ให้ประกัน‘ปริญญ์’ เจ้าตัวเล็งแถลงเปิดใจ/ษิทราขย่มจ่อพาเหยื่อฟ้องอีก6คน

ตำรวจยื่นฝากขัง "ปริญญ์" เจ้าตัวย้ำพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ปัดตอบปมยัดเงินให้เหยื่อคดีคุกคามทางเพศ ศาลให้ประกันตัววงเงิน 7 แสน ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร รอง ผบช.น.ยันหลักฐานที่มีสามารถเอาผิดได้ "ทนายตั้ม" เผยผู้เสียหายจะเข้าแจ้งความอีก 6 ราย ส่วนทนายเดชาเตือนคดีประเภทนี้ส่วนใหญ่แล้วก็มักจะเคลียร์กันลับหลัง แล้วคนอื่นจะกลายเป็นหมา

เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2565 ที่ สน.ลุมพินี นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมทนายความ ได้เข้าฟังคำสั่งฝากขังผลัดแรกต่อศาล ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ในคดีที่มีผู้เสียหายมาแจ้งความเอาผิดในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา และกระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัล โดยเหตุเกิดในพื้นที่ สน.ลุมพินี ทั้งหมด 3 คดี

นายปริญญ์เดินทางมาด้วยรถยนต์ยี่ห้อ BMW ซีรีส์ 7 รุ่น 730 LD สีขาว ทะเบียนป้ายแดงเลขที่ ฮ-1189 กรุงเทพมหานคร และแต่งกายโดยสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว ก่อนเดินขึ้นประตูหลังฝั่งข้างโรงพัก โดยไม่หลบหน้าสื่อมวลชน พร้อมเปิดเผยสั้นๆ ว่า ขั้นตอนขณะนี้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว ขอให้เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข้อโต้แย้งอย่างไรในกรณีมีกระแสข่าวว่าผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีพยายามยื่นเงินหลักล้านบาทกับผู้เสียหายให้หยุดเคลื่อนไหว เขาย้ำว่าขอให้เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ก่อนขึ้นชั้นบนของโรงพักไปทันที ซึ่งตำรวจไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวตามขึ้นไป

ด้าน พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผกก.สน.ลุมพินี เผยว่า ขั้นตอนจะเป็นการนัดผู้ต้องหามาดำเนินการฝากขังผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ที่สถานีตำรวจ เนื่องจากวานนี้ยังไม่มีการออกหมายจับ แต่ผู้ต้องหามามอบตัวก่อน จึงทำให้ไม่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ซึ่งขั้นตอนในการขอยื่นประกันตัว ผู้ต้องหาต้องไปดำเนินการในชั้นศาล

พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผบช.น.​ ให้สัมภาษณ์หลังตำรวจ สน.ลุมพินีคุมตัวนายปริญญ์ไปฝากขังต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ผลัดแรก เป็นเวลา 12 วัน ว่าในส่วนของการยื่นฝากขังในวันนี้ ทางพนักงานสอบสวนได้ขอคัดค้านการประกันตัว​นายปริญญ์ ผู้ต้องหา เนื่องจาก​มีผู้เสียหายหลายคดี​ และเกรงว่าจะไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน​ และมองว่าผู้ต้องหามีที่พักในต่างประเทศ รวมถึงสามารถเดินทางออกจากประเทศได้ง่ายและคล่องตัว จึงเกรงว่าจะออกนอกประเทศเพื่อหลบหนี​ได้ แต่หากศาลอนุญาตให้ประกันตัว ก็จะขอให้ศาลกำหนดเงื่อนไข​ว่า อย่าให้เข้าไปยุ่งเกี่ยว​กับพยานหลักฐาน​ และ​ห้ามเดินทางออกจากประเทศ​ ซึ่งการจะให้ประกันตัวหรือไม่ นับจากนี้ถือเป็นดุลยพินิจของศาล ทางตำรวจไม่สามารถก้าวล่วงได้

ในส่วนของคดี ขณะนี้มีการสอบปากคำผู้เสียหายทั้ง 3 คดีไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทั้ง 3 คดียังไม่หมดอายุความตามที่มีกระแสข่าวจากทนายชื่อดัง พร้อมกับได้ให้ฝ่ายสืบสวนลงไปเก็บพยานหลักฐานและตรวจสอบตามจุดคำให้การต่างๆ ซึ่งทางตำรวจมั่นใจว่า พยานหลักฐานที่มีอยู่ขณะนี้สามารถดำเนินการเอาผิดต่อผู้ต้องหาได้ ในส่วนของ 3 คดีที่มีการแจ้งความไว้กับ สน.ลุมพินี แต่ขณะนี้ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดกับสื่อมวลชนได้ เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบกับสำนวน ส่วนที่ผู้ต้องหาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ถือเป็นสิทธิที่สามารถทำได้

รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลยังยืนยันว่า แม้ผู้ต้องหาในคดีนี้เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงทางสังคม รวมถึงเป็นรองหัวหน้าพรรคใหญ่ที่เข้าร่วมรัฐบาล ก็ไม่หนักใจ เพราะการทำงานของตำรวจนครบาลเป็นการทำงานตามพยานหลักฐาน ตรงไปตรงมา ไม่มีการแบ่งว่าบุคคลธรรมดาหรือบุคคลมีชื่อเสียง

ผู้เสียหายจ่อแจ้งความอีก 6 คน

ขณะที่กระแสข่าวมีการวิ่งเต้นให้ผู้เสียหายถอนตัวออกจากคดี ยืนยันว่า ในส่วนของคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของ สน.ลุมพินี ยังไม่มีความผิดปกติหรือการถอนตัวจากผู้เสียหาย ส่วนผู้เสียหายที่ยังไม่ได้เข้าแจ้งความ ตนเองไม่สามารถให้ความเห็นได้ เนื่องจากถือว่ายังไม่เข้ากระบวนการทางกฎหมายที่ตำรวจสามารถดำเนินการได้ และเป็นสิทธิของผู้เสียหายเองที่จะสามารถดำเนินการใดๆ ทั้งนี้ ยังไม่พบว่ามีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความกับตำรวจ สน.ลุมพินีเพิ่มเติมนอกเหนือจาก 2 คดีที่กล่าวมาข้างต้น

ขณะที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เปิดเผยว่า ในวันที่ 18 เมษายน เวลาประมาณ 16.00 น. จะพาผู้เสียหายอีก 6 คน เข้าแจ้งความเพิ่มเติมที่ สน.ลุมพินี โดยมีทั้งผู้เสียหายที่ถูกลวนลามและถูกข่มขืน ซึ่งเหตุเกิดในพื้นที่ สน.ลุมพินีทั้งหมด

ขณะเดียวกัน ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ นางหทัยรัตน์ ธนากิจอำนวย หรือแอนนา หนึ่งในผู้เสียหาย และนายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือไฮโซลูกนัท นักเคลื่อนไหวทางการเมือง พร้อมทนาย ได้เดินทางมาศาลเพื่อยื่นคัดค้านการประกันตัวนายปริญญ์ จำเลยในคดีคุกคามทางเพศต่อศาล

นางหทัยรัตน์เปิดเผยว่า ที่เดินทางมายื่นขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องมีความกังวลว่าทางด้านนายปริญญ์จะหลบหนีออกนอกประเทศ และใช้อำนาจปิดปากผู้เสียหายรายอื่น ส่งผลทำให้เสียรูปคดี

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว นายปริญญ์มีการติดต่อเพื่อขอโทษบ้างหรือไม่ นายธนัตถ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อเพื่อแสดงความรับผิดชอบหรือขอโทษจากอีกฝ่าย ซึ่งตนหวังว่าอย่างน้อยพรรคประชาธิปัตย์ควรแสดงท่าทีความรับผิดชอบต่อเรื่องดังกล่าวบ้าง

เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า จากกรณีที่ นางหทัยรัตน์ประกาศถอนตัวจากการเป็นผู้สมัคร ส.ก. เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจว่าในคดีถูกลวงไปบังคับข่มขืนนั้น มิใช่เรื่องทำเพื่อหวังผลทางการเมือง แต่ด้านผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานครชี้แจงว่าการประกาศถอนตัวจากการเป็นผู้สมัคร ส.ก. ไม่สามารถทำได้ ต่อจากนี้จะมีการดำเนินการอย่างไร

นางหทัยรัตน์กล่าวว่า ได้มีการสอบถามไปยังผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานครแล้ว และได้ทราบข้อมูลว่าตนไม่สามารถถอนตัวจากการสมัคร ส.ก. แต่สามารถสละสิทธิ์ในการดำรงตำแหน่ง ส.ก.ได้ ในกรณีที่ชนะการเลือกตั้ง ส.ก. และยังสามารถดำเนินคดีกับนายปริญญ์ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจได้ตามปกติ

เวลา 11.30 น. ตำรวจ สน.ลุมพินี คุมตัวนายปริญญ์มาถึงศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อดำเนินการฝากขังผลัดแรก โดยระหว่างลงจากรถตู้ตำรวจ ทีมข่าวได้สอบถามนายปริญญ์อีกครั้งว่า ยังยืนยันความบริสุทธิ์ตามคำให้การเดิมหรือไม่ นายปริญญ์ตอบว่ายืนยันความบริสุทธิ์แน่ครับ และขอย้ำให้เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ผมเข้าใจว่าสื่อต้องการจะถามประเด็นใด แต่ขอให้เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม

ส่วนกรณีที่ทนายตั้มโพสต์ว่า มีการเสนอเงินให้กับผู้เสียหายเพื่อให้หยุดเคลื่อนไหวทางคดีนั้น นายปริญญ์ยืนยันว่า ไม่มีแน่นอนครับ

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า รู้จักผู้เสียหายทุกคนหรือไม่ นายปริญญ์โบกมือเป็นสัญญาณคล้ายปฏิเสธ ก่อนที่จะเข้าไปภายในศาล

"ปริญญ์" ยันไม่หนี

ต่อมาเวลา 13.17 น. นายปริญญ์  พร้อมด้วยทนายความได้ออกมาจากศาล หลังทนายความยื่นเรื่องขอประกันตัว และศาลพิจารณาอนุญาตให้ประกันตัวนายปริญญ์ โดยในคดีหมายเลขดำฝ.173 และ 174/2565 ซึ่งเป็นคดีกระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัล ศาลมีคำสั่งอนุญาตปล่อยชั่วคราว ตีราคาประกันในคดี สำนวนละ 200,000 บาท รวม 2 คดี 4 แสนบาท ส่วนคดีหมายเลขดำ ฝ.175/2565 ซึ่งเป็นคดีข่มขืนกระทำชำเรา ศาลมีคำสั่งอนุญาตปล่อยชั่วคราว โดยตีราคาประกันในคดีจำนวน 300,000 บาท

ทั้งนี้ นายปริญญ์ถูกดำเนินคดีรวมทั้งสิ้น 3 คดี รวมเป็นเงินที่ใช้ประกันตัวทั้งสิ้น 7 แสนบาท ศาลกำหนดเงื่อนไข ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาลแจ้ง และให้แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองรับทราบ

โดยนายปริญญ์เปิดเผยสั้นๆ ว่า วันนี้ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว ยังยืนยันขอให้เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตนก็มาตามนัดทุกครั้ง ทั้งนี้ยืนยันว่าจะไม่หลบหนีอย่างแน่นอน ตนยืนยันมาตลอดไม่ไปไหนแน่ ส่วนประเด็นต่างๆ ที่นักข่าวสอบถาม ทั้งเรื่องพยานหลักฐานต่างๆ และแนวทางการต่อสู้คดี นายปริญญ์ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ ก่อนที่จะขึ้นรถออกไป

ขณะที่นายพีรนัทธ์ วงศ์สวัสดิ์ หรือทนายเพลิง ทนายความ ระบุว่า หลังจากนี้จะมีการแถลงข่าว แต่ยังไม่มีการระบุวันเวลาและสถานที่ โดยจะมีการนัดหมายวันเวลาอีกครั้ง

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มการเมืองมีความพยายามเชื่อมโยงโจมตีพรรคประชาธิปัตย์จากกรณีของปริญญ์ ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในส่วนที่ต้องแยกออกจากกันคือ เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งจะผิดหรือไม่ก็ว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม พรรคจะไม่ไปก้าวล่วง และสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการให้เต็มที่ ในส่วนของพรรค หลักการที่ชัดเจนคือ เมื่อมีเรื่องที่มีการกล่าวหาสมาชิกพรรคว่ามีการกระทำที่ผิดกฎหมายผิดหลักคุณธรรมจริยธรรม   พรรคในฐานะที่เป็นสถาบันทางการเมืองมีกระบวนการรองรับอยู่อย่างชัดเจน ขณะนี้มีการติดตามรวบรวมข้อมูลอย่างต่อเนื่อง พรรคไม่ส่งเสริมให้ใครไปกระทำความผิด ซึ่งหากใครไปกระทำความผิด ไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น

"ในทางการเมือง หลักสำคัญผมระลึกอยู่เสมอคือ เวลาที่มีคนของพรรคการเมืองใดไปกระทำความผิด ไปทุจริต ผมไม่เคยไปให้ร้ายพรรค ก็ตรวจสอบตัวบุคคลที่กระทำความผิดไปตามกระบวนการ ตัวพรรคไม่สามารถไปกระทำการทุจริตได้ คนคือตัวปัญหา เป็นผู้ก่อการ หากไปกล่าวหาพรรคก็ไม่เป็นธรรมต่อพรรคการเมืองนั้นๆ และจะไม่เป็นธรรมต่อคนดี คนที่ตั้งใจทำงานที่อยู่ในพรรคด้วย ซึ่งทุกองค์กรเราปฏิเสธไม่ได้ว่าย่อมมีทั้งคนดีและคนไม่ดี กระบวนการตรวจสอบบุคคลต่างๆ ในพรรคหากมีการกระทำผิด เป็นคนไม่ดี ก็จำเป็นต้องใช้กระบวนการคัดกรองคนเหล่านั้นออกไป ทุกองค์กรก็เป็นเช่นนี้ พรรคการเมืองก็เช่นกัน แต่จะเหมารวมทั้งพรรค ทั้งบุคคลอื่นที่อยู่ในพรรคก็ไม่เป็นธรรมต่อพรรคและบุคคลอื่น" นายราเมศกล่าว

ด้าน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เผยว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก ประชาชนจะตำหนิหรือวิจารณ์ใดๆ ก็พร้อมรับทุกอย่าง ทั้งนี้ ตนในฐานะที่ทำงานด้านผู้หญิงมานาน รู้สึกสะเทือนใจ เข้าใจหัวอกและความรู้สึกของทุกคน รวมถึงคำถามที่จะมีต่อคนในพรรค อย่างไรก็ตาม จะมุ่งมั่นทำงานในเรื่องต่อต้านความรุนแรง ส่งเสริมความเท่าเทียมต่อไป เรื่องที่ทำแล้วเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นต้องทำต่อ

"ศรีสุวรรณ"ร้องกกต.ฟันปชป.

 “หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราคงได้ใช้โอกาสนี้เดินหน้าการต่อต้านการคุกคามทางเพศอย่างเข้มข้น ร่วมกันทุกฝ่าย เพราะมันเป็นความผิดอาญา ไม่ใช่เรื่องปกติที่ใครๆ ก็ทำกัน ปล่อยผ่านไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องภายในขององค์กรใดองค์กรหนึ่ง แต่เป็นปัญหาสังคมที่ต้องจัดการไม่ให้เกิดขึ้นอีก ไม่ว่าจะโดยใครและกับใครก็ตาม” น.ส.รัชดาระบุ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ย้ำสิ่งที่ได้พูดไปแล้วว่า เราไม่เข้าไปปกป้องใครก็ตามที่กระทำความผิด และพรรคก็จะไม่เข้าไปแทรกแซงในเรื่องของกระบวนการยุติธรรมใดๆ ทั้งสิ้น

ส่วนที่สื่อมวลชนถามว่าหลังจากนี้จะไม่มีการแสดงความเห็นจากลูกพรรคอีกใช่หรือไม่นั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องปกติของพรรค เพราะในพรรคก็มีการแสดงความเห็นในทุกกรณีในทุกเรื่องตลอดระยะเวลาอยู่แล้ว มันเป็นวิถีทางที่เราทำงานร่วมกันอย่างนี้ แต่เมื่อสุดท้ายพรรคมีความเห็นอย่างไรที่เป็นความเห็นพรรค ก็ยอมรับกัน ก็เหมือนกับความเห็นที่ ดร.รัชดา ธนาดิเรก ได้ออกมาแถลง อันนั้นก็เป็นความเห็นของพรรค ซึ่งก็เป็นข้อยุติตรงนั้น

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏเป็นการทั่วไปเกี่ยวกับรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์นั้น เนื่องจากข้อบังคับพรรค ปชป. 2561 ข้อ 19 (2) (4) ข้อ 24 ถึง 28 ประกอบข้อ 115 มีข้อกำหนดอันเกี่ยวข้องกับการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม ซึ่งคณะกรรมการบริหารพรรค ปชป.มีอำนาจมีมติขับให้ผู้ฝ่าฝืนออกจากสมาชิกพรรคได้ จึงเป็นอำนาจหน้าที่ของเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หรือนายทะเบียนพรรคการเมือง ที่จะต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 แจ้งให้พรรคการเมืองต้องปฏิบัติตามข้อบังคับพรรค

เขากล่าวว่า หากเลขาธิการ กกต. แจ้งไปยังพรรค ปชป.แล้ว คณะกรรมการบริหารพรรค ปชป.ละเลย หรือไม่เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค หรือไม่มีมติหรือสั่งการใดๆ เกี่ยวกับกรณีอื้อฉาวของอดีตรองหัวหน้าพรรคคนดังกล่าว และไม่กำหนด มาตรการหรือวิธีการที่จำเป็น เพื่อมิให้สมาชิกพรรค ปชป.กระทำการอันมีลักษณะดังกล่าวอีก และไม่แจ้งให้เลขาธิการ กกต.ทราบภายใน 7 วัน นับแต่มีมติเลขาฯ กกต.จะต้องแจ้งให้ คณะกรรมการ กกต.เพื่อพิจารณามีคำสั่งให้ คณะกรรมการบริหารพรรค ปชป.พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะได้ และห้ามกลับมาดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองอีกจนกว่าจะพ้น 20 ปีไปแล้ว ดังนั้นในวันจันทร์ที่ 18 เมษายน 2565 นี้ เวลา 10.00 น. สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจึงจะไปยื่นคำร้องต่อ กกต.

เพจ "ทนายคลายทุกข์" หรือนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ โพสต์คลิปวิดีโอ แสดงความเห็นว่า อยากจะเรียนคดีอนาจาร หรือคดีข่มขืน เท่าที่เคยมีประสบการณ์มา เป็นคดีส่วนตัว ถ้าไม่ได้ทำต่อหน้าธารกำนัล ส่วนใหญ่ถ้าเคลียร์กันเรื่องก็จบ คนอื่นที่กำลังเชียร์กันอยู่นั้น ทำไปทำมาจะกลายเป็นหมา หอนกันไป โฮ่งๆ กันไปหมด อาหารเม็ดเยอะแยะมากมาย เดี๋ยวหลายๆ คนจะได้กินอาหารเม็ด เพราะคดีพวกนี้เป็นคดีที่เกิดในที่ลับ เป็นเรื่องของคนสองคน ส่วนผู้เสียหายต่างๆ เหตุเกิดมานานแล้ว 5 ปี 10 ปี หรือ 3-4 ปี ที่ทำในที่ลับทั้งหลาย มันขาดอายุความหมดแล้ว การจะมาแจ้งความหรือให้สัมภาษณ์สื่อต้องระวัง เพราะถ้าผู้ต้องหาเอาเรื่องขึ้นมา ก็อาจโดนข้อหาแจ้งความเท็จ หรือหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา

ทั้งนี้ ขอย้ำว่าคดีพวกนี้เป็นคดีที่ละเอียดอ่อน จึงอยากฝากไว้เป็นข้อคิด แต่ส่วนตัวเห็นใจเหยื่อทุกคน แต่ว่าคดีประเภทนี้ ส่วนใหญ่แล้วก็มักจะเคลียร์กันลับหลัง แล้วคนอื่นจะกลายเป็นหมา"

นางพัชรี อารยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวการล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดขึ้นขณะนี้ว่า เรื่องนี้เป็นหน้าที่และอำนาจตามกฎหมายของกระทรวง และกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) ที่จะดูแลให้ทุกฝ่าย ทั้งนี้ นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พม. ได้ให้นโยบายมาโดยตลอด ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยไม่ต้องเกรงกลัวว่าใครมีอิทธิพลอย่างไร และต้องดูแลผู้เสียหาย ทั้งทางกฎหมายและจิตวิทยา อย่างเต็มที่ โดยให้โอกาสทางกระบวนการยุติธรรมอย่างเท่าเทียมกัน

ปลัด พม.กล่าวอีกว่า เราจะไม่ด่วนตัดสินใคร ต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และให้ความสบายใจต่อผู้ถูกละเมิดให้มาปรึกษากับทางปลัดกระทรวง หรืออธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวได้แบบปลอดภัย เราจะรักษาความลับให้กับทุกคน ผู้ต้องการความช่วยเหลือ ติดต่อได้ที่ เพจ: "ปลัดพัชรี" และเฟซบุ๊ก "pacharee arayakul" ได้ตลอดเวลา.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปชน.ขนทัพใหญ่ หาเสียงทิ้งทวน! หวังปักธง‘สีส้ม’

“ปชน.” ปูพรมโค้งสุดท้าย ขนทัพใหญ่ดาวกระจาย 6 สายทั่วพื้นที่ “ปิยบุตร” ขอโอกาสปักธงสีส้ม “พิธา” เชื่อคะแนนยังสูสี พรรคประชาชนมีโอกาสพลิกชนะ