พระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาในวันที่ 22 พ.ค.ประกาศแล้ว รวมทั้ง พ.ร.ฎ.เลือกตั้งซ่อมราชบุรี “ปารีณา” เตรียมเปิดใจในโหนกระแส “พรรคเล็ก” นัดดินเนอร์หาทางดิ้นสู้บัตร 2 ใบและสูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ ระบุอาจยุบรวม “ศรีสุวรรณ” เล็งจัดหนัก “บิ๊กป้อม” ติดป้ายอวยพรปีใหม่
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 เมษายน ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 139 ตอนที่ 23 ก ได้เผยแพร่พระราชกฤษฎีกา 2 เรื่อง ประกอบด้วย พระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง พ.ศ.2565 และพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดราชบุรี เขตเลือกตั้งที่ 3 แทนตำแหน่งที่ว่าง พ.ศ.2565
โดย พ.ร.ฎ.เรียกประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่งนั้น จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.65 ส่วน พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ราชบุรีนั้น มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย. โดยจะเลือกตั้งซ่อมเพื่อแทนตำแหน่งของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ภายหลังถูกศาลฎีกาพิพากษาให้พ้นจากตำแหน่ง พร้อมกับเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี คดีฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากกรณีครอบครองที่ดินสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.)
ขณะที่ น.ส.ปารีณาโพสต์เฟซบุ๊กสั้นๆ ว่า "พบกับปารีณา @โหนกระแสพรุ่งนี้ กรรชัยเตรียมถามไม่ยั้ง"
ด้านนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ. …กล่าวถึงกรณีพรรคเล็กระบุว่า กมธ.ซีกรัฐบาลทั้งพรรคใหญ่และขนาดกลางสนับสนุนให้ใช้สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยใช้ 500 หารว่า ร่างกฎหมายของคณะรัฐมนตรี (ครม.) และร่างกฎหมายของพรรคร่วมรัฐบาล ถือเป็นร่างหลักในการพิจารณา ซึ่งเป็นไปในทำนองเดียวกัน คือยึดรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 และมีบทบัญญัติเขียนไว้ชัดเจนให้คำนวณโดยหาร 100 เพราะฉะนั้นการหาร 100, 400 หรือ 500 เพื่อนำไปคิดสัดส่วน ส.ส.พึงมีนั้นคงไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญให้คิดโดยตรง และตัวแทนคณะกรรมการกฤษฎีกาอธิบายชัดเจนต้องยึดตามรัฐธรรมนูญที่แก้ไขใหม่
“การประชุม กมธ.วิสามัญวันที่ 21 เม.ย.ต้องมีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวจนครบทุกคน จากนั้นลงมติ ซึ่งเท่าที่ฟัง กมธ.ส่วนใหญ่เข้าใจตรงกันต้องยึดตามมาตรา 91 ส่วนกรณีที่พรรคเล็กออกมาพูดเรื่องดังกล่าวเหมือนพยายามไม่ให้มีบัตร 2 ใบ ซึ่งพรรคเล็กได้ยื่นเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ แต่ขั้นตอนนั้นผ่านไปแล้ว ต้องดูว่าศาลรัฐธรรมนูญจะรับเรื่องหรือไม่” นายชินวรณ์กล่าว
นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทรักธรรม กล่าวว่า พรรคเล็กจะนัดหารือและกินข้าวกันช่วงปลายเดือน พ.ค.-ต้นเดือน มิ.ย.นี้ ว่าจะมีแนวทางการต่อสู้เอาตัวรอดที่จะใช้กติกาบัตรเลือกตั้ง 2 ใบในการเลือกตั้งสมัยหน้า และเรื่องกติกาคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะใช้จำนวน 500 หรือ 100 หาร ในการคิดคะแนนเฉลี่ย ส.ส.บัญชีรายชื่อต่อ 1 คน ซึ่งเท่าที่ได้รับสัญญาณจาก นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ ที่เป็นตัวแทนพรรคเล็กใน กมธ.วิสามัญ แจ้งว่า มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงที่ กมธ.ซีกรัฐบาลในส่วนพรรคใหญ่ และพรรคขนาดกลางจะสนับสนุนให้ใช้ 500 หารเป็นเกณฑ์คำนวณ เพราะต้องยึดหลักรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ยังมีคำว่า ส.ส.พึงมี และคะแนนเสียงไม่ตกน้ำอยู่ในมาตรการอื่นๆ ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ส่วนที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ยืนยันต้องใช้ 100 หาร ตามเนื้อหาในชั้นรับหลักการ มิเช่นนั้นจะแปรญัตติเกินหลักการนั้น ถือเป็นความผิดพลาดของการยื่นแก้รัฐธรรมนูญที่ไม่ได้ยื่นแก้ในมาตราอื่นๆ ที่ยังมีคำว่า ส.ส.พึงมีและคะแนนเสียงไม่ตกน้ำกำหนดไว้อยู่ ทำให้ภาระหนักตกมาอยู่ที่ กมธ. สุดท้ายแล้วต้องดูว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร
นายพีระวิทย์กล่าวว่า หากสุดท้ายจะใช้ 100 หาร ในการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในการรับประทานอาหารของพรรคเล็กจะหารือกันถึงหนทางไปต่อของพรรคเล็กในการเลือกตั้ง มีทั้งแนวทางการยุบรวมพรรคเล็กมารวมเป็นพรรคเดียวกัน และการไปรวมกับพรรคใหญ่ ซึ่งเท่าที่หารือเบื้องต้นน่าจะใช้วิธียุบรวมพรรคเล็ก 1-2 เสียงรวมเป็นพรรคเดียวกัน ขณะนี้มี 4-5 พรรคเล็กแล้วที่จะมารวมกัน อาทิ พรรคไทรักธรรม, พรรคเพื่อชาติไทย, พรรคครูไทยเพื่อประชาชน, พรรคพลังชาติไทย และพรรครักษ์ผืนป่า รวมถึงอาจมี ส.ส.บางส่วนของพรรคที่มี ส.ส. 4-5 เสียง มาอยู่ร่วมกับพรรคเล็กด้วย โดยจะเน้นการส่ง ส.ส.เขต ไม่เน้นบัญชีรายชื่อ คาดหวังจะได้ ส.ส.กว่า 10 ที่นั่ง
วันเดียวกันที่ จ.นครราชสีมา ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ในตัวเมืองตามถนนหนทางทั่วไปมีการขึ้นป้ายรูปภาพนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ครั้งหน้าที่คาดว่าจะลงสมัครในเขต 1
ขณะที่นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรค ชพน. กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองหลังสงกรานต์ว่า ยังมองไม่ออก แต่สถานการณ์การเมืองมันไม่มีอะไรแน่นอน เชื่อว่าตอนนี้ทุกคนก็เตรียมพร้อมอยู่แล้ว เพราะเป็นช่วงสุดท้าย ฉะนั้นจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่มีอะไร ก็คือไปเลือกตั้ง แต่ว่าเราก็ใช้เวลาที่เหลือน้อยที่สุด หรือเวลาที่เหลือนี้ร่วมมือร่วมใจกันทำงาน เพื่อให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤตไปได้
เมื่อถามถึงการขึ้นป้ายบิลบอร์ดของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรค พปชร. ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเตรียมเลือกตั้ง นายสุวัจน์กล่าวว่า ป้ายที่ขึ้นมาในจังหวะวันสงกรานต์คงต้องการที่จะสื่อว่ามีความปรารถนาดี อวยพรปีใหม่คนไทย ส่วนจะส่งสัญญาณเลือกตั้งหรือไม่นั้น เชื่อว่าทุกพรรคพร้อมอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ส่วนการเลื่อนเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือซักฟอกรัฐบาลจะมีผลอะไรหรือไม่นั้น จะซักฟอกช่วงไหนคงขึ้นกับความเหมาะสม เพราะเป็นการเปิดประชุมสภาครั้งสุดท้ายที่จะใช้โอกาสนี้ในการตรวจสอบรัฐบาล
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า สมาคมได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังอธิบดีกรมทางหลวง ขอให้สั่งการไปยังผู้อำนวยการแขวงทางหลวงต่างๆ ทั่วประเทศ หลังมีป้ายของ พล.อ.ประวิตรอวยพรปีใหม่ 2565 ติดอยู่ตามเสาไฟฟ้าริมถนนสำคัญๆ ทั่วประเทศ ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงหนองแค แขวงทางหลวงสระบุรี สำนักงานทางหลวงที่ 11 (ลพบุรี) ทำการเก็บป้ายที่ไม่ได้รับอนุญาตในพื้นที่ ทล.1 ระหว่าง กม.95+000-กม.103+000 เป็นช่วงๆ โดยมีป้ายอวยพรปีใหม่ของ พล.อ.ประวิตรรวมอยู่ด้วย โดยอ้างว่าเพื่อความปลอดภัยของผู้ที่ใช้รถใช้ถนนสัญจรในบริเวณดังกล่าว แต่ทว่าป้ายลักษณะดังกล่าวมิได้มีแต่เฉพาะในพื้นที่ จ.สระบุรีเท่านั้น หากแต่มีการติดกันในหลายพื้นที่ถนนสายหลัก ซึ่งตามพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ.2535 และแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2549 จะต้องมีการขออนุญาตการติดตั้งจากผู้อำนวยการทางหลวงเสียก่อน แต่เมื่อไม่ได้มีการขออนุญาตก็ย่อมเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 38 วรรคสาม แห่งกฎหมายข้างต้น ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 5 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“สมาคมยังทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อสั่งการไปยังราชการส่วนท้องถิ่นต่างๆ ที่มีป้ายของ พล.อ.ประวิตรติดตั้งอยู่ ให้ดำเนินการเรียกเก็บภาษีป้ายด้วย เพราะป้ายที่ติดตั้งในพื้นที่รัฐและเอกชน โดยเฉพาะป้ายคัตเอาต์ขนาดใหญ่ จะต้องมีการขออนุญาตจากราชการส่วนท้องถิ่นนั้นๆ ที่มีป้ายติดตั้งอยู่ด้วย พร้อมกับต้องเสียภาษีป้ายตามอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวงเสียก่อนด้วย หากฝ่าฝืนมีโทษปรับตั้งแต่ 5 พันถึง 5 หมื่นบาท ซึ่งเป็นหน้าที่ของ รมว.มหาดไทยที่จะต้องสั่งการไปยังราชการส่วนท้องถิ่นต่างๆ ให้ดำเนินการเรียกเก็บภาษีป้ายด้วย หากไม่ดำเนินการอาจเข้าข่ายความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ด้วย” นายศรีสุวรรณกล่าวและว่า พล.อ.ประวิตรเป็นถึงรองนายกฯ และหัวหน้าพรรคการเมือง ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล การกระทำดังกล่าวโดยไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมนั้น อาจเข้าข่ายความผิดเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงด้วย ซึ่งสมาคมจะนำความไปร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในลำดับต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แฉระบบเด็กฝาก ทำลายองค์กรตร. ดับฝัน‘ดาวฤกษ์’
เช็ก 41 รายชื่อแต่งตั้งนายพลสีกากี ระดับรอง ผบ.ตร.-ผบช.
ยธ.เมินแจงกมธ. ปมนักโทษเทวดา รพ.ตำรวจชั้น14
ชั้น 14 น่าพิศวง "โรม" กวักมือเรียก “ทักษิณ” ไปสภา เข้าแจง กมธ.มั่นคงฯ
แจกเฟส2เอื้อเลือกอบจ. เตือนร้องถอดถอนครม.
นายกฯ โชว์วิชั่น Forbes ยันไทยสงบ สันติ หวังแม้รัฐบาลเปลี่ยน
ฟ้อง9บิ๊กมท.ทุจริตที่เขากระโดง
เรื่องถึงศาล "ณฐพร" ฟ้องกราวรูด "บิ๊ก ขรก.มหาดไทย"
ลุ้นศาลรับคดีล้มล้าง ตุลาการถก6ประเด็น‘ทักษิณ-พท.’/ดันแก้ประชามติไม่รอ180วัน
"ทักษิณ-พท." ระทึก! 9 ตุลาการศาล รธน.ยืนยันนัดประชุมวาระพิเศษ 22 พ.ย.นี้
สั่งประหารชีวิต ‘แอม ไซยาไนด์’ คุกผัวเก่า-ทนาย
ศาลพิพากษาประหารชีวิต "แอม ไซยาไนด์" วางยาฆ่าก้อย พร้อมชดใช้ 2.3 ล้าน