ตร.ขู่ถอนประกัน‘ปริญญ์’

รอง ผบช.น.เผยหากพบ "ปริญญ์" ยุ่งเหยิงพยาน จะยื่นถอนประกันทันที ด้านทนายตั้มพาผู้เสียหายแจ้งความเพิ่มอีก อ้างถูกข่มขืนเมื่อปี 2563 ยังอยู่ในอายุความ  "ชวน" ยัน "ศุภชัย" ไม่ใช่เป็นนักการเมืองที่มีอิทธิพลที่จะไปกลั่นแกล้งใคร สามนิ้วบุก ปชป.เรียกร้องยุติความรุนแรงทางเพศ

เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2565 พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.น.เดินทางมาเข้าร่วมประชุมความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้ถูกกล่าวหาว่าลวนลามหญิงสาวและมีผู้เสียหายหลายราย โดยได้กล่าวหลังการประชุมว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายมาแจ้งตวามที่ สน.ลุมพินีจำนวน 3 ราย และที่จังหวัดเพชรบุรี 1 ราย โดยทั้ง 4 คดีดังกล่าว ตำรวจ สน.ลุมพินีมีการสอบปากคำแล้ว

โดยคดีที่รับแจ้งเมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา สอบปากคำพยานแล้วเสร็จหลายราย คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี อีกทั้งสามารถรวบรวมพยานต่างๆ ได้ ส่วนจะมีการเข้าตรวจค้นพื้นที่ ห้องพักที่ใช้ก่อเหตุหรือไม่ ตำรวจจะทำไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

ส่วนอีก 2 คดีของ สน.ลุมพินี รอง ผบช.น.เผยว่า ยังอยู่ในระหว่างสอบปากคำผู้เสียหายเพิ่มเติมและรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนคดีที่ผู้เสียหายแจ้งความที่จังหวัดเพชรบุรี ตำรวจ สน.ลุมพินีได้ทำการสอบปากคำแล้วและส่งกลับไปยังจังหวัดเพชรบุรีเพื่อประกอบสำนวนเพิ่มเติม กรณีที่มีผู้เสียหายถูกกระทำอนาจารในจังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้พบว่ามีการเข้าแจ้งความในคดีดังกล่าวแล้ว โดย สน.ลุมพินีอยู่ระหว่างการขอเอกสารเพิ่มเติม

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการมองว่า คดีเกิดมาแล้วในช่วงระยะเวลาหนึ่งอาจทำให้พยานหลักฐานสูญหายหรือไม่ครบถ้วน รอง ผบช.น.กล่าวยอมรับว่า เป็นความท้าทายที่ตำรวจจะต้องสืบค้นพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อมาพิสูจน์ข้อเท็จจริง โดยตำรวจจะมีการสอบปากคำ และตรวจพยานหลักฐานแล้วเสร็จภายในกรอบระยะเวลาที่กำหนด ก่อนที่จะส่งฟ้องอัยการ

ส่วนที่มีนายตำรวจยศพันเอกคนสนิทของนายปริญญ์  นำเงินจำนวนหนึ่งไปจ่ายให้ผู้เสียหายเพื่อยอมความนั้น  หากมีพยานหลักฐานชัดเจนว่าเข้าไปยุ่งเหยิง ตำรวจสามารถยื่นต่อศาลเพื่อขอเพิกถอนการประกันตัวชั่วคราวได้  แต่เรื่องนี้ยังไม่ได้รับรายงาน เนื่องจากการสอบปากคำผู้เสียหายทั้ง 4 คดียังยืนยันคำให้การเดิม และจะเอาผิดกับนายปริญญ์ถึงที่สุด

ขณะที่ผู้เสียหาย 5-6 คนที่จะเข้ามาแจ้งความวันนี้ ได้เตรียมเจ้าหน้าที่ไว้รอรับเพื่ออำนวยความสะดวก แต่ยังไม่สามารถตอบได้ว่าคดีเกิดในท้องที่ใด แต่หากพบว่าเกิดในพื้นที่ สน.ลุมพินี ยืนยันว่าดำเนินการได้ทันที แต่ถ้าเกิดในพื้นที่อื่นจะมีการนำผู้เสียหายไปดำเนินคดีในพื้นที่นั้นๆ

นอกจากนี้ พล.ต.ต.ไตรรงค์ยังกล่าวถึงกรณีที่มีผู้เสียหายออกมาร้องทุกข์ในลักษณะเดียวกันในช่วงเวลานี้ว่า  ตำรวจไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้ แต่ยืนยันว่าจะรับแจ้งความดำเนินคดีให้ สุดท้ายคดีจะเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ ตำรวจไม่สามารถวิเคราะห์หรือสรุปได้ แต่จะทำไปตามพยานหลักฐานที่มีและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

อย่างไรก็ตาม ตำรวจเตรียมนำพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด และหลักฐานอื่นไปส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบว่าเป็นของจริงหรือไม่ รวมถึงหากพบว่านายปริญญ์ทำผิดเงื่อนไขการประกันตัว ตำรวจพร้อมไปยื่นเพิกถอนการประกันตัวทันที

ด้านนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” พาผู้เสียหายที่อ้างว่าถูกนายปริญญ์ล่อลวงไปข่มขืนและกระทำอนาจารมาแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติม โดยกล่าวว่า ตอนแรกนัดผู้เสียหายมาแจ้งความ 6-7 ราย แต่บางรายไม่สะดวกมาแล้ว โดยผู้เสียหายรายล่าสุดที่พาเข้ามา เป็นผู้ที่อัดคลิปเสียงการพูดคุยกับผู้ก่อเหตุ โดยถูกข่มขืนเมื่อปี  2563 ซึ่งยังอยู่ในอายุความ เพราะมีการแก้ไขกฎหมายไม่ให้เป็นคดียอมความได้

เขาบอกว่า ตอนแรกเหยื่อรายนี้ไม่ยินยอม จะไปแจ้งความตั้งแต่เกิดเรื่อง แต่กลัวจะดำเนินคดีไม่ได้ อีกทั้งผู้ก่อเหตุยังเสนอเงินมาให้ 2-3 ครั้ง ก็ได้รับไว้ เนื่องจากโดนข่มขู่ว่าพ่อใหญ่มาก แต่ตอนนี้ไม่ได้รับเงินแล้ว ผมไม่กลัวการฟ้องร้องกลับ เพราะเหยื่อทุกคนมั่นใจให้ผมมาดำเนินคดี ถ้าผมกลัวคนอื่นก็เสียขวัญ

นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า โดยส่วนตัวไม่มีบทบาทในการเข้าไปแทรกแซงหรือตัดสินใจอะไร แต่ก็ให้คำแนะนำว่าเรื่องอะไรก็ตามที่เมื่อมามีปัญหาเกิดขึ้นในพรรค ก็พยายามยึดหลักไว้ว่าเราเป็นพรรคการเมืองที่ยึดเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต และความถูกต้องเป็นหลัก ต้องยึดหลักนี้ไว้ และเมื่อมีอะไรต้องพยายามหาโอกาสชี้แจง เพราะหลายเรื่องตนดูแล้วมีความเข้าใจผิดจากผู้จัดรายการในโทรทัศน์ บางทีก็ไม่ค่อยตรงนัก ดังนั้นถ้ามีโอกาสก็อยากให้พรรคชี้แจง

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะกระทบต่อภาพรวมของพรรค นายชวนกล่าวว่า ไม่มีเรื่องอะไรที่ไม่กระทบ เวลาคนพูดเรื่องดีก็กระทบในทางที่ดี พอเรื่องที่ไม่ปกติก็กระทบในทางที่ลบ แต่ก็เชื่อหลักอันหนึ่งว่าพรรคประชาธิปัตย์ยึดความถูกต้อง เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรที่จะอยู่เหนือกฎหมาย ขอให้มั่นใจว่าพรรคยึดหลักนี้มาตลอด

นายชวนยังกล่าวว่า นายศุภชัย พานิชภักดิ์ และครอบครัวก็ดี ถึงแม้ท่านศุภชัยจะเคยเป็นรองนายกรัฐมนตรีก็ตาม  แต่ไม่ใช่เป็นนักการเมืองที่มีอิทธิพลที่จะไปกลั่นแกล้งหรือทำอะไรให้บ้านเมืองผิดปกติ ตนรู้จักท่านมา ตนเป็นนายกฯ  ท่านเป็นรองนายกฯ ท่านศุภชัยก็ไม่เคยมีปัญหาในทางที่ผิดหรือใช้อิทธิพลใดๆ ก็ตาม ไม่มี พวกเรามั่นใจได้ว่าขอให้เจ้าหน้าที่ของบ้านเมืองปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด อะไรถูกผิดก็ว่าไปตามกฎหมาย อย่าไปเกรงใจใคร และในส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ขอให้มั่นใจว่าเราไม่ทำอะไรก็ตามที่จะไปทำให้ถูกเป็นผิดหรือผิดเป็นถูก และไม่บังอาจไปคุกคามเจ้าหน้าที่ เราไม่ทำ ขอให้มั่นใจได้

นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ส.ส.พรรคเรียกร้องให้กรรมการบริหารพรรครับผิดชอบว่า การที่มีความคดิเห็นต่างกันในพรรคประชาธิปัตย์เป็นเรื่องปกติที่ทุกคนมีสิทธิ์แสดงความเห็น สิ่งที่ทำได้คือขอความร่วมมือว่าการจะแสดงความเห็นอะไร ขอให้คำนึงถึงพรรค ต้องแยกระหว่างเรื่องส่วนตัวกับปัญหาพรรค และเห็นว่ากรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ควรใช้มาเป็นเกณฑ์เปลี่ยนกรรมการบริหารพรรค

 “เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เราคิดว่าเราผ่านสถานการณ์อย่างนี้มาหลายครั้ง ความเห็นที่ต่างกันเป็นเรื่องปกติในพรรคประชาธิปัตย์  แต่ในความเห็นของผมคิดว่าเวลาที่เหลืออยู่ ในสมัยการเลือกตั้งรอบนี้หรืออายุของรัฐบาล ไม่เกิน 10 ถึง 11  เดือนแล้ว ดังนั้นควรใช้เวลาที่เหลืออยู่เตรียมภารกิจของพรรคให้ลุล่วง แล้วหลังการเลือกตั้งครั้งหน้าผลออกมาอย่างไร เลขาธิการพรรคพูดชัดแล้วว่าถ้าน้อยกว่าเดิม 51 เสียง  ท่านรับผิดชอบอยู่แล้ว กรรมการบริหารพรรคพร้อมรับผิดชอบ แต่อยากให้ใช้ผลการเลือกตั้งเป็นเครื่องตัดสิน ไม่ใช่ว่ามีเรื่องรายวัน กรรมการบริหารพรรคต้องออกเป็นรายวัน ซึ่งไม่ใช่วิสัย” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่พรรคประชาธิปัตย์ มีกลุ่มเฟมฟู, เฟมินิสต์ปลดแอก, ราษฎรมูเตลู นัดหมายทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ทำการแสดงสีดาลุยไฟ เพื่อเรียกร้องให้นักการเมืองเอาจริงเอาจังในการยุติความรุนแรงทางเพศ  โดยมี น.ส.รัชดา ธนาดิเรก กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ นางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์มายืนดูเหตุการณ์ 

ด้าน น.ส.รัชดาเผยว่า พรรคพร้อมรับฟังทุกข้อเสนอแนะ และที่ทุกคนมาวันนี้เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และความรับผิดชอบที่จะต้องทำ ส่วนคดีและความรับผิดชอบอื่น  นายปริญญ์ได้ลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรค ถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ยืนยันพรรคประชาธิปัตย์จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการสอบสวนทางคดี ในทางกลับกันหากมีผู้เสียหายต้องการความช่วยเหลือให้ประสานมาทางพรรค จะให้ความช่วยเหลือเต็มที่ ซึ่งจะมีทีมทนายสตรีและกลุ่มนักการเมืองหญิงที่จะให้ความช่วยเหลือ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง