สั่งผวจ.เข้มห้ามเล่นนํ้า ขออดทนร่วมป้องโควิด

ไทยติดเชื้อ 2.3 หมื่นราย  ดับยังทะลุร้อย "อนุทิน" สั่งบุคลากรการแพทย์ทั่วประเทศรับมือโควิดพุ่งหลังเทศกาล "บิ๊กตู่" สั่งผู้ว่าฯ ภูเก็ตแจงนักท่องเที่ยว พร้อมกำชับ ผวจ.ทั่วประเทศควบคุมพื้นที่ห้ามเล่นน้ำสงกรานต์ อำเภอกะทู้-ตร.สนองบัญชานายกฯ กวดขันห้ามขัดคำสั่ง ศบค.

เมื่อวันที่ 13 เมษายน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า  พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 23,015 ราย ติดเชื้อในประเทศ 22,863 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 22,647 ราย, มาจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 216 ราย,  มาจากเรือนจำ 57 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 95 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 27,626 ราย อยู่ระหว่างรักษา 232,682ราย อาการหนัก 1,971 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 834 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 106 ราย เป็นชาย 62 ราย หญิง 44 ราย อายุ 60 ปีขึ้นไป 80 ราย มีโรคเรื้อรัง 23 ราย ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 3 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 3,948,869 ราย มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 3,689,792 ราย มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 26,395 ราย ขณะที่สถานการณ์โลกมีผู้ติดเชื้อสะสม 501,113,443 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 6,209,620 ราย

สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด ได้แก่ กทม. 2,932 ราย, นนทบุรี 1,082 ราย, ขอนแก่น 994 ราย, ชลบุรี 981 ราย, สมุทรปราการ 712 ราย,  นครปฐม 554 ราย, สมุทรสาคร 549 ราย,  นครศรีธรรมราช 528 ราย, บุรีรัมย์ 514 ราย และสงขลา 479 ราย

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนักท่องเที่ยวบริเวณซอยบางลา ตำบลป่าตอง อำเภอกระทู้ จังหวัดภูเก็ต ร่วมกันสาดน้ำและใช้ปืนฉีดน้ำอย่างสนุกสนานในวันสงกรานต์ว่า​ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แสดงความกังวลใจต่อการกระทำดังกล่าว สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตลงพื้นที่ชี้แจงทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยว พร้อมเน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการทั่วประเทศกำชับส่วนราชการเฝ้าสังเกตประชาชนในพื้นที่ที่ห้ามเล่นน้ำวันสงกรานต์ นายกฯ ขอความร่วมมือประชาชน ปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค.อย่างเคร่งครัด ใช้เวลาช่วงวันหยุดทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ร่วมกับคนในครอบครัว สามารถสรงน้ำพระ และรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือได้ แต่ขอให้ระมัดระวัง ตรวจสอบตัวเองให้ปลอดภัยก่อนจะใกล้ชิดผู้ใหญ่ ทั้งนี้ นายกฯ เข้าใจถึงความรู้สึกของพี่น้องทุกคน แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขอให้ทุกคนอดทน ใช้การประพรมรดน้ำผู้ใหญ่ขอพรแทนการสาดน้ำ ร่วมมือกันรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อก้าวผ่านสถานการณ์ไปให้ได้โดยเร็ว

ทางด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีผู้ติดเชื้อมากขึ้นหลังเทศกาลสงกรานต์ แต่ยังมั่นใจว่าด้วยผลของวัคซีนที่ฉีด จะทำให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนไม่มีอาการรุนแรงหรือไม่มีการเสียชีวิต ส่วนที่มีการประเมินว่าจะมีตัวเลขผู้ติดเชื้อมากถึงหลักแสนต่อวันนั้น มองว่ายังมีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา ทั้งเรื่องจำนวนผู้ที่กลับภูมิลำเนา และจำนวนผู้ที่ฉีดวัคซีน ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทุกโรงพยาบาล เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ไว้แล้ว ขณะเดียวกันขอประชาชนให้ความร่วมมือ อย่าถอดหน้ากากอนามัย อย่าไปในที่ที่มีคนพลุกพล่านหรือดื่มร่วมกัน เพราะจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดการแพร่เชื้อมากขึ้นได้

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. เปิดเผยว่า มีความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนการจัดงานสงกรานต์ในพื้นที่ต่างๆ นั้นยังมีความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลและ ศบค.ได้มีมติอนุญาตให้พื้นที่ที่มีการควบคุมสามารถจัดงานสงกรานต์ได้ แต่เป็นการจัดงานเพื่อวัตถุประสงค์สืบสานวัฒนธรรมและประเพณีไทย โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (Covid Free Setting) ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด สำหรับผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม อาจมีความผิดตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 มาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ที่ว่าการอำเภอกะทู้ ได้ชี้แจงผ่านโซเชียลศูนย์ข้อมูลภูเก็ตระบุว่า ตามที่สื่อมวลชนได้มีการเสนอข่าวว่า วันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา พบมีการเล่นน้ำของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในบริเวณซอยบางลา ตำบลป่าตอง ในลักษณะอันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดที่ 2057/2565 นั้น ขอเรียนว่า ได้บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เพื่อดำเนินการแจ้งประชาสัมพันธ์มาตรการความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2565 อย่างต่อเนื่อง และวันที่ 11 เม.ย. ได้เดินประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการรับทราบถึงมาตรการดังกล่าวด้วยแล้ว อย่างไรก็ตามยังคงพบนักท่องเที่ยวบางกลุ่มฝ่าฝืนอยู่บ้าง แต่หากบังคับใช้มาตรการอย่างเด็ดขาด อาจส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวในพื้นที่ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าแจ้งตักเตือนแล้ว

โดยวันที่ 13 เม.ย. ตั้งแต่เวลา 11.00 น. อำเภอกะทู้ได้จัดชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วออกประกาศแจ้งเตือนให้ผู้ประกอบการทราบและเน้นย้ำการถือปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวอย่างเคร่งครัด และร่วมกับเจ้าหน้าที่ สภ.ป่าตอง ตั้งจุดตรวจ ต้นซอย กลางซอย ท้ายซอย ในบริเวณซอยบางลาป่าตอง ตั้งแต่ในช่วงเวลา 15.00 น. เพื่อป้องปรามผู้ที่จะกระทำการฝ่าฝืนคำสังจังหวัดอย่างเข้มงวดต่อไป

จากนั้นตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้รับทราบแล้ว สั่งการให้ พ.ต.อ.สุจินต์ นิลบดี ผกก.สภ.ป่าตอง ตรวจสอบกรณีดังกล่าวและรายงานชี้แจงให้ทราบ โดยพบว่าขณะเกิดเหตุ ช่วงหัวค่ำวันที่ 12 เม.ย. ได้มีนักท่องเที่ยว จำนวนประมาณ 30-40 คน บริเวณเฉพาะต้นซอยบางลา เล่นช่วงระยะเวลาสั้นๆ ประมาณ 10-15 นาที เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบว่ามีการเล่นปืนฉีดน้ำของนักท่องเที่ยว จึงดำเนินการห้ามปรามและชี้แจงทำความเข้าใจจนสุดท้ายนักท่องเที่ยวได้หยุดเล่นพร้อมกับให้ความร่วมมือ หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง ได้ออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบและได้เน้นการตรวจในพื้นที่รับผิดชอบและถนนบางลาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการกวดขันและประชาสัมพันธ์นักท่องเที่ยวและสถานประกอบการ

โดยเวลา 10.30 น. พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ และรองผบก. ได้ประชุมชี้แจงและกำชับทุก สภ. ในสังกัด ให้กวดขันและประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องให้กับนักท่องเที่ยวและสถานประกอบการทราบถึงคำสั่งจังหวัดภูเก็ต ถึงมาตรการความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์

ที่ จ.นครราชสีมา พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 ผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ยังสูงอยู่ที่ 508 ราย รวมกับผล ATK อีก 2,181 ราย รวม 2,689 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 4 ราย โดยนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และประธานคณกรรมการโรคติดต่อ จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิด-19 ของจังหวัดมีการติดเชื้อที่พุ่งสูง และจะสูงต่อเนื่องไปถึงช่วงหลังสงกรานต์ เรามีความเป็นห่วงเรื่องนี้มาตลอด ได้เตรียมแผนไว้แล้วในก่อนระยะสงกรานต์มีการตรวจ ATK พี่น้องประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาก่อนเข้าในพื้นที่หมู่บ้าน ตำบล และเมื่อเสร็จสงกรานต์หลังจากกลับจากเยี่ยมญาติพี่น้องกลับไปแล้ว ทางจังหวัดจะปูพรมตรวจ ATK ทั้งจังหวัดอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเป็นการตัดวงจรของโควิด-19 ในพื้นที่ จ.นครราชสีมาทั้ง 32 อำเภอ ทุกชุมชน หมู่บ้าน ตำบลให้ได้ ก็เป็นไปตามได้ทำแผนที่วางไว้ หลังจากนั้นคาดว่าการติดเชื้อจะค่อยๆ ลดลงตามลำดับ.