‘ป้อม’ปรามพิเชษฐ สั่งเบาเครื่องท่อส่งน้ำอีอีซี/บิ๊กตู่ไม่ห่วง8ปีนายกฯ

"บิ๊กตู่" น้อมนำพระบรมราโชบาย "ในหลวง" ดูแล ปชช.ให้มีความสุข  แจงสั่งตรวจสอบปมท่อส่งน้ำอีอีซีตามหน้าที่ หากมีปัญหาต้องแก้ไข "วิษณุ" ชี้ปมนายกฯ 8 ปีอยู่ที่ศาลสั่ง "อนุทิน" ติงอย่าหมกมุ่นเกมการเมืองมากนัก "พิเชษฐ" ลั่นซักฟอก "สันติ" ไม่เกี่ยวนายกฯ "อิทธิพล" ยันบ้านใหญ่อยู่ พปชร.ไม่ย้ายพรรค คึกคัก "เพื่อไทย-ไทยสร้างไทย" เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. "เทพเทือก" เมินสมุน "แม้ว" ดาหน้าโจมตี "กมธ.กฎหมายลูก" เคาะ 5 ขั้นตอนทำไพรมารีโหวต

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 5 พ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ครั้งที่ 1/2565 ว่า เราเพิ่งผ่านวันฉัตรมงคล ซึ่งเป็นประเพณีของเราเป็นเรื่องของสถาบันที่พวกเราทุกคนเคารพนับถืออย่างสูงสุด ซึ่งเราได้ร่วมกันทำกิจกรรมหลายอย่าง และมีกิจกรรมจิตอาสาอีกมากมาย

"ผมได้ดำเนินการในส่วนที่รัฐบาลต้องเข้าไปดูแลรับผิดชอบ คือเรื่องการสืบสาน  รักษา ต่อยอด แนวทาง แนวปฏิบัติ หรือพระราโชบายที่รับสั่งให้เราได้ดูแลประชาชนให้ดีที่สุด ให้ประชาชนมีความสุข" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายกฯ กล่าวถึงการสั่งตรวจสอบการเซ็นสัญญาโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก มูลค่า 2.5 หมื่นล้านบาท ของกรมธนารักษ์กับบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ว่าอะไรที่เป็นกระบวนการก็ว่ากันไป ตนจะไม่เข้าไปก้าวล่วง นายกฯ มีหน้าที่ในการกำหนดนโยบายการกำกับดูแล รวมทั้งการติดตาม กรณีใดที่มีปัญหาก็ต้องสั่งให้มีการทบทวนแก้ไข และบางครั้งก็ไม่ได้อยู่ในอำนาจของนายกฯ เป็นหน้าที่ของหน่วยงานและคณะกรรมการที่ทำกันอยู่

"นายกฯ มีอย่างเดียวคือ เมื่อมีปัญหาก็สั่งการให้มีการตรวจสอบ จากนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าผลการตรวจสอบจะเป็นอย่างไร และทั้งหมดก็จะนำไปสู่กระบวนการยุติธรรมที่จะว่ากันไป ทุกคนเข้าใจอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีแล้ว" นายกฯกล่าว

ถามกรณีมีภาพนายกฯ จับมือกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา แสดงว่ามีความเข้าใจกันดีแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ หยุดฟังก่อนตอบด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์ ว่า "เมื่อไหร่จะเลิกถามข่าว พล.อ.ประวิตร สักทีเธอ"  

เมื่อถามย้ำว่า ไม่มีปัญหากันแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ทำไมเหรอ เธอมีอะไรกับ พล.อ.ประวิตรเหรอ” เมื่อผู้สื่อข่าวตอบว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวพร้อมเกาศีรษะว่า “เออ แล้วถ้าไม่มีทำไมถามถึงเขาทุกวันล่ะ”

มีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้เรียกนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี  และนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

ต่อมานายวิษณุกล่าวภายหลังเข้าพบนายกฯ ว่า เข้าหารือเกี่ยวกับข้อราชการทั่วไป ไม่ใช่ความลับอะไร เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยสามัญในวันที่ 22 พ.ค.นี้ ซึ่งจะมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2566 และนายกฯ มีความเป็นห่วงว่าในช่วงที่นายกฯ ต้องไปปฏิบัติราชการในต่างประเทศหลายวัน จะเป็นช่วงที่มีพระราชพิธีสำคัญ จึงทำให้ต้องมีการมอบหมายผู้เข้าไปร่วมงานเหล่านั้น อาทิ พระราชพิธีสมโภชพระหลักเมือง พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ในวันพืชมงคล ซึ่งตนได้อธิบายให้นายกฯ ทราบถึงการเตรียมการต่างๆ

นายกฯ 8 ปีอยู่ที่ศาลสั่ง

"นายกฯ ไม่ได้แสดงความเป็นห่วงเรื่องใดเป็นพิเศษ มีเพียงการถามแค่ว่าจะส่งร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ไปให้ทางสภาเมื่อใด ซึ่งผมได้แจ้งว่านายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ แจ้งว่าจะต้องส่งร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ไปให้กับสภาล่วงหน้า 2 สัปดาห์ก่อนการพิจารณา เพราะหากส่งไปช้ากว่านั้นจะไม่สามารถเตรียมการอภิปรายทัน" นายวิษณุกล่าว

ถามถึงการดำรงตำแหน่งวาระ 8 ปี ของนายกฯ หากไม่มีคนยื่น รัฐบาลจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความเองหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ยังไม่ได้คิด ถ้ารัฐบาลยื่นต้องดูข้อดี-ข้อเสีย ถ้ารัฐบาลยื่นเท่ากับว่ารัฐบาลเป็นคนสงสัย แล้วทำไมต้องอยู่ให้สงสัย เพราะถ้าสงสัยก็ไม่ต้องอยู่ต่อ

ซักว่าจะเป็นปัญหาในการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า แล้วแต่ศาลจะสั่งว่าอย่างไร

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ว่า การมีแต่ข่าวเกมการเมืองล้มรัฐบาลทุกวันไม่เป็นผลดีกับประเทศเลย เพราะจะทำให้ประชาชนและนักลงทุนรู้สึกไม่มั่นคง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจและบรรยากาศการลงทุน ตอนนี้สถานการณ์โควิดเราดีขึ้นเป็นลำดับแล้ว ควรเป็นเวลาขาขึ้นของประเทศอยากให้ช่วยกันรักษาบรรยากาศ ใส่ใจกับเสถียรภาพชีวิตประชาชน

"วันนี้ควรโฟกัสกับปัจจุบัน ปัญหาวันนี้ไม่ใช่การเลือกตั้ง แต่คือการทำให้แน่ใจว่า คนไทยจะได้ทำงาน ฟื้นเศรษฐกิจกัน หลังเปิดประเทศเต็มที่ การท่องเที่ยวฟื้น เปิดโอกาสใหม่ๆ ในธุรกิจสุขภาพ เด็กๆ จะได้ไปโรงเรียน การขนส่งคมนาคมมีประสิทธิภาพ สามารถกระจายรายได้และความเจริญไปทั่วประเทศได้" นายอนุทินกล่าว

ขณะที่นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16 กล่าวถึงการไปรับประทานอาหารเย็นกับนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ว่าได้รับคำยืนยันจากนายยุทธพงศ์ แม้กรมธนารักษ์จะเลื่อนลงนามสัญญาโครงการระบบท่อส่งน้ำอีอีซีกับบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด แต่ฝ่ายค้านจะอภิปรายเรื่องนี้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่นอน เพราะถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว

"การเคลื่อนไหวของผม พล.อ.ประวิตรได้โทรศัพท์มาขอร้องให้นำเรื่องดังกล่าวมาพูดคุยกันในพรรค ขอให้เบาเครื่องลงมา แต่ผมมีจุดยืนชัดเจน หากยังมีการลงนามเซ็นสัญญากับบริษัท วงษ์สยามก่อสร้างฯ ผมและ ส.ส.กลุ่ม 16 พร้อมจะลงมติไม่ไว้วางใจนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง แต่ไม่เกี่ยวกับการลงมติไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ที่ไม่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้" นายพิเชษฐกล่าว

วันเดียวกัน นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ในฐานะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ออกมาปฏิเสธกระแสข่าวกลุ่มบ้านใหญ่ชลบุรีจะย้ายไปสังกัดพรรคชาติไทยพัฒนาว่า ไม่มี เพราะทุกคนก็ทำงานในพื้นที่อย่างขยันขันแข็ง ในฐานะกรรมการบริหาร พปชร.ก็ทำงานอย่างเข้มแข็ง และตอนนี้มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรค ซึ่งมอบให้รัฐมนตรีของพรรคเป็นประธานยุทธศาสตร์แต่ละด้าน และตนก็ได้รับมอบหมายเป็นประธานคณะทำงานด้านเศรษฐสร้างสรรค์ พรรค พปชร. ดังนั้นข่าวที่เป็นกระแสอยู่ก็ไม่เป็นความจริง รวมทั้งกระแสจะย้ายไปพรรคใหม่ หรือพรรคอื่นๆก็เป็นเพียงกระแส ตอนนี้ยังไม่เป็นความจริง

คึกคักเปิดว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมาและเลขาธิการพรรค และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรค แถลงข่าวเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมาและ ส.ส.บุรีรัมย์ ทั้งหมด 9 คน แบ่งเป็น ส.ส.นครราชสีมา 4 คน ได้แก่ 1.นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ 2.นายสุพงษ์พิช รุ่งเป้า 3.นายวัฒนะชัย สืบศิริบุษย์ และ 4.น.ส.ณัฐจิรา อิ่มวิเศษ ขณะที่ ส.ส.บุรีรัมย์ 5 คน ได้แก่ 1.นายจำรัส เวียงสงค์ 2.นายสุรศักดิ์ นาคดี 3.นายวิธันพัศ เฮงวาณิชย์ถิรธนา 4.นายเล็ง พยุงแสนกุล และ 5.ว่าที่ ร.ต.เสนาะ พรหมสวัสดิ์

นพ.ชลน่านกล่าวว่า พรรคประกาศชัดว่าขออาสามีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติ นำพาประเทศชาติออกจากวิกฤตเหล่านี้ ขอความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนทั้งแผ่นดินแลนด์สไลด์เพื่อไทยทั้งแผ่นดิน คือขอเสียงสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนช่วยเลือก ส.ส.พรรคเพื่อไทย ทั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตและ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ให้ได้มากกว่า 250 เสียง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายบุญจงนั้น ในปี 2561 ได้มาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ในการเลือกตั้งส.ส.ปี 2562 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง

นายบุญจงกล่าวว่า ขอบคุณประชาชนและพรรคเพื่อไทยที่ให้โอกาสมาทำงานการเมืองกับพรรค พท. และไว้วางใจให้เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เบื้องต้น ของพรรคเพื่อไทย สถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้พี่น้องประชาชนเดือดร้อนจากปัญหาเศรษฐกิจ รัฐบาลที่บริหารอยู่ในขณะนี้ไม่ได้เร่งแก้ไขปัญหา พี่น้องประชาชนในพื้นที่สะท้อนอย่างชัดเจนให้มาร่วมงานกับพรรค พท.

ส่วนพรรคไทยสร้างไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย แถลงเปิดตัวต้อนรับนายจอนนี่ แอนโฟเน่ ดารานักแสดง เข้าเป็นสมาชิกพรรค พร้อมอาสาเป็นผู้สมัคร ส.ส.เขตมีนบุรี คันนายาว คลองสามวา

นายจอนนี่กล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทยจะเป็นทางเลือกใหม่และเป็นทางรอดของประเทศได้ จึงได้มาร่วมสร้างพรรคไทยสร้างไทยให้เป็นเครื่องมือในการทำงานที่ดีที่สุดให้ประชาชน มุ่งดูแลปัญหาปากท้องและสร้างเศรษฐกิจไทยให้กลับมาแข็งแกร่ง

ด้านนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 และผู้ก่อตั้งสภาที่ 3 กล่าวถึงกรณีเข้าร่วมงานกับพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ว่า พรรค ศท.สนใจในสิ่งที่เรานำเสนอการแก้ปัญหาของประเทศที่เราพยายามนำเสนอสู่สาธารณะ ซึ่งไม่เกี่ยวกับที่พรรค ศท.สนับสนุนให้ พล.อ.ประวิตรเป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากตนได้เสนอวิธีแก้ไขประเทศโดยเสนอให้ พล.อ.ประวิตร ซึ่งน่าจะเป็นคนที่แก้ไขปัญหาประเทศได้ ในเวลาปีกว่าเกือบสองปีที่พวกเราประชุมได้ตกผลึกว่าวิธีนี้เท่านั้นที่จะแก้ไขปัญหาประเทศได้

"เชื่อว่า พล.อ.ประวิตรจะผ่านด่าน ส.ว. 250 เสียง โดยหวังว่าหาก พล.อ.ประวิตรขึ้นมาแก้ไขสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ทำไม่เรียบร้อยจะได้รับการแก้ไข ซึ่งผมคิดว่าประชาชนและพรรคการเมืองจะพอใจ" นายอดุลย์กล่าว

ส่วนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) ได้เผยแพร่รายการ “คุยกับลุง” EP 27 ทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ตอนหนึ่งระบุว่า ช่วงนี้มีการโจมตีตนทางโซเชียลมีเดียค่อนข้างมาก เพราะออกมาพูดต่อต้านระบอบทักษิณ ซึ่งไม่ได้ใส่ใจ ไม่ได้เอามาเป็นอารมณ์ แต่จะเดินหน้าทำสิ่งที่เห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน ยืนหยัดที่จะต่อสู้กับระบอบทักษิณที่เป็นอันตรายร้ายแรงต่อประเทศ ทำความเสียหายความเดือดร้อนให้กับประชาชนมาแล้ว

 “พอได้ยินการโหมโฆษณาชวนเชื่อของคนในระบอบทักษิณว่าเขาจะเอาการเลือกตั้งครั้งต่อไปแบบแลนด์สไลด์ กลับมาเป็นรัฐบาลพรรคเดียวมีอำนาจเต็ม คับบ้านคับเมือง เหมือนที่เคยเป็นมาแล้ว ผมรับไม่ได้จริงๆ เมื่อผมแสดงตัวออกมาต่อต้านระบอบทักษิณ ก็เป็นธรรมดาที่สมุนบริวารของระบอบทักษิณก็จะออกมาแว้งกัดผมทุกวันไม่เลิก ดาหน้ากันมาเลย ผมไม่ถอย ยินดีที่จะยืนหยัดต่อสู้ต่อไป” นายสุเทพกล่าว

ที่รัฐสภา นายสมชัย ศรีสุทธิยากร โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่…) พ.ศ. … แถลงว่า กมธ.พิจารณาในส่วนของร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองเกี่ยวกับกระบวนการได้มาซึ่งผู้สมัครของพรรคการเมืองทั้งในระดับเขต และบัญชีรายชื่อ หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อไพรมารีโหวต หรือการเลือกตั้งขั้นต้นนั้นในส่วนของการสรรหาผู้สมัครระดับเขต กมธ.เคาะแล้ว โดยมีความเห็นว่า กระบวนการของการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตมีทั้งสิ้น 5 ขั้นตอน

ประกอบด้วย 1.ให้คณะกรรมการสรรหาแต่ละพรรคกำหนดวัน เวลา และสถานที่ ในการสมัครเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง 2.เมื่อพ้นกำหนดการรับสมัครให้เป็นหน้าที่กรรมการสรรหาในการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครแต่ละเขตเลือกตั้ง 3.ให้ส่งรายชื่อผู้สมัครให้สาขาพรรคการเมือง หรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดตรวจสอบ และให้มีการจัดประชุมสมาชิกเพื่อรับฟังความเห็น พร้อมให้ความเห็นชอบตามรายชื่อที่คณะกรรมการสรรหาส่งมา 4.ให้สาขาพรรคการเมืองส่งรายชื่อผู้สมัครแต่ละเขต และ 5.กรรมการบริหารพรรคพิจารณาให้ความเห็นชอบ

"ระบบดังกล่าวออกแบบมาเพื่อให้สมาชิกพรรคได้มีส่วนร่วม ซึ่งจะทำให้มีความผ่อนคลายมากกว่าปัจจุบัน ขณะที่พรรคการเมืองจะมีความคล่องตัวมากขึ้น แต่ไม่ละทิ้งการมีส่วนร่วมของสมาชิกพรรค ส่วนขั้นตอนการสรรหาเพื่อให้ได้มาซึ่งผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของ กมธ." นายสมชัยกล่าว.