตัดตอน เพราะผู้เกี่ยวข้องในคดีมีตำแหน่งใหญ่โตและหลายระดับ”น.ส.สุเพ็ญศรีระบุ
ด้าน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวถึงคดีนี้ว่า ก่อนหน้านี้ประมาณกว่า 2 เดือน มีการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่เป็นผู้ใช้บริการทั้งทหาร หมอ และลูกอดีตนักการเมือง ทั้งสิ้น 11 ราย และจับกุมขบวนการที่เป็นเอเยนต์ ธุระจัดหาและค้ามนุษย์อีก 6 ราย ในส่วนผู้ต้องหากลุ่มนี้มีการจับกุมดำเนินคดีและพนักงานสอบสวนสั่งฟ้องไปยังชั้นอัยการแล้ว แต่หลังดำเนินคดีแล้วมีข้อมูลเพิ่มเติมว่ามีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม มีการพยายามช่วยเหลือบุคคลบางส่วนในพื้นถิ่น มีการกดดันเด็ก การทำร้ายร่างกายเด็ก รวมถึงกดดันหัวหน้าบ้านพักเด็ก ซึ่งรับผิดชอบดูแลเด็ก รวมถึงข้อมูลจากเอ็นจีโอต่างๆ ซึ่งได้ส่งชุดทำงานลงตรวจสอบพบว่ามีการแทรกแซงกระบวนการสอบสวนจริงโดยรองอธิบดี ดย. จึงได้ตั้งข้อกล่าวหาความผิดฐาน 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมทั้งขัดขวางการสืบสวนสอบสวนคดีความฐานค้ามนุษย์ มีความผิดอัตราโทษบทหนักพอสมควร
“กลุ่มผู้ต้องหากลุ่มแรก มีบางส่วนเข้าไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐานที่เป็นผู้ต้องหา ได้สั่งให้พนักงานสอบสวนมีหนังสือเรียนขออำนาจศาลเพื่อให้เพิกถอนการประกัน เพื่อให้กลับเข้าสู่เรือนจำอีกครั้งหนึ่ง อยู่ระหว่างศาลไต่สวนของศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์กล่าว และว่า ได้รายงานเรื่องดังกล่าวถึงนายกฯ, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ ผบ.ตร.แล้ว โดยเฉพาะ ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำให้ดำเนินคดีอย่างชัดเจน และให้ความเป็นธรรมกับทุกส่วน มีการบังคับใช้กฎหมายเหมือนกันหมด ไม่มีอะไรที่น่าหนักใจ
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ระบุว่า ตอนนี้เด็กอยู่ที่ กทม.แล้วในการคุ้มครองพยาน ซึ่งเด็กเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ยังยืนยันคำให้การเดิม และมั่นใจในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งพ่อแม่เด็กก็เชื่อมั่น ทำให้มีเบาะแสเข้ามาจำนวนมาก.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปชน.กระทุ้งกต. ปรับท่าทีเชิงรุก เร่งช่วย4ลูกเรือ
กต.นัดถกเมียนมา 19 ธ.ค.นี้ ช่วยลูกเรือไทย 4 คน “โรม” ผิดหวังคำตอบทางการ
แม้วยันเกาะกูดของไทย ไม่ใช่‘ควาย’ยกให้เพื่อน
“ทักษิณ” ลั่นล้านเปอร์เซ็นต์เกาะกูดเป็นของไทย ใครจะบ้ายกให้
สจ.จอยประกาศไม่เผาศพ!
7 ผู้ต้องหาคดียิง "สจ.โต้ง" คอตกเข้าคุกเรียบร้อย
กกต.ย้ำ1ก.พ.เลือก47อบจ. พท.จ่อเคาะชื่อเก้าอี้โคราช
กกต.ย้ำเลือกตั้งนายก อบจ. 47 จังหวัด 1 ก.พ.2568
พ่อนายกฯขู่เช็กบิล! พรรคร่วมโดดประชุมครม.-นักร้อง/ขอพระเจ้าอยู่ต่ออีก17ปี
"เพื่อไทย" คึก! 3 นายกฯ ร่วมทีมขึ้นรถไฟสัมมนาพรรคที่หัวหิน "นายกฯ อิ๊งค์" ขอ สส.ไม่แบ่งขั้ว-อายุ ยอมรับ 3 เดือนโฟกัสงานรัฐบาล
หัวลำโพงคึกคัก! 'อิ๊งค์' นำทีม พท. สัมมนาหัวหิน ตื่นเต้นขึ้นรถไฟรอบ 20 ปี
’แพทองธาร‘ นำทีม ’เพื่อไทย’ ขึ้นรถไฟขบวนพิเศษ มุ่งหน้าสัมมนาหัวหิน ‘เศรษฐา-โอ๊ค-เอม’ ร่วมด้วย ตื่นเต้นนั่งรถไฟรอบ 20 ปี