เคาะแผนพัฒนาฉบับ13 เร่งแก้จน6แสนครัวเรือน

ครม.ไฟเขียวแผนพัฒนาฯ ฉบับ 13 ตั้งเป้าหลัก 5 ข้อ ดันรายได้ต่อหัว 3 แสนบาท ฉุดพ้นประเทศรายได้ปานกลาง "บิ๊กตู่" สั่งทุกหน่วยเร่งแก้ปัญหาความยากจน ประเดิม 6 แสนครัวเรือนตามข้อมูลกระทรวงมหาดไทยก่อน "มท.1" ไล่บี้กระทรวงเกี่ยวข้องปฏิบัติตามแผน

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 3  พฤษภาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 พ.ศ.2566-2570 เพื่อทำให้ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเรามีการออกแบบแผนนี้มาจากฐานคิด 4 ประการ 1.เศรษฐกิจพอเพียง 2.ความสามารถในการที่จะล้มแล้วลุกให้ไว เดินไปข้างหน้าให้ได้ 3.เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ และ 4.การพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว 

ส่วนเป้าหมายหลักของแผนฯ ฉบับที่ 13 มีหลัก 5 ประการ 1.การปรับโครงสร้างการผลิตสู่เศรษฐกิจฐานนวัตกรรม 2.การพัฒนาคนสู่โลกยุคใหม่ 3.การมุ่งสู่สังคมแห่งโอกาสและความเป็นธรรม 4.การเปลี่ยนผ่านการผลิตและการบริโภคไปสู่ความยั่งยืน และ 5.การเสริมสร้างความสามารถของไทยในการรับมือกับความเสี่ยงและการเปลี่ยนแปลงภายใต้โรคอุบัติใหม่

"นี่คือแนวทางในการบริหารประเทศต้องเป็นแบบนี้ เพราะทุกคนเกี่ยวพันกันไปหมด เราต้องหาปัญหาให้เจอ และหาวิธีการ วางแผนงาน การใช้จ่าย งบประมาณต่างๆ ให้พอเพียงไปด้วย เราก็ตั้งเป้าว่าจะทำยังไงจากแผนฉบับนี้ ทำให้รายได้ประชาชาติต่อหัวอยู่ที่ 3 แสนบาท ต้องพยายามอย่างยิ่งยวด แต่ขีดความสามารถของคนทั้ง 8 ด้าน อยู่ในระดับสูง ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้ในระดับที่สูง" พล.อ.ประยุทธ์ระบุ

ทั้งหมดมี 13 หมุดหมายในการพัฒนา 4 มิติ 1.การบริการโอกาสและความสามารถ 2.ความเสมอภาคทางเศรษฐกิจและสังคม 3.ความยั่งยืนของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ 4.การผลักดันและพลิกโฉมประเทศ ตนสั่งการให้รัฐมนตรี หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำหมุดหมายของแผนฉบับที่ 13 ไปพิจารณา แบ่งเป็นแผนปฏิบัติการในระดับต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ พลิกโฉมเป็นประเทศที่มีการพัฒนาสูงขึ้น ยกระดับจากประเทศรายได้ปานกลาง ไม่ใช่เรื่องที่ง่าย แต่ไม่ใช่เรื่องที่เราทำไม่ได้ ถ้าทุกคนร่วมมือกันโดยลดความขัดแย้งระหว่างกันให้มากที่สุด 

นายกฯ เปิดเผยด้วยว่า วันนี้ที่ประชุม ครม.ยังได้มีการชี้แจงความก้าวหน้าการดำเนินงานของคณะกรรมการบริหารศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (คจพ.) ในการหาข้อมูลว่าจะมีการพุ่งเป้าไปสู่รายครัวเรือนได้อย่างไร ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้มีการรวบรวมข้อมูลมาแล้ว จำนวนกว่า 6 แสนครอบครัว ที่จะต้องเข้าไปดูแลเป็นพิเศษก่อน ในเรื่องของความยากจน 5 มิติ ประกอบด้วย รายได้ ที่อยู่อาศัยการศึกษา การเข้าถึงบริการประชาชน และเรื่องของสุขภาพ ก็ต้องมาดูว่าจะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นตรงนี้ได้อย่างไร และมอบหมายให้แต่ละกระทรวงที่มีหน้าที่โดยตรงไปดูว่าจะปรับแก้แผนงานโครงการต่างๆ ได้หรือไม่ในการเข้าไปดูแลให้มากยิ่งขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2565 ให้ได้ตามนโยบายในการบริหารแบบพุ่งเป้าแก้ปัญหาความยากจนรายครัวเรือนตาม Agri-Map หรือ ระบบแผนที่เกษตรเพื่อการบริหารจัดการเชิงรุกที่มีอยู่ รวมทั้งการส่งคนลงไปเดินเช็กว่าทำได้จริงหรือไม่ ยังมีการขาดแคลนตรงไหน และใครจะมีส่วนที่จะเข้าไปแก้ไข

มีรายงานข่าวในที่ประชุม ครม.​ว่า กระทรวงมหาดไทยได้รายงานเรื่องการขจัดความยากจน​ โดย พล.อ.อนุพงษ์​ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้รายงานว่า​ กระทรวงมหาดไทยได้ลงไปทำแผนความต้องการของประชาชนให้แล้ว อยากให้ทุกหน่วยงานได้ปฏิบัติตามแผน อาทิ​ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ดูแลเรื่องที่อยู่อาศัย กระทรวงสาธารณสุขที่ดูเรื่องสุขภาพ ขอให้ไปดำเนินการต่อเพื่อให้โครงการนี้เสร็จ รวดเร็ว และมีผลงานเป็นรูปธรรมออกมา ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ได้ย้ำว่า ขอให้ทำให้ต่อเนื่อง เพราะเป็นนโยบายที่รัฐบาลได้ประกาศไว้ ต้องทำให้สำเร็จ

ด้าน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.เห็นชอบร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13  ซึ่งจะนำมาใช้ในปี 2566-2570 ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอ และมอบหมายให้ สศช.นำเสนอร่างแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 ต่อรัฐสภาเพื่อทราบ ก่อนกราบเรียนนายกรัฐมนตรีเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ  ถวายต่อไป

สำหรับร่างแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 เป็นแผนระดับที่ 2 ซึ่งเป็นกลไกที่สำคัญในการแปลงยุทธศาสตร์ชาติไปสู่การปฏิบัติและกำหนดทิศทางการพัฒนาที่ประเทศควรมุ่งเน้นในระยะ 5 ปีถัดไปคือปี 2566-2570 เพื่อให้ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตามเจตนารมณ์ของยุทธศาสตร์ชาติ

โดยมีทั้งหมด 13 หมุดหมาย จำแนกออกเป็น 4 มิติ ได้แก่ 1.มิติภาคการผลิตและบริการเป้าหมาย จำนวน 6 หมุดหมาย ได้แก่ ไทยเป็นประเทศชั้นนำด้านสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปมูลค่าสูง, ไทยเป็นจุดหมายของการท่องเที่ยวที่เน้นคุณภาพและความยั่งยืน, ไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญของโลก,ไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพมูลค่าสูง, ไทยเป็นประตูการค้าการลงทุนและยุทธศาสตร์ทางโลจิสติกส์ที่สำคัญของภูมิภาค และไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะและอุตสาหกรรมดิจิทัลของอาเซียน

2.มิติโอกาสและความเสมอภาคทางเศรษฐกิจและสังคม มี 3 หมุดหมาย ได้แก่ ไทยมีวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่เข้มแข็ง มีศักยภาพสูงและสามารถแข่งขันได้, ไทยมีพื้นที่และเมืองอัจฉริยะที่น่าอยู่ ปลอดภัย เติบโตได้อย่างยั่งยืน และไทยมีความยากจนข้ามรุ่นลดลง และคนไทยทุกคนมีความคุ้มครองทางสังคมที่เพียงพอ เหมาะสม 3.มิติความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มี 2 หมุดหมาย ได้แก่ ไทยมีเศรษฐกิจหมุนเวียนและสังคมคาร์บอนต่ำ และไทยสามารถลดความเสี่ยงและผลกระทบจากภัยธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และ 4.มิติปัจจัยผลักดันการพลิกโฉมประเทศ มี 2 หมุดหมาย ได้แก่ ไทยมีกำลังคนสมรรถนะสูง  มุ่งเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์การพัฒนาแห่งอนาคต และไทยมีภาครัฐที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ประชาชน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สว.เตือน นายกฯอิ๊งค์ อย่าให้พ่อครอบงำ แนะ ‘ทักษิณ’ เลี้ยงหลานอยู่บ้านเลิกจ้อสื่อ

สว.ปฎิมา เตือน ‘อุ๊งอิ๊ง’ อย่าให้พ่อครอบงำ  ไม่ตกอยู่ใต้ร่มเงา แนะให้ไปบอกพ่ออยู่บ้านเลี้ยงหลาน งดจ้อสื่อ มีอะไรจะกลับไปถามเอง 

ตั้งรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง จบใน ‘15กันยา’

"ภูมิธรรม" เผย "ป.ป.ช." ส่งผลตรวจคุณสมบัติว่าที่รัฐมนตรีแล้ว รอ "สลค.-กฤษฎีกา" ตรวจซ้ำ เพราะไม่รู้ใครเสี่ยงมีคดีกี่คน พยายามให้เสร็จใน 1

สืบสันดาน'ระบอบทักษิณ' การเมืองวิปริต รอวันวิบัติ

การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ที่มี อุ๊งอิ๊ง-น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ เป็นการผสมพันธุ์ข้ามขั้ว ทรยศหักหลัง สางแค้นคู่ปรับทางการเมือง โดยไม่สนใจมารยาทและจริยธรรมทางการเมืองแต่อย่างใด

ชี้เป้าโกงเลือกตั้ง กกต.แจก ‘1ล้าน'

"ประธาน กกต." ย้ำนายจ้าง-ผู้บังคับบัญชา ต้องอนุญาตให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกไปใช้สิทธิเลือกนายก อบจ.ราชบุรี ตามกฎหมาย เผยได้รับเบาะแสเรื่องการซื้อสิทธิขายเสียง