ปัดสั่งปลดผอ.ช่อง5 ตู่ปรามสื่ออย่าร่วมขัดแย้ง ‘รังษี’อุบปมรัสเซีย-ยูเครน

"ผบ.ทบ." เซ็นคำสั่งเด้ง "ผอ.ททบ.5" ตั้งแต่ 7 เม.ย. เซ่นข่าวสงครามรัสเซีย-ยูเครน "พล.อ.รังษี" แจงไม่ได้โดนปลดขอพ้นหน้าที่เอง อ้างเหตุจำเป็นส่วนตัว บอกไม่มีประโยชน์อธิบายให้สื่อไปหาข้อมูลเอง "บิ๊กตู่” รีบปฏิเสธสั่งปลด ชี้เป็นเรื่องของบอร์ด เตือนสื่อเสนอข่าวอย่าร่วมขัดแย้งกระทบไทย "เจ๊ปอง" โพสต์หมดทุกข์โศกบ้านเราสบายใจกว่า

เมื่อวันที่ 29 มี.ค. พล.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ททบ.5) กล่าวถึงกระแสข่าว พล.อ.ณรงค์พันธ์จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะประธานบอร์ด ททบ.5 ให้พ้นจากหน้าที่ ผอ.ททบ.5 ตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย.เป็นต้นไปว่า ตนทำหนังสืออนุมัติถึง ผบ.ทบ.ขอพ้นหน้าที่ ผอ.ททบ.5 เอง ด้วยเหตุผลและความจำเป็นส่วนตัว ซึ่ง ผบ.ทบ.เซ็นอนุมัติพ้นหน้าที่ และไม่ขอพูดอะไร พูดไปก็ไม่มีประโยชน์

"ไม่ใช่การปลด แต่ผมขออนุมัติพ้นจากหน้าที่เอง อย่าบอกว่าไม่ปลด ไม่แฟร์กับ ผบ.ทบ. โดย ผบ.ทบ.ได้ลงนามในคำสั่งให้มีผล 7 เม.ย 2565" พล.อ.รังษีกล่าว

ถามว่า เกิดจากกรณีข่าวสงครามรัสเซีย-ยูเครนหรือไม่ พล.อ.รังษีกล่าวว่า เป็นเรื่องของสื่อที่ต้องไปหาข้อมูลเอาเอง ตนไม่มีอยากพูดอะไร เพราะตนเป็นคู่กรณี การพูดถึงบุคคลที่สาม เดี๋ยวทัวร์จะลง 

ซักว่าเป็นกรณีที่บริษัทร่วมผลิตมีการนำเสนอข่าวรัสเซีย-ยูเครน ทั้งที่ถูกสั่งห้ามมาก่อนหน้านี้หรือไม่ พล.อ.รังษี ยังคงยืนยันสื่อต้องไปหาข้อมูลเอง เพราะตนพูดอะไรไม่ได้จริงๆ พูดไป ก็ไม่ดีกับใครทั้งสิ้น และความจริงก็เป็นไปตามที่ตนพูด โดยสื่อกับตนก็ติดตามข่าวและรู้เท่าๆ กัน

เมื่อถามว่า ผบ.ทบ.โดนกดดันจากผู้บังคับบัญชาหรือไม่ ผอ.ททบ.5 กล่าวว่า สื่อต้องไปหาข้อมูลเอา ซึ่งคิดว่าตนตัดสินใจในสิ่งที่ถูกต้องและควรจะทำ และเป็นคนทำอะไรเปิดเผย ซึ่งความจริงก็คือมีคำสั่งให้ตนพ้นหน้าที่ ซึ่งไม่ต้องเป็นห่วงอะไร คนเก่าไปคนใหม่ก็มาก็ให้รอดูกันต่อไปดีกว่า 

"ผมขอย้ำว่า อย่าใช้คำว่าปลด เพราะไม่แฟร์กับเพื่อนผม (พล.อ.ณรงค์พันธ์) เพราะคำว่าปลด ผมไม่ได้ปลดตัวผม และส่วนตัวยังไม่เจอ ผบ.ทบ. เนื่องจากเดินทางไปประเทศลาว และคำสั่งคาดว่าเซ็นก่อนเดินทาง และผมพึ่งได้รับคำสั่งมาเมื่อเช้านี้" ผอ.ททบ.5 ระบุ

ทั้งนี้ ผบ.ทบ.มอบหมายให้ พล.ท.วิสันติ สระศรีดา อดีตเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ทำหน้าที่แทน ตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย.เป็นต้นไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังวันที่ 23 มี.ค.2565 ทาง ททบ.5 ได้แจ้งเชิญสื่อมวลชนร่วมงานแถลงข่าว ความร่วมมือแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่าง ททบ.5 กับรัสเซีย จีน อิหร่าน 24 มี.ค. โดยมี พล.อ.รังษี เป็นผู้ร่วมแถลงข่าว จากนั้นวันเดียวกัน สื่อมวลชนได้รับการแจ้งจาก ททบ.5 ขอยกเลิกการแถลงข่าว ท่ามกลางกระแสข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แสดงความกังวลถึงความไม่เหมาะสม และเกรงจะถูกนำไปขยายผลทางการเมืองทั้งภายในและนอกประเทศ

แหล่งข่าวจากกองทัพบกเปิดเผยว่า  ผบ.ทบ.รู้สึกไม่สบายใจต่อกรณีเกิดขึ้น โดยได้มีการพูดคุยส่วนตัวกับ พล.อ.รังษี และมีคำสั่งไม่ให้ ททบ.5 นำเสนอข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์สู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งส่งผลให้บรรยากาศใน ททบ.5 อึมครึมมาตลอด 

กระทั่งเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่เวลา 12.51 น. ระหว่างที่รายการข่าวเที่ยง ททบ.5 ออกอากาศทาง ททบ.5 ดำเนินรายการโดย น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก และ น.ส.กิตติมา ธารารัตนกุล ซึ่งผลิตรายการโดยบริษัท กาแลคซี่ มัลติมีเดีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ GMC กลุ่มที่มาจากสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมท็อปนิวส์ (Top News) ช่วงที่น.ส.อัญชะลีกำลังนำเสนอข่าวเกี่ยวกับสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ปรากฏว่าถูกตัดสัญญาณเข้าโฆษณา โปรโมตรายการของทางสถานีแบบกะทันหัน ประมาณ 8 นาที ก่อนจะตัดเข้ามายังรายการปกติเวลา 12.59 น. จนเป็นที่งุนงงแก่คนดูเป็นจำนวนมาก
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณี ผบ.ทบ. มีคำสั่งให้ พล.อ.รังษี พ้นจากหน้าที่ ผอ.ททบ.5 จากการเสนอข่าวสงครามรัสเซีย-ยูเครนว่า จริงๆ แล้วตนไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับเขาอยู่แล้ว เพราะตนไม่ได้เป็น ผบ.ทบ.

"ผมไม่ได้พูดถึงเฉพาะช่อง 5 ทุกช่องนั่นแหละเวลาออกข่าวพวกนี้ ถ้าวิเคราะห์มากเกินไป บางทีทำให้เกิดปัญหาในภาพรวมของประเทศ หากเสนอตามนั้นก็ปกติไป เพราะจริงๆ แล้วเราอยู่คนละภูมิภาค แต่ข้อสำคัญเราอยู่ในองค์กรไม่ว่าจะเป็นสหประชาชาติ กลุ่มนั้นกลุ่มนี้เราก็เป็นสมาชิกเขาหมดใช่หรือไม่ ดังนั้นเราต้องระมัดระวังก็แล้วกันทำอย่างไรไม่ให้เกิดผลกระทบกับประเทศเรา นะจ๊ะ เห็นใจหน่อย" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ถามว่ามีข่าวนายกฯ แสดงความไม่สบายใจไปยังผู้บังคับบัญชา ททบ.5 พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่ ตนไม่ได้พูดอะไร เขาคงเป็นเรื่องการตรวจสอบคัดกรองกันเอง เพราะเขามีกรรมการอยู่แล้ว ตนไม่ไปยุ่งหรอก

"ก็ข่าวไง ผมก็พูดอยู่นี้ว่าไม่ได้ไปเกี่ยวข้อง ก็แค่นั้นแหละ เป็นเรื่องภายในของเขา อย่าลืมว่าผมไม่ได้เป็น ผบ.ทบ.จะไปสั่งเขาได้อย่างไร เป็นเรื่องกรรมการของเขาที่จะพิจารณากันเอง รัฐบาลมีนโยบายเพียงแต่ว่าอย่าไปร่วมขัดแย้งกับเขาเข้าใจหรือไม่ เสนอข่าวด้วยข้อเท็จจริงได้หรือไม่ บางทีบางเรื่องไม่เหมาะสมที่จะไปวิพากษ์วิจารณ์อะไรกันมากมายนักหรอก ไม่เกิดประโยชน์อะไรกับเรา" นายกฯ กล่าว

วันเดียวกัน ภายหลังจากมีกระแสข่าว Top News ขอถอนตัวจากการร่วมผลิตข่าวทั้งหมดทาง ททบ.5 มีผลวันที่ 31 มี.ค.นั้น น.ส.อัญชะลีได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า "กราบสวัสดีค่ะ หมดทุกข์หมดโศกหมดโรคหมดภัยนะคะ #ท็อปนิวส์77 บ้านเราแซ่บกว่า สบายใจกว่า"

ก่อนหน้านี้ น.ส.อัญชะลีได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า "ถ้าคุณถูกสั่งห้ามเสนอข่าวยูเครนกับรัสเซีย คุณจะทำงานกับคนเหล่านี้ต่อไปไหม?".

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง