โพลมธ.‘เอ้’ไล่จี้ชัชชาติ

กกต.ชวนผู้สมัครผู้ว่าฯ   กทม.-ส.ก. ประกาศเจตจำนงเลือกตั้งสุจริต ชี้นายกฯ ลงพื้นที่ตามหน้าที่ ไม่เข้าข่ายช่วยผู้สมัครหาเสียง "อัศวิน" ยินดีใครชื่นชอบก็ขอบคุณ ห้ามไม่ได้ผู้ใหญ่จะมาหนุน โพลธรรมศาสตร์เผย "ชัชชาติ" ยังครองอันดับ 1 "ดร.เอ้" ไล่ตามติดๆ ปชป.มั่นใจตีตื้นทันก่อนเลือกตั้งแน่

เมื่อวันที่ 3 เมษายน นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร แจ้งผลการรับสมัครเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) วันที่ 4 ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เขตดินแดง ว่ามีผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เพิ่มเติม 2 คน ได้แก่ นายสราวุธ เบญจกุล ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 28 และนายกฤตชัย พยอมแย้ม สังกัดพรรคประชากรไทย หมายเลข 29 รวมมีผู้สมัครปัจจุบันทั้งสิ้น 29 คน และมีผู้สมัคร ส.ก.เพิ่มเติม 10 เขต

นายสำราญ ตันพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการจัดประชุมการเลือกตั้งสมานฉันท์ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 5 เมษายนว่า รูปแบบการจัดงานจะมีการเชิญผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) และผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) มารับฟังเพื่อทำความเข้าใจและชี้แจงข้อกฎหมาย ระเบียบข้อควรปฏิบัติต่างๆ เกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้ง การป้องกันการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยเฉพาะประเด็นที่ผู้สมัครยังเกิดความสงสัยหรือยังไม่ชัดเจน ขณะเดียวกันการประชุมดังกล่าวจะมีการขอความร่วมมือผู้สมัครรับเลือกตั้งทุกคนทั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. อยู่บนพื้นฐานความสมัครใจของผู้สมัคร ไม่ได้บังคับ คือการร่วมกันประกาศเจตจำนงให้การเลือกตั้งผู้ว่าฯ และ ส.ก. เป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม

นายสำราญกล่าวว่า หลังจากเปิดรับสมัครเลือกตั้ง ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความผิดปกติหรือการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ส่วนที่ปรากฏเป็นข่าวเรื่องการปิดป้ายหาเสียงไม่สวยงาม บดบังสายตา กีดขวางทางเท้า การจราจรต่างๆ ลักษณะนี้จะดำเนินการไประเบียบ กกต. ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2563 คือ การแจ้งเตือนผู้สมัครก่อน อาจแจ้งเตือนโดยสำนักงาน กกต.กทม. หรือหน่วยงานเจ้าของพื้นที่นั้นๆ เพื่อให้ผู้สมัครได้ดำเนินการแก้ไขภายในระยะเวลาที่กำหนด แต่ถ้าหากไม่แก้ไขภายในเวลาที่กำหนด หน่วยงานนั้นสามารถจัดการได้เอง หากมีค่าใช้จ่ายจะเก็บจากผู้สมัคร ทั้งนี้ หากเห็นว่ากรณีดังกล่าวจะนำไปสู่การเลือกตั้งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย กกต.สามารถสั่งให้ดำเนินการตามระเบียบสืบสวนและไต่สวนได้

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีพรรคการเมืองเรียกร้องขอให้ตรวจสอบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่พบปะประชาชนในเขตกรุงเทพฯ จะเข้าข่ายหาเสียงช่วยผู้สมัครหรือไม่ นายสำราญกล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่านายกฯ ลงพื้นที่ตามหน้าที่ของท่าน ยังไม่มีผู้สมัครใดมาเกี่ยวข้องหรือไปเกี่ยวข้องกับผู้สมัครคนใด

ในช่วงเช้า วันเดียวกัน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 6 พร้อมนายชัชชนะ เอมปราณีต ส.ก.เบอร์ 4 เขตตลิ่งชัน ลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยม เขตตลิ่งชัน โดยมีพ่อค้าแม่ค้า รวมถึงประชาชนที่มาซื้อของให้ความสนใจ และมอบผักผลไม้ให้กำลังใจ พล.ต.อ.อัศวินด้วย โดย พล.ต.อ.อัศวินระบุว่าตลาดคลองลัดมะยมเป็นตลาดที่ประชาชนทำขึ้นมาเอง ซึ่งเป็นเศรษฐกิจฐานรากที่จับต้องได้และยั่งยืน ในช่วงที่เป็นผู้ว่าฯ ได้นำตลาดนัดคลองลัดมะยมเป็นต้นแบบให้กับหลายๆ ตลาด ทั้งนี้ จะสานต่องานพัฒนากรุงเทพฯ ฝั่งธนบุรี ซึ่งจะไม่ใช่ลูกเมียน้อยอีกต่อไป โดยจะพัฒนาทั้งปรับผิวทางเท้าบริเวณถนนบรมราชชนนี และปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว มีความยาวถึง 18 กิโลเมตร เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกับกรุงเทพฯ ชั้นใน

ห้ามไม่ได้ผู้ใหญ่หนุน

ส่วนที่มีกระแสข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนคล้ายจะสนับสนุนตนนั้น พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า คำพูดของนายกฯ อาจจะพูดตามวิสัยทัศน์ที่ต้องการคนทำงาน อาจจะไม่ใช่ตนเอง คงมองในภาพรวมการทำงานของคณะรัฐมนตรีและหน่วยงานต่างๆ มากกว่า แต่หากใครชอบตน ก็ยินดีและขอบคุณ พร้อมขอให้เลือกเป็นผู้ว่าฯ กทม. อย่างไรก็ตาม ห้ามไม่ได้ที่หากผู้ใหญ่ในบ้านเมืองจะมาหนุนการทำงาน เช่นเดียวกับสื่อหากชอบตนก็ถือเป็นเรื่องที่จะต้องขอบคุณ สำหรับกรณีที่มีการแชร์ในโซเชียลฯ เรื่องป้ายหาเสียงบังทางเท้านั้น ได้สั่งแก้ไขแล้ว และเร่งเก็บให้หมด เนื่องจากไม่อยากให้กระทบกับประชาชน

ด้านนายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 3 ลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดยิ่งเจริญ และตลาดบองมาร์เช่ เพื่อหาเสียงและแนะนำตัวกับประชาชน พร้อมกันนี้ยังชูนโยบายการแก้ปัญหาขยะ โดยจะให้เอกชนเข้ามาดูแลแทน ทั้งนี้ นายสกลธีกล่าวถึงกระแสตอบรับหลังจับได้เบอร์ 3 ว่า มีทั้งด้านดีและนำไปโยงประเด็นทางการเมือง แต่ได้ทำความเข้าใจกับคนที่คิดต่างโดยการชูนโยบายต่างๆ  ให้เข้าใจ ส่วนกรณีที่นายกฯ ประกาศสนับสนุนคนทำงาน แต่คนไปตีความว่าให้การสนับสนุน พล.ต.อ.อัศวินนั้น คงพูดกลางๆ มากกว่า คนจะมาเป็นผู้ว่าฯ ได้ ต้องเป็นคนทำงานอยู่แล้ว เพราะปัญหามีเยอะและจุกจิก หากได้คนที่พูดอย่างเดียวก็คงแก้ปัญหาไม่ได้ ทั้งนี้ กระแสของตนดีขึ้น คนรู้จักมากขึ้น ได้ทำโพลต่อเนื่องมาตั้งแต่ก่อนจะลาออกรองผู้ว่าฯ  จนปัจจุบันความนิยมส่วนตัวเพิ่มขึ้นใกล้ๆ 10%

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 1 พรรคก้าวไกล พร้อมผู้สมัคร ส.ก.ฝั่งธนบุรี ลงพื้นที่หาเสียง 3 เขตพื้นที่ฝั่งธนใต้ จุดแรกขบวนแห่เริ่มต้นขึ้นที่ตลาดบางแค นำโดยนายอำนาจ ปานเผือก ผู้สมัคร ส.ก.เขตบางแค โดยชูนโยบาย "ลอกท่อทั่วเมือง ลอกคลองทั่วกรุง" แก้น้ำท่วมซ้ำซาก จากนั้นนายวิโรจน์และนายนิธิกร บุญยกุลเจริญ ผู้สมัคร ส.ก.เขตบางบอน ได้เดินทางพบปะประชาชนที่ตลาดเช้าปิ่นทอง  ถนนเอกชัย ระหว่างนั้นได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก โดยนายนิธิกรเปิดตัวเว็บแจ้งปัญหาส่วยร่วมกับนายวิโรจน์  ตามนโยบาย "เจอส่วยแจ้งผู้ว่าฯ สร้างกรุงเทพโปร่งใสไร้คอร์รัปชัน" หากได้รับเลือกตั้งก็พร้อมเปิดให้บริการประชาชนในทันที หลังจากนั้นนายวิโรจน์และนายธัญธร ธนินวัฒนาธร ผู้สมัคร ส.ก.จอมทอง ขึ้นรถแห่ไปตามถนนจอมทอง พร้อมเข้าชุมชนหลังตลาดน้ำวัดไทร ชูนโยบาย "สวัสดิการคนเมือง" เพิ่มเงินสวัสดิการผู้สูงอายุเป็น 1,000 บาทต่อเดือน และเพิ่มสวัสดิการเด็กเล็กและผู้พิการเป็น 1,200 บาทต่อเดือน

ที่สวนลุมพินี เวลา 07.00 น. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย, น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 11 พรรคไทยสร้างไทย,   ดร.เมลิสา มหาพล ผู้สมัคร ส.ก. เขตปทุมวัน ลงพื้นที่พบปะประชาชนที่มาออกกำลังกายช่วงเช้า พร้อมสอบถามถึงภาพรวมของภูมิทัศน์และพื้นที่ทางกายภาพต่างๆ ภายในสวนลุมพินี ทั้งนี้ น.ต.ศิธาเปิดเผยว่า พรรคมีนโยบายเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้คนกรุงเทพฯ สามารถใช้งานได้จริงภายใน 4 ปี โดยตั้งเป้าหมายไว้ที่ 9 ตารางเมตรต่อคน ให้เป็นไปตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก จากนั้นเวลา 15.00 น. คุณหญิงสุดารัตน์และ น.ต.ศิธาได้เดินทางไปตลาดยิ่งเจริญ เขตบางเขน พร้อมระบุว่า จะทวงคืนเงินในกระเป๋าที่ถูกปล้นไป ความสุขที่ถูกปล้นไป และประชาธิปไตยที่ถูกปล้นไปกลับคืนมา โดยตั้งใจที่จะผลักดันกองทุนเครดิตประชาชนเพื่อคนกรุงเทพฯ หรือกองทุนคนตัวเล็ก สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ไม่เกินร้อยละ1 ต่อเดือน กู้ได้ตั้งแต่ 5,000 ถึง 50,000 บาท โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 8 กลุ่มอิสระ และ ดร.ยุ้ย-เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ หัวหน้าทีมนโยบายเศรษฐกิจ เพื่อนชัชชาติ ปล่อยขบวนหาเสียงด้วยรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ตามแนวคิดหาเสียงแบบรักเมือง ไปตามเส้นทาง ถ.จันทน์ ถ.พระราม 3 ถ.เจริญราษฎร์ และ ถ.สาธุประดิษฐ์ ระหว่างเส้นทางนายชัชชาติแวะหาเสียงที่ตลาดรุ่งเจริญ เขตยานนาวา ตลอดเส้นทางมีผู้ค้าและประชาชนให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

นายชัชชาติกล่าวว่า เพื่อนชัชชาติพยายามใช้รถไฟฟ้าในการหาเสียงให้มากที่สุด เบื้องต้นมี 23 คัน แบ่งเป็น รถเมล์ไฟฟ้า 2 คัน, รถตุ๊กๆ ไฟฟ้า 5 คัน, มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 7 คัน, รถกระบะไฟฟ้า 1 คัน และรถยนต์ไฟฟ้าอื่นๆ อีก 8 คัน มีเป้าหมายเพื่อลดมลภาวะทางอากาศจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และส่งเสริมการใช้พาหนะไฟฟ้าในกรุงเทพฯ

'ดร.เอ้'ไล่บี้'ชัชชาติ'

สำนักงานศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 31 มี.ค.-2 เม.ย. จำนวนทั้งสิ้น 2,041 ตัวอย่าง พบว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้คะแนนร้อยละ 25.7, นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ได้คะแนนร้อยละ 18.3, นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ได้คะแนนร้อยละ 11.6, พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ได้คะแนนร้อยละ 11.3, นายสกลธี ภัททิยกุล ได้คะแนนร้อยละ 6.7,  น.ส.รสนา โตสิตระกูล คะแนนร้อยละ 5.7,  น.ต.ศิธา ทิวารี ได้คะแนนร้อยละ 2.8,  อื่นๆ คะแนนร้อยละ 0.1, ยังไม่ตัดสินใจ คะแนนร้อยละ 17.5, ไม่ใช้สิทธิ์ (No Vote)/ไม่เลือก (Vote No) คะแนนร้อยละ 0.1

ขณะที่นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และรอง ผอ.ศูนย์เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ฝ่ายการสื่อสาร กล่าวว่า แม้ผลการสำรวจนายสุชัชวีร์มีคะแนนเป็นรองผู้ที่มีคะแนนนำในลำดับที่ 1 แต่มีกำลังใจที่ดีในการเดินหน้าเพื่อพบปะกับพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่จนกว่าจะถึงวันเลือกตั้ง และมั่นใจว่านโยบายหลายอย่างที่คิดแบบครบและครอบคลุมสำหรับคนทุกกลุ่มที่ได้นำเสนอไปอย่างต่อเนื่องจะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของคนกรุงเทพฯ ได้เป็นอย่างดี เพราะได้ออกแบบมาจากปัญหาของคนกรุงเทพฯ ที่แท้จริง อาทิ นโยบาย “คนกรุงเทพต้องใช้อินเทอร์เน็ตฟรี” อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจครั้งนี้ ยังพบมีสัดส่วนผู้ที่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกใครอีกกว่า 18% ดังนั้นจึงมั่นใจว่ายังมีโอกาสที่จะทำให้นายสุชัชวีร์มีคะแนนตีตื้นขึ้นมาได้เช่นกัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ยิ่งลักษณ์’ กลับคุก ‘บิ๊กเสื้อแดง’ รู้มา! ว่าไปตามราชทัณฑ์ไม่ใช้สิทธิพิเศษ

“เลขาฯ แสวง” ยันเดินหน้าคดี “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างการปกครองต่อ เพราะใช้กฎหมายคนละฉบับกับศาล รธน. "จตุพร" ลั่นยังไม่จบ! ต้องดูสถานการณ์เป็นตอนๆ ไป