ไทยพบผู้ติดเชื้อใหม่อีก 25,821 ราย เสียชีวิตอีก 84 คน “กทม.-นครศรีฯ-ชลบุรี” ยังติดเชื้อเกินพันราย อภ.เตรียมนำเข้าโมลนูพิราเวียร์ คาด 2 สัปดาห์ของล็อตแรกถึง 10 ล้านแคปซูล “ธนกร” แจ้งผ่านไลน์ไม่รอดผลตรวจติดโควิด-19 แต่อาการไม่เยอะ “เชียงใหม่”อ่วมยอดพุ่ง โคราชจัดกิจกรรมจับรางวัลฉีดเข็มกระตุ้น
เมื่อวันที่ 27 มี.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์ประจำวันว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 25,821 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 25,695 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 25,436 ราย, มาจากการค้นหาเชิงรุก 259 ราย, มาจากเรือนจำ 70 ราย, มาจากต่างประเทศ 56 ราย ทำให้มีผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 3,529,085 ราย หายป่วยรายใหม่ 24,066 ราย ทำให้มียอดหายป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 3,252,350 ราย อยู่ระหว่างรักษา 251,936 ราย อาการหนัก 1,672 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 644 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 84 ราย เป็นชาย 48 ราย หญิง 36 ราย เป็นผู้ที่มีอายุ 60 ขึ้นไป 73 ราย เป็นผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 10 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 24,799 ราย ขณะที่สถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 481,237,186 ราย เสียชีวิตสะสม 6,145,981 ราย
สำหรับจังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ กทม. 2,749 ราย, นครศรีธรรมราช 1,537 ราย, ชลบุรี 1,293 ราย, สมุทรสาคร 955 ราย, สมุทรปราการ 870 ราย, สงขลา 783 ราย, นนทบุรี 633 ราย, ขอนแก่น 624 ราย และราชบุรี 611 ราย
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) กล่าวว่าได้มอบหมายให้ อภ.เร่งดำเนินการจัดหายาโมลนูพิราเวียร์ ยาต้านไวรัสชนิดรับประทาน เพื่อใช้รักษาโรคโควิด-19 ในกลุ่มเสี่ยงอายุ 60 ปีขึ้นไปที่ไม่มีประวัติได้รับวัคซีน หรือได้รับเพียง 1 เข็ม เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยลดความเสี่ยงการเกิดอาการรุนแรง ตามแนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัยดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาลกรณีโรคโควิด-19 ของกรมการแพทย์ เพื่อเป็นทางเลือก เมื่อวันที่ 22 มี.ค.
"สธ.ได้แจ้งให้ อภ.จัดเตรียมข้อมูล เพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำการแผนจัดซื้อจัดหายาโมลนูพิราเวียร์ โดยขณะนี้ อภ.ได้คัดเลือกแหล่งที่มีคุณภาพไว้แล้ว อยู่ระหว่างเจรจากำหนดส่งมอบและราคา ซึ่งผู้ผลิตมีความพร้อมในการส่งมอบ คาดว่าประมาณ 2 สัปดาห์หลังทำสัญญาสามารถจัดส่งยาให้ อภ.ล็อตแรกได้ประมาณ 10 ล้านแคปซูล โดย อภ.จะเป็นผู้จัดส่งกระจายให้กับหน่วยบริการแม่ข่ายแต่ละพื้นที่ ตามแผนกระจายยาของอีโอซี" นพ.เกียรติภูมิกล่าว
ขณะที่นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามการให้บริการผู้ป่วยโควิด-19 ในรูปแบบเจอ แจก จบ เพื่อผู้ป่วยโควิด-19 ทุกคนเข้าถึงการรักษาอย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ขณะที่ยังคงเน้นประสิทธิภาพในการดูแลรักษาผู้ป่วยตามระดับอาการ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยผลการประเมินความพึงพอใจของผู้ป่วยที่เข้ารับบริการพบว่า 92% มีความพึงพอใจในระดับมากถึงมากที่สุด ตั้งแต่วันที่ 1- 24 มีนาคม 2565 มีสถานพยาบาลเข้าร่วม 901 แห่ง สามารถให้บริการสำหรับผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยนอกและแยกกักตัวที่บ้านได้วันละ 100,000 แสนราย มีผู้ป่วยเข้ารับบริการสะสม 656,856 ราย เฉลี่ยวันละ 27,369 ราย เฉพาะพื้นที่ กทม. ให้บริการผู้ป่วยได้วันละ 10,000 ราย มีผู้ป่วยเข้ารับบริการสะสม 65,305 ราย เฉลี่ยวันละ 2,839 ราย ทั้งนี้ นายกฯ ย้ำความสำคัญในการรักษาความมั่นคงระบบสาธารณสุขของไทย มีสมรรถนะที่ดีและเตรียมพร้อมในการรองรับทุกสถานการณ์ ควบคู่ไปกับการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการเข้าถึงการรักษาพยาบาลด้วย
ต่อมานายธนกรส่งข้อความผ่านไลน์กลุ่มผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล โดยระบุว่า เรียนพี่ๆ น้องๆ เพื่อนสื่อมวลชน ประจำทำเนียบรัฐบาล ขอแจ้งให้ทราบว่า พบผลตรวจ RT-PCR เป็นบวก แต่มีอาการน้อยหรือแทบไม่มีอาการเลย โดยรู้สึกปวดเมื่อยเล็กน้อย ขณะที่สุขภาพใจยังแข็งแรงดีอยู่ ต้องขออภัยและขอโทษทุกท่านสำหรับความไม่สะดวก และเพื่อให้เป็นไปตามคำแนะนำของสาธารณสุข ขอ WFH ทำงานที่บ้านตามมาตรการ แต่ยังคงส่งข่าวและตอบคำถามพี่ๆ น้องๆ สื่อผ่านทางไลน์ และโทรศัพท์เหมือนทุกวัน
สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ในต่างจังหวัดนั้น ศูนย์ข้อมูลข่าวสารเฉพาะกิจของจังหวัดเชียงใหม่เผยว่า พบผู้ติดเชื้อยืนยันรายใหม่ (RT-PCR) เพิ่ม 383 ราย เข้าข่าย (ATK) 3,760 ราย ยอดรวม 4,143 ราย เป็นสถิติยอดสูงที่สุดอีกครั้ง และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย รวมผู้เสียชีวิตสะสม 74 ราย ผู้ที่ยังรักษาตัวอยู่ในทุกระบบจำนวนเพิ่มเป็น 22,713 ราย ป่วยหนักเพิ่มเป็น 51 ราย ยอดติดเชื้อสะสมระลอกนี้ตั้งแต่มกราคมปีนี้สูงถึง 167,504 ราย รักษาหายแล้ว 164,409 ราย
“ยอดให้วัคซีนเข็มที่ 3 ยังขยับทีละนิด จังหวัดจึงเน้นย้ำให้ทุกอำเภอลงพื้นที่ให้วัคซีนแก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงผู้สูงอายุและผู้ป่วยเรื้อรังตามเป้าหมายรองรับสงกรานต์นี้ ตามโครงการถกแขนเสื้อ เตื้อที่ 3 เตรียมฮับลูกหลานปิ๊กบ้านปี๋ใหม่เมือง โดยยังอยู่ที่ 71.9% ของเป้าหมายหรือ 5.97 แสนคน ที่ต้องเร่งกระตุ้นและลงพื้นที่ย้ำสัปดาห์สุดท้ายนี้ให้ครอบคลุม”
ขณะที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมาได้รายงานว่า ผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ยังสูง โดยการตรวจ RT-PCR จำนวน 373 ราย และ ATK 1,005 ราย รวม 1,378 ราย และมีผู้ป่วยเสียชีวิต 1 ราย โดยยอดผู้ป่วยเสียชีวิตสะสม 72 ราย รวมผู้ป่วยสะสมจำนวน 55,504 ราย รักษาหายสะสม 32,222 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 23,210 ราย ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 1 ราย 72 เพศชาย อายุ 81 ปี ชาว ต.กุดน้อย อ.สีคิ้ว ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน มีอาการไอ หอบ ไม่ได้รักษาที่ใด ต่อมาไอ เหนื่อย หอบมากขึ้น ส่งตัวรักษาที่ รพ.สีคิ้ว หลังจากนั้นส่งต่อ รพ.มหาราชฯ ตรวจพบเชื้อผู้ป่วยซึม วันที่ 25 มี.ค. อาการไม่ดีขึ้นและเสียชีวิต
ส่วนที่ลานต้นโพธิ์ ศาลากลาง จ.นครราชสีมา บุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุขจังหวัดให้บริการฟรีตรวจหาเชื้อโควิดโอมิครอน โดยการตรวจ ATK มีพี่น้องประชาชน เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ ทยอยเดินทางไปติดต่อขอรับการตรวจเป็นจำนวนมากกว่า 500 ราย เป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเด็กๆ ที่ผู้ปกครองพามาตรวจ ส่วนที่ศูนย์ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลของโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซานครราชสีมา ได้เชิญชวนให้ประชาชนทั่วไปมาฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เข็มกระตุ้น โดยจัดกลยุทธ์ฉีดวัคซีนลุ้นโชค เพื่อเป็นการเชิญชวนให้ประชาชนทั่วไปให้เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เข็มที่ 3 หลังจากช่วงนี้มีจำนวนผู้มีฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นลดลง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันและสร้างภูมิคุ้มกันหมู่จากเชื้อไวรัสโควิด โดยผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ มีสิทธิ์จับสลากลุ้นรางวัลพิเศษมากมายกว่า 10,000 ชิ้น อาทิ สร้อยคอทองคำ รถจักรยาน พัดลม เครื่องใช้ไฟฟ้า ยาสีฟัน แปรงสีฟัน และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย ท่ามกลางบรรยากาศการจับรางวัลอย่างสนุกสนาน โดยผู้มีสิทธิ์จับรางวัลคือผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนในระหว่างวันนี้-31 มีนาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น. บริเวณชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา
สำหรับจังหวัดนครราชสีมา มีเป้าหมายการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด จำนวนกว่า 2.6 ล้านคน ขณะนี้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ไปแล้วกว่า 1.9 ล้านคน คือเป็น 73.63% ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ไปแล้วกว่า 1.6 ล้านคน คิดเป็น 64.04% และฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ไปแล้วกว่า 6.5 แสนคน คิดเป็น 24.94%.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แฉระบบเด็กฝาก ทำลายองค์กรตร. ดับฝัน‘ดาวฤกษ์’
เช็ก 41 รายชื่อแต่งตั้งนายพลสีกากี ระดับรอง ผบ.ตร.-ผบช.
ยธ.เมินแจงกมธ. ปมนักโทษเทวดา รพ.ตำรวจชั้น14
ชั้น 14 น่าพิศวง "โรม" กวักมือเรียก “ทักษิณ” ไปสภา เข้าแจง กมธ.มั่นคงฯ
แจกเฟส2เอื้อเลือกอบจ. เตือนร้องถอดถอนครม.
นายกฯ โชว์วิชั่น Forbes ยันไทยสงบ สันติ หวังแม้รัฐบาลเปลี่ยน
ฟ้อง9บิ๊กมท.ทุจริตที่เขากระโดง
เรื่องถึงศาล "ณฐพร" ฟ้องกราวรูด "บิ๊ก ขรก.มหาดไทย"
ลุ้นศาลรับคดีล้มล้าง ตุลาการถก6ประเด็น‘ทักษิณ-พท.’/ดันแก้ประชามติไม่รอ180วัน
"ทักษิณ-พท." ระทึก! 9 ตุลาการศาล รธน.ยืนยันนัดประชุมวาระพิเศษ 22 พ.ย.นี้
สั่งประหารชีวิต ‘แอม ไซยาไนด์’ คุกผัวเก่า-ทนาย
ศาลพิพากษาประหารชีวิต "แอม ไซยาไนด์" วางยาฆ่าก้อย พร้อมชดใช้ 2.3 ล้าน