ถก‘บอร์ดดิจิทัล’ โอ่คนไทยใช้เน็ต ทะลุเกณฑ์เฉลี่ย

“บิ๊กตู่” นั่งหัวโต๊ะประชุมบอร์ดดีอีครั้งแรก ชี้ไทยใช้อินเทอร์เน็ตสูงกว่า 80% มากกว่าเกณฑ์เฉลี่ยโลก  แนะใช้เพื่อให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น ไม่ใช่ใช้ไปทางไม่สร้างสรรค์ พร้อมเคาะ 9 โครงการต่อยอด 5 จี

เมื่อวันศุกร์ที่ 1 เม.ย. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2565 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์

ภายหลังการประชุม นายกฯ กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมเรื่องดิจิทัล ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญสำหรับประเทศไทยที่จะพัฒนาให้เกิดความต่อเนื่อง ซึ่งเราได้เริ่มต้นมาหลายปีแล้ว วันนี้หากดูจากสถิติต่างๆ คนไทยเข้าถึงการใช้อินเทอร์เน็ตกว่า 80% สูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของโลก ซึ่งได้เรียนรัฐมนตรีไปว่าที่เข้าถึงดิจิทัลเยอะ ได้ประโยชน์อะไรจากตรงนี้หรือไม่ อย่างน้อยก็ทำให้เกิดความรู้ รายได้ ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นมากกว่าไปใช้ในเรื่องที่ไม่สร้างสรรค์

“นี่คือการพัฒนา เราต้องหาให้เจอ หาเรื่องที่ดีอยู่แล้วที่มันดีขึ้นให้เจอ เรื่องที่ยังไม่ดีไม่เรียบร้อยก็บอกมา รัฐบาลและหน่วยงานก็พร้อมที่จะแก้ไข เราต้องทำงานหลายอย่างไปด้วยกัน ขอให้กลับไปดูว่าวันนี้มีอะไรดีขึ้นหรือยัง หลายคนอาจยังไม่พอใจ มันน่าจะดีกว่านี้ แต่ถ้าทุกคนเข้าไปสู่ในระบบการบริหารจัดการมันไม่ง่าย สิ่งสำคัญที่สุดทุกกิจกรรมมันมีห่วงโซ่ มีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจำนวนมากในแต่ละเรื่อง จะทำอะไรก็แล้วแต่ต้องฟังประชาชน ถ้าประชาชนยอมรับ ตอบรับ สามารถทำได้หมด ก็จะเหลือปัญหาอย่างเดียวคือการจัดหางบประมาณให้เพียงพอ ก็ขอให้ทุกคนตั้งสติให้ดี เวลาเขาพูดมาก็ขอให้ฟัง ใคร่ครวญหาเหตุผลว่าใช่หรือไม่ จริงหรือไม่  ถ้าเรายิ่งไปขยายสิ่งที่ไม่จริงออกไป ก็จะยิ่งทำให้การแก้ไขปัญหายุ่งยาก สับสนอลหม่านไปหมด ซึ่งก็ไม่ได้โทษสื่อ”นายกฯ กล่าว

ทั้งนี้ ภายหลังนายกฯ ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินกลับขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าได้หันมาพูดกับสื่อว่า เปิดดูหนัง Netflix ด้วย เรื่องล่าราชาคริปโต (TRUST NO ONE) ไปดูจะได้รู้ว่ามันมีทั้งดีและมีวิกฤตโอกาส และความเสี่ยงสูง เพราะว่ามันเป็นการทำงานผ่านคอมพิวเตอร์ในการสื่อสารกับคน เข้าใจไหม

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมบอร์ดดีอีว่า นายกฯ กล่าวต่อที่ประชุมว่าไทยกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลงไปสู่โลกยุคใหม่ ตามเทรนด์ของเทคโนโลยีและดิจิทัล ขณะที่ปัจจุบันระบบกำกับดูแลเรื่องเศรษฐกิจดิจิทัลกระจายอยู่ภายใต้หลายหน่วยงาน ดังนั้น จำเป็นที่ต้องจัดการบูรณาการของทุกหน่วยงาน ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถกำหนดมาตรการ ปรับปรุงกฎหมาย และมีการจัดทำกฎหมายที่เข้มแข็ง เพื่อกำกับดูแลด้านความปลอดภัยในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและดิจิทัล นอกจากนี้ นายกฯ แสดงความห่วงใยเรื่องความปลอดภัย ความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล และการทำธุรกรรมออนไลน์ เพราะมีทั้งโอกาสและความเสี่ยงคู่กันเสมอ ภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล ผู้ประกอบการจึงต้องช่วยกันดูแล ต้องระวังตั้งแต่วันนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายทั้งระบบ

สำหรับมติที่ประชุมที่สำคัญ ได้แก่ 1.รับทราบรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินงานตามแนวทางการบริหารจัดการทรัพย์สิน หลังสิ้นสุดสัญญาดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ โดยเฉพาะกรณีข้อพิพาทดาวเทียมไทยคม 7 และดาวเทียมไทยคม 8 ระหว่าง บมจ.ไทยคม และ บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ ซึ่งเรียกร้องว่าไทยคม 7 และ 8 ไม่อยู่ภายใต้สัญญาสัมปทานกับกระทรวงดิจิทัลฯ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการทางอนุญาโตตุลาการ 2.รับทราบผลการดำเนินงานของคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กองทุนดีอี) โดยได้อนุมัติโครงการต่อยอดการใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยี 5G จำนวน 9 โครงการ รวมวงเงินกว่า 345 ล้านบาท 3.โครงการเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนข้อมูลดิจิทัลของภูมิภาค ขณะนี้คืบหน้า 90% ของระยะการดำเนินการทั้งโครงการ.