กกต.เตือนผู้สมัครผู้ว่าฯ ช่วยทำบุญเจอโทษหนัก

กกต.เตือนผู้สมัคร “ผู้ว่าฯ กทม.-ส.ก.” อย่าเผลอแจกเงินหรือร่วมทำบุญช่วยเหลือช่วงสงกรานต์ ชี้เสี่ยงผิด กม. อาจเจอโทษหนัก ระบุยังไร้เรื่องร้องเรียน ย้ำเร่งไต่สวนคำร้องผู้ถูกตัดสิทธิ์เร็วที่สุด "ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม." ต่างหาเสียงเอาใจวันผู้สูงอายุ "ชัชชาติ" ปัดควง "ปวีณา" ลงพื้นที่มีนัยเพื่อไทยหนุนหลัง

เมื่อวันที่ 13 เม.ย. นายสำราญ ตันพานิช ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (ผอ.กกต.กทม.) กล่าวถึงกรณีผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ยื่นคัดค้านภายหลังไม่ได้รับการประกาศรายชื่อให้เป็นผู้สมัครว่า ตามกระบวนการ หากผูู้สมัครรายใดที่ไม่ได้รับการประกาศรายชื่อต้องยื่นเรื่องภายใน 3 วัน เมื่อรับคำร้องแล้วทางคณะกรรมการวินิจฉัยสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของ กกต.กทม. จะนัดพิจารณาไต่สวนภายใน 3 วัน และเมื่อไต่สวนแล้วต้องสรุปให้จบภายใน 2 วัน

นายสำราญกล่าวว่า หากคณะกรรมการวินิจฉัยสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเสร็จแล้ว จะเสนอความเห็นเข้าสู่ที่ประชุม กกต.เพื่อพิจารณา ขั้นตอนนี้เชื่อว่า กกต.จะใช้เวลาพิจารณาไม่นาน โดยหลังเปิดรับสมัครเลือกตั้งผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.และ ส.ก.ลงพื้นที่หาเสียง ทุกอย่างยังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่พบการร้องเรียนเกี่ยวกับการเลือกตั้งหรือพบว่ามีผู้สมัครรายใดกระทำผิดกฎหมาย

"กกต.ส่วนกลางและ กกต.กทม. รวมถึง กกต.ท้องถิ่น มีความห่วงใยผู้สมัครทุกคน เนื่องจากสัปดาห์นี้เป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ไทย วันสงกรานต์ มีการทำบุญตามประเพณีต่างๆ แม้กฎหมายไม่ได้ห้ามหาเสียง แต่ผู้สมัครต้องพึงระมัดระวัง อย่ากระทำการสิ่งใดที่เข้าข่ายให้ สัญญาว่าจะให้ หรือเตรียมที่จะให้ เพราะการร่วมงานประเพณีตามระเบียบการหาเสียงกำหนดไว้ชัดเจนว่าห้ามช่วยเหลือเงิน ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดในงานประเพณี ซึ่งหมายรวมถึงเทศกาลสงกรานต์ด้วย บางครั้งผู้สมัครอาจพลั้งเผลอ ดังนั้นต้องระมัดระวัง" นายสำราญกล่าว

ผอ.กกต.กทม.กล่าวว่า ช่วงการเลือกตั้งควรชะลอเพื่อรอให้การเลือกตั้งเสร็จสิ้นก่อน เพราะหากทำผิดจะเข้าข่ายผิดมาตรา 65 ตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นได้ เป็นยาแรงของกฎหมายเลือกตั้งเพื่อควบคุมให้การเลือกตั้งสุจริต โปร่งใสและเที่ยงธรรม มีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท-2 แสนบาท และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งด้วย

ขณะที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่หาเสียงเขตสายไหม โดยมี น.ส.ปวีณา หงสกุล อดีต​ ส.ส.กทม. 6 สมัย​ ร่วมลงพื้นที่ โดนเริ่มตั้งแต่ทำบุญเนื่องในวันสงกรานต์ปีใหม่ไทย ที่วัดหนองใหญ่ จากนั้นเดินพบปะพูดคุยกับประชาชน​ที่มาทำบุญที่วัดหนองใหญ่​ และในตลาดวงศกร

นายชัชชาติกล่าวว่า เขตสายไหม​ ดอนเมือง​ บางเขน​ มีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดการแข่งขันสูง​ ทุกคนมีสิทธิแพ้ชนะเท่ากัน จึงคาดการณ์อะไรไม่ได้เลยว่าจะได้คะแนนเสียงจากพื้นที่มากน้อยเพียงใด แต่ก่อนหน้านี้ก็ลงพื้นที่พบปะประชาชนมาแล้วหลายครั้ง มั่นใจในนโยบายและความตั้งใจที่จะให้ประชาชน​

ถามถึงการที่ น.ส.ปวีณาร่วมลงพื้นที่ด้วย มีนัยแอบแฝงพรรคเพื่อไทยหนุนหลังหรือไม่ นายชัชชาติกล่าวว่า การลงพื้นที่ร่วมกับ น.ส.ปวีณา เพราะมีความสนิทสนมคุ้นเคยกัน ทำงานร่วมกันสมัยเป็น รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์​ ในสมัยรัฐบาล ​น.ส.ยิ่ง​ลักษณ์​ ชินวัต​ร​ ​ไม่มีนัยแอบแฝงว่าพรรคเพื่อไทยหนุนหลังแต่อย่างใด

"ขณะเดียวกัน​ยังมีเพื่อนนักการเมืองในพื้นที่หลายคนที่ให้การช่วยเหลือและสนับสนุน​แนะนำให้รู้จักชาวบ้านในชุมชน  เพราะจุดอ่อนของผมคือการไม่มีพรรคการเมือง​หรือกลุ่มการเมืองช่วยทำพื้นที่​  โดยหลังสงกรานต์จะมีการปรับกลยุทธ์การหาเสียงในชุมชน เน้นการลงพื้นที่ชุมชนพบปะกับประชาชนให้มากขึ้น​ เพราะว่าคนส่วนใหญ่ในชุมชนไม่ได้เล่นโซเชียล​ แต่ติดตามสื่อกระแสหลัก​คือ ทีวี​ หนังสือพิมพ์" นายชัชชาติกล่าว

หาเสียงเอาใจผู้สูงอายุ

ส่วนนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมด้วยนายปวิช พรหมทอง ผู้สมัคร ส.ก.เขตห้วยขวาง ลงพื้นที่ชุมชนโรงปูนเหนือ-ใต้ และชุมชนลาดพร้าว 42-44 ซึ่งวันนี้ตรงกับวันสงกรานต์ ปีใหม่ไทย อีกทั้งยังเป็นวันผู้สูงอายุแห่งชาติด้วย

นายสุชัชวีร์กล่าวว่า สถานการณ์ผู้สูงวัยใน กทม. มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ครบ 50 เขตและก้าวเดินไปมากกว่า 1 ล้านก้าว พบว่ามีผู้สูงอายุทุกบ้าน ตั้งแต่บ้านมีรั้ว คอนโดมิเนียม แฟลต ชุมชนหมู่บ้านเก่าๆ จนถึงชุมชนที่ผู้สูงอายุไม่ได้ติดเตียง แต่นอนติดพื้นติดเสื่อ ดังนั้น กทม.จำเป็นต้องมีนโยบายรองรับสังคมผู้สูงอายุอาวุโสอุ่นใจ 3 เรื่อง

โดย 1.มีระบบแจ้งเหตุฉุกเฉินทันสมัย พร้อมด้วยอินเทอร์เน็ตฟรี 150,000 จุด ยกระดับการแจ้งเหตุฉุกเฉิน รองรับการแจ้งเหตุผ่านช่องทางต่างๆ 2.ตรวจสุขภาพฟรี หมอดี รพ.ดีใกล้บ้าน โดยผู้สูงอายุใน กทม.ตรวจเพิ่มเติมจากสิทธิขั้นพื้นฐาน ตรวจสุขภาพหัวใจ สมอง หลอดเลือด ฟรีทุกปี และมีรถบริการตรวจสุขภาพออกตรวจถึงชุมชน ให้ผู้สูงอายุเข้าถึงบริการสุขภาพได้ง่ายขึ้น และ 3.จ้างงานผู้สูงอายุ 5,000 ตำแหน่ง

นอกจากนี้ จากการเข้ามาเยี่ยมโรงปูนเหนือ-ใต้ ประธานชุมชนได้พาชมสภาพภายในชุมชน ซึ่งในช่วงเช้าที่ผ่านมาเกิดเหตุเพลิงไหม้ จึงได้ไปดูสถานที่เกิดเหตุ พบว่าชุมชนมีสายไฟระโยงระยาง จนกลายเป็นที่มาของชื่อเรียกอีกชื่อว่าชุมชนไฟโยง และเนื่องจากนายสุชัชวีร์เป็นวิศวกร จึงได้แนะนำว่าเมื่อเห็นสายไฟ ขอให้คิดเป็นอย่างแรกว่าอันตราย กทม.ซึ่งมีหน่วยงานที่ดูแลเรื่องน้ำและไฟฟ้า ควรมีหน่วยเคลื่อนที่เพื่อให้ความรู้ คำแนะนำเรื่องการเดินสายไฟให้กับพี่น้องประชาชน

"ถ้าผู้ว่าฯ เป็นคนนี้เป็นช่าง เป็นวิศวกร ห่วงใยจริงๆ ไม่อยากให้เหตุการณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้นในชุมชน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยาก อยู่ที่ผู้นำ ถ้าผู้ว่าฯ กทม.มีความตั้งใจ ก็ทำได้แน่นอน ผมอยากเห็นชุมชนสะอาดและปลอดภัย” นายสุชัชวีร์กล่าว

ด้าน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ได้โพสต์คลิปอวยพรประชาชนเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ตอนหนึ่งระบุว่า เทศกาลแห่งความสุขของคนไทย ที่หลายคนรอคอยที่จะได้เดินทางกลับภูมิลำเนา เพื่อใช้เวลาร่วมกับครอบครัว เมื่อกลับไปเที่ยวบ้าน ไปเยี่ยมบรรพบุรุษ อย่าลืมมาตรการป้องกันโควิด-19 เพราะโควิดยังไม่ได้จากเราไปไหน ยังอยู่กับเรา ทุกคนต้องไม่ลืม สวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือบ่อยๆ และเว้นระยะห่างตามมาตรการ แล้วทุกคนจะรอดปลอดภัยไปด้วยกัน ขอให้ทุกคนสุขภาพแข็งแรง ห่างไกลจากโควิด และโชคดีทุกคน

"คนที่กำลังจะเดินทางไปต่างจังหวัด ต้องตรวจสภาพรถยนต์ให้พร้อม และที่สำคัญเมาอย่าขับเด็ดขาด ขอให้ทุกคนเดินทางโดยสวัสดิภาพ และเมื่อได้รับพรจากญาติผู้ใหญ่จากที่บ้านกลับมาทำงานในกรุงเทพฯ ก็ขอให้เริ่มชีวิตในปีใหม่ ขึ้นชีวิตใหม่ด้วยความสำเร็จแล้ว และวันที่ 22 พฤษภาคม อย่าลืมไปเลือกอัศวิน" พล.ต.อ.อัศวินระบุ

ที่ชุมชนสุขสันต์ 26 เขตบางกะปิ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย, น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. และนายประเสริฐ ทองนุ่น ผู้สมัคร ส.ก.เขตบางกะปิ พรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่ชุมชนสุขสันต์ 26 เขตบางกะปิ เพื่อสวัสดีประชาชนและผู้สูงอายุทุกคน เนื่องในวันผู้สูงอายุ เทศกาลสงกรานต์ปี 2565 พร้อมรดน้ำดำหัวขอพรผู้สูงอายุทุกคน

น.ต.ศิธากล่าวว่า พรรคมีนโยบายในการดูแลประชาชนตั้งแต่เกิดจนแก่ และในส่วนของ กทม. หากได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่ผู้ว่าฯ กทม. จะเร่งพัฒนาศูนย์เด็กเล็ก รวมถึงจัดให้มีศูนย์สุขภาพชุมชนอย่างมีคุณภาพ มีเครื่องมือออกกำลังกายครบถ้วน มีโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพโดยผู้เชี่ยวชาญให้ผู้สูงอายุ การพัฒนาศูนย์สุขภาพชุมชนนั้นจะเป็นการต่อยอดและสนับสนุนนโยบายบำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาทของพรรคไทยสร้างไทย

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ผู้สูงอายุที่รับบำนาญ 3,000 บาท ต้องมีหน้าที่ในการดูแลรักษาสุขภาพตนเองให้แข็งแรง ต้องเข้าศูนย์สุขภาพชุมชน เพื่อสร้างสุขภาพให้แข็งแรง ความจำดี สมองดี   หัวใจแข็งแรง สามารถกลับมาทำงานหารายได้หรือช่วยเหลือสังคมได้ โดยจะใช้กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่นำร่องในการสร้างนโยบายดังกล่าวให้สำเร็จ มั่นใจว่า จะนำนโยบายของพรรคไทยสร้างไทยไปทำได้สำเร็จ หากได้รับโอกาสจากพี่น้องชาว กทม. จะเห็นความเปลี่ยนแปลง โดยจะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และมีสุขภาพที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

"เราได้สร้างพรรคไทยสร้างไทย เพื่อให้เป็นทางเลือกใหม่ และเป็นทางรอดของประเทศ ที่ติดกับดักความขัดแย้งของการเมืองแบ่งขั้วแย่งอำนาจ ที่ทำลายเศรษฐกิจมาหลายปี ถึงเวลาต้องยุติความขัดแย้ง มุ่งสร้างเศรษฐกิจให้ประชาชนกลับมาทำมาหากินได้เร็วที่สุดแข็งแรงที่สุด ขอเชิญชวนทุกท่านมาช่วยกันสร้างพรรคไทยสร้างไทยให้เป็นเครื่องมือในการทำงานให้กับประชาชนที่ดีที่สุด" คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว.