6วันดับ237ราย ชี้เมาขับพุ่ง93% คุมเข้มกลับกรุง

เจ้าหน้าที่คุมเข้มการเดินทางของประชาชนกลับเข้ากรุงหลังสงกรานต์ เฝ้าระวังขับรถเร็ว-หลับใน  สถิติอุบัติเหตุ 6 วันยังสูงต่อเนื่อง เสียชีวิตรวม 237 ราย ขณะที่กรมคุมประพฤติ เผยตัวเลขคดี ​“เมาขับ” สูงขึ้นกว่าปีที่แล้วถึง 93%

เมื่อวันที่ 17 เม.ย.2565 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2565 สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนน ประจำวันที่ 16 เม.ย.2565 เกิดอุบัติเหตุ 241 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 246 คน ผู้เสียชีวิต 28 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 41.49, ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 25.31 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 84.34, รถปิกอัพ ร้อยละ 6.43 ส่วนใหญ่เกิดบนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 38.59,  ถนนใน อบต. หมู่บ้าน ร้อยละ 38.17 บริเวณจุดเกิดเหตุเป็นทางตรง ร้อยละ 80.91 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 18.01-19.00 น. ร้อยละ 10.37 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่ในช่วงอายุ 20-29 ปี ร้อยละ 22.63 โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 11 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ ลำปาง 11 คน จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 3 ราย

สถิติอุบัติเหตุสะสม 6 วัน (11-16 เมษายน 2565) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,720 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 1,696 คน ผู้เสียชีวิต 237 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 62 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 60 คนจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 11 ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตรวม 10 จังหวัด ได้แก่ นครพนม บึงกาฬ ปัตตานี ยะลา ระนอง ลำพูน สมุทรสงคราม สิงห์บุรี หนองบัวลำภู และอำนาจเจริญ

นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กล่าวว่า วันที่ 17 เม.ย. เป็นวันหยุดปิดท้ายเทศกาลสงกรานต์ ประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร ศปถ.ได้กำชับจังหวัดให้ความสำคัญกับการดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน ทั้งถนนสายหลักและสายรอง โดยพิจารณาเปิดช่องทางพิเศษ ปิดจุดกลับรถ ประชาสัมพันธ์เส้นทางเลี่ยง ทางลัด เพื่อให้การสัญจรเป็นไปด้วยความคล่องตัว มุ่งเฝ้าระวังจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ ทั้งจุดตัดทางรถไฟ ทางแยก ทางร่วม และบริเวณที่มีการก่อสร้างถนน พร้อมดูแลเส้นทางตรงที่มีระยะทางยาว เพื่อป้องกันการขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด อีกทั้งเพิ่มความถี่ในการเรียกตรวจความพร้อมของผู้ขับขี่ยานพาหนะทุกประเภท เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางถนนจากการหลับใน อีกทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชนที่ยังคงตกค้างบริเวณสถานีขนส่ง ท่าอากาศยาน ท่าเทียบเรือ และสถานีรถไฟ ให้เดินทางกลับได้อย่างปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในวันนี้หลายพื้นที่ ทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ยังคงมีฝนตกและพายุลมแรง จึงขอฝากเตือนให้ผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวังในการขับรถเป็นพิเศษ หรือไม่ฝืนขับรถฝ่าสภาพอากาศที่มีฝนตกหนักและวาตภัย โดยให้จอดรถในบริเวณที่ปลอดภัย จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุทางถนนจากสภาพแวดล้อมไม่ปลอดภัย

นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิด​เผย​ว่า สถิติคดีที่ศาลสั่งคุมความประพฤติของวันที่ 16 เม.ย. 2565 ที่ผ่านมา รวมทั้งสิ้น 1,184 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 1,145 คดี และคดีขับเสพ 39 คดี สำหรับยอดรวมสะสม 6 วันของ 7 วันอันตราย มีจำนวน 6,588 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 5,919 คดี คิดเป็นร้อยละ 89.84 ติด EM 11 ราย, คดีขับเสพ 650 คดี คิดเป็นร้อยละ 9.87, คดีขับรถประมาท 19 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.29 จังหวัดสุรินทร์ยังคงครองแชมป์คดีเมาขับสูงสุดอันดับหนึ่ง 331 คดี รองลงมาร้อยเอ็ด 330 คดี และกรุงเทพมหานคร 310 คดี ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีเข้าสู่คุมประพฤติในวันที่ 6 ของ 7 วันอันตรายปี 2564 พบว่า คดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 80 คดี และปี 2565 จำนวน 1,145 คดี เพิ่มขึ้น 1,065 คดี คิดเป็นร้อยละ 93 นอกจากนี้ ศาลยังมีคำสั่งใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (EM)  คดีขับรถขณะเมาสุรายอดสะสม 6 วัน จำนวน 11 ราย โดยส่วนใหญ่กำหนดเงื่อนไขห้ามออกจากที่พักอาศัย ตั้งแต่เวลา 19.00-05.00 น. เป็นระยะเวลา 7 วัน

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ทำงานด้วยความเสียสละ อำนวยความสะดวก สร้างความปลอดภัยให้ประชาชนในการเดินทางสัญจรช่วงเทศกาลสงกรานต์ รวมถึงขอบคุณประชาชนที่ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ซึ่งช่วยในการลดอุบัติเหตุ ป้องกันความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งของตนเองและผู้อื่น นายกรัฐมนตรียังมีความห่วงใยการเดินทางสัญจรของประชาชนในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ โดยได้กำชับให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรองรับประชาชนเดินทางกลับจากภูมิลำเนา ที่คาดว่าจะมีการเดินทางจำนวนมากในช่วงระหว่างวันที่ 16-17 เม.ย.นี้ จึงได้เน้นย้ำมาตรการ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ”

ขณะที่นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเตือนประชาชนที่จะเดินทางข้ามพื้นที่ ควรตรวจสอบสภาพภูมิอากาศตลอดเส้นทางการเดินทาง ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนฉบับที่ 7 ให้ทุกภาคเตรียมรับมือ "พายุฤดูร้อน" ในช่วงวันที่ 17-18 เม.ย.2565 ซึ่งหลายจังหวัดจะมีสภาพอากาศ ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกบางแห่ง

ทางด้านของการเตรียมอำนวยความสะดวกให้ประชาชนเดินทางกลับเข้า กรุงเทพฯ นั้น บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จัดรถรองรับ 3,700 เที่ยว ส่วนตัวเลขการเดินทางเมื่อวันที่16 เม.ย. มีประชาชนใช้บริการรถโดยสารขาเข้าและออกจากกรุงเทพฯ รวม 58,813 คน ส่วนการเดินทางโดยรถไฟวันนี้ บรรยากาศที่สถานีรถไฟพิจิตร ตั้งแต่ช่วงเช้า มีประชาชนมารอโดยสารรถไฟเพื่อกลับกรุงเทพฯ กันอย่างคึกคัก โดยตั๋วโดยสารรถไฟตลอดทั้งวันกว่า 10 ขบวน ประเภทชั้น 1 และชั้น 2 ทั้งรถด่วนสปรินเตอร์ รถด่วน และรถเร็ว เต็มหมดแล้วทุกที่นั่ง เหลือเพียงตั๋วโดยสารนั่งพัดลมชั้น 3 ที่พ่วงเสริมมากับขบวนรถแต่ละขบวนเท่านั้นที่ยังเหลืออยู่

นายประสิทธิ์ กล้าทำ ขนส่งจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ มีปริมาณรถโดยสารสาธารณะทุกประเภททำการรับ-ส่งผู้โดยสารในเส้นทางขอนแก่นวันละประมาณ 300 เที่ยว เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาปกติที่มีวันละประมาณ 190-200 เที่ยว ซึ่งสำนักงานขนส่งจังหวัดขอนแก่นได้จัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจภายในอาคารผู้โดยสารเพื่อทำการตรวจเช็กรถทุกคันและพนักงานขับรถทุกคนที่เข้ามารับ-ส่งผู้โดยสารภายใน บขส.ขอนแก่น หากพบไม่ผ่านมาตรฐานการตรวจ จะให้หยุดบริการ เพื่อความปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร              

นายปิยะ โยมา ขนส่งจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ช่วงวิกฤตโควิด รถโดยสารสาธารณหลายคันต้องหยุดให้บริการ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กลุ่มงานที่รับผิดชอบลงพื้นที่ตรวจความพร้อมรถโดยสารโดยเฉพาะช่วงล่าง ทั้งระบบห้ามล้อและยางทุกเส้น รวมทั้งเครื่องปรับอากาศและสภาพร่างกายของพนักงานขับรถที่มีความสำคัญมาก เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด โดยใช้ระบบจีพีเอสควบคุมความเร็วตลอดเส้นทางและระหว่างทาง ได้ตั้งจุดตรวจยานพาหนะที่ อ.วังน้ำเขียว และริมลำตะคอง อ.สีคิ้ว และยังได้กำชับผู้ประกอบการให้เข้มงวดมาตรการ โดยเมื่ออยู่ในตัวรถต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และห้ามรับประทานอาหารระหว่างเดินทาง รวมทั้งกำหนดให้จอดรับ-ส่งผู้โดยสารเพียงแค่ 1 จุดเท่านั้น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง