ดับฝันข้าวสาร!งดสาดน้ำ สธ.โต้ฟาวิพิราเวียร์มีพอ

ไทยติดเชื้อ 2.1 หมื่นราย  ดับยังสูง 78 ราย สธ.แจงมียาฟาวิพิราเวียร์เพียงพอ 25 ล้านเม็ด “หมอหนู” ขอ ปชช.เชื่อข้อมูลกระทรวง ยันไม่ปิดบัง ดับฝันข้าวสาร-ถนนคนเดิน! ศบค.กทม.ห้ามเล่นน้ำสงกรานต์พื้นที่สาธารณะ ทำได้แค่ประพรม หมดสิทธิ์ดริงก์พื้นที่จัดงาน

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 21,678 ราย ติดเชื้อในประเทศ 21,546 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 21,424 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 122 ราย มาจากเรือนจำ 68 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 64 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 3,575,398 ราย หายป่วยเพิ่มขึ้น 27,183 ราย ทำให้มียอดหายป่วยสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 3,305,286 ราย อยู่ระหว่างรักษา 245,154 ราย อาการหนัก 1,748 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 691 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 78 ราย เป็นชาย 46 ราย หญิง 32 ราย อายุ 60 ปีขึ้นไป 58 ราย มีโรคเรื้อรัง 19 ราย ไม่มีประวัติโรคเรื้อรัง 1 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 24,958 ราย

ส่วนยอดฉีดวัคซีนวันที่ 28 มี.ค. 121,596 โดส ยอดฉีดสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.64 จำนวน 128,882,039 โดส สำหรับ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดได้แก่ กทม. 3,611 ราย, ชลบุรี 1,089 ราย, นครศรีธรรมราช 880 ราย, สมุทรปราการ 857 ราย, นนทบุรี 730 ราย, สมุทรสาคร 690 ราย, ระยอง 570 ราย, บุรีรัมย์ 540 ราย, สงขลา 532 ราย และนครปฐม 511 ราย

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีกลุ่มแพทย์ชนบทระบุยาฟาวิพิราเวียร์ขาดแคลน ต้องมีการรายงานเรื่องนี้ให้คณะรัฐมนตรีรับทราบหรือไม่ว่า จะมีรายงานผ่านมา ศปก.ศบค. ที่มีการประชุมอยู่ทุกวัน โดยยาฟาวิฯ มีทั้งผลิตในประเทศ และนำเข้า และยังมีโมลนูพิราเวียร์และแพกซ์โลวิคเข้ามาเสริม ซึ่งการรักษาโควิด-19 เวลานี้ เป็นช่วงที่ก้าวผ่านจากเดลตาและเชื้อที่รุนแรงมาแล้ว ตอนนี้เป็นเชื้อที่ไม่มีความรุนแรง ทางคณะแพทย์และกรรมการด้านวิชาการที่ดูแลเรื่องการรักษาจะออกแบบรูปแบบของการจ่ายยาว่าจะเป็นอย่างไร ถ้ายังใช้ฟาวิฯ วันละกว่า 2 ล้านเม็ด อาจจะไม่ถูกต้อง แพทย์จึงต้องมีการปรับการบริหารจัดการยา ย้ำว่าตรงนี้เป็นเรื่องทางการแพทย์ ถ้ายาขาดแพทย์ต้องรู้ก่อน และบอกรัฐมนตรีเพื่อให้รัฐบาลทำการจัดซื้อจัดหา แต่ตอนนี้ทุกอย่างยังบริหารจัดการได้อยู่

"ไม่ใช่หน้าที่ของปลัดกระทรวงไปชี้แจงชมรมแพทย์ชนบท เพราะถ้าแยกแต่ละคนก็คือลูกน้องของปลัด ถามมาได้ แต่ปลัดจะชี้แจงหรือไม่เป็นเรื่องของปลัด และที่จริงก็เป็นคนละหน้าที่กัน ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ก็จะไม่มีปัญหาอะไร อย่าทำความหวั่นไหวหรือหวาดวิตกให้เกิดกับประชาชน เพราะสถานการณ์อยู่ในการควบคุมได้ในระดับหนึ่ง เราถือว่าเข้มกว่าประเทศอื่นเยอะ ให้เชื่อข้อมูลของ สธ. ซึ่งเป็นข้อมูลที่ดีที่สุด น่าเชื่อถือที่สุด และเป็นจริง เพราะปลัด สธ. เป็นประธานศูนย์ปฏิบัติการสาธารณสุข ประธานโควิดแห่งชาติด้านสาธารณสุข เข้าร่วมประชุมทุก 7 โมงเช้า และทราบข้อมูลทุกวัน ถ้ามีปัญหาจริง ก็จะบอกว่าตอนนี้มีปัญหาแล้วเหมือนกับที่เคยบอกให้ใส่หน้ากากอนมัย ต้องล็อกดาวน์ หรือสถานการณ์ไม่ดี ยืนยันไม่มีปิดประชาชนอยู่แล้ว ขอให้เชื่อมั่นใน สธ.ที่เป็นสถาบัน ไม่ใช่เป็นตัวแทนของรัฐมนตรี ของปลัดหรือของแพทย์คนไหน เราต้องทำในสิ่งที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอยู่แล้ว" นายอนุทินระบุ

ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวง​สาธารณสุข​ แถลงชี้แจงถึงการบริหารจัดการยาฟาวิพิราเวียร์ว่า จากข้อมูลวันที่ 28 มี.ค.65 มียาคงคลังฟาวิพิราเวียร์ทั่วประเทศทั้งหมด 22.8 ล้านเม็ด ซึ่งปัจจุบันมีการใช้ยาสูงเฉลี่ยวันละ 2 ล้านเม็ด​ ดังนั้นอัตราการใช้จึงอยู่ที่ 10 วัน แต่เรามียาเพิ่มเติมตลอดเวลา และได้มีการกระจายยาในระบบออนไลน์ที่เรียกว่า VMI เมื่อโรงพยาบาล (รพ.) มีการใช้ยา จะคีย์ข้อมูลลงในระบบว่า ใช้ไปเท่าไร จะปรากฏข้อมูลที่ส่วนกลาง ทำให้ทราบว่าเหลือยาเท่าไร จากนั้นก็จะเติมไปให้ โดยองค์การเภสัชกรรม (อภ.) จะเป็นผู้จัดหายาเติมให้ ใน 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ป่วยสูงขึ้น จึงมีการใช้ยาเพิ่มและไม่ได้คีย์ข้อมูลเป็นปัจจุบัน มาคีย์ครั้งเดียว ทำให้ส่วนกลางไม่ทราบว่าบางพื้นที่มีการใช้ไปเท่าไร จึงเป็นเหตุให้เติมไม่ทัน แต่ไม่ได้ขาดยา เพราะมีการบริหารจัดการในจังหวัด รพ.ข้างเคียงส่งไปเติมได้

นอกจากนี้ ยังมีสต๊อกส่วนกลางอีก 2.2 ล้านเม็ด รวมแล้วมียาสต๊อกทั้งหมด 25 ล้านเม็ด​ ขอย้ำว่าผู้ป่วยโควิด-19 ไม่ใช่ทุกรายต้องได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ ต้องดูตามอาการ โดยผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อย หรือไม่มีอาการทุกรายไม่จำเป็นต้องรับยา อย่าไปเสี่ยงให้ยาเกิดผลกระทบต่อตับไตได้ จึงขอให้ใช้ยาอย่างสมเหตุสม

วันเดียวกัน นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ กทม.ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้มีการจัดกิจกรรมสงกรานต์ตามประเพณีในพื้นที่กรุงเทพฯ แต่ข้อปฏิบัติและระเบียบต่างๆ จะต้องให้ผ่านการพิจารณาของ ศบค.ชุดใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะมีการลงนามในเร็วๆ นี้ และ กทม.จะออกคำสั่งตามระเบียบดังกล่าวภายในวันที่ 31 มี.ค. เพื่อให้มีผลในวันที่ 1 เม.ย.นี้

ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้มีการจัดกิจกรรมสงกรานต์ โดยเบื้องต้นอนุญาตให้จัดกิจกรรมตามประเพณีได้ เล่นน้ำแบบประพรม แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting ห้ามประแป้ง ปาร์ตี้โฟม รวมถึงห้ามจำหน่ายและบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่จัดงาน ตลอดจนต้องควบคุมความหนาแน่นในพื้นที่จัดงาน 1 คน ต่อ 4 ตารางเมตร (ตรม.) และจะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาด้วย ส่วนพื้นที่สาธารณะ อย่างเช่น ท้องถนน ห้ามให้มีการเล่นน้ำ ประแป้ง และปาร์ตี้โฟม รวมทั้งไม่ให้มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่จัดงานสงกรานต์

ปลัด กทม.กล่าวว่า ขณะที่กิจกรรมรวมกลุ่มในครอบครัวนั้น ให้มีการรดน้ำดำหัว และจัดกิจกรรมในที่มีการระบายอากาศได้ดี สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา งดกิจกรรมการสัมผัสใกล้ชิดหรือใช้สิ่งของร่วมกัน หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มร่วมกันเป็นเวลานาน อย่างไรก็ตาม ผู้สูงอายุควรได้รับวัคซีนให้ครบก่อนเข้าร่วมกิจกรรม ส่วนขณะนี้มีพื้นที่แลนด์มาร์กต่างๆ และวัด ที่ยื่นเรื่องขอจัดงานมาแล้วประมาณ 7-8 แห่ง ล่าสุดอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ ส่วนการจัดงานสงกรานต์ของแต่ละสำนักงานเขตนั้น ยื่นเรื่องมาว่าไม่จัดงานแล้ว 46 เขต เหลืออีก 4 เขต ยังไม่ได้แจ้งว่าจะจัดหรือไม่จัด ซึ่งคาดว่าสาเหตุที่ไม่จัด เพราะเกี่ยวเนื่องมาจากช่วงนี้เป็นช่วงการจัดการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และ ส.ก..