ไทยดับนิวไฮ 129 ราย ป่วยเพิ่ม 1.6 หมื่นคน นายกฯ รับขยับปลดล็อกมาตรการโควิดเร็วขึ้น หลังสถิติคนเข้าไทยติดเชื้อน้อยมาก ศบค.ชุดใหญ่ 22 เม.ย. จ่อคลายล็อกเข้าประเทศ ยกเลิก "ไทยแลนด์พาส" ปรับโซนสีโควิด สธ.คาดปอดอักเสบ-ใส่ท่อช่วยหายใจค่อยๆ เพิ่มขึ้น ต้น พ.ค.ทะลุพันคน
เมื่อวันที่ 19 เมษายน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 16,891 ราย ติดเชื้อในประเทศ 16,787 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 16,769 ราย, มาจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 18 ราย, มาจากเรือนจำ 19 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 85 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 24,927 ราย อยู่ระหว่างรักษา 197,349 ราย อาการหนัก 2,104 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 940 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 129 ราย เป็นชาย 72 ราย หญิง 57 ราย อายุ 60 ปีขึ้นไป 91 ราย มีโรคเรื้อรัง 34 ราย ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 4 ราย ขณะนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 4,063,844 ราย มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 3,839,360 ราย มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 27,135 ราย ขณะที่สถานการณ์โลกมีผู้ติดเชื้อสะสม 505,209,427 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 6,224,758 ราย
สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด ได้แก่ กทม. 3,282 ราย, ชลบุรี 650 ราย, ขอนแก่น 584 ราย, สมุทรปราการ 527 ราย, นครศรีธรรมราช 514 ราย, สมุทรสาคร 469 ราย, นนทบุรี 459 ราย, บุรีรัมย์ 445 ราย, ศรีสะเกษ 396 ราย และนครปฐม 384 ราย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า มาตรการป้องกันโควิด-19 จะมีการปรับให้สะดวกง่ายดายขึ้น ซึ่งเดิมจะปลดล็อกมาตรการเพิ่มเติมในเดือน ก.ค. แต่จะปลดล็อกให้เร็วขึ้น เพราะจากสถิติคนต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย พบมีผู้ติดเชื้อจำนวนน้อยมาก ส่วนในประเทศพบผู้ติดเชื้ออยู่ในระดับควบคุมได้อยู่ ซึ่งจะมีการหารือกันจะผ่อนคลายมาตรการอย่างไรเพื่อให้มีการใช้จ่ายในประเทศ ทำให้ธุรกิจต่างๆ เดินหน้าไปได้ด้วยดี
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยถึงกรณีนายวิลเลียม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค ประธานกรรมการ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ออกหนังสือเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกระบบไทยแลนด์พาส เพื่อฟื้นฟูการเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวว่า นายกรัฐมนตรีรับทราบข้อเรียกร้องดังกล่าวแล้ว โดยเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งแต่แรกให้ไปพิจารณา ทราบว่าในการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ในวันที่ 22 เม.ย.นี้ จะมีการเสนอมาตรการผ่อนคลายการเดินทางเข้าประเทศ ตามเหตุผลความเป็นไปได้ และการยอมรับด้านสาธารณสุข ซึ่งรูปแบบใกล้เคียงกับที่ภาคเอกชนเสนอ ถือเป็นเรื่องที่คิดกันมานานแล้ว ซึ่งนายกฯ พร้อมปรับปรุงทุกอย่างให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อเอื้ออำนวยต่อระบบเศรษฐกิจ
"นายกฯ มีมาตรการพยายามผ่อนคลายให้ภาคธุรกิจ ภาคเอกชน ประชาชนมีรายได้ สามารถเดินหน้าได้ เอาเป็นว่าจะมีการปรับให้เหมาะสมแน่นอน การเดินทางเข้าประเทศของชาวต่างชาติจะสะดวกขึ้น ไม่สร้างภาระ ไม่เป็นอุปสรรคหรือเป็นอุปสรรคน้อยที่สุดต่อการเดินทางเข้า-ออกประเทศ ทั้งนี้ ระบบไทยแลนด์ พาสคือถ้าต้องตรวจรายละเอียดก็เข้าระบบดังกล่าว แต่สิ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเสนอ ศบค. มีบางส่วนที่ไม่ต้องตรวจ เพราะฉะนั้นไทยแลนด์พาสก็ไม่ได้ใช้ไปโดยอัตโนมัติ" แหล่งข่าวระบุ
ทางด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า การประชุม ศปก.ศบค.ในวันที่ 21 เม.ย. จะมีการพิจารณามาตรการต่างๆ ร่วมกัน ก่อนที่จะเสนอต่อ ศบค.ชุดใหญ่ ในวันที่ 22 เม.ย. โดยข้อเสนอหลักจะเป็นเรื่องการผ่อนคลายการเข้าประเทศในระบบ Test & Go จากเดิมที่ให้ตรวจ RT-PCR 1 ครั้ง เมื่อมาถึงประเทศไทย ก็จะหารือว่าจะเสนอให้ปรับเป็นตรวจด้วย ATK หรือไม่ต้องตรวจหาเชื้อ รวมทั้งปรับโซนสีคุมโควิด อย่างไรก็ตาม การติดเชื้อในประเทศมีจำนวนมากกว่าคนที่เดินทางเข้าประเทศ ดังนั้น การผ่อนคลายเรื่องการเข้าประเทศก็คงไม่มีผลทำให้การติดเชื้อในประเทศเพิ่มมากขึ้นนัก
ส่วนกรณีผู้ประกอบการสถานบันเทิง ขอให้พิจารณาเปิดบริการช่วงหลังสงกรานต์นั้น นพ.โอภาสกล่าวว่า การประเมินหลังสงกรานต์ ต้องดูใน 2 สัปดาห์ว่าสถานการณ์จะรุนแรงเพิ่มขึ้นหรือไม่ ขณะนี้มาตรการในประเทศผ่อนคลายมากพอสมควรแล้ว โดยต้องประเมินอีก 1-2 สัปดาห์นี้ว่าจะกระทบระบบสาธารณสุขหรือไม่ หากไม่มีอะไร ก็จะค่อยๆ ผ่อนคลาย
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า วันนี้พบผู้เสียชีวิตโควิด-19 มากสุด 129 คน ป่วยปอดอักเสบ 2,104 คน และใส่ท่อช่วยหายใจ 940 คน ถือว่าตัวเลขค่อนข้างสูง แต่ตัวเลขที่ปรากฏไม่ได้เป็นผลสืบเนื่องมาจากเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจากสงกรานต์ผ่านแค่ 2 วัน โดยนับช่วงเทศกาลสงกรานต์คือระหว่างวันที่ 12-18 เม.ย. คาดว่าตัวเลขผู้ป่วยปอดอักเสบและใส่ท่อช่วยหายใจจะค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นแบบช้าๆ จากผู้ป่วยสีเหลืองมาเป็นสีแดง และหากอาการรุนแรงมากถึงที่สุดก็เป็นสีดำ คือ เสียชีวิต โดยจะเห็นภายใน 7-8 วัน หรือประมาณต้นเดือน พ.ค. ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงยังเป็นกลุ่มคนผู้สูงอายุ 608
อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ตัวเลขผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ แม้จะเพิ่มขึ้น แต่ไม่ถึงฉากทัศน์ที่คาดการณ์ในเส้นสีแดง น่าจะอยู่ระหว่างเส้นสีเหลืองและแดง คือ รุนแรงระดับปานกลาง แต่ไม่มาก ประมาณกว่า 1,000 คน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ครม.ตั้ง‘โต้ง’19พ.ย. ดี๊ด๊าคุมธปท.ฝ่าเสียงต้าน สถิตย์การันตีล้วงลูกไม่ได้
"กิตติรัตน์" ดี๊ด๊า! แชร์ข่าวได้นั่ง "ปธ.บอร์ด ธปท." ระบุทุกเสียงสนับสนุนคือกำลังใจ
นัดถกบอร์ดศก. ปล่อยกู้7หมื่นล. สางหนี้-ซื้อบ้าน
นายกฯ นัดถก "บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ" ครั้งแรก 19 พ.ย.นี้
เรียก‘พื้นที่อ้างสิทธิ’เลิกใช้‘ทับซ้อน’
เลขาฯ กฤษฎีกาชี้ชัดยกเลิก "เอ็มโอยู" ฝ่ายเดียวได้แต่ไม่ควร
รบ.โต้ขัดแย้งเขากระโดง คลอดพรฎ.แก้พิพาทที่ดิน
แกนนำรัฐบาลประสานเสียงปมที่ดินเขากระโดง ไม่สร้างขัดแย้ง "เพื่อไทย-ภูมิใจไทย"
อิ๊งค์อยู่ครบเทอม พท.ชิ่งก๊วนมาม่า
“นายกฯ อิ๊งค์” ลั่นกลางวงประชุมทูตภาคพื้นอเมริกา บอกรัฐบาลมั่นใจอยู่ครบเทอม
อสส.ชงศาลรธน.คดีล้มล้างฯ
อัยการสูงสุดส่งเอกสารปม “ธีรยุทธ” ร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ครอบงำ-ล้มล้างให้ศาลแล้ว