สงกรานต์ล้างทุกข์ บิ๊กตู่หวังสิ่งดีคืนสู่ประเทศไทย/ยกเคสเอ๋ปรามนักการเมือง

"บิ๊กตู่" ลั่นปีใหม่ไทยเป็น "สงกรานต์แห่งความหวัง" ชำระล้างความทุกข์ยาก ต้อนรับสิ่งดีๆ ที่กำลังจะมาถึง  ส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีมายังผู้สูงอายุและชาวไทยทุกครอบครัว   "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" ส่งคลิปอวยพรสงกรานต์ การเมืองขอน้ำชำระความสิ้นหวังใกล้เลือกตั้ง เชื่อมีการเปลี่ยนแปลงแน่ แกนนำ-ส.ส.พท.แห่แชะภาพหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย แจงนายกฯ สั่งเปิดเวทีเสวนา หวังให้ ปชช.ทราบผลงานรัฐบาล "วิษณุ" ยกเคสปารีณาเตือน​ ส.ส.​-ส.ว.-ครม.​ ระวังมาตรฐานจริยธรรมฟันแรง

เมื่อเวลา 10.59 น. วันที่ 13 เมษายน  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม โพสต์เฟซบุ๊กว่า พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รักทุกท่าน เทศกาลสงกรานต์เป็นเทศกาลแห่งความสุขของคนไทย วันที่ 13 เมษายนของทุกปีเป็น “วันผู้สูงอายุแห่งชาติ” และวันที่ 14 เมษายนของทุกปีก็เป็น “วันครอบครัว”  ซึ่งล้วนมีความสำคัญต่อวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของสังคมไทยมาแต่โบราณ นอกจากนี้ เราชาวไทยยังถือวันสงกรานต์เป็น “วันขึ้นปีใหม่ไทย” อีกด้วย โดยจะร่วมกันทำสิ่งดีๆ เพื่อเป็นมงคลต่อชีวิต และเป็นการเริ่มต้นสิ่งใหม่ เพื่อนำพาตนเองและครอบครัวไปสู่ความสุข ความเจริญ ในวันข้างหน้าและตลอดไป

ดังนั้น เนื่องในโอกาสอันเป็นมงคลนี้ ผมขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องชาวไทยทุกคน ร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรคไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตโรคและวิกฤตโลก ที่กำลังส่งผลกระทบต่อชาวไทยและชาวโลกมายาวนานสองปีกว่าแล้ว อย่างไรก็ตาม ผมมีความเชื่อว่า “ชาวไทยเป็นคนรักสันติ มองโลกในแง่ดี และไม่เคยยอมแพ้” โดยเราจะสามารถผ่านพ้นทุกภัยคุกคามไปได้ก็ด้วยความรู้รักสามัคคีของคนในชาติ ซึ่งผมพร้อมที่จะทุ่มเททุกความพยายามและร่วมกับทุกฝ่าย ช่วยกันพัฒนาบ้านเมืองของเราไปสู่ความเจริญก้าวหน้าทัดเทียมนานาอารยประเทศให้ได้ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติของเรา ในการสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ การเตรียมความพร้อมและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศมีความคืบหน้าไปโดยลำดับ แม้จะได้รับผลกระทบจากมหาวิกฤตโลก แต่เราก็ไม่หยุดพัฒนา จนวันนี้หลายโครงการเริ่มผลิดอกออกผลดีแล้ว เช่น 1. การบริหารจัดการน้ำทั้งระบบอย่างบูรณาการ โดยช่วงสองปีที่ผ่านมา (พ.ศ.2563-2564) มีแผนงาน/โครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็ก ระบบกระจายน้ำ เพื่อสนับสนุนน้ำอุปโภค-บริโภค ตลอดจนภาคการผลิต ทั้งการเกษตรและอุตสาหกรรมครอบคลุมทั้งประเทศ  26,830 แห่ง ส่งผลให้เกิดประโยชน์โดยตรงกับประชาชนถึง 3.65 ล้านครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 7.5 ล้านไร่ ในปี 2565 ก็จะดำเนินการเพิ่มเติมอีก 2,525 แห่ง

2.การพัฒนารถไฟฟ้าทางคู่ เชื่อมโยงกรุงเทพฯ ที่เป็นศูนย์กลางของประเทศ ไปสู่ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ กำลังดำเนินการ 5 เส้นทางหลัก รวมระยะทางกว่า 700 กม. คืบหน้าตามแผนเฉลี่ยกว่า 80% และจะขยายผลในระยะ 2 ต่อไป เพื่อกระจายความเจริญไปสู่จังหวัดรอบนอก และประเทศเพื่อนบ้าน ในการเข้าถึงแหล่งผลิต โดยเฉพาะภาคการเกษตรของไทย รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่จะกระจายตัวในทุกภูมิภาคของประเทศ ทั้งป่า เขา เขื่อน แม่น้ำ ลำธาร ทะเล ชายหาด และการท่องเที่ยววิถีไทยในกว่า 7,000 ตำบล

3.การท่องเที่ยวไทย ซึ่งพร้อมจะเป็นกลไกพลิกโฉมประเทศ โดยเราสามารถแก้ปัญหาการบินพลเรือน (ICAO) ให้ได้มาตรฐานสากลได้ การลงทุนเพิ่มเติมโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม ทั้งทางบก ทางราง ท่าเรือ และท่าอากาศยาน รวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม เช่น “เน็ตหมู่บ้าน” ครบ 75,000 หมู่บ้าน คาดว่าปี 2565 ไทยจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวอยู่ที่ราว 1.3-1.8 ล้านล้านบาท จากชาวต่างชาติเที่ยวไทย 5-15 ล้านคน สร้างรายได้ราว 8 แสนล้านบาท และไทยเที่ยวไทย 160 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ราว 7 แสนล้าน นอกจากนี้ยังมีคณะถ่ายทำภาพยนตร์จากต่างประเทศขอเดินทางเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย ตั้งแต่กรกฎาคม 2564-มีนาคม 2565 แล้ว กว่า 196 เรื่อง จาก 33 ประเทศ สร้างรายได้เข้าไทยกว่า 4.24 พันล้านบาท

ทั้งหมดนี้เป็นตัวอย่างของโอกาสและความหวัง สำหรับทุกคนที่มีหัวใจนักสู้ โดยผมและรัฐบาลพร้อมที่จะยืนเคียงข้างพี่น้องประชาชนทุกคน พร้อมสนับสนุนให้เกิดกิจกรรมที่สร้างงาน สร้างเงิน และส่งเสริมให้คนไทยทุกภาคส่วนปรับตัวตามโลก เปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่า และพัฒนาเพื่อรองรับโลกอนาคตอยู่เสมอ

"ปีใหม่ไทยในปีนี้ ผมจึงเห็นว่าเป็นเสมือน “สงกรานต์แห่งความหวัง” ที่เราจะชำระล้าง ความทุกข์ยาก และอุปสรรคให้ไหลรินผ่านไป พร้อมต้อนรับโอกาสของสิ่งดีๆ ที่กำลังจะมาถึงประเทศไทย ในการเปิดประเทศ เริ่มต้นฟื้นฟูและขยายตัวทางเศรษฐกิจ กลับมาสร้างรายได้จากการเดินทางท่องเที่ยว การจ้างงานเพิ่มขึ้น การพลิกโฉมอุตสาหกรรม การเกษตร และการลงทุน ที่รัฐบาลได้วางโครงสร้างพื้นฐานไว้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งผมเชื่อมั่นอย่างยิ่งในศักยภาพที่เรามี ตาม roadmap ที่ได้วางไว้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มอบสารเนื่องในโอกาส “วันผู้สูงอายุแห่งชาติ 13 เมษายน” และ “วันแห่งครอบครัว 14 เมษายน” ประจำปี 2565 ส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีมายังผู้สูงอายุทุกคน และพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกครอบครัว ให้มีความอบอุ่น เข้มแข็ง รักใคร่กลมเกลียวกัน “วันผู้สูงอายุแห่งชาติ” และ “วันแห่งครอบครัว” ถือเป็นวันสำคัญที่สร้างความตระหนักรู้ให้แก่ประชาชนและสังคม ได้เห็นถึงความสำคัญของผู้สูงอายุ ในฐานะผู้เป็นเสาหลัก ผู้ทรงภูมิปัญญาและประสบการณ์ในการดำเนินชีวิต ซึ่งเปรียบเสมือนศูนย์รวมจิตใจของสมาชิกในครอบครัว เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสมาชิกในครอบครัวแสดงให้เห็นถึงความนอบน้อม อันเป็นขนบธรรมเนียมที่ดีงามของไทย

"แม้ว-ปู"สาดน้ำการเมือง

ด้านนายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมกับจัดทำคลิปเสมือนจริง ผ่านระบบ AR (Augmented Reality) ให้กลุ่มผู้สนับสนุน ผู้ที่ชื่นชอบเข้ามาฟังคลิปคำอวยพร หรือถ่ายภาพคู่กับอดีตนายกฯ ได้ โดยนายทักษิณระบุผ่านคลิปว่า “สงกรานต์ปีนี้ ผมขออธิษฐานให้น้ำสงกรานต์ชำระล้างความสิ้นหวัง หมดหวัง ความเศร้าความโศก และโรคระบาดที่เกาะกินหัวใจคนไทยให้มันผ่านพ้นไป เราจะเป็นกำลังใจซึ่งกันและกันนะครับ ให้ปีใหม่นี้เป็นปีที่พวกเราได้มีความสุขกันสักที โชคดีครับ”

น.ส.ยิ่งลักษณ์อวยพรผ่านคลิปมีข้อความว่า “เมื่อถึงเทศกาลนี้ทุกครั้งก็ทำให้คิดถึงประเทศไทย เพราะเป็นช่วงเวลาแห่งความอบอุ่นของคนในครอบครัว แต่วันนี้คงได้แต่เพียงส่งเสียงและอวยพรให้กำลังใจกัน ดิฉันเข้าใจถึงความรู้สึกของพี่น้องประชาชนค่ะ ที่อยู่ในสภาวะยากลำบาก เศรษฐกิจฝืดเคือง อดทนกันอีกซักนิดค่ะ หวังใจว่าถ้ามีการเลือกตั้งเร็ว ก็น่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี และคนไทยจะได้ผ่านพ้นความทุกข์ยากนี้ไปได้นะคะ ขอให้พี่น้องชาวไทยมีความสุขกาย สุขใจ ร่ำรวยมีเงินมีทองนะคะ สวัสดีค่ะ”

ขณะเดียวกัน คณะผู้บริหารพรรคเพื่อไทย แกนนำพรรค ส.ส. และสมาชิกพรรคเพื่อไทยหลายคน ทยอยเปลี่ยนภาพโปรไฟล์ผ่านเฟซบุ๊ก ที่ถ่ายภาพคู่กับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมกับเขียนคำอวยพรเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ด้วย 

นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยยังได้จัดทำคลิปอวยพรเทศกาลสงกรานต์ โดยมีแกนนำ ส.ส.หลายคนร่วมอวยพร เช่น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค, นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน, น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรค รวมไปถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่ร่วมอวยพรว่า สวัสดีปีใหม่ไทย 2565 ขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องชาวไทยทุกคน มีกำลังใจในการต่อสู้เพื่อผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้

นายอุตตม สาวนายน  แกนนำและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า ขอส่งความปรารถนาดีให้ทุกท่านอีกครั้ง ขอให้ท่านและครอบครัวประสบแต่ความสุข เจริญรุ่งเรือง สุขภาพแข็งแรง และมีความสมหวังในสิ่งปรารถนาตลอดทั้งปี ปัจจุบันประเทศไทยอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ คนไทยกำลังเผชิญกับปัญหาและความท้าทายสำคัญ ตนมีความเชื่อมั่นว่า หากพวกเราคนไทยทุกภาคส่วนรวมพลังเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ก็จะสามารถก้าวข้ามช่วงเวลาที่ท้าทายนี้ไปได้ 

พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ หรือปีใหม่ไทยนี้ ขออวยชัย อวยพรให้ทุกท่านมีความสุข ความเจริญ สุขภาพแข็งแรง ประสบความสำเร็จ สัมฤทธิผลในสิ่งที่ปรารถนา ขอให้บังเกิดความรัก ความปรองดอง ปรารถนาดีต่อกันทั่วฟ้าเมืองไทย กลับบ้านพบปะครอบครัวที่ท่านรัก สวมหน้ากาก ตรวจ ATK เว้นระยะห่าง

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย กล่าวว่า  ขอให้ทุกท่านเดินทางปลอดภัย เริ่มต้นปีใหม่อีกปี ขอให้มีแต่สิ่งดีๆ สุขภาพแข็งแรง ปลอดโรคภัย ห่างไกลโควิด-19 ขอให้พี่น้องประชาชนทุกท่านทุกครอบครัว ประสบแต่ความสุขความเจริญ ขับขี่ปลอดภัย เดินทางโดยสวัสดิภาพทุกเส้นทางครับ

เปิดเวทีเสวนาหวังแจงผลงาน

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีสั่งให้เปิดเวทีเสวนาของรัฐบาล เพื่อเปิดพื้นที่ให้รัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตอบข้อสงสัยและรับฟังเสียงสะท้อนของประชาชนว่า นายกฯ สั่งให้จัดเวทีเสวนาของรัฐบาล เพื่อให้รัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับประเด็นและข้อสงสัยต่างๆ เป็นผู้ชี้แจง เพื่อสร้างความกระจ่างให้กับประชาชน โดยหลังเทศกาลสงกรานต์ จะมีการตั้งคณะกรรมการรับผิดชอบ และมีรายละเอียดอื่นๆ ตามมา ซึ่งจะจัดเสวนาครั้งแรกในช่วงเดือนพฤษภาคม ถ้าประชาชน ภาคเอกชน นักวิชาการ หรือฝ่ายค้าน ที่มีประเด็นต่างๆ การเปิดเวทีเสวนา จึงเป็นโอกาสดีในการตอบคำถามให้รับทราบว่าสิ่งที่เสนอมานั้นรัฐบาลได้ทำไปแล้ว แล้วก่อให้เกิดประโยชน์อย่างไรบ้าง

"วันนี้ต้องยอมรับว่าการสื่อสารไปได้ไม่ทั่วถึง สิ่งที่แถลงไปแล้ว สิ่งที่ได้ทำไปแล้ว ประชาชนยังไม่ได้รับทราบ จึงทำให้มีข้อสงสัย ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อนำคนที่มีคำถามกับเจ้าของเรื่องมานั่งคุยกัน และสื่อสารให้รู้เรื่องก็น่าจะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย" น.ส.รัชดากล่าว

เมื่อถามถึงการตั้งข้อสังเกตว่า การจัดเวทีเสวนานี้เป็นเหมือนการประชาสัมพันธ์ผลงานของรัฐบาล ก่อนที่ฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.รัชดา กล่าวว่า การตั้งข้อสังเกตเช่นนี้หมายความว่าคนให้ความสนใจ ถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะประชาชนจะได้รับรู้ว่ารัฐบาลทำสิ่งต่างๆ ไปแล้ว จึงทำให้เกิดความสบายใจ

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะล่าช้ากว่าเดิม เพราะต้องการเก็บข้อมูลที่มีความแม่นยำ เนื่องจากพบว่ากระทรวงมีการใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบหรือใช้เล่ห์เหลี่ยมทางกฎหมายในการทำงาน ว่า อย่าว่าแต่ฝ่ายค้านพร้อมจะยื่นญัตติพรุ่งนี้แต่เพียงฝ่ายเดียวเลย เพราะรัฐบาลก็พร้อมที่จะชี้แจงทุกประเด็นในทุกวันอยู่แล้ว การอ้างว่าจะยื่นล่าช้ากว่าวันที่ 22 พ.ค. เพื่อรวบรวมข้อมูลให้มีความแม่นยำ คมและเด็ดนั้น ก็เป็นเพียงเกมการเมือง เพื่อเตะถ่วงเวลาออกไปเท่านั้น และถ้าข้อกล่าวอ้างนั้นเป็นจริง ก็เชื่อว่าข้อมูลที่มีอยู่หรือที่จะได้มาใหม่ก็คงไม่พ้นเรื่องเก่าๆ ที่เคยอภิปรายรัฐบาลมาแล้ว

"ขอยืนยันว่าที่ผ่านมารัฐบาลทำหน้าที่ด้วยความถูกต้อง ตรงไปตรงมา และสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นจริง บนพื้นฐานของประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญ ดังนั้นไม่ว่าฝ่ายค้านจะหยิบยกประเด็นอะไรมากล่าวหาคณะรัฐมนตรีหรือรัฐบาล ทุกท่านก็สามารถชี้แจงได้ทุกเรื่องอยู่แล้ว และไม่มีใครหนักใจต่อคำขู่ของนายจิรายุเลยแม้แต่น้อย ขอเพียงอย่าใช้เล่ห์เหลี่ยมหรือคำพูดที่ประชดประชันเสียดสีแบบเอามัน แต่ไม่เด็ดจริงเหมือนที่เคยทำมาตลอดก็แล้วกัน" นายธนกรกล่าว

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์โทษการฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงของนักการเมือง ที่มีการมองว่ารุนแรงเกินไป หลัง น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ถูกศาลฎีกาพิพากษาตัดสิทธิ์รับสมัครเลือกตั้งตลอดชีวิต จนเหมือนการประหารชีวิตทางการเมืองว่า ตนไม่วิจารณ์ แล้วแต่จะพูดจะเรียกกันไป แล้วแต่จะอุปมาเปรียบเทียบกันไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวทางที่จะบรรเทาหรือแก้ไขในเรื่องนี้ยังพอมีอยู่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ทราบ ประพฤติให้ดี อย่าให้เป็นการล่วงเกินจริยธรรม แต่ก็เห็นใจน.ส.ปารีณา เพราะเป็นกรณีแรก ส่วนคนที่มาทีหลังอาจจะได้ประโยชน์ คือเรียนรู้และเห็นตัวอย่าง

เมื่อถามว่า เจตนาเรื่องการนำจริยธรรมมาใช้ จะเป็นการควบคุมนักการเมืองหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ในรัฐธรรมนูญบอกว่าให้องค์กรอิสระประชุมและตกลงกันทำมาตรฐานทางจริยธรรมสำหรับผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ซึ่งเมื่อทำเสร็จแล้วให้ทำความเห็นส่งไปถามส.ส.และ ส.ว. ครม. เพราะเมื่อประกาศใช้ จะมีผลกับ ส.ส. ส.ว. ครม. และองค์กรอิสระทั้งหลายด้วย แต่ไม่ได้ใช้กับข้าราชการอื่น เพราะให้ไปจัดทำประมวลจริยธรรมของตัวเอง น.ส.ปารีณาก็โดนความผิดตามมาตรฐานจริยธรรมนี้ ซึ่งเป็นคนละมาตรฐานกับที่ใช้กับข้าราชการ ทั้งนี้ ถือว่าเป็นกระบวนการใหม่ที่เกิดขึ้น และเป็นบรรทัดฐาน ดังนั้นทุกคนต้องระมัดระวังไว้แล้วกัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฟ้องต้นตอหมอคางดำ

สภาทนายความฯ เตรียมฟ้องแพ่งบิ๊กเอกชน-หน่วยงานรัฐ ต้นตอ "เอเลี่ยนสปีชีส์"

‘เนวิน’รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดมิวสิคัลเทิดพระเกียรติ

“เนวิน” รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดเทิดพระเกียรติ 72 พรรษา แสดง แสง สี เสียง มิวสิคัล “ลมหายใจของแผ่นดิน” โดยบุรีรัมย์ออร์เคสตรา แสดงความจงรักภักดี 28-30 ก.ค.2567 สนามช้างอารีนา บุรีรัมย์