ตำรวจเก็บหลักฐานสำนักงานปริญญ์ “พล.ต.ต.ไตรรงค์” ลั่นสัปดาห์นี้จะมีความคืบหน้ามากกว่า 3 คดี ย้ำยังไม่มีการถอนแจ้งความ “พนิต” ร่วมขย่มผู้บริหารพรรค ยก “มาร์ค-อภิรักษ์” เป็นตัวอย่าง กองเชียร์ ปชป.ซัดกันเดือด
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 เม.ย. ยังคงมีความต่อเนื่องในคดีที่นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ถูกแจ้งความกระทำอนาจารและล่วงละเมิดทางเพศหญิงสาวหลายคนในหลายพื้นที่ โดยที่อาคารแห่งหนึ่งบนถนนวิทยุ ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานและที่พักอาศัยสูง 27 ชั้น พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เข้าตรวจสอบเก็บพยานหลักฐานภายในห้องสำนักงานของนายปริญญ์ หลังจากที่มีผู้เสียหาย 3 ราย ได้เข้าแจ้งความไว้ว่าตัวเองถูกละเมิดทางเพศที่สำนักงานบนอาคารดังกล่าว
พล.ต.ต.ไตรรงค์กล่าวภายหลังเก็บหลักฐานว่า มาตรวจสภาพแวดล้อมหลักฐานในสถานที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจทางกายภาพ และไปพิสูจน์ข้อกล่าวหา ซึ่งสถานที่เกิดเหตุมีส่วนสำคัญในการตั้งข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการกระทำผิด ซึ่งจนถึงตอนนี้คดีที่รับคำร้องทุกข์ไป การสอบสวนพยานบุคคลค่อนข้างครบถ้วน เหลือเพียงผลการตรวจพิสูจน์เรื่องกล้องวงจรปิดที่ต้องรอจาก พฐ.มาประกอบสำนวน และภายในสัปดาห์นี้จะมีความคืบหน้ามากกว่า 3 คดีแรก ขณะเดียวกันผู้กำกับ สน.ลุมพินีกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอศาลออกหมายจับเพิ่ม และยืนยันว่าในคดีเคสแรกยังไม่มีการถอนการแจ้งความแต่อย่างใด ซึ่งผู้เสียหายและมารดาให้การยืนยันที่จะดำเนินคดีกับนายปริญญ์
"ตำรวจเดินหน้าจัดทำคดีผู้เสียหายทั้ง 15 ราย ซึ่งตอนนี้รับเป็นคดี 12 คดี ทั้งส่วนของตำรวจนครบาลและตำรวจภูธร โดยมี 1 รายคดีขาดอายุความ และอีก 1 รายเกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร ส่วนอีก 1 รายยังคงก้ำกึ่งว่าคดีขาดอายุความหรือไม่" รอง ผบช.น.กล่าว
สำหรับคดีกรณีของนายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือลูกนัท ยังไม่ได้มีการประสานให้มารับทราบข้อกล่าวหา ยังคงมีกรอบเวลาดำเนินการ แต่ยืนยันดำเนินคดี ซึ่งมีความผิด 2 ข้อหา ฐานหมิ่นประมาทเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาผ่านการพิมพ์ข้อความทางเฟซบุ๊ก แม้จะมีการเข้ามาขอโทษต่อตำรวจเมื่อเรื่องเกิดขึ้นแล้ว แต่ผู้กระทำความผิดก็ต้องรับผิดชอบ ยอมความไม่ได้
ด้านนายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชป. โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ เรื่อง "Accountability" เพื่อรับผิดชอบ ไม่ใช่หนีปัญหา!" ว่า เชื่อมาเสมอว่าสิ่งที่ทำให้พรรคยังยืนหยัดอยู่ตรงนี้มานานหลายสิบปีจนได้ชื่อว่าเป็นสถาบันการเมือง คือ ความศรัทธา และความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อเรา วันนี้พรรคกำลังเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ และเราจะผ่านวิกฤตไปได้ก็เมื่อได้ทำให้สังคมและประชาชนกลับมาศรัทธาและเชื่อมั่นเราเหมือนเดิม โดยตั้งแต่เกิดเรื่องในช่วงสงกรานต์ต่อเนื่องมา ปฏิกิริยาของผู้บริหารพรรคที่ออกมาขอโทษและแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม แต่ผ่านมาแล้วหลายวัน คำถามของสังคมและประชาชนที่มีต่อเรายังคงอยู่ โดยเฉพาะคำถามที่ว่าจบแบบนี้ใช่หรือไม่
“เห็นด้วยที่ผู้บริหารพรรคกล้าออกมาขอโทษต่อสังคม แม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นปฏิกิริยาที่ช้าเกินไปก็ตาม แต่ในฐานะสมาชิกพรรคให้กำลังใจ การมองว่าช้าหรือไม่ช้า นั่นเป็นเรื่องหนึ่ง แต่ช้าแล้วเพียงพอที่จะเรียกศรัทธาและความเชื่อมั่นของพรรคให้กลับมาได้หรือไม่ต่างหากเป็นเรื่องสำคัญ เพราะวันนี้มีหลายคนมองว่าสิ่งที่ดำเนินการไปยังไม่เพียงพอ พูดง่ายๆ คือ คนยังไม่เชื่อใจพวกเรา หากเป็นธนาคาร พวกเขายังคงถอนเงินออกอย่างต่อเนื่องอยู่ เพราะไม่มั่นใจว่า เราจะบริหารสินทรัพย์ได้ดี"
นายพนิตกล่าวว่า ประชาชนต้องการความมั่นใจมากกว่านี้ ดังนั้นต้องคิดให้ออกว่า ยังมีอะไร หรือมีมาตรการอะไรที่ชัดเจนว่าเราจริงจังและจริงใจในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น รวมไปถึงความรับผิดชอบอะไรที่จะทำให้พวกเขากลับมาศรัทธาได้เหมือนเดิม ในภาษาอังกฤษมีคำอยู่ 2 คำ ที่เกี่ยวกับเรื่องความรับผิดชอบ คำแรกคือ Responsibility หรือ ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ กับคำคือ Accountability หรือความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หรือความรับผิดชอบต่อการกระทำของบุคคลที่เกี่ยวข้อง 2 คำนี้แตกต่างกันพอสมควร
“ในอดีตคนในพรรคประชาธิปัตย์เอง เคยแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์หรือรับผิดชอบต่อการกระทำของบุคคลที่เกี่ยวข้องมาหลายคนแล้ว เช่น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งการรับผิดชอบด้วยการลาออกไม่ใช่การทิ้งปัญหา หรือหนีปัญหา เพราะพรรคประชาธิปัตย์คือสถาบันการเมือง ที่ขับเคลื่อนและยืนหยัดในหลักการ ไม่ใช่ตัวบุคคล ผมคิดเพียงแต่ว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนมั่นใจว่าเราคือสถาบันทางการเมืองที่ไว้วางใจได้" นายพนิตกล่าว
ขณะเดียวกัน ในโลกออนไลน์บรรดากองเชียร์พรรค ปชป.ต่างก็ออกมาเคลื่อนไหวอย่างคึกคัก โดยนายเสริมสุข กษิติประดิษฐ์ ผู้สื่อข่าวอาวุโส พิธีกรการเมืองและความมั่นคงชื่อดัง โพสต์ว่า นอนยันจากนักการเมืองเบอร์ใหญ่ ส.ส.หลายสมัยใน ปชป.ยังมีความพยายามดันมาร์คกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคอีกรอบ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ
ก่อนหน้านี้ นายเสริมสุขยังโพสต์ข้อความถึงนางกาญจนี วัลยะเสวี หรือติ๊งต่าง เจ้าของฉายาไฮโซสปอร์ตคลับ ที่ออกมาเคลื่อนไหวขับไล่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ปชป.อย่างต่อเนื่องว่า แม่ยกสายมาร์คลุยแล้วจ้า ร่วมขย่มเรียกร้องจุรินทร์ลาออกจากหัวหน้าพรรคกรณีฉาวอดีตรองหัวหน้าปริญญ์ หลัง ส.ส.สายมาร์คปล่อยไลน์กลุ่มถล่มจุรินทร์ หวังสถานการณ์พลิกสถานการณ์เอามาร์ค… อีกกลับมานำทัพอีกรอบ
ขณะที่เฟซบุ๊ก ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ว่า “555 และบอกว่า เอาเลย เอาให้พังพินาศไปเลย พรรคประชาธิปัตย์ เชิญทำตามติ่งพี่มาร์คเลยครับทำเลย ทำเลย ทำเลย”
โดยโพสต์ของทั้งนายเสริมสุขและ ผศ.ดร.อานนท์ถูกแชร์ออกไปอย่างกว้างขวาง เช่นเดียวกันกับข้อความของนางกาญจนี และล่าสุดนางกาญจนีโพสต์ว่า “ถ้าอภิสิทธิ์ได้กลับมาเก้าอี้ลุงจะไม่มั่นคง ดังนั้นจึงเกิดกระบวนการการกันทุกทาง ไม่ให้นายอภิสิทธิ์ได้กลับมา”.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชูศักดิ์ดิ้นหนัก ลุยล็อบบี้กมธ. ปั้นกม.การเงิน
“นายกฯ อิ๊งค์” บอกไม่ได้จบกฎหมายมา โยน “ชูศักดิ์” ดูแลเรื่องรัฐธรรมนูญ
อิ๊งค์ข้องใจแสนชื่อเลิก‘MOU44’
“หมอวรงค์” นำกลุ่มคนคลั่งชาติยื่น 104,697 รายชื่อร้องยกเลิกเอ็มโอยู 44
‘ทักษิณ-พท.’ยิ้มร่า ศาลยกคำร้องล้มล้างฯ เพื่อไทยเล็งฟ้องเอาคืน
ศาล รธน.มีมติเอกฉันท์ยกคำร้อง "ทักษิณ-เพื่อไทย" ล้มล้างการปกครอง
แฉระบบเด็กฝาก ทำลายองค์กรตร. ดับฝัน‘ดาวฤกษ์’
เช็ก 41 รายชื่อแต่งตั้งนายพลสีกากี ระดับรอง ผบ.ตร.-ผบช.
ยธ.เมินแจงกมธ. ปมนักโทษเทวดา รพ.ตำรวจชั้น14
ชั้น 14 น่าพิศวง "โรม" กวักมือเรียก “ทักษิณ” ไปสภา เข้าแจง กมธ.มั่นคงฯ
แจกเฟส2เอื้อเลือกอบจ. เตือนร้องถอดถอนครม.
นายกฯ โชว์วิชั่น Forbes ยันไทยสงบ สันติ หวังแม้รัฐบาลเปลี่ยน