ปิดคดี‘แตงโม’ประมาท ฟ้อง6ผู้ต้องหาแม่พอใจ

ตร.แถลงละเอียดยิบสรุปสำนวนคดี “แตงโม” บาดแผลเกิดจากใบพัดเรือ ไม่ฟันธงฉี่ท้ายเรือ สั่งฟ้อง 5 คนบนเรือกับกุนซือ แม่พอใจผลตำรวจสรุป   อัยการนนทบุรีให้ปล่อยตัวชั่วคราว นัดฟังคำสั่ง 27 พ.ค.

วันที่ 26 เม.ย.65 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี,   พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม ผบก.สส.ภ.1 พร้อมคณะทำงาน แถลงสรุปสำนวนการเสียชีวิตของ “แตงโม” น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ ดาราสาว โดย พล.ต.ต.ไพศาลกล่าวว่า จากการสืบสวนสอบสวนผู้ถูกกล่าวหา 4 ปาก สอบปากคำผู้ต้องหา 6 ปาก สอบสวนพยานรวม 124 ปาก แบ่งเป็นพยานบุคคล 108 ปาก พยานผู้เชี่ยวชาญ 16 ปาก วัตถุพยานที่เป็นพยานสำคัญ 88 ชิ้น พยานเอกสารที่เป็นผลตรวจต่างๆ 47 ฉบับ คลิปวิดีโอกล้องวงจรปิด 200 คลิป สำนวนนี้มีเอกสาร 2,249 แผ่น

จากพยานหลักฐานทางคดีดำเนินคดีผู้ต้องหา 6 ราย 1.นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือปอ ถูกดำเนินคดีในข้อหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, พ.ร.บ.การเดินเรือ ขับเรือโดยไม่ได้รับใบประกาศนียบัตร, พ.ร.บ.การเดินเรือ ใช้เรือที่ใบอนุญาตสิ้นอายุ, พ.ร.บ.การเดินเรือ มาตรา 119 ทิ้งสิ่งปฏิกูลลงแม่น้ำ, เเจ้งความเท็จ ตาม ป.อาญามาตรา 172,ไม่ติดชื่อเรืออันเป็นอักษรไทยและอักษรฝรั่งที่หัวเรือ ใช้เรือที่มีใบอนุญาตสิ้นแล้ว โดย 2 ฐานความผิดนี้ได้เปรียบเทียบปรับแล้ว 2.นายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือโรเบิร์ต ถูกดำเนินคดีในข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, พ.ร.บ.การเดินเรือ ขับเรือโดยไม่ได้รับใบประกาศนียบัตร, พ.ร.บ.การเดินเรือ ใช้เรือที่ใบอนุญาตสิ้นอายุ, พ.ร.บ.การเดินเรือ ทิ้งสิ่งปฏิกูลลงแม่น้ำ

3.นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน ถูกดำเนินคดีข้อหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 4.นายนิทัศน์ กีรติสุทธิสาทร หรือจ๊อบ ถูกดำเนินคดีช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษทางอาญา ตาม ป.อาญามาตรา 184 หรือทำลายหลักฐาน, พ.ร.บ.เดินเรือ ม.119 ทิ้งสิ่งปฏิกูลลงแม่น้ำ 5.น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือกระติก เป็นผู้จัดการส่วนตัวถูกดำเนินคดีทำลายหลักฐานและให้การเท็จ และ 6.นายภีม ธรรมธีรศรี หรือเอ็ม ถูกดำเนินคดีช่วยผู้อื่นไม่ให้รับโทษหรือรับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลายซ่อนเร้นพยานในการทำผิด และแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ ในทางคดีพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 6 คนทุกข้อหา

ด้าน พล.ต.ต.วสันต์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานที่จะมาชั่งน้ำหนักในคดีในภาพรวม ทั้งพยานบุคคล พยานแวดล้อม ลักษณะกายภาพที่เกิดเหตุ กล้องซีซีทีวี ความเร็วเรือ จีพีเอส และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ จากนั้น พล.ต.ต.วสันต์ได้เปิดคลิปความยาวประมาณ 25 นาที แบ่งออกเป็น 4 ส่วน 1.พฤติการณ์การเกิดเหตุ 2.ไทม์ไลน์ที่เกิดขึ้นทั้งก่อนก่อนเหตุ ขณะเกิดเหตุ หลังเกิดเหตุ 3.หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ 4.ผลชันสูตรพลิกศพ ในส่วนของคลิปที่ 4 ยืนยันได้ว่าเป็นแตงโม โดยการตรวจกระดูกทั่วร่างกายอยู่ในสภาพปกติ ฝันไม่หัก ผิวหนังใต้ศีรษะไม่พบรอยช้ำ ตรวจพบเอทิลแอลกอฮอล์มีความเข้มข้น 93 มิลิกรัมเปอร์เซ็นต์จากตัวอย่างน้ำในลูกตา และจากการตรวจสอบไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ตรวจพบโคลนทั่วไปในหลอดลมและแขนงหลอดลม สภาพบาดแผลภายนอกปรากฏจำนวน 26 บาดแผล แบ่งเป็นกลุ่มบาดแผล 10 กลุ่ม 1.บาดแผลใหญ่ที่สุดเป็นบาดแผลฉีกขาดขอบเรียบบริเวณต้นขาขวาด้านใน ลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อเสียหาย มีบางส่วนถึงกับฉีกขาด กล้ามเนื้อส่วนนี้จะใช้ในการงอขา,  กลุ่มที่ 2 บาดแผลฉีกขาดค่อนข้างเรียบบริเวณข้อพับเข่าขวา เป็นแผลแนวขวางจำนวน 3 แผล, กลุ่มที่ 3 บาดแผลถลอกแนวยาวบริเวณน่องขวาด้านในถึงข้อเท้าขวาด้านในเป็นแผลแนวขวางขนานกัน 5 แผล, กลุ่มที่ 4 บาดแผลถลอกแนวยาวบริเวณต้นขาซ้ายด้านใน แนวเฉียงขนานกัน 3 แผล, กลุ่มที่ 5 บาดแผลฉีกขาดเป็นแนวยาวบริเวณข้อพับเข่าซ้าย 2 แผล,  กลุ่มที่ 6 บาดแผลถลอกเป็นแนวยาวบริเวณข้อพับเข้าซ้ายถึงน่องซ้ายด้านใน แผลแนวขวางขนานกัน 7 แผล, กลุ่มที่ 7บาดแผลถลอกบริเวณเข่าซ้ายด้านนอก,  กลุ่มที่ 8 บาดแผลฟกช้ำบริเวณต้นขาซ้ายด้านหน้า, กลุ่มที่ 9 บาดแผลฟกช้ำบริเวณเข่าซ้าย และกลุ่มที่ 10 บาดแผลฟกช้ำบริเวณแข้งซ้าย

พล.ต.ต.วสันต์กล่าวว่า บาดแผลทุกกลุ่มที่กล่าวมาได้ตรวจเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อแผล นำไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ พบเม็ดเลือดแดงในเนื้อเยื่อจึงยืนยันได้ว่าบาดแผลทั้งหมด 26 แผลบนศพเป็นบาดแผลที่เกิดก่อนเสียชีวิตทั้งหมด สาเหตุที่เกิดแผลได้ทำการวิเคราะห์แต่ละบาดแผลโดยละเอียด บาดแผลที่ 1  ซึ่งเป็นบาดแผลที่ใหญ่ที่สุดกว้าง 7 ซม. ยาว 26 ซม. ความลึกมุมบนและล่างลึก 1.5 ซม. ส่วนที่กลางแผลลึก 4.5 ซม. เมื่อเปรียบเทียบกับเว้าขนาดองศาและความเว้าของใบพัดเรือมีลักษณะที่เข้ากันได้กับบาดแผล อีกทั้งเมื่อทำการเย็บบาดแผลบนศพ พบว่าลักษณะบาดแผลมีการโค้งเว้า เมื่อนำใบพัดเรือมาจำลองหมุนเฉือนลงบนดินน้ำมันจะได้แนวเว้าโค้งในลักษณะเดียวกัน และยังมีข้อมูลอ้างอิงจากกรณีที่ต่างประเทศที่มีผู้เคราะห์ร้ายถูกใบพัดเรือชนิดเดียวกันปั่นขา จะพบว่าบาดแผลหลังการเย็บจะมีลักษณะเว้าโค้งเหมือนของแตงโม

 “จึงเชื่อได้ว่าบาดแผลนี้เกิดจากการถูกใบพัดเรือ ส่วนบาดแผล 2-22 มีลักษณะเป็นแนวบนขาทั้ง 2 ข้าง มีการจำลองโดยการนำใบพัดเรือมาทาบกับบาดแผลพบว่าระยะและขนาดของบาดแผลสอดคล้องกับการปั่นของใบพัดเรือทุกประการ โดยจังหวะการปั่นจะทำให้เกิดบาดแผลข้างซ้ายจะสัมพันธ์กับบาดแผลข้างขวา เมื่อได้มุมองศาที่ใบพัดที่ทำให้เกิดบาดแผลบนศพ เชื่อได้ว่าเมื่อแตงโมตกน้ำแล้วถูกใบพัดเรือปั่น โดยข้อสรุปแพทย์ผู้ชันสูตรได้สรุปสาเหตุการเสียชีวิตแตงโมว่าเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจจากการจมน้ำ”

ด้าน พล.ต.ท.จิรพัฒน์กล่าวว่า พยานหลักฐานเชื่อมั่นสั่งฟ้องว่ามีคนกระทำการประมาทเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย การตกเรือที่ท้ายเรือหรือมาฉี่ที่ท้ายเรือหรือไม่ มีพยานคือแซนคนเดียว บอกว่าแตงโมมาเกาะขาและนั่งฉี่ และมีพยานบนเรือเห็นว่าแตงโมเดินไปท้ายเรือ แต่ตอบไม่ได้ว่าปัสสาวะหรือไม่ แต่พยานหลักฐานทั้งหมดจะเห็นตามนี้ บวกกับภาพวงจรปิดน่าเชื่อว่ามีบุคคลมาที่ท้ายเรือแล้วหายไป ประกอบบาดแผลที่เกิดขึ้นเข้ากับใบพัดเรือ ผู้ชำนาญการให้ข้อมูลว่าเรือวิ่งที่ 8 นอต ถ้ามีคนตกเรือจะดูดเข้าไปหาเรือ แต่ถ้าวิ่งที่ความเร็ว 10 นอตขึ้นไป ร่างจะกระเด็นออกไป จะตกท้ายเรือหรือหัวเรือ ประเด็นอยู่ที่บาดแผลที่เกิดขึ้น เชื่อว่าเกิดจากใบพัดเรือ ร่างกายตั้งแต่ศีรษะลงมาไม่มีร่องรอยการถูกกระแทก

 “ไม่มีมูลเหตุการณ์จูงใจการฆาตกรรม ไม่พบคราบเลือดหรือสาเหตุ รวมทั้งสาเหตุอื่นๆ การจะเอาคนไปฆ่า การสืบสวนต้องมีมูลเหตุจูงใจการทำร้ายร่างกาย ถ้าคิดว่าเป็นคดีฆาตกรรม ต้องมีฆาตกร ก่อนที่แตงโมจะตกน้ำไม่กี่อึดใจฆาตกรจะลงมือทำได้ไง” ผบช.ภ.1 กล่าว

ส่วน พล.ต.ท.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล  ผบก.ภ.จว.นนทบุรี กล่าวถึงกลุ่มที่ปั่นกระแสสร้างข่าวเท็จว่า เจ้าหน้าที่จะนำมาพิจารณาดำเนินคดีภายหลัง และก่อนหน้านี้มีทนายความคนหนึ่งไปออกรายการทีวีช่องหนึ่ง ถ้อยคำในรายการกล่าวเป็นเรื่องไม่เป็นความจริง ทำให้คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน 6 นายได้รับความเสียหาย ทั้งหมดจึงมอบอำนาจให้ ผกก.เมืองนนทบุรี ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงาน และหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา

จากนั้นตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 คน พร้อมสำนวนความเห็นสั่งฟ้องกว่า 2,000 หน้า บรรจุในกล่อง 5 กล่อง ให้กับพนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี เพื่อมีความเห็นสั่งคดี

โดยนายอิทธิพร แก้วทิพย์ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า หลังจากที่รับสำนวนมาจากตำรวจแล้ว จะให้อัยการจังหวัดนนทบุรีแต่งตั้งองค์คณะอัยการขึ้นมา 3 คน เป็นผู้รับผิดชอบพิจารณาสำนวนในคดีนี้ เชื่อว่าจะสามารถพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 6 คน อัยการได้มีความเห็นอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว โดยหลักทรัพย์เดิมในชั้นพนักงานสอบสวนรายละ 200,000 บาท และใช้เงื่อนไขเดิมในชั้นพนักงานสอบสวน ทั้งนี้ จะมีนัดฟังคำสั่งพนักงานอัยการในวันที่ 27 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น. ที่สำนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี

ขณะที่นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ พร้อมนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของ น.ส.ภัทรธิดา เปิดเผยหลังเข้าร่วมรับฟังการแถลงว่า พอใจการแถลงข่าวของตำรวจ แต่เนื่องจากเวลาน้อย ไม่ได้ถามรายละเอียดของคดี แม่คิดว่าข้อหาที่ตั้งเป็นไปตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ที่ลึกกว่านั้นต้องรอทางอัยการ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้พูดคุยติดต่อปอ หรือโรเบิร์ตหรือไม่ นางภนิดากล่าวว่า ได้ติดต่อกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้ถามเรื่องคดี เขาก็ตอบว่ายุ่งเรื่องคดีอยู่ ซึ่งทางนั้นได้ตอบว่า คุกสิครับคุณแม่ ก็คงจะทราบว่าโดนข้อหาอะไรบ้าง คงจะรับสภาพได้  “ส่วนเรื่องพิธีฌาปนกิจ ภายในเดือนหน้าจะจัดการให้น้อง เพราะน้องมาบ่นว่าหนาว เราเก็บเขาไว้นานแล้ว ตอนนี้ต้องติดต่อเรื่องการจัดพิธี ประกอบโลงศพ ซึ่งการเก็บไว้เป็นความพอใจของ FC ทุกคนปรบมือ วันนี้ทุกคนมากันบ้างหรือไม่ และยังเขียนเรื่องที่ไม่เป็นความจริงเป็นเรื่องเป็นราว เป็นคอมเมนต์ที่ไม่ดี ทำให้เกิดความปั่นป่วน ทำให้คนรังเกียจแม่และทนาย ตอนนี้ไม่เห็นเลยว่าคนไหนเป็น FC ของแตงโมมาฟัง” แม่แตงโมกล่าว

ส่วนทนายเดชากล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกับตำรวจภาค 1 ตลอด แต่ที่สงสัยคือจุดตกเรือ ตกอย่างไร ฉี่หรือเปล่า ท้ายเรือหรือหัวเรือ เป็นประเด็นสำคัญที่อยากได้คำตอบ ในส่วนแสงและเงาห้วงเวลา วงจรปิด พยาน ทุกอย่างสอดคล้องกัน อีกอย่างเรื่องบาดแผลได้คุยกับผู้การสืบภาค 1 เกิดจากอะไร มีการทดลองทดสอบอย่างไร เชื่อว่าตกที่ท้ายเรือ เพราะสอดคล้องกันทั้งเงาและแสง กล้องวงจรปิด จีพีเอส รวมถึงการส่งข้อความโลเกชั่นตำแหน่งสอดคล้องกันหมด.