
ในหลวง-พระราชินี เสด็จฯ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในการพระราชพิธีสงกรานต์ประจำปี 2565 ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง ช่วงเย็นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ เสด็จแทนพระองค์ในพระราชพิธีสงกรานต์ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
เมื่อวันศุกร์ที่ 15 เมษายน พุทธศักราช 2565 เวลา 10.21 นาฬิกา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในการพระราชพิธีสงกรานต์ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง
ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร โดยเสด็จในการนี้ด้วย
เมื่อเสด็จฯ ถึงหอพระสุราลัยพิมาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระสุหร่าย สรงพระพุทธรูปสำคัญต่างๆ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการ และทรงสรงพระบรมสารีริกธาตุ จากนั้น เสด็จฯ ไปยังพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระสยามเทวาธิราช แล้วเสด็จฯ ไปยังหอพระธาตุมณเฑียร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะ ทรงกราบถวายบังคมพระบรมอัฐิ และพระอัฐิ ทรงสรงน้ำพระบรมอัฐิ และพระอัฐิ ทั่วทุกพระโกศ ทรงกราบที่พระแท่นหน้าเครื่องราชสักการะ เสร็จแล้ว เสด็จฯ ไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพานทอง 2 ชั้นบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร รัชกาลที่ 1 - รัชกาลที่ 9 ที่หน้าพระที่นั่งบุษบกมาลา พระสงฆ์ถวายศีลและถวายพรพระ จบแล้ว เสด็จฯ ไปทรงจุดธูปเทียนที่พนมข้าวบิณฑ์หน้าพระที่นั่งบุษบกมาลา แล้วเสด็จฯ ไปทรงประเคนปิ่นโตภัตตาหารแด่ประธานสงฆ์ ปิ่นโตภัตตาหารนอกนั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระราชวงศ์ องคมนตรี และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทรงประเคนและประเคนพระสงฆ์รูปต่อไปตามลำดับ เสร็จแล้ว เจ้าพนักงานเชิญพระโกศพระบรมอัฐิ และพระโกศพระอัฐิ ออกประดิษฐานบนพระราชบัลลังก์ภายใต้พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร และบนพระที่นั่งกง พระสงฆ์สดับปกรณ์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะทองลงยาราชาวดี และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยที่หน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงกราบถวายบังคมพระบรมอัฐิ และพระอัฐิ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะทองลงยารอง และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยที่หน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงกราบถวายบังคมพระบรมอัฐิ และพระอัฐิ แล้วเสด็จฯ ไปทรงทอดผ้าคู่ถวายพระสงฆ์ พระสงฆ์สดับปกรณ์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา
จากนั้น เสด็จฯ ไปทรงกราบพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร รัชกาลที่ 1 - รัชกาลที่ 9 ที่หน้าพระที่นั่งบุษบกมาลา ทรงกราบพระบรมอัฐิ และพระอัฐิ ที่หน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แล้วเสด็จฯ ออกจากพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินกลับ
ในเวลา 16.56 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จแทนพระองค์ไปในการพระราชพิธีสงกรานต์ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร โดยเสด็จในการนี้ด้วย
เมื่อเสด็จถึงวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เสด็จขึ้นชานพระอุโบสถ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา พระราชทานพระวโรกาสให้ พล.อ.ท.ภักดี แสง-ชูโต รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองพระราชพิธี เฝ้ากราบทูลรายงานเครื่องราชสักการะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชอุทิศพระราชทานให้กระทรวงมหาดไทยเชิญไปถวายเป็นพุทธบูชาปูชนียสถานสำคัญต่างๆ เสร็จแล้ว เสด็จเข้าพระอุโบสถ ทรงพระสุหร่ายสรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ พระพุทธเลิศหล้านภาไลย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองใหญ่ที่หน้าธรรมาสน์ศิลา
จากนั้น เสด็จไปยังหอพระคันธารราษฎร์ ทรงพระสุหร่ายสรงพระพุทธรูป ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่ง ต่อจากนั้นเสด็จไปยังหอพระราชกรมานุสร ทรงพระสุหร่ายสรงพระพุทธรูปปางประจำรัชกาลพระมหากษัตริย์กรุงสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา และกรุงธนบุรี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่ง เสร็จแล้วเสด็จไปยังหอพระราชพงศานุสร ทรงพระสุหร่ายสรงพระพุทธรูปปางประจำรัชกาลพระมหากษัตริย์กรุงรัตนโกสินทร์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่ง จากนั้นเสด็จไปยังพระศรีรัตนเจดีย์ ทรงพระสุหร่ายสรงองค์พระพุทธเจดีย์ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่ง ต่อจากนั้นเสด็จขึ้นพระมณฑป ทรงพระสุหร่ายสรงพระไตรปิฎก ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่ง เสร็จแล้วเสด็จไปยังจระนำปราสาทพระเทพบิดร ทรงพระสุหร่ายสรงพระพุทธรูปเทพบิดร และพระพุทธรูปบริวาร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่ง
ต่อจากนั้นเสด็จไปยังพระวิหารยอด ทรงพระสุหร่ายสรงพระพุทธรูป ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่ง เสร็จแล้ว เสด็จไปยังหอพระมณเฑียรธรรม ทรงพระสุหร่ายสรงน้ำพระพุทธรูปปางห้ามสมุทรมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ และพระพุทธบาทจำลอง ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองน้อย
จากนั้นเสด็จไปยังหอพระนาก ทรงพระสุหร่ายสรงพระบรมอัฐิและพระอัฐิ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย แล้วทรงทอดผ้าคู่ พระสงฆ์สดับปกรณ์พระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระอัฐิพระบวรราชเจ้า เสร็จแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงทอดผ้าคู่สำหรับพระอัฐิพระราชวงศ์ พระสงฆ์สดับปกรณ์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก แล้วเสด็จไปทรงกราบที่หน้าเครื่องทองน้อย ทรงถวายความเคารพพระราชอาสน์ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ จากนั้นเสด็จออกจากหอพระนากไปประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จกลับ
อนึ่ง ตั้งแต่เวลา 08.00-13.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการและประชาชน เข้าถวายบังคมสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชที่ปราสาทพระเทพบิดร.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทหารไทยเสียขาที่9คา‘จีบีซี’
ไทยยัน จม.ของ “เตีย เซ็ยฮา” มีนัยขอเจรจาหยุดยิง-เสนอให้ถอยกำลังทหารไปอยู่ที่จุดเดิม
‘นํ้าเงิน-ส้ม’เปิดศึก! ‘หนู’ลั่นพรรคใดแก้ม.112ไม่ร่วมด้วย-‘เท้ง’ท้าแข่งกันจัดตั้งรัฐบาล
“ภูมิใจไทย” ขยับใหม่ ประกาศแคนดิเดตนายกฯ 2 คน “อนุทิน-สีหศักดิ์” ผวา! ส่งชื่อคนเดียวสุ่มเสี่ยง ต้องเผื่อเหลือเผื่อขาดเอาไว้
กรมศิลป์รับมอบไม้จันทน์หอมสร้างพระโกศฯ
กรมสมเด็จพระเทพฯ มีพระราชวินิจฉัยแบบพระโกศจันทน์ยอดมหามงกุฎสมพระเกียรติ "พระพันปีหลวง"
กกต.กทม.คุมเข้ม รับสมัครสส.เขต ที่ศูนย์ไทย-ญี่ปุ่น
กกต.กทม.พร้อม 90% เปิดศูนย์ไทย-ญี่ปุ่น รับสมัคร สส.กทม. 33 เขต 27-31 ธ.ค.
จัดเก็บรายได้วืด2.8หมื่นล. คลังลุยกู้ชดเชยการขาดดุล
คลังจัดเก็บรายได้ 2 เดือนแรกของปีงบ 69 ไม่เข้าเป้า วืด 2.8 หมื่นล้านบาท
ในหลวง โปรดเกล้าฯ พระราชทานความช่วยเหลือแก่กำลังพล-ประชาชนในพื้นที่ชายแดน
พระเจ้าอยู่หัวฯพระราชทาน ความช่วยเหลือแก่กำลังพล-ประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ พร้อมให้พิจารณาสิทธิพิเศษเพิ่มเติมแก่ทหาร-ครอบครัวที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

