หลุด‘นายกฯสำรอง’ บิ๊กป้อมกลับลำยังไม่ถึงเวลา/ตู่ติดใจวางคิวเดินสายทั่วปท.

“ประยุทธ์” ปลื้มกระแสลงพื้นที่ “สงขลา-พัทลุง” ชัยวุฒิแพลมนายกฯ มีแผนลงทุกจังหวัดในช่วงนี้! “พี่ป้อม” หลุดบอกอาจมีชื่อแคนดิเดตนายกฯ สำรอง ก่อนโบ้ยไม่ได้พูด “น้องตู่-รัฐมนตรี” ดาหน้าปัดทันควัน ฝ่ายค้านได้ข้อสรุปแล้วแจงกฐินรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล “บิ๊กตู่” เป็นเป้าหลัก วาง 6 ข้อหาฉกรรจ์ “ธนกร” อัด “ชลน่าน” ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง ซัดข่าวงูเห่ารัฐบาลสะท้อนภาพไร้น้ำยา สะพัดเศรษฐกิจไทยดึง “ธีระชัย-มิ่งขวัญ”

เมื่อวันอังคารที่ 26 เมษายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงข่าวถึงการลงพื้นที่จังหวัดสงขลาและพัทลุงว่า พบว่าทุกคนมีความสุขเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะมีความหวังจากสิ่งดีๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ โดยเฉพาะการปรับมาตรการเรื่องท่องเที่ยว ต้องขอบคุณพี่น้องจังหวัดสงขลาและพัทลุงที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี และให้กำลังใจในการทำหน้าที่ในการปฏิบัติงานของรัฐบาลต่อไป

 “ได้บอกไปว่าสิ่งที่เราทำวันนี้จำเป็นต้องเอาอดีตมาดูว่าปัญหาอุปสรรคเกิดจากที่ไหนอย่างไร แล้วมาทำปัจจุบันให้สามารถคลี่คลายเดินหน้าไปได้ เพียงแต่ต้องหาอะไรใหม่ๆ ทำในปัจจุบันด้วย เพื่ออนาคตวันข้างหน้า ซึ่งได้พูดหลายครั้งแล้ว รัฐบาลพยายามใช้งบประมาณทำอย่างเต็มที่ในการดูแลประชาชน แต่ถ้าเราใช้ดูแลมากขึ้น ซึ่งมากอยู่แล้ว การทำกิจกรรมอื่นๆ ก็จะน้อยลง เพราะเรามีงบประมาณจำกัด ดังนั้นพยายามจะใช้อย่างระมัดระวังที่สุด” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายชัยวุฒิ​ ธนาคมานุสรณ์​ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม​ (ดีอีเอส)​ กล่าวในเรื่องนี้ว่า การลงพื้นที่ของนายกฯ เป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว เพราะได้ไปเยี่ยมเยียนประชาชนและติดตามโครงการต่างๆ ที่รัฐบาลได้ทำไปในพื้นที่ เชื่อว่าทุกจังหวัดที่นายกฯ ลงพื้นที่ไปมีประชาชนมาต้อนรับ และมีคะแนนเสียงที่ดี นายกฯ ไม่เลือกว่าจะต้องไปที่ไหน เพราะลงพื้นที่เพื่อไปติดตามงาน

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะมีการวางแผนเสนอตารางลงพื้นที่ให้นายกฯ หรือไม่​ เพื่อชูนโยบายให้ประชาชนได้ทราบ นายชัยวุฒิกล่าวว่า คงไม่มีแผนของพรรค เป็นเรื่องของนายกฯ​ เคยได้ทราบมาว่านายกฯ มีแผนที่ลงพื้นที่ทุกจังหวัดอยู่แล้วในช่วงนี้ เพราะมีเรื่องของการติดตามนโยบายและการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนในแต่ละพื้นที่​และประชาชนอาจยังไม่ทราบ

นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า ในที่ประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้พูดเกี่ยวกับเรื่องการเมืองเลย พูดแต่เรื่องเศรษฐกิจ และอวยพรให้ทุกคนก้าวข้ามความขัดแย้งให้ได้ เพื่อให้ประเทศเดินหน้า และขอให้กำลังใจทุกคน ซึ่งเป็นการพูดในช่วงท้ายก่อนปิดการประชุม

พล.อ.ประยุทธ์ยังปฏิเสธตอบคำถามกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์เรื่องนายกฯ สำรองในกรณีที่นายกฯ เกิดอุบัติเหตุทางการเมือง โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเพียงสั้นๆ ด้วยสีหน้านิ่งว่า “ท่านไม่ได้พูดแบบนั้น”

ขณะที่ พล.อ.ประวิตรกล่าวในเรื่องนี้ว่า "มีที่ไหน ฉันบอกยังไม่รู้ ยังไม่ถึงเวลา โอ้ ไม่เข้าใจ"

เมื่อถามว่า กลัวประชาชนแตกตื่นเลยมาถามให้แน่ใจ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า มีที่ไหน ใครล่ะ เป็นนายกฯ สำรอง พูดไปเรื่อย

ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้า พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีแกนนำพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) เข้ารดน้ำดำหัวที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ได้คุยถึงจุดยืนและแนวทางทางการเมืองอย่างไรว่า "คุย คุยกันว่าให้ผมสุขภาพแข็งแรง ส่วนจุดยืนการเมืองผมจะไปรู้ได้อย่างไร"

ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประวิตรระบุว่าพรรค ศท.จะสนับสนุนรัฐบาล พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็ร่วมรัฐบาลอยู่แล้ว และสนับสนุนรัฐบาลอยู่แล้ว จะไปสนับสนุนใคร ก็ต้องอยู่ข้างฝ่ายรัฐบาล

เมื่อถามว่า ขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาลเปิดตัวชูหัวหน้าพรรคเป็นแคนดิเดตนายกฯ พรรค พปชร.จะเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตรหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เคยบอกไปตั้งนาน ไม่ต้องถามแล้ว"

เมื่อถามย้ำว่า จะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์คนเดียวหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "ไม่รู้ ยังไม่รู้"

ถามย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ยังมีเรื่องของการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี ที่ฝ่ายค้านเตรียมจะทวงถามเรื่องนี้ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "ไม่รู้ ก็อาจมีคนสำรอง"

เมื่อถามว่า รายชื่อสำรองมีแนวโน้มจะเป็นพลเรือนหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "ไม่รู้ๆ" เมื่อถามว่ามีแนวโน้มว่าจะเป็นชื่อของ พล.อ.ประวิตรหรือไม่ หากพรรค พปชร.จะเสนอ พล.อ.ประวิตรส่ายหัวปฏิเสธตอบคำถามดังกล่าว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า พล.อ.ประวิตร อาจเป็นแคนดิเดตนายกฯ เนื่องจากไปขึ้นป้ายอวยพรช่วงเทศกาลสงกรานต์ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "ป้ายก็เป็นของพรรค พปชร."

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ ตอบคำถามสื่อมวลชนแทนนายกฯ ถึงกรณีแคนดิเดตนายกฯ สำรองของพรรค พปชร. โดยนายกฯ ตอบว่า "ถามหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ผมไม่เคยได้ยิน" 

ส่วนนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวถึงแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคที่อาจมีมากกว่าหนึ่งคนว่า ไม่ทราบ

เมื่อถามอีกว่า ประเด็นดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ต้องเตรียมตัวสำรองไว้หรือไม่ นายชัยวุฒิตอบว่า ยังไม่ได้ยินเรื่องนี้

รุมปัดข่าวนายกฯ สำรอง

ถามย้ำว่า พรรค พปชร.มีแคนดิเดตนายกฯ เบอร์ 1 คือ พล.อ.ประยุทธ์ แล้วจะมีเบอร์ 2 และเบอร์ 3 สำรองหรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค พปชร. อยู่แล้ว แต่เรื่องเบอร์ 2 และเบอร์ 3 ไม่เคยได้ยิน ยังไม่ใครมีคุย ตอนนี้กำลังคุยเรื่องเตรียมการเลือกตั้งเตรียมผู้สมัคร

เมื่อทิ้งท้ายว่า จะไม่มีเตรียมไว้สำรองใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิยิ้มและกล่าวว่า "ไม่มี"

                    ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม แกนนำ พปชร. กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องดังกล่าวเลย

เมื่อถามย้ำว่า พปชร.ควรมีแคนดิเดตนายกฯ มากกว่าหนึ่งคนหรือไม่ นายสุริยะปฏิเสธตอบคำถาม

                    นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม แกนนำ พปชร. กล่าวเช่นกันว่า ยังไม่ทราบ เรื่องนี้ยังอีกนาน ถามเรื่องอื่นดีกว่า การเมืองอย่าเพิ่งเลย

นายธนกรยังตอบคำถามสื่อมวลชนแทนนายกฯ ถึงกรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านระบุว่ามีการดีล ส.ส.จากฝ่ายรัฐบาลได้ 30 คน เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกฯ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยนายกฯ ตอบว่า ก็ฟังไป เขาพูดได้ทุกวันอยู่แล้ว 

นายธนกรยังวิจารณ์เรื่องนี้ว่า ไม่อยากเชื่อว่าคำพูดเหล่านี้จะหลุดออกมาจากปากของคนที่เป็นถึงระดับผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ แสดงให้เห็นว่าข้อมูลที่ฝ่ายค้านจะนำมาอภิปรายนั้นไม่ได้มีอะไรเด็ดหรือใหม่ไปกว่าครั้งที่ผ่านๆ มา จึงคิดจะยืมมือ ส.ส.รัฐบาลมาล้มรัฐบาล ทั้งๆ ที่ที่ผ่านมาฝ่ายค้านมักตำหนิ ส.ส.ฝ่ายค้านที่เปลี่ยนขั้วมาอยู่กับพรรคร่วมรัฐบาลว่าเป็นงูเห่า เป็นพฤติกรรมน่ารังเกียจ แต่สุดท้ายก็ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง ทำได้ทุกอย่างแม้กระทั่งกลืนน้ำลายตัวเองเพียงเพื่อหวังให้ตัวเองได้กลับมามีอำนาจอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าละอาย แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ฝ่ายค้านยุคนี้ไร้น้ำยา

"ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร ยังคงมุ่งทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนตามปกติ มากกว่าที่จะโต้ตอบกันไปมาทางการเมือง รวมทั้งพร้อมที่จะชี้แจงต่อสภา ทั้งนี้ เชื่อว่าไม่มี ส.ส.รัฐบาลคนไหนกล้าคิดสั้น หนีจากพรรคร่วมรัฐบาลที่มีนโยบายโดนใจประชาชนมากมาย เพื่อไปอยู่กับฝ่ายค้านที่ไม่ได้นึกถึงความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก แต่นึกถึงหนทางที่จะทำให้ตัวเองได้กลับมามีอำนาจอีกครั้ง ซึ่งเท่ากับว่าขาข้างหนึ่งเลือกที่จะก้าวไปรอเป็นฝ่ายค้านในการเลือกตั้งสมัยหน้าก่อนแล้ว เพราะนึกถึงตัวเองก่อนนึกถึงประชาชน" นายธนกรกล่าว

นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. กล่าวในเรื่องนี้ว่า มีความเป็นไปได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับข้อมูลอภิปรายฝ่ายค้านจะมีความน่าเชื่อถือว่ารัฐบาลได้สร้างความเสียหายแก่บ้านเมืองมากน้อยเพียงใด ถ้ามีข้อมูลชัดเจน ส.ส.ทุกคนต้องพิจารณาในการลงมติ ในส่วนของ ส.ส.กลุ่ม 16 ที่มารวมตัวกันเพื่อทำงานเป็นแนวทางเดียวกัน ต้องขอฟังข้อมูลจากฝ่ายค้านก่อน ไม่ใช่จะยกมือให้ พล.อ.ประยุทธ์ล่วงหน้าอย่างเดียว โดยไม่ฟังข้อมูลใดๆ เลย กลุ่ม 16 ไม่ใช่บริษัทจำกัด พรรคเล็กไม่ใช่ของตายที่จะสั่งได้ ทุกอย่างต้องยึดผลประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก

วาง 6 ประเด็นซักฟอก

 ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการประชุมแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า ที่ประชุมมีข้อสรุปร่วมกันในกรอบเนื้อหาการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นประเด็นดังนี้ 1.เนื้อหามุ่งเน้นไปที่ความผิดพลาดล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดินของ พล.อ.ประยุทธ์ 2.จงใจฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรม 3.การทุจริตต่อหน้าที่ เอื้อประโยชน์ให้แก่ตนเองและพวกพ้อง 4.ไม่ปฏิบัติตามนโยบายที่ได้แถลงต่อรัฐสภา 5.การละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน และ 6.การทำลายประชาธิปไตย และระบบรัฐสภา 

นายประเสริฐกล่าวว่า ที่ประชุมยังเห็นร่วมกันว่าการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ เป็นการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ขณะนี้แต่ละพรรคได้รวบรวมข้อมูลและเตรียมความพร้อมทั้งประเด็นการอภิปราย เอกสารและหลักฐานเรียบร้อยแล้ว โดยจะยื่นให้เร็วที่สุด เวลาที่เหมาะสมคือ ภายหลังจากการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองและร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ผ่านการพิจารณาของรัฐสภาในวาระที่ 3 แล้ว เนื่องจากเล็งเห็นความจำเป็นที่ต้องมีกฎหมาย สำหรับใช้ในการเลือกตั้งเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ตัดสินใจยุบสภาหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะหากการยุบสภาเกิดขึ้นก่อนที่กฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับจะแล้วเสร็จ อาจทำให้เกิดทางตันหรือเดดล็อกทางการเมือง โดยที่ประชุมก็ได้มอบหมายให้นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค พท.เป็นผู้ยกร่างญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้เพื่อนำเสนอที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อพิจารณาต่อไป

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรค พท. ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า จะยื่นญัตติอภิปรายเป็นรายบุคคล โดยมี พล.อ.ประยุทธ์เป็นจำเลยที่ 1 ส่วนรัฐมนตรีคนอื่นๆ จะมีใครถูกอภิปรายร่วมด้วยนั้น ยังไม่มีข้อสรุป ให้ไปหาข้อมูลกันก่อน โดยการยื่นญัตติอภิปรายนั้นจะดำเนินการภายหลังจากการพิจารณากฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับ โดยน่าจะเป็นช่วงหลังจากสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน มิ.ย.ไปแล้ว และคาดว่าจะอภิปรายได้ประมาณช่วงต้นเดือน ก.ค. 

ขณะที่นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงกรณีนายประภัตร​ โพธสุธน รมช.เกษตรฯ และเลขาธิการพรรค ชทพ. สนับสนุนให้เป็นนายกฯ ของจังหวัดสุพรรณบุรีอีก 1 คน ว่ารู้สึกตกใจที่เลขาธิการพรรคพูดถึง แต่ต้องถามก่อนว่าจะเอานายกสมาคมอะไร ตอนนี้เป็น รมว.ทรัพยากรฯ ดีอยู่แล้ว และคิดว่าการเป็นลูกอดีตนายกฯ นั้นใหญ่แล้ว ไม่ต้องเป็นนายกฯ เป็นลูกนายกฯ ดีกว่า และมีไม่กี่คนที่เป็นลูกอดีตนายกฯ และมาเป็นรัฐมนตรี ฉะนั้นขอเป็นลูกนายกฯ ก็ใหญ่กว่าแล้ว เพราะตอนนั้นโกรธนายกฯ ได้​ ดังนั้นไม่มีอะไรตื่นเต้น

นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และกรรมการบริหารพรรค ศท.กล่าวถึงการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 ว่าจัดในวันที่ 29 เม.ย. ส่วนการเปิดตัวทีมเศรษฐกิจที่จะเปิดตัวในเดือน พ.ค.นั้น เบื้องต้นมีไม่น้อยกว่า 3 คน ทั้งอดีตรัฐมนตรี ผู้บริหารเบอร์หนึ่งขององค์กร เมื่อเปิดชื่อออกมารับรองไม่น้อยหน้า สังคมรู้จัก นอกจากนั้นเดือน พ.ค.จะเสนอนโยบายหาเสียง และเปิดว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคบางส่วน

เมื่อถามถึงกระแสข่าวพรรค ศท.อาจชู พล.อ.ประวิตรเป็นแคนดิเดตนายกฯ นายบุญสิงห์กล่าวว่า พรรคยังไม่ได้วางตัวบุคคล โดยรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค จะเปิดตัวเป็นลำดับท้ายสุด เพราะต้องดูสถานการณ์บ้านเมือง และเลือกคนที่เหมาะกับสถานการณ์ช่วงเวลานั้น เรายังไม่วางตัวใครไว้ก่อน

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับบุคคลที่ชื่อเสียงด้านเศรษฐกิจที่คาดว่าจะมาร่วมทีมเศรษฐกิจของพรรค เบื้องต้นมีชื่อนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.การคลัง สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ เป็นต้น ซึ่งยังอยู่ระหว่างทาบทาม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฟ้องต้นตอหมอคางดำ

สภาทนายความฯ เตรียมฟ้องแพ่งบิ๊กเอกชน-หน่วยงานรัฐ ต้นตอ "เอเลี่ยนสปีชีส์"

‘เนวิน’รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดมิวสิคัลเทิดพระเกียรติ

“เนวิน” รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดเทิดพระเกียรติ 72 พรรษา แสดง แสง สี เสียง มิวสิคัล “ลมหายใจของแผ่นดิน” โดยบุรีรัมย์ออร์เคสตรา แสดงความจงรักภักดี 28-30 ก.ค.2567 สนามช้างอารีนา บุรีรัมย์