![IMG_25650404_165254](https://storage-wp.thaipost.net/2022/04/IMG_25650404_165254.jpg)
“ส.ว.สมชาย” ยันเดินหน้าสางคดี "แตงโม" ต่อ แม้แม่ขอถอนเรื่องออกจากชั้น กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ เหตุเป็นคดีสาธารณะ ขอเป็นดับเบิลเช็กให้สังคม “ทนายนกเขา” ให้ปากคำ "ดีเอสไอ" ยังหวังรับเป็นคดีพิเศษ เตือน “ตำรวจ" หากส่งสำนวนให้อัยการแล้วคดีไม่จบต้องรับผิดชอบเจอ 157 "จ๊อบ" เข้ารับทราบข้อกล่าวหาทำลายหลักฐาน ตร.เผย "กระติก" รับสารภาพให้การเท็จ ขอหมายจับ "กุนซือคดีแตงโม" ช่วยเหลือยุยงให้กระทำผิด คาดปิดคดี 24 เม.ย.
ที่รัฐสภา วันที่ 4 เมษายน คณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ที่มีนายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะประธาน กมธ.เป็นประธานประชุม เพื่อพิจารณาการดำเนินงานตามอำนาจหน้าที่ในการสอบหาข้อเท็จจริง กรณีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม โดยได้เชิญผู้อำนวยการสำนักงานกฎหมาย และผู้บังคับบัญชากลุ่มงานรับเรื่องราวร้องทุกข์ สำนักงานประธานวุฒิสภาเข้าให้ข้อมูล
โดยนายสมชายให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมว่า จะพิจารณาภายหลังที่นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของ น.ส.ภัทรธิดาขอถอนเรื่องออกจาก กมธ. ซึ่งก็สามารถทำได้ แต่ที่ กมธ.รับเรื่องนั้นได้พิจารณาใน 2 เรื่องอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องบุคคลธรรมดา แต่เป็นเรื่องที่กระทบต่อสาธารณะ และกระทบความเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม อีกทั้งสังคมและสื่อมวลชนให้ความสนใจ และมีข้อสงสัยเป็นจำนวนมาก ยืนยันว่าจะเดินหน้าต่อแน่นอน เพราะขณะนี้เราได้พยานหลักฐานมาบางส่วนแล้ว เช่นกล้องวงจรปิดที่ได้มาจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และผลการผ่าชันสูตรศพทั้ง 2 ครั้งที่ได้มาตั้งแต่ต้น มีเจ้าหน้าที่ของเราไปบันทึกข้อมูลไว้หมด
“คิดว่าเรื่องนี้ยังไม่จบ และเราจะทำหน้าที่ติดตามในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นดับเบิลเช็กให้สังคม และคงจะไม่ไปสั่งการหรือแทรกแซง ขอให้ตำรวจทำสำนวนได้อย่างสบายใจ เพราะต้องการให้เกิดความเชื่อมั่นในการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมของตำรวจด้วย ยืนยันว่าเราจะดำเนินการต่อ แม้แม่แตงโมจะถอนเรื่องไปแล้ว จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับมารดา ส่วนหลังไมค์นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของมารดา น.ส.ภัทรธิดาก็พูดกับผมว่า กมธ.จะทำอะไรเขาไม่ได้ติดใจ แต่ในเมื่อเขามีหน้าที่มาถอนก็ถอน ซึ่งหลายเรื่องที่ทนายเดชาแถลงก็ใกล้เคียงกับข้อมูลที่เรามีอยู่” นายสมชายกล่าว
นายสมชายกล่าวว่า จากการสอบสวนของ กมธ.พบความเชื่อมโยงของบุคคลนอกเรือ โดยมีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับหน่วยราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีให้ข้อมูลกับ กมธ.ว่ามีที่ปรึกษา ซึ่งเดิมจะให้พามามอบตัว อาจจะเป็นคนแนะนำหรือไม่ก็ตาม แต่มีบุคคลภายนอกแน่นอน
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายนิติธร ล้ำเหลือ กลุ่มประชาชนคนไทย (ปท.) เข้าพบพนักงานสอบสวนดีเอสไอเพื่อให้ปากคำคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา หลังจากได้ยื่นหนังสือขอให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ โดยนายนิติธรกล่าวว่า มาให้ปากคำในฐานะที่เป็นผู้ยื่นคำร้องคดีนี้ ส่วนตัวมองว่าคดีดังกล่าวเข้าข่ายคดีพิเศษเนื่องจากมีความสลับซับซ้อน โดยเฉพาะประเด็นเรื่องเสื้อผ้าของแตงโม และของผู้ที่อยู่บนเรือทั้งหมดตำรวจควรนำมาตรวจสอบเพื่อหาความสัมพันธ์กับบาดแผล รวมทั้งเศษดินทรายที่พบในปอดของผู้เสียชีวิต การตรวจพื้นน้ำและปริมาณของสิ่งต่างๆ ที่เข้าไปในร่างกาย เพราะจำนวนสิ่งของที่เข้าไปในร่างกายสามารถบอกได้ว่าจมน้ำลึกในระดับใด นอกจากนี้ยังมีเรื่องรอยแผลลักษณะเหมือนก้างปลาที่ขาด้านหลัง ซึ่งไม่ได้ถูกพูดถึงในการตรวจครั้งแรก ทั้งที่กระบวนการเหล่านี้ควรตรวจพบทันทีตั้งแต่พบร่างน้องแตงโมแล้ว
นายนิติธรกล่าวว่า ตนไม่เชื่อมั่นการทำหน้าที่ของตำรวจ แม้จะอ้างว่าทำเต็มที่แล้วก็ตาม แต่ไม่ทราบว่าเต็มที่ภายใต้อิทธิพลหรือผลประโยชน์ของใครหรือไม่ การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจถือว่ายังมีข้อบกพร่อง ก่อนหน้านี้พบว่าไม่เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งตนก็พร้อมจะร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดี ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157
“หากส่งสำนวนให้อัยการก่อนที่ดีเอสไอจะรับเป็นคดีพิเศษก็ไม่เป็นไร ผมเป็นทนายทำคดีสำคัญมามากมาย รู้ว่าอะไรทำได้หรือไม่ได้ ผมไม่หนักใจ แต่คนที่หนักใจคือ ตำรวจ หากคิดว่าส่งสำนวนให้อัยการแล้วคดีจบ ตามขั้นตอนมีกระบวนการที่จะดำเนินการต่อไป ถ้าคดีไม่จบแล้วไปทำให้จบ ผู้เกี่ยวข้องก็ต้องรับผิดขอบทั้งอัยการและตำรวจ ซึ่งในส่วนของดีเอสไอก็ดำเนินการต่อได้” นายนิติธรกล่าว
ที่ สภ.เมืองนนทบุรี นายนิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร หรือจ๊อบ 1 ใน 5 ที่อยู่บนเรือ พร้อมทนาย ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก “ห้ามมิให้ผู้ใด เท ทิ้ง หรือทำด้วยประการใดๆ ให้ หิน กรวด ทราย ดิน โคลน อับเฉา สิ่งของ หรือสิ่งปฏิกูลใดๆ ยกเว้นน้ำมัน และเคมีภัณฑ์ลงในแม่น้ำ ลำคลอง บึง อ่างน้ำ หรือทะเลสาบ ฯ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าท่า พ.ร.บ.การเดินเรือฯ มาตรา 119 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184 เรื่องซ่อนเร้น ทำลายหลักฐาน” ซึ่งเมื่อนายนิทัศน์เดินทางมาถึง ก็ได้เดินขึ้นไปพบพนักงานสอบสวนทันทีโดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใดๆ
ต่อมา น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือกระติก ผู้จัดการส่วนตัวแตงโม เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาให้การเท็จ ซึ่งเป็นคนสุดท้ายของ 5 คนบนเรือที่เข้ารับทราบข้อกล่าวหา โดยมีนายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ เดินทางมาด้วย แต่ยังไม่ยอมให้สัมภาษณ์สื่อ
ด้าน พล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ รอง ผบช.ภ.1 ในฐานะโฆษกคดีการเสียชีวิตของแตงโม เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดีว่า การแจ้งข้อหาแต่ละคนแล้วแต่พยานคำให้การและหลักฐานประกอบแล้วแต่กรณี ส่วนผู้ที่เป็นกุนซือในคดีนี้ยืนยันว่ามี แต่ไม่ใช่ทนายตั้ม เบื้องต้นพบว่ามี 1 คนที่มีพยานหลักฐานเพียงพอ ข้อหามาตรา 184 เป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิด และข้อหามาตรา 171, 182 สอดรับกันไป ภายใน 1-2 วันนี้จะไปขออนุมัติหมายจับจากศาล แต่จะเป็นใครไม่สามารถตอบได้ ถ้าศาลไม่ออกหมายจับก็จะออกหมายเรียกแทน กุนซือมีความเกี่ยวข้องทั้ง 5 คนบนเรือมีการสื่อสารพูดคุย การพูดคุยลักษณะที่เป็นความเห็น คำแนะนำคดีเกิดก่อน คดีเกิดหลัง การให้ความช่วยเหลือ มันเป็นสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับรูปคดีทั้งหมด
พล.ต.ต.อุดรกล่าวอีกว่า การดำเนินคดีกุนซือไม่ได้มีการเบี่ยงเบนประเด็น เพราะคดีนี้ประชาชนสนใจ ไม่มีใครกล้าเบี่ยงเบนประเด็นแน่นอน พนักงานสืบสวนระวังเรื่องพวกนี้มาก คดีนี้ทำไปหมดแล้ว เหลือเพียงผู้ต้องหาคนสุดท้ายที่จะไปขออนุมัติหมายจับ ถ้าเขามาคดีนี้ก็เป็นไปตามไทม์ไลน์ที่เรากำหนดไว้ตามระยะเวลา 2 เดือน ส่วนผู้ต้องหาที่เข้าพบพนักงานสอบสวนทุกคนให้การปฏิเสธ เขาจะให้การอย่างไรก็ได้ เราฐานะพนักงานสอบสวนและสืบสวนมีหน้าที่รวบรวมให้ชัดเจนที่สุดไปสู่อัยการและศาลต่อไป
"ทุกอย่างอยู่ที่คำให้การ เมื่อให้การเซ็นคำรับรองในคำให้การ ถือเป็นพยานหลักฐานนำไปสู่ชั้นอัยการ ศาล เป็นตัววัดเจตนา ถ้าให้การเท็จวันหน้ามันก็จะให้การเท็จไปเรื่อยๆ สุดท้ายจะไปจบที่ศาล สังคมอย่าเพิ่งด่วนสรุปจบไม่เป็นธรรม หรือไม่สวยหรู หรือมีการเกี๊ยะเซียะกัน คดีนี้ข้อเท็จจริงมันอยู่ที่ 5 คนบนเรือ ถ้าให้การไม่ตรงกันคือสิ่งที่อันตรายที่สุด ถ้าให้การตรงกันแต่ต้นมันก็จบตั้งแต่ต้น ที่มันยืดยาวมาขนาดนี้ถ้าคดีนี้มีการให้การช่วยเหลือ ยุยง ไหว้วานให้กระทำความผิด มันทำให้คดียากขึ้นไปเรื่อยๆ พนักงานสอบสวนชุดนี้ทำอย่างเต็มที่ ไม่มีเกียจคร้าน สินบน รางวัลน้ำใจ หรือช่วยเหลือใครบางคน ไม่มีเด็ดขาด” พล.ต.ต.อุดรกล่าว
ต่อมา พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี เปิดเผยว่า หลังจากที่นายนิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร และ น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสวัสดิ์ เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ตามหมายเรียกในวันนี้ ในเบื้องต้น น.ส.อิจศรินทร์ให้การยอมรับสารภาพว่าได้ให้การอันเป็นเท็จต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง ทำให้หลังเซ็นรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมนำตัวส่งฟ้องศาลแขวงจังหวัดนนทบุรีต่อไป
ส่วนนายนิทัศน์เป็นการเดินทางเข้ามารายงานตัวตามหมายเรียก ซึ่งเป็นข้อหาไม่ร้ายแรง จึงไม่ต้องยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวในวันนี้ เพียงแต่รับทราบข้อกล่าวหาและต้องเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนตามเวลาที่นัดหมาย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โต้ปปช.กวาดบ้านก่อนสอย112
“ไหม” บอกรู้สึกชิลๆ ปม ป.ป.ช.เรียกรับทราบข้อกล่าวหาปมแก้มาตรา 112
ประจานแก้ฝุ่น โพลชี้รัฐไร้ฝีมือ ทำ‘ปชช.’ระอา
โพลประจานผลงานแก้ฝุ่นพิษ ชี้ชัดเป็นปัญหารุนแรง แต่รัฐบาลกลับแก้ปัญหาไร้ประสิทธิภาพ 63% ฟันธงยากแก้ไขได้
อิ๊งค์ฟุ้งเยือนจีน ‘ครม.สัญจร’คึก ชงโครงการพรึ่บ
“อิ๊งค์” จ้อผ่านทีวี ฟุ้งจีนพร้อมลงทุนแลนด์บริดจ์ บอกรถไฟความเร็วสูงสำเร็จจะส่งทุเรียนหมอนทองไปให้
หลิวจงอี้รับเหยื่อคอลฯ โรมหวั่นไทยซูเอี๋ยBGF
“หลิว จงอี้" ลุยแม่สอดอีกรอบ เตรียมนำเครื่องบินจากจีนบินตรงรับเหยื่อกลับประเทศ
พุ่งเป้า‘แพทอง ธาร’ จตุพรแนะปชน.อภิปรายทิ้งทวน/สุทินเย้ย‘เท้ง’ยังอ่อนหัด
"สุทิน" ซัดเหตุผล "เท้ง" ไล่ "นายกฯ" ยุบสภายังอ่อนไป
พรรคส้มแซะป.ป.ช.ไร้หัวใจ
เปิด 44 รายชื่ออดีต สส.พรรคก้าวไกล ที่ ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหาผิดจริยธรรมร้ายแรง จากกรณีร่วมลงชื่อแก้ ม.112 "อมรัตน์" โวยแหลก! ป.ป.ช.มีมโนธรรมสำนึกในหัวใจบ้างหรือไม่