บิ๊กตู่รู้กลุ่มเดิมปาบึ้ม ปรามป่วนทำลายบ้านเมือง/ตร.ฝากขังศาลจ่อจับเพิ่มอีก3

"บิ๊กตู่" ชี้กลุ่มเดิมๆ บึ้ม ร.1  รอ. มั่นใจ ตร.จับตัวมือปาระเบิดได้แน่  ถามทำทำไมบ้านเมืองกำลังดีอยู่   "ตำรวจ" นำ "บุ๊ค-นักร้องแรปเตอร์" ส่งศาลฝากขังครอบครองวัตถุระเบิด เชื่อเอี่ยวคดีระเบิดปิงปอง ร.1 รอ. รอรวบรวมหลักฐาน เตรียมออกหมายจับเพิ่มอีก 3 ราย ส่วนศาลอาญาไม่ให้ประกัน “ปฏิมา”สาวอายุ 20 ร่วมก่อเหตุ ระบุคดีโทษสูง   "พรพจน์" แกนนำทะลุแก๊สมอบตัวแล้ว  ลั่นไม่เกี่ยวขว้างระเบิดที่ตั้งบ้านนายกฯ

เมื่อวันที่ 12 เม.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงคดีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ก่อเหตุขว้างระเบิดปิงปองเข้ามาภายในกรมทหารราบที่ 1  มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) จำนวน 2 ลูก ช่วงเวลา 19.50 น. วันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รายงานมาตลอด ซึ่งเขาตรวจสอบจากกล้องซีซีทีวี โดยพบมีผู้ต้องสงสัยแล้ว กำลังสอบต่อ มีทั้งคนที่มีระเบิดอยู่ส่วนหนึ่งที่บ้านพักด้วย

 “ก็คงเป็นกลุ่มเดิมๆ ตอนนี้กำลังหาตัวคนขว้างระเบิดอยู่ เดี๋ยวก็คงเจอ สอบไป สอบมาเดี๋ยวก็เจอเอง ก็ไม่อยากให้ใครทำทั้งนั้น ช่วงนี้ไม่ควร และความจริงไม่ว่าช่วงไหนก็ไม่ควรทำ มันอันตราย ทำทำไมบ้านเมืองกำลังดีๆ อยู่ เราจะแก้ไขอะไรได้ถ้าทุกคนไม่ช่วยกัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ด้าน พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงเหตุขว้างระเบิดปิงปองใส่ ร.1 รอ. ว่าเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแล

ขณะที่ความคืบหน้าการดำเนินคดีนั้น พนักงานสอบสวน สน.ท่าเรือได้ยื่นคำร้องฝากขังนายธนายุทธ ณ อยุธยา หรือบุ๊ค ศิลปินแรปเปอร์วง Eleven Finger วัย 20 ปี ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในคดีตรวจค้นบ้านพัก ยึดของกลางประทัดลูกบอล 164 ลูก,   ประทัดไข่มังกร 8 ลูก, พลุควัน 1 ลูก และระเบิดควันสีดำ 22 ลูก แจ้งข้อกล่าวหามีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองฯ ซึ่งนายธนายุทธให้การยอมรับว่าพลุและควันสีที่ตรวจยึดได้ในบ้านพักเป็นของตัวเอง แต่ปฏิเสธว่าประทัดลูกบอลและไข่มังกรไม่ใช่ของตัวเอง

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ เข้าสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิด และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร กับนายธนายุทธ โดยพนักงานสอบสวนระบุว่า วันที่ 10 เม.ย.นายธนายุทธกับพวกร่วมชุมนุมทำกิจกรรมกับกลุ่มทะลุฟ้า ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย บริเวณอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา และเมื่อเลิกชุมนุม นายธนายุทธขับขี่รถจักรยานยนต์ไปที่บริเวณใต้ทางด่วนดินแดง ก่อนจะขับขี่ไปตามถนนวิภาวดีรังสิตขาออก เมื่อผ่านบริเวณประตูกรมทหารราบที่ 1 ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณดังกล่าว และนายธนายุทธกับพวกหลบหนีไปตามถนนวิภาวดีรังสิตขาออก ต่อมาตำรวจจับนายธนายุทธพร้อมของกลางประทัดและพลุได้ในพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลท่าเรือ

โดยจากการสืบสวนพบว่า นายธนายุทธและพวกขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านบริเวณที่เกิดเหตุ จากนั้นเกิดระเบิดขึ้นทันที จึงเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ อย่างไรก็ตาม นายธนายุทธให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น

ส่วน น.ส.ปฏิมา ฝากทอง แฟนสาวของนายธนายุทธ ที่ถูกควบคุมตัวพร้อมกันที่บ้านพักย่านคลองเตย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ แยกไปสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิด จนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์สินของผู้อื่น และพาอาวุธเข้าไปในเมืองฯ โดยไม่มีเหตุอันควร ซึ่งฝากขังต่อศาลอาญารัชดาฯ ไปแล้วเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่เยาวชนชาย อายุ 15 ปี ที่ถูกจับพร้อมนายธนายุทธและแฟนสาว พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายแล้วเช่นกัน

พ.ต.อ.ดนุภาทร ขวัญพสุมนต์ ผกก.สน.ท่าเรือ กล่าวว่า คดีของนายธนายุทธ ยื่นฝากขังในคำร้องที่เกี่ยวกับการตรวจค้นบ้านพักพบประทัดและพลุควัน ส่วนการสอบสวนคดีปาระเบิดปิงปอง ที่หน้ากรมทหารราบที่ 1 เป็นอำนาจหน้าที่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ในการแจ้งอายัดตัวนายธนายุทธ ไปดำเนินคดี

มีรายงานว่า คดีปาระเบิดที่หน้าบ้านพักนายกฯ ตำรวจสืบสวนนครบาล 1 และตำรวจสืบสวนนครบาล 2 ร่วมกันขยายผล หลักฐานจากกล้องวงจรปิด และคำให้การของพยาน จนทราบว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุอีกประมาณ 3 คน โดยหนึ่งในนี้ทราบชื่อเล่นแล้วว่าชื่อ นายแม็ค ซึ่งพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายเรียกติดตามตัวมาสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมต่อไป

ช่วงบ่าย เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายธนายุทธขึ้นรถเพื่อส่งฝากขังต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ หลังพนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในช่วงเช้า โดยนายธนายุทธยอมรับว่า ขี่รถจักรยานยนต์ 3 คันที่ปรากฏในคลิปกล้องวงจรปิด เป็นกลุ่มของตนเอง โดยตนเองและแฟนสาวขับคันหน้าสุด ส่วนคันที่ 2 สามคนเป็นเพื่อนที่รู้จักกัน แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดว่าเป็นใคร ยอมรับว่ารถจักรยานยนต์ 3 คันของกลุ่มเพื่อนตนเองมีการปาระเบิดจริง แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ตนเองแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนขึ้นรถนายธนายุทธได้พูดทิ้งท้ายว่า “คุกสามารถขังตัวได้ แต่ไม่สามารถขังอุดมการณ์ได้ วันเกิดเหตุ ผมไปร่วมชุมนุมทางการเมืองที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนตระเวนสำรวจพื้นที่ล่วงหน้า เพื่อเป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมชุมนุมล่วงหน้าในวันสงกรานต์ที่ 13 เม.ย.นี้"

ที่ศาลอาญาใต้ พนักงานสอบสวน สน.ท่าเรือ ยื่นคำร้องต่อขอฝากขังครั้งที่ 1 นายธนายุทธ ผู้ต้องหาคดีมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องสุนปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 4, 38, 74 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 ซึ่งชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยขอฝากเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 12-23 เม.ย.นี้ เนื่องจากต้องสอบพยานอีก 6 ปาก และรอผลตรวจพิสูจน์ของกลาง ขณะที่ในการฝากขังพนักงานสอบสวนไม่ขอคัดค้านการประกันตัว ศาลพิจารณาคำร้องและเหตุจำเป็นแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้

ภายหลังญาติของผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว ซึ่งศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว หากผิดสัญญาปรับ 100,000 บาท

ส่วนที่ศาลอาญา ทนายความได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว น.ส.ปฏิมา ฝากทอง อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาคดีร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์สินของผู้อื่น พาอาวุธเข้าไปในเมืองฯ โดยไม่มีเหตุอันควร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 221, 371 ที่พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ยื่นคำร้องต่อขอฝากขังครั้งที่ 1 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา กรณีกล่าวหาเมื่อวันที่ 10 เม.ย.65 ภายหลังเลิกจากการรวมตัวชุมนุมที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แล้วผู้ต้องหากับพวกขี่รถ จยย. มาทาง ถ.วิภาวดีฯ มุ่งหน้าไปทางแยกสุทธิสาร แล้วเกิดระเบิดโดยระเบิดปิงปอง บริเวณประตู ร.1 รอ. จำนวน 2 นัด ระเบิดข้ามเข้าไปตกบริเวณสนามหญ้า ตรงข้ามกองรักษาการณ์

โดยศาลมีคำสั่งว่า กรณีเป็นข้อหาร้ายแรง กระทำโดยอุกอาจ พนักงานสอบสวนคัดค้านการปล่อยชั่วคราว คดีมีอัตราโทษสูง มีการกระทำเป็นขบวนการ ซึ่งเป็นภัยร้ายแรง หากปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาแล้ว เชื่อว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา ยกคำร้อง 

วันเดียวกัน ภายหลังจากพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อได้ออกหมายจับนายพรพจน์ แจ้งกระจ่าง อายุ 49 ปี อยู่ย่านสายไหม กทม. ข้อหาการกระทำความผิด ร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิดน่าจะเป็นอันตรายต่อผู้อื่น หรือทรัพย์ของผู้อื่น, พาอาวุธเข้าไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร กรณีเกี่ยวข้องกับการขว้างระเบิดเข้าไปภายใน ร.1 รอ. ที่ตั้งบ้านพัก พล.อ.ประยุทธ์นั้น นายพรพจน์ได้เดินทางเข้ามอบตัวที่ สภ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงหมายจับ พร้อมควบคุมตัวนายพรพจน์สอบสวนทันที และประสานพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ มารับตัวไปดำเนินคดี

นายพรพจน์กล่าวว่า ไม่มีเจตนาจะหนี แค่เดินทางมาที่ จ.พิษณุโลก เพื่อขอตั้งหลักเท่านั้น แต่เมื่อรู้ว่าถูกออกหมายจับจึงเดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม โดยจะขอสู้คดีในชั้นศาล และยืนยันไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุขว้างระเบิดใส่ ร.1 รอ. แต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายพรพจน์ มีฉายา "เพชร พระอุมา” เป็นแกนนำกลุ่มทะลุแก๊สที่ชุมนุมต่อสู้กับตำรวจควบคุมฝูงชนบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฟ้องต้นตอหมอคางดำ

สภาทนายความฯ เตรียมฟ้องแพ่งบิ๊กเอกชน-หน่วยงานรัฐ ต้นตอ "เอเลี่ยนสปีชีส์"

‘เนวิน’รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดมิวสิคัลเทิดพระเกียรติ

“เนวิน” รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดเทิดพระเกียรติ 72 พรรษา แสดง แสง สี เสียง มิวสิคัล “ลมหายใจของแผ่นดิน” โดยบุรีรัมย์ออร์เคสตรา แสดงความจงรักภักดี 28-30 ก.ค.2567 สนามช้างอารีนา บุรีรัมย์