ตำรวจคุม “หนุ่มนักร้องเพลงแรป” พร้อมพวก สอบโยงปาบึ้ม ร.1 รอ. ที่ตั้งบ้านพักนายกฯ หรือไม่ หลังกลับจากร่วมชุมนุมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ทำระเบิดปิงปองหล่นใส่ตัวเองบาดเจ็บย่านคลองเตย “ธนกร” เผย "บิ๊กตู่” ไม่มีข้อสั่งการพิเศษปล่อย ตร.ดำเนินคดี “เลขาฯ สมช.” แย้มเหตุระเบิดหน้า ร.1 รอ.มีหลายประเด็นน่าสนใจ “เทพไท” วอนเสื้อแดงหยุดสร้างเงื่อนไขความขัดแย้งรอบใหม่
ความคืบหน้าเหตุคนร้ายขว้างระเบิดปิงปองใส่กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) ถนนวิภาวดีรังสิต จำนวน 2 นัด โดยระเบิดข้ามเข้าไปตกบริเวณสนามหญ้าตรงข้ามกองรักษาการณ์ ซึ่งด้านในเป็นบ้านพักของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ช่วงเวลาประมาณ 19.50 น.ของวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา เบื้องต้นพบผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ 1 คัน มีผู้ขับขี่ 1 คน ผู้ซ้อนท้าย 1 คนนั้น
เมื่อวันที่ 11 เม.ย. พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 (ผบก.น.2) เดินทางไปที่ สน.บางซื่อ เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย พ.ต.อ.กฤษฎางค์ จิตตรีพล ผกก.สน.บางซื่อ ฝ่ายสืบสวนสอบสวน สน.บางซื่อ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าว
พล.ต.ต.อรรถพลกล่าวว่า ในรายละเอียดของคดียังไม่ขอเปิดเผย โดยเฉพาะเรื่องพยานหลักฐาน หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา (10 เม.ย.) เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (พฐ.) และหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (อีโอดี) ได้เข้าไปเก็บรวบรวมพยานหลักฐานไว้แล้ว โดยเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าเรือสามารถจับกุมตัวนายธนายุทธ หรือบุ๊ก (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาครอบครองระเบิด พร้อมเพื่อนชาย 1 คน และผู้หญิงอีก 1 คน ภายหลังทำระเบิดปิงปองหล่นจนเกิดระเบิดได้รับบาดเจ็บ ขณะเดินกลับบ้านพักภายในชุมชนร่มเกล้า แขวงและเขตคลองเตย กรุงเทพฯ เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.ของวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเบื้องต้นนายธนายุทธยอมรับว่าระเบิดที่หล่นเป็นของตัวเอง และยังมีระเบิดซุกซ่อนอยู่ในบ้านอีก
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจค้นภายในบ้านพักของนายธนายุทธ พบประทัดลูกบอล 164 ลูก ไข่ก๊อง 8 ลูก พลุควัน 1 ลูก ระเบิดควันสีดำ 22 ลูก จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมแจ้งข้อหามีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ท่าเรือ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดีระเบิดบริเวณประตู ร.1 รอ.ได้เข้าสอบสวนผู้ต้องหารายนี้ว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่
พ.ต.อ.ดนุภัทร ขวัญพสุมนต์ ผกก.สน.ท่าเรือ กล่าวว่า จากการสอบปากคำนายธนายุทธยอมรับเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ได้ไปร่วมชุมนุมทางการเมืองที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนจะเดินทางกลับบ้านพักย่านคลองเตย ซึ่งระหว่างทางผ่าน ร.1 รอ. แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดดังกล่าว และไม่ได้เป็นผู้ขว้างระเบิดปิงปองเข้าไปด้านในพื้นที่เขตพระราชฐาน
จากการตรวจสอบประวัตินายธนายุทธ ไม่เคยมีประวัติหรือพฤติกรรมในการใช้อาวุธรุนแรง มีเพียงประวัติการชุมนุมทางการเมือง และยังเป็นแกนนำที่มักจะไปร่วมงานชุมนุมในฐานะนักร้องเพลงแรป คอยร้องเพลงให้ผู้ชุมนุมฟัง นอกจากนี้ยังเป็นเป้าหมายที่เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามอยู่เช่นเดียวกัน
“จะมีความเกี่ยวข้องกับเหตุระเปิดที่บริเวณหน้าประตู ร.1 รอ.หรือไม่นั้น ต้องรอการสอบสวนขยายผลและตรวจสอบกล้องวงจรปิด ว่ามีรูปพรรณสัณฐานคล้ายกันมากน้อยเพียงใด รวมไปถึงหลักฐานทางกองพิสูจน์หลักฐาน ในการตรวจเขม่าดินปืนและรอยนิ้วมือ รวมไปถึงหลักฐานแวดล้อมอื่นๆ ด้วย” ผกก.สน.ท่าเรือระบุ
นายอาทร อยู่สมบูรณ์ ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งมาเป็นทนายให้นายธนายุทธ กล่าวว่า นายธนายุทธถูกควบคุมตัวและถูกแจ้งข้อหามีวัตถุระเบิดไว้ในความครอบครอง แต่ข้อเท็จจริงพบเป็นแค่พลุและระเบิดควันเท่านั้น ส่วนที่เกิดระเบิดที่ ร.1 รอ. นายธนายุทธปฏิเสธไม่ได้เกี่ยวข้อง
ในช่วงค่ำ พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา ขอฝากขังครั้งที่ 1 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ น.ส.ปฏิมา ฝากทอง อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาคดีร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิด จนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์สินของผู้อื่น พาอาวุธเข้าไปในเมืองฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 221, 371
กรณีกล่าวหาเมื่อวันที่ 10 เม.ย.65 ภายหลังเลิกจากการรวมตัวชุมนุมที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยแล้ว ผู้ต้องหากับพวกขี่รถจักรยานยนต์มาทาง ถ.วิภาวดีฯ มุ่งหน้าไปทางแยกสุทธิสาร แล้วเกิดระเบิดโดยระเบิดปิงปอง บริเวณประตู ร.1 รอ. จำนวน 2 นัด ระเบิดข้ามเข้าไปตกบริเวณสนามหญ้า ตรงข้ามกองรักษาการณ์
ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ โดยพนักงานสอบสวนขอฝากขังเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 11-22 เม.ย.นี้ เนื่องจากต้องสอบพยานอีก 7 ปาก และรอผลตรวจพิสูจน์ของกลาง ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ขอคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหาด้วย เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง ประกอบกับผู้ต้องหาไม่มีอาชีพใด หากปล่อยชั่วคราวเกรงว่าจะหลบหนี
ศาลพิจารณาคำร้องและเหตุจำเป็นแล้วอนุญาตฝากขังได้ ต่อมาเมื่อครบเวลาไม่ปรากฏมีผู้ใดยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว เจ้าหน้าที่จึงควบคุมไปยังเรือนจำต่อไป
โดยมีรายงานว่า นายธนายุทธ ณ อยุธยา อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาที่ถูกจับที่ สน.ท่าเรืออีกรายหนึ่ง พนักงานสอบสวนบางซื่อจะยื่นฝากขังในวันที่ 12 เม.ย.
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์รับทราบรายงานช่วงค่ำ (10 เม.ย.) ถึงเหตุปาระเบิดปิงปองบริเวณประตู ร.1 รอ. จำนวน 2 นัด ตกบริเวณสนามหญ้า ตรงข้ามกองรักษาการณ์ดังกล่าว ซึ่งนายกฯ ไม่มีความคิดเห็นต่อเหตุการณ์และไม่มีข้อสั่งการพิเศษใดๆ มอบหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามขั้นตอนต่อไป
“ช่วงวันหยุดในเทศกาลสงกรานต์นี้ ท่านนายกรัฐมนตรียังคงทำงานติดตามสถานการณ์อยู่ที่บ้านพัก เพื่อให้คำแนะนำหรือข้อสั่งการหากมีความจำเป็นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ด้วย" โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าว
ส่วน พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า ได้รับทราบเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ซึ่งได้มอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตรวจสอบ ซึ่งจะมาจากสาเหตุใดต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจดีกว่า เพราะมีหลายประเด็นที่น่าสนใจอยู่
ถามว่า มีประเด็นอะไรบ้างที่บอกว่าน่าสนใจ เลขาธิการ สมช.กล่าวว่า ตอบไม่ได้ คาดเดาไปเดี๋ยวจะมีปัญหาได้ เอาเป็นว่ารอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบให้เสร็จสิ้นก่อนดีกว่า เพราะเป็นหน้าที่ของเขาที่จะต้องดำเนินการอยู่แล้ว
ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "เห็นภาพการเคลื่อนไหวของแกนนำคนเสื้อแดงบางคน ที่ฉวยโอกาสใช้วันที่ 10 เมษายน จัดกิจกรรมรำลึกคนเสื้อแดงที่เสียชีวิต และใช้โอกาสนี้เคลื่อนไหวทางการเมือง รื้อฟื้นความขัดแย้งในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการนำเอาเหตุการณ์ความขัดแย้งในอดีตขึ้นมาขยายผลและตอกย้ำสร้างเป็นเงื่อนไขความขัดแย้งของสังคมขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง ทั้งที่ความรู้สึกของผู้คนในสังคมกำลังจะคลี่คลายสลายสีเสื้อให้หมดสิ้นจากสังคมไทยไปแล้ว และสังคมก็ไม่อยากจะเห็นความขัดแย้งทางการเมือง หรือการชุมนุมทางการเมืองบนท้องถนน แบบปักหลักพักค้างแรมเดือนแรมปีเกิดขึ้นอีก เพราะเป็นการทำลายเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติจากประชาคมโลก แต่จนบัดนี้ก็ยังมีกลุ่มคนที่พยายามเคลื่อนไหวแบ่งแยกประชาชน โดยสร้างเงื่อนไขความขัดแย้งของสังคมให้เกิดขึ้นอีก"
นายเทพไทระบุอีกว่า "บ้านเมืองควรจะก้าวข้ามความขัดแย้งทางการเมือง และกลุ่มคนที่เป็นแกนนำ หรือหัวโจกของขบวนการขัดแย้ง ก็ควรจะทบทวนบทบาทของตัวเอง ไม่ควรปลุกระดมสร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นระหว่างคนในชาติอีก มีแกนนำของกลุ่มคนเสื้อแดงในอดีตหยิบฉวยเอาเหตุการณ์คนเสื้อแดงเสียชีวิตมาเคลื่อนไหว เหมือนกับการแก้ตัว แก้เกี้ยวที่ตัวเองเป็นส่วนหนึ่งในการนำผู้คนมาเสียชีวิต โดยพยายามโยนความผิดไปยังรัฐบาลในยุคนั้น ทั้งที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว และอยากให้ทุกฝ่ายได้เคารพกระบวนการยุติธรรม ยึดคำพิพากษาของศาลเป็นข้อยุติ การที่แกนนำบางคนพยายามเคลื่อนไหวในตอนนี้ ก็เพื่อปกปิดความผิดของตัวเอง และปฏิเสธความรับผิดชอบการเป็นผู้นำการชุมนุมของตัวเอง ในข้อกล่าวหาพาคนไปตาย และเผาบ้านเผาเมือง ซึ่งเป็นชนักติดตัวจนถึงทุกวันนี้"
“ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายได้ยุติการสร้างเงื่อนไขความขัดแย้งในสังคมให้เกิดขึ้นมาอีก ขอให้ร่วมกันผลักดันให้สังคมไทยเดินหน้าไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ความขัดแย้งในอดีตที่ผ่านมาก็ควรจะปล่อยวาง กลุ่มบุคคลที่เป็นเงื่อนไขของความขัดแย้งก็ควรที่จะยุติบทบาทการเคลื่อนไหว ปล่อยให้สังคมขับเคลื่อนไปเอง ด้วยแนวทางและวิถีทางประชาธิปไตยจะดีที่สุด” นายเทพไทระบุ
ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาด โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "แกนนำไพร่ยุให้คนเผาบ้านเผาเมือง เมื่อนายของไพร่ได้เป็นนายกฯ ไพร่ได้เป็นอำมาตย์ดำรงตำแหน่งเป็นเสนาบดี ทั้งๆ ที่ไม่มีความสามารถอะไรเลยที่เหมาะกับตำแหน่ง ยังสะเออะออกมาจัดงานรำลึกการกระทำของตนเอง มันคือการประจานตัวเองว่ามี DNA ที่นิยมความรุนแรง ทำลายโอกาสของประเทศชาติ".
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทุ่ม2.5พันล้าน ฟื้นฟูเกษตรกร แอ่วเหนือไม่ปัง
ครม.อนุมัติ 2.5 พันล้าน ฟื้นฟูเกษตรกรหลังน้ำลด ขณะที่ ศปช.แจ้งเขื่อนเจ้าพระยาน้ำลดต่อเนื่อง คาดสู่ภาวะปกติสัปดาห์หน้า
1ก.พ.68เลือกนายกอบจ. กกต.ยื้อเชือด‘หมอเกศ’
กกต.เคาะเลือกตั้ง "สมาชิก-นายก อบจ." 1 ก.พ.68 เปิดรับสมัคร 23-27 ธ.ค.
นายกฯงัดกม.พีดีพีเอป้อง‘พ่อ’
"มาดามแพ" อ้าง พ.ร.บ.คุ้มครองส่วนบุคคลปมขอเวชระเบียนรักษา "ทักษิณ" จาก รพ.ตำรวจ ยันไม่แทรกแซง
ตั้งJTCลุยMOU44 ชงครม.เคาะภูมิธรรมคุม บี้เคลียร์สัมปทานทับซ้อน
นายกฯ เผยตั้ง คกก. JTC ไทย-กัมพูชา ไม่เกิน 2 สัปดาห์ อุบชื่อ "ภูมิธรรม" นั่งประธาน
สั่งหาที่รัฐสร้างบ้านปชช. แบงก์พักดอกช่วยลูกหนี้
นายกฯ สั่ง “คลัง-มหาดไทย” ตั้งคณะทำงานนำที่ดินรัฐสร้างบ้านให้ประชาชน
เร่งเบิกงบลงทุน ขีดเส้นให้ได้80% กระตุ้นเศรษฐกิจ
นายกฯ อิ๊งค์นั่งหัวโต๊ะประชุมหัวหน้าส่วนราชการ บี้เร่งรัดเบิกจ่ายงบลงทุน 9.6 แสนล้าน